วิธีการ ผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบาก

ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความ

การเปลี่ยนแปลงในชีวิตสามารถทำให้คุณเคว้งคว้างและรู้สึกไม่มั่นใจว่าจะทำอะไรต่อไปดี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องภาวะทางการเงิน การรับมือกับข่าวความตาย หรือพยายามรักษาแผลใจจากการเลิกรา มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะบอกได้ว่าก้าวต่อไปของคุณควรเป็นอย่างไร แต่กระนั้น ยังมีหลายสิ่งที่คุณสามารถทำได้เพื่อลดความเครียดแม้เมื่อในเวลาที่ชีวิตเดินเข้ามาถึงจุดเปลี่ยน

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 2:

ปรับสภาพจิตใจ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 รู้จักอารมณ์ความรู้สึกของตนเอง.
    คุณอาจอยากที่จะเพิกเฉยความรู้สึกเจ็บปวดที่เหตุการณ์นั้นนำมาให้ หรืออยากจะแสร้งทำเป็นว่าคุณไม่รู้สึกอะไร พึงตระหนักว่าการผลักความรู้สึกนั้นออกไปเท่ากับคุณได้สร้างอารมณ์ในด้านลบขึ้นมาเพิ่ม ทางที่ดีควรยอมรับในอารมณ์นั้นและหาทางรับมือมัน อย่าพยายามหาเหตุผลในสิ่งที่คุณรู้สึก วิธีเดียวที่จะก้าวข้ามอารมณ์ของคุณเองก็คือรู้สึกถึงอารมณ์นั้น
    • ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณเพิ่งตกงาน ก็ไม่เป็นไรหรอกที่จะยอมรับว่าคุณรู้สึกโกรธ เสียใจ หวั่นกลัว และคิดแค้น
    • หาเวลาสัก 15 นาทีในแต่ละวันมารู้สึกตามอารมณ์ความรู้สึกของคุณ อย่าให้จิตใจเข้ามารบกวน แค่นั่งแล้วรู้สึกตามแต่ที่ตนเองรู้สึก[1]
    • คุณสามารถจดบันทึกความคิดกับความรู้สึกของตนเองได้
    • อย่ากลัวที่จะร้องไห้ การร้องไห้ปลดปล่อยสารเคมีด้านลบออกไปจากตัว และยังช่วยลดความเครียด ทำให้อารมณ์ดีขึ้น และช่วยให้รับมือกับสถานการณ์ที่เจ็บปวดได้[2]
  2. How.com.vn ไท: Step 2 ปรับเปลี่ยนความคิด.
    พยายามมองสถานการณ์ว่าเป็นโอกาสที่จะเติบโตและพัฒนาตนเอง[3] เช่น ลองเตือนตนเองว่าคุณนั้นแข็งแกร่งและฟื้นกลับมาได้ดีแค่ไหนในระหว่างช่วงเวลาอันยากลำบาก เวลามองอะไรจากแง่มุมแบบนี้ มันจะช่วยเสริมสร้างแรงใจได้มาก
    • หากคุณสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่อยากจะเข้าไม่ติด โลกไม่ได้สิ้นสุดเลยเสียหน่อยและคุณยังไม่ได้สูญเสียโอกาสการได้งานเสียด้วยซ้ำ จำไว้ว่าคุณมีทางเลือก และสิ่งดีๆ ยังมีสิทธิจะเกิดขึ้นจากสถานการณ์แบบนี้
    • พยายามมองความกังวลของตนในภาพรวมด้วยเหตุผล ลองถามตัวเอง “ไอ้ที่เราห่วงอยู่นี่เอาเข้าจริงมันแย่มากเลยเหรอเมื่อเทียบกับชีวิตทั้งชีวิต” ถ้าคุณห่วงกับเรื่องในอนาคต ถามตัวเองว่า “มันมีสิทธิจะเกิดขึ้นจริงสักแค่ไหนเชียว”
    • ถ้าคุณพบว่าตัวเองนั้นเป็นกังวลไม่รู้จักหยุดจักหย่อน ลองเลือกมี “ช่วงให้กังวล” ในตอนเช้าของแต่ละวัน หาเวลาพักสัก 15 นาทีล่วงหน้าที่คุณสามารถกังวลกับปัญหาต่างๆ ได้อย่างเต็มที่ไปเลย หากความคิดถึงปัญหาเหล่านี้พยายามจะแทรกซึมรบกวนในช่วงเวลาที่ไม่ใช่ “ช่วงให้กังวล” ที่กำหนดเอาไว้ ก็เตือนตัวเองว่ามันยังไม่ถึงเวลา “ให้กังวล” สักหน่อย
  3. How.com.vn ไท: Step 3 เผชิญหน้ากับช่องว่างของความเป็นจริง.
    โดยมากชีวิตมักจะมีหนึ่งทางเลือกมาให้ในเวลาที่คุณต้องการทางเลือกเป็นแบบอื่นโดยสิ้นเชิง ยิ่งสิ่งที่คุณมีกับสิ่งที่คุณต้องการจะมีห่างกันไกลแค่ไหน คุณก็จะยิ่งรู้สึกเจ็บปวดมากขึ้นเท่านั้น[4] ตระหนักให้ได้ว่าความเป็นจริงอย่างที่คุณปรารถนานั้นมันไม่ได้เป็นจริง และตอนนี้คุณจะต้องอยู่กับความเป็นจริงที่แตกต่างออกไป
    • แทนที่จะมานั่งเสียใจกับสถานการณ์ที่เป็นอยู่ จงเรียนรู้ว่าคุณจะต้องปรับตัวเองให้เข้ากับสถานการณ์ เช่น หากคุณขาดแหล่งสนับสนุนทางการเงิน อย่าใช้จ่ายเงินเหมือนที่เคยเป็น ให้ตระหนักว่านิสัยการใช้เงินมือเติบของคุณจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลง
  4. How.com.vn ไท: Step 4 ฝึกฝนการยอมรับ.
    คุณไม่สามารถควบคุมบงการหลายสิ่งในชีวิต ตั้งแต่สภาพการจราจรไปจนถึงเจ้านายจู้จี้ในที่ทำงาน แทนที่จะรู้สึกเจ็บใจและหงุดหงิดกับสถานการณ์เหล่านี้ ให้หายใจลึกๆ และฝึกการยอมรับในสิ่งที่อยู่เหนือการควบคุม ถึงแม้คุณจะควบคุมสถานการณ์ไม่ได้ แต่คุณสามารถควบคุมปฏิกิริยาตอบสนองของตนเองได้
    • คุณสามารถฝึกการยอมรับผ่านทางการทำสมาธิ เขียนรายชื่อของสิ่งต่างๆ ที่อยู่เหนือการควบคุมของคุณ จากนั้นหลับตาลงและค่อยๆ ผ่อนลมหายใจช้าๆ จนกระทั่งตัวคุณเข้าสู่สมาธิ ลองนึกภาพตัวคุณกำลังยื่นรายชื่อสิ่งเหล่านั้นทูลให้แก่อำนาจที่เหนือกว่าและปล่อยสิ่งเหล่านั้นออกไป[5]
  5. How.com.vn ไท: Step 5 มีความรู้สึกขอบคุณ.
    แม้แต่ในช่วงที่สถานการณ์กำลังเลวร้ายจนถึงที่สุด การมีทัศนคติสำนึกรู้คุณสามารถให้มุมมองที่จำเป็นซึ่งจะช่วยขยายการมองให้มากกว่าแค่ความรู้สึกเจ็บปวดในขณะนั้น[6] ถึงคุณจะรู้สึกว่าตนเองสูญเสียสิ่งต่างๆ ไปมากมาย ให้ใช้เวลาสักครู่ทบทวนสิ่งที่คุณยังมีเหลือ โดยเฉพาะสิ่งที่เป็นนามธรรมอย่างเช่น มิตรภาพ ความสามารถทางกายภาพ หรืออากาศที่กำลังดี
    • หาเวลาในแต่ละวันใช้ทบทวนสิ่งที่คุณรู้สึกสำนึกขอบคุณ คุณอาจขอบคุณสุนัขที่เลี้ยง ลูกๆ ยามพระอาทิตย์ลับฟ้าที่สวยงาม การได้เดินเล่นอย่างสบายอารมณ์ หรือการได้คุยโทรศัพท์กับพี่สาว ใช้เวลาสักเล็กน้อยแสดงความรู้สึกขอบคุณสิ่งเหล่านี้
    • นึกถึงช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดในชีวิต แล้วก็นึกถึงว่าคุณได้มาอยู่ที่นี่เวลานี้ โดยผ่านสถานการณ์เหล่านั้นและช่วงเวลาที่มืดหม่นมาได้อย่างสำเร็จ คุณสามารถรับมือมันได้มาก่อน และคุณจะรับมือกับครั้งนี้ได้เช่นเดียวกัน
  6. How.com.vn ไท: Step 6 มีความยืดหยุ่น.
    ความยืดหยุ่นคือการรู้จักปรับตัวเพื่อที่จะเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเป็นเพียงชั่วคราว ยืนยาวชั่วชีวิต หรือในสถานการณ์วิกฤติ มองภาพรวมภาพใหญ่เอาไว้ และไม่เห็นอุปสรรคเป็นสิ่งที่จะเกิดไม่มีวันสิ้นสุด พวกมันจะหมดไปและคุณจะผ่านมันมาได้ในที่สุด[7]
    • การยืดหยุ่นฟื้นตัวกลับมาได้ไม่ได้เกิดขึ้นในยามที่ชีวิตไม่รู้สึกเครียด มันเกิดขึ้นในยามที่คุณเผชิญกับความเครียด และมีเวลากับอุปกรณ์ที่จะช่วยให้ฟื้นตัวกลับมา[8]
    • เช่น คุณอาจขาหักและไม่สามารถเดินเหินสักระยะหนึ่ง การยืดหยุ่นฟื้นตัวหมายถึงการหาทางที่จะปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ใหม่ นั่นคือ ฝึกกายภาพบำบัดจนชำนาญเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่ง หรือใช้วีลแชร์หรือไม้ค้ำยันจนคล่องแคล่ว การรับรู้ตัวคุณในฐานะบุคคลคนหนึ่งจะยังคงอยู่ แม้ว่าความสามารถของคุณจะเปลี่ยนไปก็ตาม
    • ย้อนนึกความยากลำบากในอดีตและสิ่งที่คุณได้รับจากพวกมัน บางคนรายงานว่ารู้สึกมีความมั่นใจในความสามารถของตนเองเพิ่มขึ้น หรือมีความพึงพอใจในชีวิตมากขึ้น[9] จงรู้ว่ามีบทเรียนบางอย่างให้คุณได้เรียนรู้เสมอในประสบการณ์ความยากลำบากแต่ละครั้ง
  7. How.com.vn ไท: Step 7 ฝึกทางจิตวิญญาณ.
    มีคนหลายคนที่พบว่าเรื่องจิตและวิญญาณสามารถช่วยรับมือกับเหตุการณ์ยากลำบากได้[10] วิธีรับมือในเชิงจิตและวิญญาณที่ได้ผลในเชิงบวกก็อาทิเช่น การขอความช่วยเหลือจากพลังอำนาจที่เหนือกว่า การขออภัยทางจิตวิญญาณ การตีกรอบสถานการณ์เสียใหม่โดยใช้หลักการตีกรอบด้วยความเมตตา และการทำสมาธิคำนึงแต่สิ่งที่ดี[11]
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 2:

ลงมือทำเรื่องในเชิงบวก

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 แก้ไขปัญหา.
    ในขณะที่ปัญหาหลายๆ เรื่องต้องการเวลาและการฟื้นฟู บางปัญหาก็สามารถแก้ไขได้เลยโดยใช้เพียงความพยายามเพียงเล็กน้อยกับการพิจารณาอย่างลึกซึ้ง ลองคิดถึงปัญหาที่คุณกำลังเผชิญที่อาจมีทางแก้ไข อาจเป็นได้ทั้งเรื่องงาน การเงิน ครอบครัว มิตรภาพ ความสัมพันธ์กับคนรัก และความเครียดในการเล่าเรียน เขียนวิธีแก้ไขปัญหาเท่าที่คุณจะนึกออกในปัญหาแต่ละเรื่อง ไม่สำคัญว่าวิธีแก้นั้นจะยืนบนหลักของความเป็นจริงหรือไม่ แค่เขียนออกมาก็พอ[12] มันจะเป็นเรื่องอัศจรรย์ใจว่าวิธีไหนจะแก้ปัญหาได้จริงๆ เพื่อที่คุณจะได้ไม่มองข้ามวิธีไหนๆ ในการระดมสมองเบื้องต้น
    • เช่น หากคุณกับคนรักชอบคุยเรื่องเงินเรื่องทองก่อนเข้านอน และลงเอยด้วยการเข้านอนด้วยอารมณ์โมโห ให้เริ่มย้ายการพูดคุยนี้มาเป็นตอนเช้าและจะได้มีเวลามากพอในการถกเถียงจนคลี่คลายประเด็นต่างๆ
    • พอคุณทราบว่าวิธีแก้ไขคือวิธีใด ให้แน่ใจว่าได้สร้างแผนการลงมือทำที่จะทำมันได้ คุณอาจต้องกำหนดเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจงและขั้นตอนการลงมือทำที่จะพาคุณไปสู่จุดหมาย
    • อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องการทำให้สำเร็จตามเป้าหมายได้ที่บทความ การตั้งเป้าหมายและบรรลุถึงเป้าหมายนั้น ในวิกิฮาว
  2. How.com.vn ไท: Step 2 ถามหาแรงสนับสนุน.
    อย่ากลัวที่จะร้องขอความช่วยเหลือหรือคำแนะนำ ถ้าคุณกำลังฟูมฟายหรือไม่รู้ว่าจะจัดการเรื่องๆ หนึ่งอย่างไรดี ยังมีคนอีกมากมายที่เต็มใจจะเข้ามาช่วย ไม่ว่าคุณจะพูดคุยปัญหากับครอบครัว เพื่อนฝูง หรือนักบำบัด ถือเป็นการได้ระบายปัญหาที่เกิดขึ้นออกมากับใครสักคน[13] อย่าพยายามจะทำทุกอย่างตัวคนเดียว การพยายามจะใช้ชีวิตตัวคนเดียวโดยปราศจากแรงสนับสนุนมีแต่จะยิ่งต้องดิ้นรนและทำให้รู้สึกแย่กับชีวิตมากกว่าเดิม
    • อย่าปล่อยให้ศักดิ์ศรีเข้ามาขวางหนทางการขอความช่วยเหลือ ไม่มีใครที่รู้ดีไปหมดเสียทุกเรื่องและคุณยังสามารถหาทางตอบแทนเขาได้ในภายหลัง
    • การบอกปัญหาของคุณออกมายังช่วยให้คนอื่นได้ให้มุมมองที่คุณอาจไม่ทันได้ฉุกคิด
    • เวลาพูดคุยกับคนอื่น ให้เขาทราบในสิ่งที่คุณต้องการ ถ้าคุณต้องการคำเสนอแนะกลับมา ถามเขาว่าคิดหรือรู้สึกอย่างไรกับเรื่องของคุณ หากต้องการแค่ให้เขารับฟัง ก็บอกออกไปให้ชัดเจน บางครั้งคนที่มีเจตนาดีอาจพยายามช่วยเสนอความคิดเห็นหรือหาทางแก้ปัญหาทั้งๆ ที่คุณอาจต้องการแค่ระบายความในใจ
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ให้ความสำคัญกับการเอาใจใส่ตนเองก่อน.
