วิธีการ ฝึกแมวจรจัดให้เชื่อง

X

บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Francine Miller. ฟรานซีน มิลเลอร์ เป็นนักบำบัดด้านพฤติกรรมสัตว์ประยุกต์ และผู้ก่อตั้ง Call Ms Behaving สถานที่รับให้คำปรึกษา และปรับพฤติกรรมสุนัขและแมวในซานดิเอโก ด้วยประสบการณ์กว่า 16 ปี ฟรานซีนเชี่ยวชาญด้านการปรับพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ เช่น พฤติกรรมก้าวร้าว ความวิตกกังวลจากการพรากจาก โรคหวาดกลัว การตอบสนองด้วยความหวาดกลัว การทำลายข้าวของ ฉี่ทำเครื่องหมาย และพฤติกรรมย้ำคิดย้ำทำ ฟรานซีนใช้การจัดการเชิงพฤติกรรม และแผนปรับเปลี่ยนที่สนับสนุนพฤติกรรมที่ดีเท่านั้น ฟรานซีนจบการศึกษาระดับอนุปริญญา สาขาบำบัดพฤติกรรมสุนัข จาก American College of Applied Science หรือ ACAS โดยฟรานซีนได้สำเร็จการศึกษาทุกรายวิชาของหลักสูตรวิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิทยาศาสตร์พฤติกรรมสัตว์ประยุกต์ และการให้คำปรึกษาครอบครัวด้านสัตว์เลี้ยง จาก American College of Applied Science หรือ ACAS ฟรานซีนเป็นสมาชิกที่ได้รับการรับรอง ของสมาคมนักบำบัดพฤติกรรมสัตว์นานาชาติ (Associate of the International Association of Animal Behavior Consultants (IAABC)) และสมาชิกของ Pet Professional Guild ด้วย

มีการอ้างอิง 12 ข้อที่อ้างอิงอยู่ในบทความ ซึ่งสามารถพบได้ทางด้านล่างของบทความ

บทความนี้ถูกเข้าชม 70,062 ครั้ง

แมวจรจัดนั้นคุ้นเคยกับคนน้อยมาก บางตัวพอเห็นคนก็หนีท่าเดียว แมวจรจัดส่วนใหญ่ก็คือแมวที่เกิดตามข้างถนนนั่นแหละ แต่ก็มีหลายตัวเหมือนกันที่เคยมีเจ้าของแล้วถูกทิ้ง ที่น่าสงสารที่สุดคือแมวหลงนี่แหละ^{[1]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง} แต่ไม่ว่าจะมีที่มายังไง แมวจรจัดที่คนส่วนใหญ่เรียกกันติดปากว่า "แมวจร" ก็มักจะมีนิสัยขี้ระแวง หวาดกลัวคน พอถึงตาจนก็จะสู้ยิบตาด้วยการกัดหรือข่วน ไม่มีหรอกที่จะกระโดดขึ้นตักมาซุกไซ้ (หมายถึงตอนเจอหน้ากันครั้งแรกน่ะ)^{[2]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง} เพราะขี้กลัวนี่แหละ เลยทำให้แมวจรฝึกให้เชื่องยากเหลือเกิน^{[3]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง} แต่ถ้าคุณตั้งใจแน่วแน่แล้วว่าอยากฝึกแมวจรให้เชื่อง เราก็มีวิธีมาฝากกัน แต่ก็ต้องอาศัยทั้งเวลาและความอดทน

ส่วน 1

ส่วน 1 ของ 3:

พาแมวจรเข้าบ้าน

ดาวน์โหลดบทความ

1
จัดห้องหับให้น้องเหมียว. ให้แมวจรอยู่ในพื้นที่จำกัดก่อน จนกว่าจะเริ่มคุ้นเคยกับคุณและสภาพแวดล้อมใหม่ๆ หาห้องเล็กๆ เงียบๆ มาสักห้อง เช่น ห้องน้ำ จะได้ห่างไกลจากทั้งคนและสัตว์เลี้ยงตัวอื่น^{[4]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}^{[5]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง} วางกระบะทราย ชามอาหาร ชามน้ำ และของเล่น 2 - 3 ชิ้นไว้ในห้องด้วย^{[6]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}^{[7]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- เช็คให้ชัวร์ว่าคุณปิดประตูหน้าต่างสนิทดีแล้ว แมวจะได้ไม่หนีไป และสำรวจห้องหารูหรือรอยแตกต่างๆ ที่แมวอาจจะมุดหนีออกไปได้เช่นกัน^{[8]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ถ้าในห้องนั้นมีชั้นวางของ ให้เอาทุกอย่างที่แมวอาจกระแทกตกลงมาออกให้หมด^{[9]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ทำมุมไว้ให้แมวได้ซ่อนตัว (เช่น หาลังกระดาษมาคว่ำ แล้วเจาะรู)^{[10]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- อย่างน้อยช่วง 2 - 3 วันแรก ให้ใช้ดินปลูกต้นไม้ (ดินธรรมชาติ) แทนทรายแมวไปก่อน เพราะแมวจรจะคุ้นเคยกว่าทรายแมวที่ใช้กับกระบะทราย^{[11]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ตอนกลางคืนให้เปิดไฟดวงเล็กๆ (nightlight) ก็พอ อย่าเปิดไฟที่เพดานจนสว่างจ้า ห้องสลัวๆ หน่อยจะทำให้แมวจรรู้สึกปลอดภัยในที่ทางใหม่ที่ไม่คุ้นเคย^{[12]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ถ้าอยากให้แมวทำความคุ้นเคยกับกลิ่นของคน ให้เอาเสื้อผ้าเก่าๆ ของคุณ (เช่น ถุงเท้าหรือเสื้อที่ไม่ใช้แล้ว) มาใส่ไว้ในห้องที่แมวอยู่^{[13]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2 - 3 ชั่วโมงกว่าแมวจรจะหายตื่น เริ่มสำรวจทำความคุ้นเคยกับห้องนั้น^{[14]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
2
วางกรงสำหรับเดินทางพร้อมวางกับดักล่อแมว. คุณต้องพาแมวจรไปตรวจร่างกายเบื้องต้นกับคุณหมอ (เช่น ฉีดวัคซีน ถ่ายพยาธิ ตรวจหาโรคลูคีเมียในแมว (FeLV) กับเอดส์แมว (FIV))^{[15]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง} ถ้าเอาแมวใส่กรงเดินทาง (กล่องเดินทางแบบมีหูหิ้วด้านบน) จะสะดวกกว่ายกไปทั้งกรงที่ใช้ดักแมว^{[16]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- เปิดประตูกรงเดินทาง แล้วปูผ้าห่มกับวางขนมไว้ข้างใน แมวจะได้สบายหน่อย
- เอาผ้าคลุมทั้งกรงดักแมวและกรงเดินทางไว้ แมวจะได้รู้สึกปลอดภัย^{[17]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
3
จับแมวจร. แน่นอนอยู่แล้วว่าแมวจรมักพุ่งตัวหนีไปทันควันเวลาคุณเข้าใกล้^{[18]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง} เพราะงั้นทางเดียวที่จะจับแมวจรเพื่อให้คุณเอาไปเลี้ยงในบ้านได้ คือวางกับดักที่ปลอดภัยสำหรับแมว แบบนี้คุณเองก็ปลอดภัยด้วย กรงดักแมวแบบนี้ถูกออกแบบมาให้ประตูปิดตามหลังทันทีที่แมวก้าวเข้าไปเหยียบแผ่นเหล็กด้านในสุดของกรง^{[19]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- วิธีล่อแมวเข้ากรงดัก ก็คือเอาอาหารที่แมวชอบชิ้นไม่ต้องใหญ่มากไปวางไว้ที่ด้านในสุดของกรง
- แมวอาจมีตกใจบ้างเวลาเหยียบแผ่นเหล็กแล้วประตูกรงปิดเสียงดัง แต่รับรองได้เลยว่าแมวจะไม่บาดเจ็บหรือเป็นอันตรายแน่นอน^{[20]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- กรงดักแมวเดี๋ยวนี้มีขายเยอะแยะในเน็ต หรือจะลองติดต่อกู้ภัยหรือศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ใกล้บ้านดูก่อนก็ได้ เผื่อเขามีกรงดักแมวให้ยืม^{[21]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ปูผ้าห่มหรือผ้าเช็ดตัวที่พื้นกรงดักให้นุ่มๆ ด้วยก็ดี
4
ให้อาหารแมวจรนอกบ้าน. การฝึกให้เชื่องเป็นเรื่องที่ต้องทำหลังแมวจรย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านคุณแล้ว เพราะงั้นคุณต้องจัดการเรื่องแมวจรกลัวคนให้เรียบร้อยซะก่อน ไม่งั้นคงเอาเข้าบ้านไม่ได้แต่แรก^{[22]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง} การหมั่นให้อาหารแมวจรนี่แหละที่สร้างความสนิทสนมระหว่างกันได้^{[23]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง} ถ้าไม่ได้เชื่อใจคุณหรือเข้าใจว่าคุณรัก อย่างน้อยแมวจรก็รู้ว่าเข้าใกล้คุณแล้วจะได้อาหารแน่นอน
- ให้อาหารแมวจรเวลาเดิมทุกวัน
โฆษณา

