วิธีการ พัฒนาทักษะการอ่าน

ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความ

หลายคนประสบปัญหาด้านการอ่าน การอ่านนั้นเป็นกิจกรรมที่ทำได้ยากสำหรับบางคนและต้องใช้เวลา การอ่านเป็นกระบวนการที่สมองรับภาพสัญลักษณ์ต่างๆ ในหน้าหนังสือสักหน้าหนึ่งและจดจำแบบแผนของอักษรและเข้าใจความหมายของมัน ถ้าเราพัฒนาทักษะการอ่านจนเชี่ยวชาญ เราก็จะได้รับประโยชน์จากทักษะนี้ในอนาคต คุณครูมักจะพูดเสมอไม่ใช่หรือว่า “อ่านหนังสือให้มากๆ ” ฉะนั้นลองมาเริ่มอ่านหนังสือตามขั้นตอนและกลวิธีที่บทความนี้จะแนะนำดีกว่า

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

เตรียมตัวอ่าน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 หาอะไรอ่าน.
    ตัวอย่างเช่น หนังสือเด็ก บทความจากหนังสือพิมพ์ เรื่องสั้น หรือบทความของวิกิฮาวก็ได้
  2. How.com.vn ไท: Step 2 ไปห้องสมุดและลองเลือกหนังสืออ่านสักเล่ม.
    เลือกหนังสือให้เหมาะสมกับระดับการอ่านของเรา ไม่ว่าเราจะอายุเท่าไรก็ตาม หนังสือเล่มนั้นควรเป็นอะไรที่น่าสนใจ ไม่อย่างนั้นเราจะไม่รู้สึกอยากอ่านมันจนจบ ฉะนั้นจงทำให้การอ่านของเราเป็นกิจกรรมที่น่าสนุกและได้เรื่องรู้อะไรบางอย่างจากการอ่านนั้น
    • เราควรเลือกหนังสือที่น่าสนใจและอ่านง่าย เช่น หนังสือการ์ตูน หรือหนังสือที่มีเนื้อหาซับซ้อนมากกว่านี้หน่อยอย่างวรรณกรรมแนวมหากาพย์และสารคดี
  3. How.com.vn ไท: Step 3 หาสถานที่ซึ่งเราสามารถจดจ่ออยู่กับการอ่านได้....
    หาสถานที่ซึ่งเราสามารถจดจ่ออยู่กับการอ่านได้. หาสถานที่ซึ่งไม่มีใครจะมารบกวนเวลาเราอ่านหนังสือได้ หรือจะอ่านอยู่ที่บ้านในช่วงเวลาที่สมาชิกคนอื่นๆ แยกย้ายไปทำกิจกรรมของตนเองกันจนหมดก็ได้
  4. จะเลือกอ่านเวลาไหนก็ได้ แต่ถ้าเราหาเวลาอ่านหนังสือได้ทุกวัน เราก็จะคุ้นชินกับการอ่านหนังสือมากขึ้น
    • หาอะไรอ่านเวลานั่งอยู่บนรถประจำทางหรือรถไฟ นี้เป็นการฆ่าเวลาที่ดีและเราสามารถฝึกตนเองให้อ่านเร็วขึ้นและทำความเข้าใจเรื่องที่อ่านได้มากขึ้น ถึงแม้จะมีสิ่งรอบข้างรบกวนเราก็ตาม
      How.com.vn ไท: Step 4 หาเวลาอ่านหนังสือ.
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

