ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความ

แมวไม่ได้มีนิสัยเหมือนกับสุนัข และผลที่ได้จากการฝึกแมวจะไม่เหมือนกับการฝึกสุนัข กล่าวโดยทั่วไป กระบวนการฝึกแมวมีความท้าทายมากกว่าโดยเฉพาะกับคนที่คุ้นเคยกับการฝึกสุนัขหรือสัตว์อื่นๆ เพราะว่าลูกแมวเป็นสัตว์ที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูง และมีความสนใจในทัศนคติของมนุษย์น้อยกว่าสัตว์เลี้ยงในบ้านอื่นๆ อย่างไรก็ตาม ด้วยเทคนิคที่เหมาะสมและความอดทนสูง คุณสามารถฝึกลูกแมวของคุณให้เป็นเพื่อนรักที่มีความสุข สุขภาพดี และเคารพเชื่อฟังคุณได้ในที่สุด

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 6:

เปิดโอกาสให้ลูกแมวของคุณมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคม

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ปล่อยให้แม่แมวมีปฏิสัมพันธ์กับลูกๆ ของมันอย่างน้อยเป็นเวลา 8...
    ปล่อยให้แม่แมวมีปฏิสัมพันธ์กับลูกๆ ของมันอย่างน้อยเป็นเวลา 8 สัปดาห์. โดยทั่วไป ลูกแมวต้องการเวลาอย่างน้อย 2 เดือนในการปฏิสัมพันธ์กับแม่ของมัน ก่อนที่พวกมันจะสามารถถูกแยกออกจากกันได้ ในระหว่างนี้ แม่แมวควรทำการฝึกลูกแมวด้วยตัวเอง เพื่อให้ลูกแมวมีความประพฤติที่ดี และเหมาะสมสำหรับการเป็นแมวที่ถูกเลี้ยงอยู่ในบ้าน
    • ลูกแมวเริ่มหย่านมแม่ตอนมีอายุประมาณ 1 เดือน และจะหย่านมอย่างเด็ดขาดกับเริ่มกินอาหารแข็งได้เมื่อมีอายุ 8 สัปดาห์
    • หากแมวของคุณยังมีอุจจาระหรือปัสสาวะของลูกแมว และคุณกำลังหย่านมลูกแมวด้วยตัวเอง มันเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่งที่คุณจะรอจนครบ 2 เดือนเป็นอย่างน้อยก่อนที่คุณจะแยกพวกมันออกจากกันโดยสมบูรณ์ แม่แมวควรฝึกลูกแมวให้รู้จักพละกำลังของตัวเอง การกินอย่างเหมาะสม และการใช้กล่องสำหรับขับถ่ายของเสีย
  2. How.com.vn ไท: Step 2 หลีกเลี่ยงการซื้อลูกแมวที่ถูกหย่านมเร็วเกินไป....
    หลีกเลี่ยงการซื้อลูกแมวที่ถูกหย่านมเร็วเกินไป. หากคุณกำลังจะซื้อลูกแมวจากร้าน แน่ใจว่าคุณรู้อายุจริงของลูกแมว โดยลูกแมวที่ถูกหย่านมเร็วเกินไปมีแนวโน้มที่จะมีความก้าวร้าวมากกว่า และจำเป็นต้องมีการฝึกฝนมากกว่าลูกแมวที่หย่านมในช่วงเวลาที่เหมาะสม[1]
  3. How.com.vn ไท: Step 3 พยายามให้ลูกแมวของคุณมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมต่อไป....
    พยายามให้ลูกแมวของคุณมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมต่อไป. สัตว์เลี้ยงที่ดีที่สุด คือสัตว์เลี้ยงที่มีการปฏิสัมพันธ์ทางสังคมอย่างเหมาะสมตั้งแต่อายุยังน้อย ลูกแมวที่มีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมที่ดีควรถูกจับและอุ้มโดยผู้คนมากหน้าหลายตาที่มีความแตกต่างทั้งด้านอายุ เพศ และลักษณะทางร่างกาย ตั้งแต่มีอายุได้ 2 สัปดาห์เป็นต้นไป การจับและอุ้มควรเกิดขึ้นทุกวัน อย่างน้อย 2 ครั้งต่อวัน และแต่ละครั้งควรมีระยะเวลาประมาณ 5 – 10 นาที ยิ่งลูกแมวถูกจับและอุ้มบ่อยครั้งเท่าไหร่ จะยิ่งเป็นการดีมากขึ้นเท่านั้น[2]
    • หากลูกแมวของคุณไม่ชอบเข้าสังคมและทำความคุ้นเคยกับคน คุณจะพบกับความยากลำบากในการฝึกลูกแมว เพราะว่าลูกแมวจะระมัดระวังคนและไม่เชื่อใจคน ดังนั้นภารกิจแรกของคุณ คือการเอาชนะความมั่นใจของลูกแมว[3]
    • หากลูกแมวมีอายุมากกว่า 8 สัปดาห์ และยังไม่คุ้นเคยกับคน พวกมันมีแนวโน้มที่จะมีพฤติกรรมดุร้าย หรือมีนิสัยแบบลูกแมวป่า โชคร้ายที่หากพฤติกรรมนี้ก่อตัวขึ้น มันจะเป็นเรื่องยากในการทำลาย และมีความเป็นไปได้ที่ลูกแมวจะเติบโตเป็นแมวที่ต่อต้านการเข้าสังคม
  4. How.com.vn ไท: Step 4 อดทนเมื่อฝึกให้ลูกแมวมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคม....
    อดทนเมื่อฝึกให้ลูกแมวมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคม. คุณไม่สามารถบังคับลูกแมวหรือแมวให้ทำสิ่งต่างๆ ดังนั้นอาวุธของคุณคือความอดทน และให้รางวัลเมื่อลูกแมวอยู่รอบๆ เพื่อพวกมันจะเริ่มเชื่อมโยงคุณเข้ากับประสบการณ์ที่ดีได้
    • ตัวอย่างในเรื่องนี้ ได้แก่ การนอนลงบนพื้นเมื่อคุณดูทีวี และเก็บรางวัลชิ้นหรือสองชิ้นไว้ในมือ หรือกระเป๋า โดยการนอนลงนั้น คุณจะไม่แสดงออกถึงภัยคุกคามใดๆ และทำให้ลูกแมวที่มีความอยากรู้อยากเห็นอาจเข้ามาหาคุณเอง และการวางรางวัลที่เป็นอาหารลงบนพื้นจะเป็นการให้รางวัลในความกล้าของลูกแมว และอาจช่วยให้พวกมันรู้ว่าการเข้าหาคนหมายถึงจะได้กินของว่างรสชาติอร่อย และทำให้พวกมันเต็มใจที่จะเข้าหาคุณเองได้มากขึ้นในอนาคต
  5. How.com.vn ไท: Step 5 ใช้การสนับสนุนเชิงบวก.