ส่วน 2

ส่วน 2 ของ 3:

ดูแลแมวจร

ดาวน์โหลดบทความ

1
ใช้เวลากับแมวจรได้แต่อย่าเพิ่งแตะต้องสัมผัสตัว. พอแมวจรหายตื่น เริ่มคุ้นเคยกับบ้านใหม่แล้ว ให้คุณเข้าไปในห้องเพื่อสร้างความคุ้นเคยซึ่งกันและกัน คุณป้องกันการกัดหรือข่วนได้โดยใส่เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว ถุงมือ และรองเท้าทุกครั้งก่อนเข้าห้อง^{[24]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง} ถ้ากลัวจัดจะถือกระดาษลังสักแผ่นเข้าไปด้วยก็ได้ ใช้ป้องกันตัวเผื่อแมวกระโจนเข้าใส่ไง^{[25]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- โผล่หน้าเข้าไปให้แมวเห็นทุกวันเวลาเดิม แมวจะได้รู้สึกเหมือนเป็นกิจวัตรประจำวันและเกิดความเคยชิน^{[26]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- เคาะก่อนเปิดประตู แล้วเดินเข้าไปในห้องช้าๆ^{[27]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}^{[28]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- พูดกับแมวเบาๆ สงบๆ ระหว่างจัดการเรื่องต่างๆ ให้แมว (เช่น เก็บอึฉี่ในกระบะทราย เปลี่ยนน้ำและอาหารให้) ^{[29]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ห้ามจ้องตาตรงๆ กับแมวจร เดี๋ยวแมวจะรู้สึกว่าถูกคุกคามได้ ให้หลบตาแล้วก้มหัวนิดๆ แทน^{[30]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- พอแมวเริ่มคุ้นกับคุณ ให้นั่งเล่นอยู่กับแมวนานขึ้นเป็นชั่วโมงทุกเช้าและทุกเย็น นอกจากจะพูดคุยกับแมวแล้ว คุณจะนั่งอ่านหนังสือเงียบๆ หรือทำงานในคอมไปพลางๆ ก็ได้^{[31]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}^{[32]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ห้าม อยู่ๆ ก็ยกตัวแมวขึ้นมาอุ้มเด็ดขาด^{[33]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง} รับรองว่าคุณจะโดนกัด ข่วน หรือขู่ฟ่อใส่แน่นอน
2
เล่นกับแมวจร. ชวนเล่นนี่แหละ วิธีสร้างความสนิทสนมแบบหวังผล ลองหาของเล่นชิ้นไม่ต้องใหญ่มากจากร้านขายของใช้สัตว์เลี้ยงหรือตามเน็ตก็ได้ มาให้แมวเล่นตอนคุณอยู่ในห้องด้วยกัน^{[34]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง} หรือคุณจะประดิษฐ์ ‘เบ็ดตกแมว’ ขึ้นมาเองก็ได้ โดยหาเศษผ้ามาติดปลายเชือก แล้วเอาเชือกไปผูกกับไม้ยาวๆ อีกที^{[35]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- เวลาเล่นเบ็ดตกแมว คุณต้องอยู่ด้วยเสมอ เพราะไม่งั้นแมวอาจเผลอกลืนเชือกหรือเศษผ้าเข้าไปจนทำให้อุดตันในลำไส้ เดี๋ยวต้องหาหมอหรือผ่าตัดขึ้นมา^{[36]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