ใช้หลักพัฒนาทักษะการอ่าน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 เริ่มการอ่านด้วยการดูรูปภาพก่อนและอาจฟังเพลงไปด้วยเพื่อสร้างบรรยากาศ....
    เริ่มการอ่านด้วยการดูรูปภาพก่อนและอาจฟังเพลงไปด้วยเพื่อสร้างบรรยากาศ.
  2. How.com.vn ไท: Step 2 เริ่มอ่านชื่อเรื่อง ชื่อต่างๆ และส่วนบทนำในหนังสือ...
    เริ่มอ่านชื่อเรื่อง ชื่อต่างๆ และส่วนบทนำในหนังสือ หนังสือบางเล่มอาจมีรายชื่อตัวละครหลักและข้อมูลบางส่วนเกี่ยวกับตัวละครนั้น. หรือมีแผนที่แสดงสถานที่ซึ่งอธิบายไว้ในหนังสือ เราต้องดูข้อมูลเหล่านั้นประกอบด้วย
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ค่อยๆ อ่านอย่างละเอียด.
    ถ้าไม่ใช่คนอ่านหนังสือเร็ว ก็อย่าฝืนตัวเองให้อ่านเร็ว จุดประสงค์สำคัญของการอ่านหนังสือคือการเข้าใจสิ่งที่ผู้เขียนต้องการถ่ายทอด ฉะนั้นจึงไม่ควรอ่านเนื้อหาอย่างผ่านๆ
    • ให้ถามตนเองห้าคำถามว่า ทำไม อะไร ใคร เมื่อไร และที่ไหน ห้าคำถามนี้จะช่วยกำหนดทิศทางการอ่านของเรา
  4. ฟังหนังสือเสียงและอ่านข้อความตามไปพร้อมกัน. จะช่วยให้เราออกเสียงและจำแนกคำได้อย่างถูกต้อง
    • เสียงที่ออกมาจากคำแต่ละคำขึ้นอยู่กับว่าเราได้ยินดีที่สุดแค่ไหน ถ้าเราอ่านหนังสือภาษาอังกฤษสักเล่ม เราจะเห็นว่าการออกเสียงภาษาอังกฤษนั้นอาจแตกต่างกันไปตามแบบของภาษาอังกฤษ (อเมริกันและอังกฤษ) และบริบท (เช่น คำพ้องรูปอาจเป็นได้ทั้งกริยาและคำนาม) รวมทั้งเราจะสังเกตเห็นคำประกอบกันเป็นคำบางชนิดด้วย
      How.com.vn ไท: Step 4 ฟังหนังสือเสียงและอ่านข้อความตามไปพร้อมกัน....
    • เอาใจใส่เรื่องการเน้นพยางค์ของคำและประโยค
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