    ถึงจะประสบความยากลำบาก แต่ชีวิตก็ยังจำต้องดำเนินต่อไป ทั้งการดูแลลูกหรือการทุ่มเทเวลา 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์เพื่องาน ในระหว่างรับมือกับช่วงเวลาที่ยากลำบาก ให้แน่ใจว่าคุณยังดูแลเอาใจใส่ร่างกายและอารมณ์ความรู้สึกของตนเอง[14] มันเป็นเรื่องง่ายที่จะยืดตัวเองทำตามความต้องการของคนอื่นๆ แต่ให้เวลาที่จะได้ทำตามความปรารถนาของคุณเองด้วย ให้แน่ใจว่าคุณได้ทานอาหารเพื่อสุขภาพ ได้นอนหลับอย่างเต็มอิ่ม ได้ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และได้สร้างความสุขให้แก่ชีวิต หาสิ่งที่คุณมีความสุขที่ได้ทำมันและทำมันซะ
    • ไปนวดผ่อนคลายร่างกาย
    • หาเวลาจดบันทึกและถ่ายทอดความคิดกับอารมณ์ความรู้สึกของคุณออกมา
    • หาเวลาสักวันละ 20 นาทีทำสมาธิหรืองีบหลับเรียกพลัง
    • ออกไปเดินเล่นหรือเดินทางไกลถ้าคุณไม่มีเวลาหรือพลังงานพอจะเข้ายิม
    • หัวเราะคลายเครียด.[15] ดูวิดีโอตลกๆ เพื่อเรียกเสียงหัวเราะ
    • การคงทัศนคติมองโลกในเชิงบวกก็ช่วยได้ มองหาสิ่งดีๆ ที่ซ่อนอยู่ในสถานการณ์ที่ย่ำแย่เสมอ[16]
  4. How.com.vn ไท: Step 4 หยุดพัก.
    ถ้าคุณรู้สึกสถานการณ์ถาโถมจนเกินรับไหว หยุดพักซะ การพักทำได้หลายรูปแบบ อาจเป็นการลาพักร้อน การพักผ่อนช่วงวันหยุด หรือแม้แต่การเดินเล่นไกลๆ การหยุดพักยังอาจเป็นการทำอะไรที่ดึงดูดความสนใจไปได้ เช่นการอ่านหนังสือ ดูหนัง หรือไปยิม[17]
    • หาดูว่าสิ่งที่ดึงดูดความสนใจแบบใดถึงจะช่วยให้คุณรับมือ (ไม่ใช่หลีกหนี) กับปัญหา หากิจกรรมที่คุณชอบแล้วลงมือทำเลย! ไม่ว่าจะเป็นการเดินไกล ขี่ม้า หรือเขียนบันทึก
  5. How.com.vn ไท: Step 5 เข้ารับการบำบัด.
    บางครั้งการไปพบผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตในเวลาต้องรับมือกับความยากลำบากอาจมีประโยชน์ที่สุดก็ได้ นักบำบัดเป็นผู้ที่จะคอยให้การสนับสนุนและสอบถามเพื่อช่วยคุณมองเห็นมุมมองที่ต่างกันออกไป นักบำบัดสามารถช่วยคุณค้นพบรากฐานของปัญหา รับมือกับความขัดแย้งทางอารมณ์ และช่วยให้ชีวิตเกิดความเปลี่ยนแปลงในแง่บวกได้[18]
    • การบำบัดจะช่วยให้คุณค้นพบตัวเองกับสถานการณ์ที่เกิดในแบบที่จะกระตุ้นให้คุณเติบโตขึ้น
    • นักบำบัดสามารถช่วยได้ในหลายสถานการณ์ หากคุณพบความเครียดเรื่องงาน ปัญหาความสัมพันธ์ หรือการรับมือความยากลำบาก นักบำบัดสามารถช่วยได้
  6. How.com.vn ไท: Step 6 ช่วยเหลือผู้อื่น.
    เวลาเจอเรื่องวิกฤติ ความสนใจส่วนใหญ่ของคุณจะหมกมุ่นอยู่กับตัวเองและสถานการณ์นั้นๆ ซึ่งจะเหือดแห้งไปในที่สุด หาเวลาสักช่วงเพื่ออาสาช่วยผู้อื่นเพื่อย้ายโฟกัสไปอยู่ที่คนอื่นแทน คุณสามารถเพิ่มพูนความสุขของตนได้โดยการยื่นมือช่วยผู้อื่น[19]
    • ยื่นมือเข้าช่วยเพื่อนที่มีธุระยุ่ง
    • อาสาทำงานในสถานพักฟื้นสัตว์และช่วยเหลือสัตว์กำพร้า
    • อาสาสมัครช่วยเหลือดูแลเด็กหรือผู้สูงอายุสัปดาห์ละครั้ง
    โฆษณา