3
อ่านท่าทางก่อน ว่าแมวจร ‘พร้อม’ เล่นกับคุณหรือเปล่า. จะจับต้องแมวจรทีเหมือนเสี่ยงชีวิต อยู่ๆ ก็อาจตั้งการ์ดขู่ฟ่อขึ้นมา หรือถึงขั้นกระโจนใส่คุณเพราะกลัวจัดได้ คุณต้องรู้จักสังเกตท่าทีของแมว จะได้รู้ว่าตอนนี้แมวกำลังสบายใจอยู่หรือเปล่า แล้วค่อยขยับขยายต่อไป สัญญาณบอกว่าแมวไม่พร้อมก็เช่น กระโจนใส่ ร้องเสียงดัง หรือหูลู่ซะจนแบนติดหัว^{[37]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ถ้าไม่อยากให้คุณอุ้มหรือจับตัว รับรองว่าแมวจะขู่ฟ่อแบบจัดเต็ม
- แต่ถ้าน้องแมวดูค่อนข้างผ่อนคลาย ไม่แสดงท่าทีก้าวร้าวตอนคุณอยู่ใกล้ๆ นั่นเป็นสัญญาณที่ดีว่าน่าจะจับได้ไม่มีปัญหา
4
ให้แมวชินกับมือของคุณซะก่อน. แมวจรไม่เคยถูกใครสัมผัสแตะต้อง เพราะงั้นคุณต้องฝึกให้คุ้นเคยกับมือของคุณซะก่อน เริ่มจากแปะฝ่ามือลงบนพื้น^{[38]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง} รอจนแมวเข้ามาหาเอง แล้วปล่อยให้แมวเอาตัวชนหรือไถขา แขน หรือมือของคุณ^{[39]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- อดใจไว้ อย่าเพิ่งลูบ ปล่อยแมวสำรวจมือหรือตัวคุณไปก่อน ให้แมวจรได้รู้ว่าคุณไม่มีพิษมีภัยอะไร^{[40]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ตอนแรกให้วางมือห่างจากตัวแมวหน่อย พอแมวเริ่มคุ้นกับมือคุณแล้ว ก็ค่อยขยับไปวางมือใกล้ๆ^{[41]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- อย่าลืมว่าปล่อยให้แมวเข้าหาคุณก่อนเสมอ เพราะถ้าคุณเป็นฝ่ายเข้าหา อาจโดนแมวจู่โจมได้
5
ถึงเวลาลูบแมว. วินาทีที่คุณได้ลูบนี่แหละ ที่จะชี้ชะตาว่าแมวจรไว้ใจคุณหรือยัง ตกลงยอมหรือพร้อมจู่โจม? ให้คุณวางของเล่นไว้ใกล้ๆ มือ จากนั้นก็แปะฝ่ามือลงบนพื้นอย่างเคย พอแมวเดินเข้ามาหา ดม แล้วเอาหน้าหรือตัวดันมือคุณ ก็ฉวยโอกาส ค่อยๆ ยกมือขึ้น แล้วค้างไว้ในระดับสายตาของแมว^{[42]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ยกมือค้างไว้ที่ระดับสายตาแมวแป๊บนึง แล้วเริ่มลูบได้เลย^{[43]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ระหว่างนี้จับสังเกตท่าทีของแมวให้ดี ถ้าแมวเกร็งตัว สะบัดหางกระตุกไปมา