วิธีการ รู้ว่าแมวกำลังเล่นกันหรือสู้กัน

ดาวน์โหลดบทความ

ดาวน์โหลดบทความ

ภายในบทความนี้:

การสังเกตภาษากาย

การสังเกตธรรมชาติของการสู้

การหยุดการสู้

บทความที่เกี่ยวข้อง

ข้ออ้างอิง

การเล่นแรงๆ หรือสู้กันเล่นๆ เป็นเรื่องปกติของพฤติกรรมแมว อย่างไรก็ตามในบางครั้งอาจจะบอกได้ยากว่าแมวกำลังเล่นหรือสู้กันอยู่ ให้สังเกตภาษากายของพวกมันอย่างใกล้ชิดเพื่อตรวจดูว่าพวกมันกำลังเล่นกันหรือสู้กัน นอกจากนี้ให้สังเกตธรรมชาติของการต่อสู้ แมวที่กำลังเล่นมักจะผลัดกันเล่น ถ้าแมวกำลังสู้กันให้หยุดการสู้โดยการส่งเสียงดังหรือโดยการวางสิ่งกีดขวางกั้นระหว่างแมว

ขั้นตอน

วิธีการ 1

วิธีการ 1 ของ 3:

การสังเกตภาษากาย

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   ฟังเสียงคำรามหรือเสียงขู่ฟ่อ. โดยทั่วไปแล้วแมวที่กำลังเล่นต่อสู้กันจะไม่ส่งเสียงดังเท่าไร ถ้าพวกมันส่งเสียงดังใดๆ ก็ตาม คุณมีแนวโน้มที่จะได้ยินเสียงเหมียวๆ มากกว่าเสียงขู่ฟ่อหรือเสียงคำราม

   • ถ้าคุณได้ยินเสียงคำรามหรือเสียงขู่ฟ่ออย่างต่อเนื่องแล้วล่ะก็ แมวอาจจะกำลังสู้กันอยู่
2. 
   2
   สังเกตหูของพวกมัน. ในระหว่างการสู้กันเล่นๆ แมวมักจะมีหูชี้ไปข้างหน้าหรือตั้งตรง หรือชี้ไปข้างหลังเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ในทางกลับกันถ้าคุณเห็นว่าหูของพวกมันลู่ไปข้างหลังหรือลู่จนแนบกับหัวแล้วล่ะก็จะมีโอกาสสูงว่าแมวกำลังสู้กันอยู่
3. 
   3
   ดูกรงเล็บ. แมวที่กำลังเล่นกันส่วนใหญ่มักจะหดหรือหุบกรงเล็บไว้ ถ้าพวกมันกางเล็บ พวกมันก็จะไม่จงใจใช้เล็บทำร้ายแมวตัวอื่น ในทางกลับกันถ้าคุณเห็นแมวใช้กรงเล็บเพื่อทำอันตรายหรือทำร้ายแมวตัวอื่นก็มีโอกาสสูงว่าแมวกำลังสู้กันอยู่
4. 
   4
   ดูการกัด. ในระหว่างการเล่นนั้นมักจะมีการกัดกันแค่เล็กน้อยและไม่ก่อให้เกิดอันตรายใดๆ อย่างไรก็ตามถ้าคุณสังเกตเห็นแมวตัวหนึ่งกัดอีกตัวหนึ่งเพื่อทำร้ายแล้วล่ะก็แมวอาจจะกำลังสู้กันมากกว่าจะเล่นกัน

   • ยกตัวอย่างเช่น ถ้าแมวตัวใดตัวหนึ่งร้องครางอย่างเจ็บปวดและส่งเสียงขู่ฟ่อหรือเสียงคำราม แมวอาจจะกำลังสู้กัน
   • โดยปกติแล้วเมื่อแมวเล่นกัน พวกมันจะผลัดกันกัด ถ้าแมวตัวหนึ่งกัดแมวอีกตัวที่พยายามจะหนีหลายครั้ง ก็ไม่น่าจะเป็นการเล่นกันแล้วล่ะ
5. 
   5
   สังเกตการวางตำแหน่งร่างกาย. แมวที่สู้กันเล่นๆ มักจะโน้มตัวไปข้างหน้า แต่ถ้าคุณสังเกตเห็นว่าแมวเอนไปข้างหลังในขณะที่พวกมันตบกัน พวกมันอาจจะกำลังสู้กันอยู่
6. 
   6
   สังเกตขน. แมวที่สู้กันจริงๆ จะมีขนตั้งชี้ พวกมันทำสิ่งนี้เพื่อทำให้ตัวเองดูตัวใหญ่ขึ้น ดังนั้นถ้าคุณเห็นขนพองบนหางแมว บนตัว หรือทั้งสองอย่าง พวกมันมีแนวโน้มที่จะสู้กันมากกว่าเล่นกัน
   โฆษณา

วิธีการ 2

วิธีการ 2 ของ 3:

การสังเกตธรรมชาติของการสู้

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   ดูการสลับแลกเปลี่ยนกัน. ในระหว่างการสู้กันเล่นๆ แมวจะผลัดกันอยู่ด้านบน กล่าวอีกนัยหนึ่งแมวทั้งสองตัวควรใช้เวลาเท่าๆ กันในการอยู่ด้านล่างและด้านบน