เพิ่มทักษะการอ่าน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 อ่านให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้.
    เมื่อเริ่มเบื่อหรืออยากพัก ให้หยุดอ่าน การอ่านควรทำให้เราสนุกและเพลิดเพลิน เพราะฉะนั้นถ้าเกิดเบื่อหรืออยากพัก ก็อย่าฝืน หลังจากพักแล้ว ให้กลับมาที่เราอ่านค้างไว้และเริ่มอ่านต่อ
  2. How.com.vn ไท: Step 2 อ่านอีกรอบ.
    ถ้าเราอ่านแล้วไม่เข้าใจตั้งแต่แรก ให้กลับมาอ่านอีกรอบ
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ลองเดาความหมายของคำจากบริบท.
    การเดาความหมายของคำจากบริบทหมายถึงการที่เรารู้ความหมายของคำๆ หนึ่งด้วยการดูวิธีการใช้คำนั้นในประโยค ตัวอย่างเช่น ถ้าเรากำลังอ่านประโยคต่อไปนี้ My mother is always happy and optimistic, the total opposite of my brother, the pessimist. และต้องการรู้ว่า “pessimist” หมายถึงอะไร เมื่อดูประโยค เราจะจับความหมายได้ว่า “pessimist” หมายถึงสิ่งที่ตรงกันข้ามกับความสุข ฉะนั้นคำนี้จึงหมายถึงขี้หงุดหงิดและขี้โมโห นักอ่านที่ดีและมีประสบการณ์มักจะใช้การเดาความหมายของคำจากบริบทช่วยในการอ่านเสมอ! ถ้าเราไม่สามารถเดาความหมายได้เลย เปิดพจนานุกรมดู ถ้าเราอยากประหยัดเวลาและเปิดหน้าต่อไปโดยไว ลองเข้าสืบค้นพจนานุกรมแบบออนไลน์ดู
  4. How.com.vn ไท: Step 4 จดจำข้อความ.
    อ่านข้อความหน้ากระจกดังๆ การพยายามจำสิ่งที่อ่านให้ได้จะช่วยให้เรามีความมั่นใจในการอ่านมากขึ้น
  5. How.com.vn ไท: Step 5 อ่านใหม่อีกครั้ง.
    ถ้าเราไม่เข้าใจสิ่งที่อ่าน ให้อ่านตรงที่ไม่เข้าใจนั้นอีกครั้ง ลองอ่านออกเสียงดู แต่ถ้ายังไม่เข้าใจอยู่ดี ขอให้เพื่อนซึ่งเป็นนักอ่านตัวยงอธิบายประโยคที่เราไม่เข้าใจให้กระจ่าง หรือเปลี่ยนมาเลือกหนังสือที่อ่านง่ายและเหมาะสมกับระดับการอ่านของเรามากกว่านี้ จะใช้นิ้วชี้ช่วยในการอ่านก็ได้ จะได้ช่วยให้สายตาของเราจดจ่ออยู่กับบรรทัดที่เราอ่านและเข้าใจเรื่องที่อ่านมากขึ้น
  6. How.com.vn ไท: Step 6 หมั่นอ่านอยู่เสมอ.
    พยายามอ่านให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ในเวลาว่าง การอ่านจะช่วยเราในหลายทาง เราจะมีคลังศัพท์เพิ่มขึ้นและรู้จักศัพท์มากขึ้น เรียนหนังสือได้ดีขึ้น ฉะนั้นหมั่นอ่านหนังสือทุกวันนะ!
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • อ่านออกเสียงเพื่อให้ได้จดจ่อกับสิ่งที่อ่านและอ่านทุกคำ
  • ถึงแม้คนส่วนใหญ่จะไม่เห็นด้วยกับความคิดนี้ แต่สิ่งที่เราจำเป็นต้องรู้ส่วนใหญ่นั้นอยู่ในหนังสือ ฉะนั้นจงเริ่มต้นอ่านเรื่องทั่วไปแบบง่ายๆ ก่อนเพื่อเพิ่มความเร็วในการอ่านให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
  • บางคนอ่านหนังสือได้ดีขึ้นเมื่อยืนอ่าน บางคนอ่านหนังสือขณะเดินบนลู่วิ่งไฟฟ้าหรือลู่วิ่งที่สนาม จึงได้ทั้งออกกำลังกายและออกกำลังสมองไปในตัว!
  • พยายามอย่านอนอ่านหนังสือเพื่อเราจะได้เข้าใจเรื่องที่อ่านมากขึ้น การนอนอ่านช่วยให้เราผ่อนคลายและหลับง่ายขึ้น แต่ถ้าอยากจดจำข้อมูลได้มากขึ้น เราต้องวางท่าทางการอ่านหนังสือให้เหมาะสมด้วย ตัวอย่างเช่น การนั่งตัวตรงและวางเท้าราบไปกับพื้นจะช่วยเพิ่มความตื่นตัวมากขึ้น
  • เวลาอ่านหนังสืออย่าเครียด ผู้คนมักจะเครียดที่ไม่สามารถจดจำสิ่งที่อ่านไปแล้วได้และไม่สามารถจดจ่อกับสิ่งที่กำลังอ่านอยู่ได้ ฉะนั้นหายใจเข้าลึกๆ และอย่าเครียด!
  • อย่าพยายามทำความเข้าใจทุกคำในประโยค ลองผ่อนคลายและอ่าน รวมทั้งหาสถานที่ซึ่งช่วยให้ผ่อนคลายขณะอ่านหนังสือด้วย ตนเองจะได้อ่านหนังสืออย่างสบายและสามารถจดจ่ออยู่กับสิ่งที่อ่านได้ เราจะหาอะไรไว้กินและดื่มตอนอ่านหนังสือก็ได้ จะได้ไม่หิวหรือกระหายเวลาอ่านหนังสือ
  • พยายามใส่ตัวเราเข้าไปในฉากของหนังสือที่เราอ่าน จะช่วยให้เราสนใจเรื่องที่อ่านมากขึ้น
  • พยายามอ่านหนังสือในสภาพแวดล้อมที่ไม่มีเสียงดังรบกวน เพราะจะช่วยให้เราจดจ่อและจดจำสิ่งที่อ่านได้ดี ฟังเพลงเมื่อหยุดพักและค่อยกลับมาเริ่มอ่านอีกครั้ง
  • เรื่องที่เราอ่านต้องน่าสนใจ เราจะได้ไม่เบื่อหรือเผลอหลับ และหยุดพักเป็นช่วงๆ ด้วย
  • อย่างน้อยที่สุดลองอ่านออกเสียง ไม่ว่าจะอ่านออกเสียงให้สัตว์เลี้ยง พี่น้อง พ่อแม่ หรือให้ตัวเองฟัง การอ่านออกเสียงจะช่วยเพิ่มทักษะการอ่านด้วยการทำให้สมองของเราจดจำคำต่างๆ ที่เราอ่าน
โฆษณา