    การถูหน้าของลูกแมวจากความวุ่นวายยุ่งเหยิงที่มันได้ทำ หรือการตะโกนใส่เสียงดัง เป็นวิธีที่ไม่ดีในการฝึกลูกแมว ทั้งนี้การสนับสนุนเชิงบวกจะถูกกระทำได้โดยการให้รางวัลในพฤติกรรมที่คุณต้องการให้แมวทำซ้ำ เพื่อที่สุดท้ายแมวจะละทิ้งพฤติกรรมเก่าที่คุณต้องการให้แมวงดเว้น วิธีนี้เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการเปลี่ยนพฤติกรรมของแมว
    • หากแมวทำบางสิ่งบางอย่างที่คุณไม่ชอบ ให้คุณวางเฉย โดยทั่วไป การร้องครางที่ประตูหรือการตะกายบางสิ่งบางอย่างเป็นวิธีที่แมวใช้เรียกร้องความสนใจของคุณ หากมันไม่ได้ผล แมวจะละทิ้งพฤติกรรมดังกล่าวโดยสมบูรณ์
    • รางวัลอาจเป็นของกินรสชาติอร่อย แมวส่วนมากจะมีรางวัลที่โปรดปรานอย่างใดอย่างหนึ่งเสมอ หากลูกแมวของคุณดูไม่มีแรงจูงใจในอาหาร ให้คุณลองหลอกล่อลูกแมวด้วยอาหารหลากหลายชนิดเพื่อดูว่าอาหารชนิดไหนทำให้พวกมันรู้สึกตื่นเต้น
  6. How.com.vn ไท: Step 6 หลีกเลี่ยงการลงโทษลูกแมว.
    การลงโทษลูกแมวอาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเพียงผิวเผิน แต่แมวอาจมีนิสัยหลบเลี่ยงมากขึ้น ยกตัวอย่าง เช่น แมวถ่ายปัสสาวะบนพรมในห้องนั่งเล่น หากคุณทำโทษ หรือทำให้ลูกแมวกลัว พวกมันจะจดจำคุณว่าลงโทษพวกมันที่ถ่ายปัสสาวะมากกว่าที่จะรู้ว่าห้ามถ่ายปัสสาวะบนพรม ดังนั้นลูกแมวจะระมัดระวังไม่ถ่ายปัสสาวะต่อหน้าคุณในอนาคต [4]
    • นี่สามารถส่งผลในทางตรงกันข้าม เพราะว่าลูกแมวจะพยายามหาที่ลับตาในการถ่ายปัสสาวะ หรือลังเลในการใช้กล่องสำหรับขับถ่ายของเสียที่คุณกำลังพยายามจะใช้ เพราะว่าพวกมันจะระมัดระวังคุณอยู่ตลอดเวลา[5]
  7. How.com.vn ไท: Step 7 ทำเสียงเลียนแบบเสียงของแม่แมวเมื่อคุณไม่พอใจในพฤติกรรมของลูกแมว....
    ทำเสียงเลียนแบบเสียงของแม่แมวเมื่อคุณไม่พอใจในพฤติกรรมของลูกแมว. เมื่อแม่แมวสั่งสอนลูกแมว พวกมันจะทำเสียงเครือในลำคอซึ่งเป็นเสียงที่สามารถเลียนแบบได้ไม่ยาก มันเป็นวิธีที่ได้ผลเป็นอย่างยิ่ง และเป็นหลักการในการฝึกลูกแมวเพื่อสอนให้ลูกแมวทำสิ่งต่างๆ ด้วยรูปแบบที่พวกมันคุ้นเคย
    • สิ่งที่คุณต้องทำ คือการกระดกลิ้นให้กระทบเพดานปากของคุณเมื่อลูกแมวกำลังตะกายบนบางสิ่งบางอย่าง หรือทำบางสิ่งบางอย่างที่ขัดต่อกฏของบ้าน
  8. How.com.vn ไท: Step 8 ใช้หญ้าแคตนิป หรือหญ้าแมวเพื่อช่วยในการฝึก.
    การฝึกแมวด้วยหญ้าแมวเป็นวิธีที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง และการให้รางวัลลูกแมวของคุณจะได้ผลดีกว่าการตะโกนเสียงดัง วิธีนี้สามารถเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการดึงดูดความสนใจของแมวด้วยเสาลับเล็บ ของเล่นที่คุณต้องการให้แมวของคุณเล่น หรือทำให้พวกมันนอนในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งที่คุณต้องการให้พวกมันหลับนอน การวางหญ้าแมวเพียงเล็กน้อยไว้ในถุงสามารถทำให้แมวรู้สึกเพลิดเพลินไปได้หลายชั่วโมง
    • ไม่ใช่แมวทุกตัวจะรู้สึกดึงดูดใจกับหญ้าแมว ซึ่งหากแมวของคุณเป็นเช่นนั้น จะทำให้งานของคุณมีความยากมากขึ้น หากแมวของคุณดูไม่สนใจในหญ้าแมว คุณสามารถลองใช้สิ่งที่สุนัขชอบ เช่น รางวัลที่เป็นอาหารชิ้นเล็กๆ เพื่อดึงดูดให้แมวสนใจในบางสิ่งบางอย่างแทน
  9. How.com.vn ไท: Step 9 จัดหาพื้นที่มากๆ สำหรับแมว.
    หากลูกแมวของคุณเอาแต่ปีนขึ้นเคาน์เตอร์ครัวเพื่อสอดส่องพื้นที่ หรือเข้าไปในพื้นที่ที่มันไม่สมควรจะเข้าไป การทำให้แมวกลัวหรือตกใจจะใช้ไม่ได้ผล วิธีนี้จะเป็นเพียงแค่การสอนแมวในสิ่งที่มันควรต้องกลัว แทนที่จะทำเช่นนั้น ให้คุณวางแท่นหรือม้านั่งในพื้นที่ที่ติดกับเคาน์เตอร์ครัว และวางหญ้าแมวหรือของกินเล่นไว้ด้านบน เพื่อที่แมวจะสามารถกระโดดขึ้น และดูพื้นที่ทั้งหมดได้จากด้านบน
    • แสดงให้ชัดเจนว่าที่ไหนที่เป็นพื้นที่ของแมว หากแมวกระโดดขึ้นเคาน์เตอร์อีก ให้คุณย้ายมันไปไว้ที่ม้านั่ง
  10. How.com.vn ไท: Step 10 เล่นกับลูกแมวอยู่เป็นประจำ.
    เพื่อทำให้ลูกแมวมีการแสดงออก ให้คุณรวมการออกกำลังกายเข้ากับการให้อาหารแมวทุกวันก่อนมื้ออาหารทุกมื้อ ทำได้โดยกระตุ้นสัญชาตญาณในการล่าของพวกมันด้วยการเล่นกับเชือก แถบริบบิ้น เลเซอร์พอยเตอร์ หรือของเล่นอื่นๆ ที่แมวจะรู้สึกเพลิดเพลิน นี่เป็นส่วนที่จำเป็นในชีวิตประจำวันของแมว หากไม่มีการเล่นออกกำลังกาย พวกมันอาจอารมณ์ไม่ดี หรือรู้สึกตื่นเต้นมากเกินไป
    • นำของเล่นออกมา และให้แมวกระโดดคว้าของเล่นในอากาศ หรือล่อให้แมววิ่งไปรอบๆ เพื่อจับของเล่น จากนั้นจึงค่อยให้อาหารแมว โดยทั่วไปแมวจะทำความสะอาดตัวเอง และหลับหลังจากกินอาหาร ให้คุณเล่นกับแมวอย่างน้อยวันละ 20 นาที หรือจนกว่าลูกแมวจะหยุดไปเอง
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 6:

การฝึกการกินของลูกแมว

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 พิจารณาหากคุณสามารถวางอาหารไว้ให้ลูกแมวตลอดเวลา....
    พิจารณาหากคุณสามารถวางอาหารไว้ให้ลูกแมวตลอดเวลา. การให้อาหารแมวมีอยู่ด้วยกัน 2 วิธีหลักๆ และมันจะขึ้นอยู่ที่วิธีการกินของแมวของคุณว่าเป็นอย่างไร คุณสามารถให้อาหารแมวได้ตลอดเวลา หรือให้อาหารตามเวลาเป็นมื้อๆ แต่ไม่ใช่ให้อาหารทั้งสองวิธี แมวบางตัวอาจเหมาะกับการเทอาหารใส่ชามทิ้งไว้อยู่ตลอดเวลา โดยพวกมันจะกินจนกระทั่งพวกมันไม่รู้สึกหิวอีกต่อไป วิธีนี้อาจเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดสำหรับคุณ หากคุณสามารถควบคุมปริมาณการกินของพวกมันได้อย่างเหมาะสม
    • เมื่อมีอาหารให้กินอยู่ตลอดเวลา วิธีนี้เรียกว่า การให้อาหารแบบไม่จำกัด โดยเป็นการเลียนแบบวิธีการกินของแมวเวลาอยู่ในป่า ซึ่งชอบที่จะกินของว่างเล็กๆ น้อยๆ แต่บ่อยครั้ง แมวที่ไม่ถูกทำให้รู้สึกเบื่อ และมีหลายๆ อย่างที่ทำให้มันเพลิดเพลิน และมีการถูกกระตุ้นทางจิตใจ โดยทั่วไปจะสามารถควบคุมปริมาณแคลอรี่ที่พวกมันกินได้ดี และคุณสามารถให้อาหารแมวเหล่านี้โดยวิธีแบบไม่จำกัดได้
  2. How.com.vn ไท: Step 2 ให้อาหารลูกแมวเป็นเวลา หากมันมีแนวโน้มที่จะกินมากเกินไป....
    ให้อาหารลูกแมวเป็นเวลา หากมันมีแนวโน้มที่จะกินมากเกินไป. ปัญหามีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้น หากแมวรู้สึกเบื่อ หรือไม่ได้รับการกระตุ้นที่เพียงพอ ในกรณีนี้การกินสามารถกลายเป็นงานอดิเรก และแมวจะสูญเสียการควบคุมปริมาณแคลอรี่ที่พวกมันกิน
    • บ่อยครั้ง อาจเป็นแมวเสียเองที่ร้องขออาหารเมื่อมันไม่มีวางอยู่ จึงเป็นเรื่องสำคัญที่คุณควรเริ่มให้อาหารเป็นเวลา ลูกแมวโดยทั่วไปควรกินอาหารวันละ 4 มื้อ จนกระทั่งพวกมันมีอายุ 12 สัปดาห์ จึงลดลงเหลือวันละ 3 มื้อ เรื่อยไปจนกระทั่งพวกมันมีอายุได้ 6 เดือน หลังจาก 6 เดือนแมวจะโตเต็มวัย และสามารถกินอาหารเพียงแค่วันละ 2 มื้อ ในตอนเช้า และตอนค่ำ คุณควรให้อาหารในเวลาเดียวกันทุกมื้อในแต่ละวัน[6]
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ให้อาหารที่เหมาะสมแก่ลูกแมว.
    บ่อยครั้งลูกแมวจะมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น 2 หรือ 3 เท่าในช่วง 2 – 3 สัปดาห์แรกของการเจริญเติบโต นั่นหมายความว่า ลูกแมวจะต้องการอาหารที่มีแคลอรี่ และไขมันสูงมากกว่าแมวที่โตเต็มวัย อาหารที่วางจำหน่ายในท้องตลาดจะมีการแยกช่วงอายุของแมวระบุไว้อย่างชัดเจน และมันเป็นความคิดที่ดีที่สุดในการให้อาหารเหล่านี้แก่ลูกแมว
    • อย่าให้อาหารสำหรับลูกแมวแก่แมวโตเต็มวัย หรือสูงอายุ และอย่าให้อาหารสำหรับแมวโตเต็มวัย หรือสูงอายุแก่ลูกแมว แคลอรี่ในอาหารเหล่านี้มีความแตกต่างกันเป็นอย่างมาก และสามารถนำไปสู่ภาวะขาดสารอาหาร หากลูกแมวกินอาหารสำหรับแมวโตเต็มวัย หรือน้ำหนักเกิน ในกรณีที่แมวโตเต็มวัยกินอาหารสำหรับลูกแมว
  4. How.com.vn ไท: Step 4 ให้น้ำสะอาดแก่แมวอยู่ตลอดเวลา.
    แมวจะเริ่มร้องครวญคราง หากพวกมันไม่ได้ในสิ่งที่มันต้องการ และการร้องครวญครางนี้สามารถกลายเป็นนิสัยในระยะยาว ที่อาจเป็นเรื่องที่ค่อนข้างน่ารำคาญ หากคุณไม่ต้องการที่จะฝึกลูกแมวซ้ำใหม่อีกครั้ง แน่ใจว่าคุณทำสิ่งที่ถูกต้องตั้งแต่แรก หากแมวรู้ว่าชามน้ำของมันจะถูกเติมให้เต็มก่อนที่น้ำจะหมด มันจะไม่ทำให้ลูกแมวเริ่มร้องขอให้คุณเติมน้ำในชาม ฉะนั้นจงรู้เท่าทันแมวของคุณ
  5. How.com.vn ไท: Step 5 อย่าให้อาหารแมวจากโต๊ะรับประทานอาหาร.
    นอกเหนือจากความจริงที่ว่าลูกแมวไม่ควรกินอาหารมนุษย์หลายๆ อย่าง เช่น กระเทียม หัวหอม ช็อกโกแลต องุ่น และลูกเกด ซึ่งอาหารเหล่านี้เป็นพิษต่อแมว การให้อาหารแมวจากโต๊ะรับประทานอาหารจะทำให้ลูกแมวของคุณวนเวียนอยู่รอบๆ ทุกครั้งที่คุณรับประทานอาหาร คุณควรให้แมวของคุณกินอาหารแมวเพียงเท่านั้น และควรให้อาหารพวกมันเป็นเวลา
    • อย่าให้แมวกินนม เป็นเรื่องที่เข้าใจผิดว่าแมวชอบกินนม ความจริงแล้วแมวไม่สามารถย่อยผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากนมได้ และจะส่งผลให้อุจจาระของแมวมีกลิ่นเหม็นรุนแรง
    • แมวควรกินทูน่าเหมือนเป็นการได้รับรางวัลเพียงเท่านั้น โดยอาจจะให้ครั้ง หรือสองครั้งต่อสัปดาห์ ในขณะที่แมวจำนวนมากชอบปลากระป๋องเหล่านี้ แต่แท้ที่จริงแล้วมันไม่ได้มีสารอาหารที่มีความจำเป็นสำหรับเสริมสร้างสุขภาพของแมวแต่อย่างใด และมันยิ่งกลายเป็นเรื่องธรรมดาเพิ่มมากขึ้นที่แมวบางตัวมีอาการเสพติดการกินทูน่าอย่างหนัก จนไม่สนใจอาหารบำรุงสุขภาพชนิดอื่น ซึ่งมันจะเหมือนกับคนที่ไม่กินอะไร นอกจากมันฝรั่งแผ่นทุกวัน
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 6:

การฝึกให้ลูกแมวของคุณใช้กล่องสำหรับขับถ่ายของเสีย

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 หาซื้อกล่องสำหรับขับถ่ายของเสียที่เรียบง่าย....
    หาซื้อกล่องสำหรับขับถ่ายของเสียที่เรียบง่าย. กล่องสำหรับขับถ่ายของเสียที่มีความเรียบง่ายที่สุดจะเป็นมิตรกับแมวมากที่สุด กระบะที่บรรจุทรายแมวสะอาดและใหม่จนเต็ม เป็นสภาพแวดล้อมที่เหมาะสำหรับแมวในการทำธุระส่วนตัว หากคุณมีกล่องสำหรับขับถ่ายของเสียอัตโนมัติที่ยุ่งยากซับซ้อน มันอาจทำให้แมวรู้สึกกลัวที่จะใช้
    • เช่นเดียวกับกล่องสำหรับขับถ่ายของเสียที่มีฝาปิดอยู่ด้านบนอาจสามารถทำให้อุจจาระหรือปัสสาวะถูกบรรจุอยู่ในกล่องอย่างมิดชิด แต่มันอาจเป็นการยากสำหรับแมวในการใช้งานกล่องสำหรับขับถ่ายของเสียดังกล่าว หากคุณประสบความยากลำบากในการให้แมวใช้กล่องสำหรับขับถ่ายของเสีย ให้คุณลองใช้กล่องสำหรับขับถ่ายของเสียแบบไม่มีฝาปิดที่เรียบง่ายมากกว่าแทน
    • หากคุณไม่ต้องการตักอุจจาระของแมว อย่าเลี้ยงแมว ในความเป็นจริงมีอุปกรณ์ และผลิตภัณฑ์ที่มีความซับซ้อนมากมายที่ช่วยให้ความเปรอะเปื้อนลดน้อยลง แต่สุดท้ายแล้ว การทำความสะอาดหลังจากแมวขับถ่ายก็ยังเป็นสิ่งที่คุณต้องทำเป็นประจำทุกวัน เพื่อทำให้แมวของคุณมีความสุข
  2. How.com.vn ไท: Step 2 วางลูกแมวในกล่องสำหรับขับถ่ายของเสีย.
    หากคุณต้องการให้แมวของคุณใช้กล่องสำหรับขับถ่ายของเสีย โดยทั่วไปสิ่งที่คุณต้องทำ คือจับลูกแมววางลงบนกล่องสำหรับขับถ่ายของเสีย แมวต้องการจัดการธุระส่วนตัวในกล่องสำหรับขับถ่ายของเสีย ดังนั้นมันไม่ควรเป็นเรื่องยากในการจับลูกแมววางลงในกล่องสำหรับขับถ่ายของเสียเพียงครั้งเดียวเพื่อแสดงให้พวกมันเห็นว่าพวกมันต้องทำธุระส่วนตัวที่ไหน
    • ผู้ฝึกแมวบางคนแนะนำให้นั่งกับแมวของคุณ และจับขามันให้ตะกุยทรายแมวสัก 2 – 3 ครั้ง เพื่อทำให้มันคุ้นเคยกับความรู้สึกและสภาพแวดล้อม หลักการคือกระตุ้นปฏิกิริยาตอบสนองตามสัญชาตญาณของแมวในการถากและกลบอุจจาระของพวกมัน หลังจากการใช้กล่องสำหรับขับถ่ายของเสีย
    • หากลูกแมวรู้สึกอึดอัดจากการที่คุณจับอุ้งเท้าของพวกมันเพื่อทำการขุดถากทรายแมว คุณควรล้มเลิกความคิดเสีย
  3. How.com.vn ไท: Step 3 วางกล่องสำหรับขับถ่ายของเสียในพื้นที่ที่เงียบสงบ มุมห้องถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด....
    วางกล่องสำหรับขับถ่ายของเสียในพื้นที่ที่เงียบสงบ มุมห้องถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด. นี่เป็นเพราะว่าลูกแมวจะรู้สึกไม่ปลอดภัยเมื่อต้องทำธุระส่วนตัว การที่มีกำแพงบังด้านใดด้านหนึ่ง จะทำให้แมวแค่ระวังนักล่าจากการเข้ามาทางด้านหน้าของมันเพียงเท่านั้น