   • ถ้าแมวกำลังวิ่งไล่กัน ก็จะใช้กฎเดียวกัน พวกมันทั้งคู่ควรจะผลัดกันวิ่งไล่แทนที่จะเป็นแมวตัวหนึ่งวิ่งไล่แมวอีกตัวหนึ่งตลอดเวลา
2. 
   2
   สังเกตจังหวะของการสู้. แมวที่กำลังเล่นต่อสู้จะหยุดและเริ่มใหม่หลายครั้ง สิ่งนี้ทำให้พวกมันได้หยุดพักและสลับตำแหน่งกันได้ ในทางกลับกันแมวที่กำลังสู้กันจะเคลื่อนไปอย่างรวดเร็วและไม่หยุดจนกว่าแมวตัวใดตัวหนึ่งจะชนะ
3. 
   3
   สังเกตพฤติกรรมของพวกมันในภายหลัง. ถ้าคุณยังไม่แน่ใจว่าแมวกำลังเล่นหรือสู้กันอยู่ ให้สังเกตพฤติกรรมของแมวในภายหลัง แมวที่กำลังสู้กันจะหลบหน้ากันในภายหลัง หรืออย่างน้อยตัวหนึ่งจะหลบอีกตัวหนึ่ง

   • แมวที่เล่นกันจะทำตัวเป็นมิตรต่อกันและกลับมาทำพฤติกรรมตามปกติในภายหลัง พวกมันอาจจะหลับหรือนอนใกล้กันเสียด้วยซ้ำ
   โฆษณา

วิธีการ 3

วิธีการ 3 ของ 3:

การหยุดการสู้

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   ทำเสียงดัง. ทำได้โดยการกระแทกประตูปิด ปรบมือ ตะโกน เป่านกหวีด หรือเคาะหม้อหรือวัตถุต่างๆ เข้าด้วยกันเพื่อทำเสียงดัง โดยหวังว่าเสียงดังจะเบี่ยงเบนความสนใจของแมวและทำให้พวกมันเลิกสู้กัน
2. 
   2
   สร้างสิ่งกีดขวาง. สิ่งกีดขวางมีประโยชน์เพราะว่าจะปิดกั้นไม่ให้แมวมองเห็นกัน วางเบาะ กระดาษแข็ง หรือวัตถุที่เหมือนสิ่งกีดขวางอื่นๆ ไว้ระหว่างแมวเพื่อบังไม่ให้แมวมองเห็นกัน เมื่อแมวหยุดสู้กัน ให้นำพวกมันแยกไปไว้คนละห้องเพื่อให้สงบลง

   • คุณอาจจะต้องนำแมวมาทำความรู้จักกันอีกครั้งอย่างช้าๆ เพื่อป้องกันไม่ให้สู้กันอีกในอนาคต
   • ควรจะมีคอกกั้นเด็กไว้เพื่อแยกแมว สิ่งนี้จะช่วยให้คุณสามารถนำพวกมันมาทำความรู้จักกันอีกครั้งและให้พวกมันมีปฏิสัมพันธ์กันโดยที่ทำร้ายกันไม่ได้
3. 
   3
   อย่าใช้มือหยุดการสู้. ถ้าคุณยื่นมือไปกลางแมวสองตัวที่กำลังสู้กัน คุณจะเสี่ยงต่อการถูกข่วนหรือถูกกัด แมวตัวใดตัวหนึ่งหรือทั้งสองตัวอาจจะพุ่งเข้าใส่ใบหน้าของคุณด้วย

   • นอกจากนี้ แมวตัวใดตัวหนึ่งอาจจะเห็นคุณและหันเหความโกรธมาหาคุณแทน เป็นผลให้พฤติกรรมของพวกมันที่มีต่อคุณอาจจะเปลี่ยนไปได้แม้หลังจากการสู้จบลงแล้วก็ตาม
   • ถ้าแมวกัดคุณ คุณควรจะไปโรงพยาบาลหรือห้องฉุกเฉินโดยเร็วที่สุด แผลแมวกัดมักจะติดเชื้อพาสทูเรลลา (Pasteurella) และยังสามารถทำให้เกิดเซลล์เนื้อเยื่ออักเสบได้ การรักษาแต่เนิ่นๆ เป็นวิธีการหรือการป้องกันที่ดีที่สุด
4. 
   4
   ป้องกันไม่ให้สู้กันในอนาคต. คุณสามารถทำได้โดยให้แน่ใจว่าแมวไม่จำเป็นต้องแย่งของกัน แมวแต่ละตัวควรจะมีกระบะขับถ่าย ชามอาหาร ที่นอน คอนเกาะ และของเล่นในบริเวณต่างๆ ของบ้านเป็นของตัวเอง นอกจากนี้การตอนหรือทำหมันแมวอาจจะช่วยให้พวกมันสู้กันน้อยลงได้

   • ให้รางวัลแมวด้วยการชมและขนมเมื่อพวกมันมีปฏิสัมพันธ์อย่างเป็นมิตร
   โฆษณา

เคล็ดลับ

• แมวที่ไม่คุ้นเคยกัน หรือเคยเป็นศัตรูกันมาก่อนมีแนวโน้มที่จะสู้กัน

โฆษณา