รูม่านตาขยาย และหูลู่ติดหัวเมื่อไหร่ให้หยุดลูบทันทีแล้วถอยห่างออกมา^{[44]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ครั้งแรกถึงจะดีใจแค่ไหนก็ให้ลูบนิดเดียวพอ^{[45]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง} สรุปคือให้คุณชิงเลิกลูบซะ ก่อน แมวจะเป็นฝ่ายแสดงท่าทีไม่สบอารมณ์^{[46]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
6
ถ้าเป็นลูกแมวก็อุ้มได้. ถ้าแมวจรยังเป็นลูกแมว ก็ลองอุ้มได้เลย แล้วพอแมวชินมือก็ค่อยให้นั่งบนตักคุณ แต่ยังไงก็อย่าชะล่าใจ แมวจรก็กึ่งๆ เหมือนสัตว์ป่า ทางที่ดีให้ค่อยๆ ห่มตัวแมวด้วยผ้าเช็ดตัวอย่างเบามือ (ห่มถึงคอ) จะได้ไม่เสี่ยงถูกข่วนหรือกัด^{[47]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- พลิกตัวลูกแมวให้หันหน้าออกจากตัวคุณ แล้วใช้มือคีบหนังที่หลังคอ (scruff) ให้มั่น^{[48]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง} จับให้ใกล้หูมากที่สุด และระวังอย่าจิกหรือบีบแน่นเกินไป^{[49]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ค่อยๆ ยกตัวลูกแมวขึ้นมาวางบนตักคุณ ถ้าลูกแมวว่าง่าย ให้ลูบและพูดคุยกับแมวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน^{[50]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ถึงตามธรรมชาติแม่แมวจะคาบคอลูกแมวแบบนี้ แต่ก็เป็นเรื่องปกติที่บางทีลูกแมวไม่ยอมให้คุณคีบคอ คุณต้องหัดอ่านสีหน้าท่าทางของแมว จะได้ดูออกว่าแมวชอบหรือหงุดหงิด
- ห้าม เข้าหาแมวหรือลูกแมวจากข้างหน้าเด็ดขาด^{[51]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
7
ดูแลขนของแมวจร. การแปรงขนนอกจากจะทำให้แมวได้คุ้นเคยกับสัมผัสของคุณแล้ว ยังทำให้แมวสบายตัวขึ้นด้วย เพราะขนสวยและผิวหนังสุขภาพดี ให้คุณแปรงขนน้องแมวด้วยแปรงขนนุ่มสำหรับแมวโดยเฉพาะ^{[52]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง} หรือจะใช้หวีเหล็กซี่ถี่สำหรับสางหาหมัดก็ได้^{[53]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ทั้ง 2 แบบที่ว่ามีขายทั่วไปตามร้านสัตว์เลี้ยงและในเน็ต
- หมัดนี่แหละตัวอันตรายของแมวจร เพราะอาจทำให้โลหิตจางรุนแรงถึงชีวิตได้^{[54]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง} นอกจากสางขนด้วยหวีหาหมัดแล้ว คุณควรใช้ยาป้องกันหมัดโดยเฉพาะด้วย (ลองสอบถามคุณหมอดู)
โฆษณา