    • นอกจากนี้ ให้หลีกเลี่ยงการวางกล่องสำหรับขับถ่ายของเสียใกล้กับเครื่องซักผ้าหรือุปกรณ์อื่นใดที่มีเสียงหรือการเคลื่อนไหวในทันทีทันใด หากเครื่องเข้าสู่รอบของการหมุน ในขณะที่ลูกแมวกำลังอยู่ในกล่องสำหรับขับถ่ายของเสีย ลูกแมวจะเกิดความกลัว มันจะทำให้ลูกแมวไม่กล้าที่จะใช้กล่องสำหรับขับถ่ายของเสียอีกในอนาคต
  4. How.com.vn ไท: Step 4 ทำความสะอาดกล่องสำหรับขับถ่ายของเสียอยู่เป็นประจำ....
    ทำความสะอาดกล่องสำหรับขับถ่ายของเสียอยู่เป็นประจำ. แมว โดยเฉพาะลูกแมวต้องการใช้กล่องสำหรับขับถ่ายของเสีย และมันไม่ควรเป็นเรื่องยากที่จะให้มันเข้าไปในกล่อง เหตุผลหลักๆ ที่แมวเริ่มปัสสาวะ หรือถ่ายอุจจาระนอกกล่องสำหรับขับถ่ายของเสีย คือพวกมันพบว่าสภาพแวดล้อมของกล่องสำหรับขับถ่ายของเสียไม่สามารถใช้การได้ นี่อาจเป็นเพราะมีความยุ่งยากในการเข้าไปในกล่องสำหรับขับถ่ายของเสีย หรือคุณเปลี่ยนทรายแมวบ่อยครั้งมากเกินไป หรือกล่องสำหรับขับถ่ายของเสียมีการเปรอะเปื้อนมากเกินไป
    • กล่องสำหรับขับถ่ายของเสียจำเป็นต้องถูกทำความสะอาดทุกวัน ให้คุณใช้ที่ตักตักก้อนอุจจาระ และปัสสาวะออก และเปลี่ยนทรายแมวอยู่เป็นประจำเพื่อให้ทรายแมวมีความสดใหม่ จำไว้ว่า หากคุณรู้สึกว่ากล่องสำหรับขับถ่ายของเสียมีกลิ่นไม่ดี แมวก็จะรู้สึกอย่างเดียวกัน
  5. How.com.vn ไท: Step 5 ใช้ทรายแมวชนิดเดียวกันอยู่เป็นประจำทุกวัน.
    การเปลี่ยนชนิดของทรายแมวที่คุณใช้จะทำให้แมวสับสน สำหรับทรายแมวที่ดีที่สุด ให้คุณใช้ทรายแมวที่ไม่มีกลิ่น และมีส่วนผสมของสนธรรมชาติเพื่อทำให้มีสภาพแวดล้อมที่ดีที่สุด
    • หลีกเลี่ยงการใช้ทรายแมวที่มีกลิ่น ทรายแมวเหล่านี้อาจมีกลิ่นหอมสำหรับพวกเรา แต่มีความรุนแรงเกินไปสำหรับลูกแมว ซึ่งมีจมูกที่ไวต่อกลิ่นมากกว่ามาก นี่อาจเป็นการขัดขวางพวกมันจากการใช้กล่องสำหรับขับถ่ายของเสีย
    • ใส่ทรายแมวสะอาดลงไปในกล่องสำหรับขับถ่ายของเสียให้เพียงพอ เพื่อที่แมวจะมีพื้นที่เพียงพอในการตะกุยไปรอบๆ แมวไม่ต้องการตะกุยปัสสาวะของตัวเองซ้ำๆ เหมือนอย่างที่คุณต้องการ
  6. How.com.vn ไท: Step 6 หลีกเลี่ยงการใส่บางสิ่งบางอย่างนอกเหนือจากทรายแมวในกล่องสำหรับขับถ่ายของเสีย....
    หลีกเลี่ยงการใส่บางสิ่งบางอย่างนอกเหนือจากทรายแมวในกล่องสำหรับขับถ่ายของเสีย. อย่าพยายามล่อใจแมวให้ใช้กล่องสำหรับขับถ่ายของเสียโดยการใส่ของเล่น รางวัล หรืออาหารลงไปในกล่องสำหรับขับถ่ายของเสีย แมวไม่ต้องการกินในที่ที่พวกมันขับถ่าย และการใส่อาหารลงไปในกล่องสำหรับขับถ่ายของเสียจะทำให้แมวมีความสับสนกับที่ที่มันจะใช้ทำธุระส่วนตัวมากขึ้น
    โฆษณา
วิธีการ 4
วิธีการ 4 ของ 6:

การฝึกลูกแมวของคุณด้วยคลิกเกอร์

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 เริ่มต้นใช้คลิกเกอร์ (อุปกรณ์สำหรับฝึกสุนัข หรือแมว)...
    เริ่มต้นใช้คลิกเกอร์ (อุปกรณ์สำหรับฝึกสุนัข หรือแมว) เมื่อแมวของคุณยังเป็นลูกแมวอยู่. [7] ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการทำให้ลูกแมวรู้จักกับวิธีฝึกด้วยคลิกเกอร์ โดยคลิกเกอร์จะมีเสียงดังคลิก แคลก ที่คุณสามารถใช้ในการระบุพฤติกรรมใดๆ ที่คุณปรารถนาให้แมวของคุณทำซ้ำๆ นี่เป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการสอนให้แมวทำลูกเล่นต่างๆ หรือสิ่งใดๆ ที่เป็นประโยชน์ เช่น การเดินมาหาเมื่อคุณเรียก
  2. How.com.vn ไท: Step 2 เชื่อมโยงคลิกเกอร์เข้ากับการให้รางวัล.
    เริ่มต้นโดยการกดคลิกเกอร์ และให้รางวัลแก่ลูกแมวของคุณ เมื่อคุณทำเสียงคลิก แคลก และให้รางวัลแก่ลูกแมว พวกมันจะทำการเชื่อมโยงระหว่างเสียง คลิก แคลก และรางวัล ทันทีที่ลูกแมวเริ่มที่จะเข้ามาหาคุณโดยคาดหวังที่จะได้รางวัล ให้คุณกดคลิกเกอร์ และให้รางวัลแก่พวกมัน ทำขั้นตอนนี้ซ้ำๆ จนกระทั่งคุณรู้สึกว่าพวกมันได้เรียนรู้ที่จะเชื่อมโยงเสียงคลิกเกอร์เข้ากับรางวัลที่พวกมันจะได้รับ
    • รางวัลที่เป็นอาหารเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด แต่แมวบางตัวไม่ได้รู้สึกดึงดูดใจโดยอาหารมากนัก อย่างไรก็ตาม แมวทุกตัวมีอาหารอย่างน้อยหนึ่งอย่างที่พวกมันคลั่งไคล้เสมอ ฉะนั้นสิ่งที่คุณต้องทำ คือหาให้ได้ว่าอาหารที่ว่านั้นคืออะไร
    • ทดลองให้อาหารที่แตกต่าง ได้แก่ แฮม ทูน่า ไก่ ปลา สเต็ก และกุ้งนาง คุณจะรู้ได้ทันทีว่าอาหารชนิดไหนเป็นอาหารที่พวกมันโปรดปราน เพราะว่าอาหารดังกล่าวจะอันตรธานหายไปในเวลาไม่กี่วินาที และลูกแมวจะร้องขอเพิ่ม
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ฝึกในเวลาที่ลูกแมวไม่อิ่มท้อง หากลูกแมวอิ่ม พวกมันจะไม่สนใจในรางวัลที่เป็นอาหาร....
    ฝึกในเวลาที่ลูกแมวไม่อิ่มท้อง หากลูกแมวอิ่ม พวกมันจะไม่สนใจในรางวัลที่เป็นอาหาร. ให้คุณเริ่มต้นด้วยการให้รางวัลที่เป็นอาหารแก่ลูกแมว และเมื่อพวกมันกินสิ่งที่คุณให้ ในจังหวะที่มันกำลังจะกินให้คุณกดคลิกเกอร์ ทำซ้ำๆ 3 – 4 ครั้ง จากนั้นค่อยปล่อยลูกแมวตามปกติ จนกระทั่งถึงช่วงการฝึกในครั้งต่อไป
  4. How.com.vn ไท: Step 4 ระบุพฤติกรรมที่คุณต้องการด้วยเสียงคลิก แคลกของคลิกเกอร์....
    ระบุพฤติกรรมที่คุณต้องการด้วยเสียงคลิก แคลกของคลิกเกอร์. ทันทีที่ลูกแมวเชื่อมโยงเสียงคลิกเกอร์กับรางวัลได้แล้ว คุณสามารถปรับเปลี่ยนการคลิกของคุณให้มีลักษณะเหมือนกับการวางเงินดาวน์ในของรางวัลที่มันจะได้รับ โดยมันจะได้รับรางวัลเมื่อลูกแมวทำสิ่งที่ดีและถูกต้อง
  5. How.com.vn ไท: Step 5 เชื่อมต่อพฤติกรรมที่ดีโดยการกดคลิกเกอร์ และมอบรางวัลให้ลูกแมวทันทีที่พฤติกรรมถูกทำจนสำเร็จ....
    เชื่อมต่อพฤติกรรมที่ดีโดยการกดคลิกเกอร์ และมอบรางวัลให้ลูกแมวทันทีที่พฤติกรรมถูกทำจนสำเร็จ. คุณสามารถรวมพฤติกรรมด้วยคำพูด เช่น “นั่ง” เพื่อทำให้การฝึกมีความสมบูรณ์
    โฆษณา
วิธีการ 5
วิธีการ 5 ของ 6:

การฝึกลูกแมวของคุณให้มาหาด้วยการสั่ง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ตั้งมั่นที่จะฝึกลูกแมวของคุณให้เข้ามาหาเมื่อคุณเรียกให้มาหา ถึงแม้ว่ามันอาจต้องใช้เวลา และความพยายาม....
    ตั้งมั่นที่จะฝึกลูกแมวของคุณให้เข้ามาหาเมื่อคุณเรียกให้มาหา ถึงแม้ว่ามันอาจต้องใช้เวลา และความพยายาม. มันสามารถเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมในการสอนลูกแมวให้เข้ามาหาคุณเมื่อถูกเรียก วิธีนี้จะเป็นประโยชน์เป็นอย่างมาก และสามารถช่วยให้คุณตามหาลูกแมวเมื่อพวกมันหลงทางได้
    • บ่อยครั้ง ลูกแมวที่หลงทางจะรู้สึกกลัวมาก และโดยสัญชาตญาณลูกแมวจะอยู่กับพื้น และหาที่หลบซ่อนเพื่อป้องกันตัว อย่างไรก็ตาม หากพวกมันถูกฝึกให้เข้ามาหาได้โดยการออกคำสั่ง การฝึกนี้อาจเอาชนะสัญชาตญาณการอยู่นิ่งในสถานการณ์ที่ตื่นกลัวได้
  2. How.com.vn ไท: Step 2 ใช้ช่วงการฝึกที่สั้น แต่ทำบ่อยครั้ง.
    เมื่อฝึกลูกแมว คุณจำเป็นต้องตั้งมั่นในแนวคิดที่ว่า ฝึกน้อยๆ แต่บ่อยครั้ง แมวมีสมาธิสั้นกว่าสุนัข และแมวโดยส่วนมากจะเริ่มไม่มีสมาธิหลังจากผ่านช่วง 5 นาทีโดยประมาณไปแล้ว ดังนั้นช่วงการฝึกที่เหมาะสมควรมีระยะเวลาประมาณ 5 นาทีในแต่ละช่วง และควรแบ่งช่วงการฝึกออกเป็น 3 ครั้งต่อวัน หรืออีกทางเลือกหนึ่ง ให้ทำการฝึกเฉพาะกิจสั้นๆ แต่ทำบ่อยครั้ง เมื่อลูกแมวอยู่รอบๆ คุณ และอยู่ในอารมณ์ที่อยากเล่นด้วย
  3. How.com.vn ไท: Step 3 เลือกคำที่ใช้เรียกให้ลูกแมวเข้ามาหา.
    เมื่อลูกแมวเดินเข้ามาหาคุณ คุณจะพูดคำที่คุณตัดสินใจว่าจะใช้เรียกลูกแมวให้มาหาคุณ ให้คุณเลือกคำที่แมวจะไม่ได้ยินในรูปประโยคอื่นๆ ดังนั้นมันอาจเป็นคำที่ไม่ใช่คำพูดโดยทั่วไป หรือแม้แต่คิดคำขึ้นมาใหม่เป็นการเฉพาะ
    • มันเป็นการดีที่สุดที่จะไม่ใช้ชื่อของลูกแมว เนื่องจากวิธีนี้จะถูกใช้ในสถานการณ์อื่นๆ เพื่อไม่ทำให้แมวสับสน เพราะว่าหากพวกมันไม่ได้ถูกคาดหวังที่จะให้เข้ามาหาเมื่อคุณเอ่ยชื่อลูกแมว มันจะทำให้คำดังกล่าวไม่มีน้ำหนักที่จะใช้เรียกให้มันเข้ามาหาในอนาคต
  4. How.com.vn ไท: Step 4 ใช้การฝึกด้วยคลิกเกอร์เพื่อฝึกให้ลูกแมวเข้ามาหาโดยการออกคำสั่ง....
    ใช้การฝึกด้วยคลิกเกอร์เพื่อฝึกให้ลูกแมวเข้ามาหาโดยการออกคำสั่ง. ให้คุณเอ่ยคำที่คุณใช้เรียกให้แมวเข้ามาหา และในขณะที่แมวหัน และเดินเข้ามาหาคุณ ให้คุณกดคลิกเกอร์ เพื่อระบุช่วงขณะของการทำตามที่คุณปรารถนา จากนั้นให้คุณให้รางวัลลูกแมวโดยทันที หากคุณทำซ้ำๆ อยู่เป็นประจำในหลายๆ ช่วงการฝึก แมวจะเรียนรู้ที่จะเข้ามาหาคุณจากคำพูด
    • คุณสามารถใช้กฎนี้ในการฝึกแมวในการทำสิ่งที่คุณปรารถนา เช่น กระโดดลงจากพื้นผิวของงานที่คุณกำลังทำ หรือยกอุ้งเท้าให้คุณจับ เป็นต้น
    โฆษณา
วิธีการ 6
วิธีการ 6 ของ 6:

การฝึกลูกแมวของคุณให้ลับเล็บในที่ที่เหมาะสม

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 จัดหาพื้นที่สำหรับลูกแมวในการลับเล็บ.
    หากคุณกังวลว่าลูกแมวของคุณจะข่วนเสื้อผ้า หรือเฟอร์นิเจอร์ของคุณ คุณจำเป็นต้องจัดหาพื้นที่อื่นเพื่อให้แมวลับเล็บของมัน โดยทั่วไป เสาลับเล็บที่มีช่อหญ้าแมว หรือกระดาษแข็งแผ่นเรียบที่วางทับบนหญ้าแมวจะเป็นพื้นที่ในการลับเล็บที่ดีที่สุดสำหรับแมว
    • แมวจำเป็นต้องใช้กรงเล็บ จึงทำให้พวกมันต้องตัดแต่ง และทำให้เล็บของพวกมันมีสุขภาพดี นั่นหมายความว่าพวกมันจำเป็นต้องข่วนบางสิ่งบางอย่างเพื่อลับกรงเล็บ การทำโทษแมวจากการข่วนบางสิ่งบางอย่างสามารถทำได้เล็กน้อยหากพวกมันไม่ได้ลับเล็บอย่างระมัดระวัง จำไว้ว่าแมวต้องข่วนบางสิ่งบางอย่าง เพราะความจำเป็นตามสัญชาตญาณ
  2. How.com.vn ไท: Step 2 ให้รางวัลแมว เมื่อพวกมันใช้เสาลับเล็บ.
    หากคุณเห็นแมวลับกรงเล็บบนเสาลับเล็บ ให้คุณให้รางวัลแมว เพื่อที่พวกมันจะรู้สึกอยากกลับมาทำอีก
  3. How.com.vn ไท: Step 3 วางขวดฉีดละอองน้ำไว้ใกล้มือ.
    วิธีที่ดีในการทำให้แมวไม่ข่วนสิ่งที่คุณไม่ต้องการให้มีรอยข่วน คือวางขวดฉีดละอองน้ำไว้ใกล้มือ และฉีดละอองน้ำใส่แมวเมื่อมันกำลังข่วนสิ่งของ วิธีนี้จะส่งผลให้แมวออกจากพื้นที่โดยทันที หลังจากคุณฉีดละอองน้ำใส่แมว ให้คุณแอบซ่อนขวดฉีดละอองน้ำไว้ เพราะหากแมวรู้ว่าเป็นฝีมือคุณ แมวอาจรู้สึกกลัวคุณ
  4. How.com.vn ไท: Step 4 ใช้น้ำมันมินต์ในพื้นที่ที่คุณไม่ต้องการให้แมวข่วน....
    ใช้น้ำมันมินต์ในพื้นที่ที่คุณไม่ต้องการให้แมวข่วน. ให้คุณทาน้ำมันสกัดจากใบมินต์ในปริมาณเล็กน้อยลงบนพื้นที่ที่คุณไม่ต้องการให้แมวเข้าไปยุ่ง วิธีนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุดให้การทำให้ลูกแมวอยู่ห่างจากพื้นผิวที่คุณไม่ต้องการให้มันเข้าไปยุ่ง
    • กลิ่นเป็นสารไล่แมวโดยธรรมชาติ ทั้งนี้ พวกมันแค่ไม่ชอบกลิ่นดังกล่าว แต่มันไม่เป็นอันตรายต่อแมว
    • แน่ใจว่าคุณทาน้ำมันสกัดลงบนพื้นผิวอย่างระมัดระวัง โดยไม่ทำให้พื้นผิวเกิดความเสียหาย ให้ทดสอบโดยการทาน้ำมันสกัดลงบนพื้นผิวในพื้นที่ที่แอบซ่อนเพื่อดูปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นบนพื้นผิว ก่อนทาน้ำมันสกัดลงบนพื้นผิวที่มองเห็นได้
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ทำให้ลูกแมวของคุณเพลิดเพลินโดยการแกว่งเส้นด้าย หรือเชือกหน้าพวกมัน พวกมันจะชอบคุณจากสิ่งที่คุณทำ
  • พยายามดูลูกแมวของคุณอย่างระมัดระวัง ประเมินว่านิสัยที่ดี และไม่ดีของพวกมันคืออะไร และคิดหาวิธีที่จะปรับเปลี่ยนนิสัยที่ไม่ดี และสนับสนุนนิสัยที่ดี
  • หากคุณอ่อนโยนกับลูกแมวของคุณ พวกมันก็จะอ่อนโยน และดีต่อคุณมากขึ้น
  • เล่นกับลูกแมวของคุณอยู่เป็นประจำ และเรียกชื่อของลูกแมว เพื่อที่มันจะได้รู้ว่าเป็นชื่อของมัน
  • อย่าล็อค หรือเก็บลูกแมวไว้ในกรงเล็กๆ มันจะทำให้ลูกแมวมีแนวโน้มขี้หงุดหงิด และกัดได้ง่าย
โฆษณา

คำเตือน

  • กรุณามีความอดทน! ลูกแมวอาจเรียนรู้ได้ช้า แต่การฝึกพวกมันเป็นสิ่งที่คุ้มค่าแก่เวลาของคุณ
โฆษณา

สิ่งของที่ใช้

  • ที่นอน
  • กระบะ หรือกล่องสำหรับขับถ่ายของเสีย
  • ทรายแมว
  • เสาลับเล็บ
  • ชาม
  • อาหารแมว

ข้อมูลอ้างอิง

  1. Feline behavior: A guide for veterinarians. Bonnie Beaver. Publisher: Saunders
  2. Feline behavior: A guide for veterinarians. Bonnie Beaver. Publisher: Saunders
  3. Feline behavior: A guide for veterinarians. Bonnie Beaver. Publisher: Saunders
  4. Cat Behaviour Explained. Philip Neville. Publisher: Parragon press.
  5. Cat Behaviour Explained. Philip Neville. Publisher: Parragon press.
  6. http://pets.webmd.com/cats/guide/feeding-your-kitten-food-and-treats
  7. Clicker training for Cats. Karen Pryor. Publisher: Ringpress books

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

How.com.vn ไท: Brian Bourquin, DVM
ร่วมเขียน โดย:
สัตวแพทย์และเจ้าของ Boston Veterinary Clinic
บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Brian Bourquin, DVM. ไบรอัน บูร์ควิน หรือที่ลูกค้ารู้จักในชื่อ “Dr. B” เป็นสัตวแพทย์และเจ้าของ Boston Veterinary Clinic คลินิกรักษาและดูแลสัตว์เลี้ยงในเซาธ์เอนด์/เบย์วิลเลจ กับบรู๊คไลน์ในบอสตัน คลินิกแห่งนี้ขึ้นชื่อด้านการปฐมพยาบาลสัตว์เลี้ยงรวมถึงการดูแลป้องกัน การผ่าตัดเนื้อเยื่ออ่อนและสุขภาพฟัน นอกจากนี้ยังมีบริการฝึกนิสัย โภชนาการและการฝังเข็มหรือเลเซอร์ด้วย คลินิกแห่งนี้เป็นโรงพยาบาลสัตว์ที่ได้รับมาตรฐาน AAHA (American Animal Hospital Association) และเป็นที่แรกและที่เดียวในบอสตันที่เป็นคลินิกแบบไร้ความกลัว ไบรอันมีประสบการณ์ 19 ปีและจบปริญญาเอกด้านสัตวแพทยศาสตร์จากมหาวิทยาลัยคอร์แนล บทความนี้ถูกเข้าชม 19,690 ครั้ง
หมวดหมู่: แมว
มีการเข้าถึงหน้านี้ 19,690 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

⚠️ Disclaimer:

Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.

Notices:
  • - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
  • - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
  • - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
  • - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.

โฆษณา