คำเตือน

  • การนั่งอยู่ในท่าเดิมนานอาจทำให้เราง่วงนอนหรือปวดเมื่อย ฉะนั้นเราควรยืดเหยียดตัวก่อนและระหว่างอ่านเพื่อทำให้ร่างกายตื่นตัวและสบายตัวอยู่เสมอ
  • การอ่านหนังสือในที่มืดจะทำให้เราปวดศีรษะ ฉะนั้นเมื่อจะอ่านหนังสือ ควรอยู่ในที่มีแสงสว่างเพียงพอ
  • เราควรอ่านหนังสือที่ทำให้เรารู้สึกสนุก การอ่านหนังสือที่ไม่สนุกอาจทำให้เราไม่อยากอ่านหนังสือมากขึ้น
  • การอ่านเป็นพฤติกรรมเสพติด เมื่อเริ่มอ่านทีละเล็กทีละน้อยทุกวัน เราอาจเห็นว่าตนเองนั้นเริ่มอ่านได้นานขึ้น สนุกที่ได้อยู่ในสถานที่และในโลกที่ไม่เคยเห็นมากขึ้น
โฆษณา

สิ่งของที่ใช้

  • สิ่งที่ต้องการอ่าน ไม่ว่าจะเป็นหนังสือ นิตยสาร เนื้อเพลง หนังสือพิมพ์ พยายามเลือกอ่านเรื่องที่สนใจ ไม่อย่างนั้นเราจะเบื่อและง่วงนอน
  • โต๊ะหรืออะไรสักอย่างไว้วางหนังสือ จะวางหนังสือไว้บนตักก็ได้
  • ที่ซึ่งนั่งสบาย สถานที่ซึ่งเงียบสงบและไม่มีสิ่งรบกวน

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

วิกิฮาวเป็น "wiki" ซึ่งหมายความว่าบทความหลายๆ บทความของเรานั้นเป็นการร่วมมือกันเขียนของผู้เขียนหลายคน ในการเขียนบทความชิ้นนี้ ผู้คน 122 คน ซึ่งบางคนไม่ขอเปิดเผยตัว ได้ร่วมกันเขียนและปรับปรุงเนื้อหาของบทความอย่างต่อเนื่อง บทความนี้ถูกเข้าชม 25,078 ครั้ง
มีการเข้าถึงหน้านี้ 25,078 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

⚠️ Disclaimer:

Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.

Notices:
  • - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
  • - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
  • - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
  • - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.

โฆษณา