ส่วน 3

ส่วน 3 ของ 3:

ประเมินความสามารถของคุณ

ดาวน์โหลดบทความ

1
ประเมินความเชื่องของแมวจร. แมวจรนั้นมีทั้งแบบเปรียวมาก (ไม่คุ้นหรือไม่เคยสัมผัสคนเลย ไม่ก็เคยถูกคนทารุณ) พอเชื่อง (เคยสัมผัสคนแบบดีๆ มาบ้าง) และเชื่องมาก (แมวบ้านที่ถูกทิ้งกลายมาเป็นแมวจร แรกๆ อาจมีระแวงบ้างนิดๆ หน่อยๆ)^{[55]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง} แมวที่เปรียวมากจะเข้าหาและฝึกให้เชื่องได้ยากที่สุด ส่วนแมวที่เชื่องอยู่แล้วก็แค่ต้องทำความรู้จักคุ้นเคยกันก่อนเท่านั้นเอง^{[56]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- แมวที่พอเชื่อง จะมองคนเป็นเหมือนแหล่งอาหาร แต่ไม่ต้องการให้คนมาแตะต้องตัว การที่ยังพอคุ้นเคยกับคนอยู่บ้าง ทำให้แมวไม่ตื่นเกินไป พอเข้าใจท่าทีของคนและสภาพแวดล้อมต่างๆ ของคน^{[57]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- แมวที่พอเชื่องก็คือ ‘แมวประจำชุมชน’ ที่เราเห็นเดินไปเดินมาแถวบ้านนั่นแหละ^{[58]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
2
คาดเดาอายุของแมวจร. ถ้าคุณพอรู้ว่าแมวแก่หรือเด็ก ก็จะบอกได้คร่าวๆ ว่าแมวตัวที่ว่ายังพอฝึกให้เชื่องได้หรือเปล่า ถ้าเป็นลูกแมวอายุไม่เกิน 10 - 12 อาทิตย์นี่ฝึกได้ง่ายๆ เลย^{[59]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}^{[60]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง} แมวแก่ที่เป็นแมวจรมาตลอดชีวิตนี่แหละที่โหดหิน คือฝึกยากมากไปจนถึงฝึกไม่ได้เลย^{[61]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ห้ามพรากลูกแมวจรไปจากแม่แมวจนกว่าจะหย่านม หรือก็คืออายุได้ประมาณ 13 อาทิตย์ เรื่องนี้สำคัญมากนะ ถ้าเป็นลูกหมา อายุประมาณ 8 อาทิตย์ก็เอามาเลี้ยงได้แล้ว แต่ลูกแมวนี่ห้ามเด็ดขาด! ถ้าคุณเอามาจากแม่แมวเร็วเกินไป จะส่งผลต่อพฤติกรรมของลูกแมวในระยะยาว รวมถึงมีปัญหาด้านพัฒนาการด้วย ผู้เชี่ยวชาญต่างก็เห็นตรงกันว่าต้องรอจนลูกแมวอายุได้ 13 อาทิตย์นี่แหละถึงจะแยกจากแม่ได้อย่างปลอดภัย^{[62]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ถ้าลูกแมวจรยังอยู่กับแม่ ให้ดักจับมาพร้อมกัน จากนั้นก็เลี้ยงไว้ในบ้านจนกว่าลูกแมวจะหย่านม สุดท้ายคือติดต่อศูนย์ช่วยเหลือสัตว์เรื่องทำหมันแม่แมว แล้วค่อยปล่อยแม่แมวกลับไปถิ่นเดิม^{[63]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
3
ประเมินความสามารถของตัวเอง. การฝึกแมวจรให้เชื่องนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย ไม่มีอะไรรับประกันได้หรอก ว่าสุดท้ายแมวจะเชื่องสมใจคุณ นอกจากเป็นเรื่องยากแล้วยังต้องใช้เวลานาน ถ้าเป็นลูกแมวก็อาจทำได้ใน 2 - 6 อาทิตย์^{[64]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง} แต่ถ้าเป็นแมวโตนี่อาจนานเป็นปีขึ้นไป^{[65]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- การฝึกแมวให้คุ้นเคยกับบ้านของคุณและตัวคุณเอง ต้องใช้เวลาเป็นหลายชั่วโมง ต่อวัน และติดต่อกันเป็นเดือนๆ^{[66]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง} ถามตัวเองดูให้ชัวร์ก่อน ว่าคุณมีเวลา ความพร้อม และความตั้งใจขนาดนั้นไหม
- แมวจรบางทีก็มีสารพัดโรค นอกจากค่าตรวจร่างกายและฉีดวัคซีนเบื้องต้นแล้ว อาจต้องมีค่าใช้จ่ายอีกสารพัด ถามตัวเองก่อนว่าคุณมีเงินพร้อมจ่ายขนาดนั้นหรือเปล่า
โฆษณา