เคล็ดลับ

โฆษณา

คำเตือน

  • หากคุณพบว่าตนกำลังเริ่มมีพฤติกรรมทำลายตัวเองหรือพฤติกรรมเสี่ยงหลังจากเจอเรื่องโศกเศร้า คุณควรจะไปพบจิตแพทย์ในทันที พฤติกรรมเช่นนั้นอาจได้แก่ การดื่มจนเกินพอดี การใช้ยา ใช้อาวุธ ใช้จ่ายเงินสุรุ่ยสุร่ายจนไม่เหลือเก็บ ทำงานหนักไม่ลืมหูลืมตา และพฤติกรรมกระตุ้นที่ไม่เกิดอะไรในเชิงสร้างสรรค์[21]
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

How.com.vn ไท: Kirsten Thompson, MD
ร่วมเขียน โดย:
จิตแพทย์ที่มีวุฒิบัตรของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง
บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Kirsten Thompson, MD. ดร. เคียสเตน ทอมป์สันเป็นจิตแพทย์ที่มีวุฒิบัตรของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง อาจารย์ด้านคลินิกที่มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ลอสแอนเจลิส และผู้ก่อตั้ง Remedy Psychiatry เธอเชี่ยวชาญการช่วยเหลือคนไข้ที่มีภาวะทางสุขภาพจิตอย่างเช่น โรคซึมเศร้า โรควิตกกังวล โรคสมาธิสั้น โรคไบโพลาร์ โรคย้ำคิดย้ำทำ โรคเครียดหลังผ่านเหตุการณ์ร้ายแรง และภาวะซึมเศร้าหลังคลอด ดร. ทอมป์สันได้รับปริญญาวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาการวิจัยดำเนินการและวิศวกรรมอุตสาหการ จากมหาวิทยาลัยคอร์เนลและได้รับปริญญาแพทยศาสตรบัณฑิตจากวิทยาลัยแพทย์ดาวน์สเตท มหาวิทยาลัยรัฐนิวยอร์ก บทความนี้ถูกเข้าชม 7,659 ครั้ง
มีการเข้าถึงหน้านี้ 7,659 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

⚠️ Disclaimer:

Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.

Notices:
  • - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
  • - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
  • - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
  • - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.

โฆษณา