เคล็ดลับ

คิดจะฝึกแมวจรให้เชื่อง ต้อง รับผิดชอบเลี้ยงดูในระยะยาวด้วย^{[67]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
อย่าเสียใจไปถ้าฝึกแมวจรตัวใดตัวหนึ่งให้เชื่องไม่สำเร็จ เพราะแมวจรบางตัวก็ไม่เหมาะจะเลี้ยงเป็นแมวบ้านจริงๆ^{[68]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
ถึงจะฝึกจนเชื่องแล้ว แต่แมวจรบางตัวก็ยังรักสันโดษ เพราะงั้นก็อย่าไปเซ้าซี้เลย รอเล่นตอนที่แมวเข้ามาหาเองดีกว่า^{[69]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
แมวจรไม่เหมาะจะยกให้ใครรับเอาไปเลี้ยง เพราะจะเชื่องแต่กับคนที่ฝึกมันเท่านั้น^{[70]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
เวลาเล่นกับแมว ทั้งแมวและคุณต้องอารมณ์ดีสบายใจ อย่าลืมลูบแมวอย่างนุ่มนวลเบามือเท่านั้น
ถ้าคุณไม่กล้าดักหรือจับตัวแมวจร ให้ปรึกษาสัตวแพทย์หรือศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ เพราะถ้าเงอะๆ งะๆ จะถูกแมวกัดหรือข่วนได้จนอาจเจ็บป่วยขึ้นมา

โฆษณา

คำเตือน

มองดีๆ แมวจรก็เหมือนสัตว์ป่านั่นแหละ ถ้าไม่ระวัง เข้าไปหาสุ่มสี่สุ่มห้า ก็ถูกกัดถูกข่วนได้ง่ายๆ ถ้าคุณไม่กล้าดักหรือจับตัวแมวจร ให้ปรึกษาสัตวแพทย์หรือศูนย์ช่วยเหลือสัตว์จะดีกว่า
คุณภาพชีวิตของแมวจรถือว่าต่ำมาก ทั้งต้องเผชิญกับสภาพอากาศต่างๆ (เช่น ฝนตก ลมแรง) ติดเชื้อนู่นนี่ และอาจถูกทำร้ายจากทั้งคนและสัตว์อื่นๆ เพราะฉะนั้นเลยมีอายุขัยไม่ถึง 50% ของแมวบ้านเท่านั้น^{[71]Xแหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้American Society for the Prevention of Cruelty to Animalsไปที่แหล่งข้อมูล}

โฆษณา

[1]

[2]

[3]

[4]

[5]

[6]

[7]

[8]

[9]

[10]

[11]

[12]

[13]

[14]

[15]

[16]

[17]

[18]

[19]

[20]

[21]

[22]

[23]

[24]

[25]

[26]

[27]

[28]

[29]

[30]

[31]

[32]

[33]

[34]

[35]

[36]

[37]

[38]

[39]

[40]

[41]

[42]

[43]

[44]

[45]

[46]

[47]

[48]

[49]

[50]

[51]

[52]

[53]

[54]

[55]

[56]

[57]

[58]

[59]

[60]

[61]

[62]

[63]

[64]

[65]

[66]

[67]

[68]

[69]

[70]

[71]

แหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้

ไปที่แหล่งข้อมูล

เข้าสู่ระบบ

วิธีการ ฝึกแมวจรจัดให้เชื่อง

ขั้นตอน

พาแมวจรเข้าบ้าน

ดูแลแมวจร

ประเมินความสามารถของคุณ

เคล็ดลับ

คำเตือน

บทความวิกิฮาวอื่น ๆ ที่่เกี่ยวข้อง

ข้อมูลอ้างอิง

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

บทความที่เกี่ยวข้อง

ติดตามเรา

แบ่งปัน