วิธีการ ปรุงรสเนื้อไก่

เราสามารถปรุงรสเนื้อไก่ด้วยวิธีการต่างๆ มากมาย ตั้งแต่หมักไปจนถึงทาเครื่องปรุงและแช่น้ำเกลือ บทความนี้จะมาบอกวิธีปรุงรสเนื้อไก่ในแบบต่างๆ ตั้งแต่การปรุงรสง่ายๆ ไปจนถึงส่วนผสมที่ซับซ้อน การหมัก หรือแม้แต่การแช่น้ำเกลือ

วิธีการ 1

วิธีการ 1 ของ 3:

ปรุงรสสำหรับการย่าง

ดาวน์โหลดบทความ

1
ทาเครื่องปรุงบาร์บีคิวรสเผ็ด. ผสมน้ำตาลทรายแดง 2 ช้อนโต๊ะ ออลสไปซ์บด 1 ช้อนโต๊ะ ผงขิงบด 1 ช้อนโต๊ะ เกลือ 1 ช้อนชา ผงขมิ้นบด 1 ช้อนชา พริกป่น 1 ช้อนชา และพริกไทยดำป่น 1 ช้อนชาในชามเล็กๆ ทาส่วนผสมให้ทั่วเนื้อไก่ก่อนนำไปย่าง
- ส่วนผสมสามารถเก็บไว้ในภาชนะสุญญากาศได้ถึง 6 เดือน
ทาส่วนผสมสไตล์โมร็อกโกที่มีรสหวานอมเปรี้ยว. ผสมปาปริก้าหวานฮังกาเรียน 1 ช้อนชา ผงขมิ้นบด ½ ช้อนชา และ ½ ผงอบเชยป่น ½ ช้อนชาในชามเล็กๆ เติมเกลือ ผงขิงบด พริกป่น และพริกไทยดำบดใหม่ๆ อย่างละ ¼ ช้อนชา จากนั้นย่างเนื้อไก่ตามใจชอบ^{[1]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
3
หมักด้วยสมุนไพรผสมเลมอนแบบคลาสสิก. ผสมน้ำมันมะกอก ¼ ถ้วย (60 มิลลิลิตร) กระเทียมสับ 3 กลีบ โรสแมรีสดสับ 2 ช้อนโต๊ะ ใบไธม์สดสับ 2 ช้อนโต๊ะ เปลือกและน้ำเลมอน 1 ลูก และเกลือพริกไทยเล็กน้อยลงในชามเล็กๆ เทส่วนผสมสำหรับหมักไว้ในถุงพลาสติกซิปล็อกและใส่เนื้อไก่ลงไป แช่ไว้ในตู้เย็น 2-8 ชั่วโมง จากนั้นนำไปย่างความร้อนปานกลาง-สูง ^{[2]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ส่วนผสมเท่านี้เพียงพอกับการปรุงรสไก่ 1 กิโลกรัม
- ถ้าคุณไม่ชอบโรสแมรี คุณสามารถใช้โหระพาหรือออริกาโนแทนได้
ผสมน้ำส้ม ½ ถ้วย (120 มิลลิลิตร) น้ำเลมอน ½ ถ้วย (120 มิลลิลิตร) ใบเสจหั่น ¼ ช้อนชา ขิงขนาด ½ นิ้วสับละเอียด ซอสถั่วเหลือง 1 ช้อนโต๊ะ กระเทียมสับ 3 กลีบ และซอสพริก ¼ ช้อนชาในชามเล็กๆ เทส่วนผสมลงในถุงซิปล็อกและใส่เนื้อไก่ลงไป หมักทิ้งไว้หลายๆ ชั่วโมงหรือข้ามคืนในตู้เย็น จากนั้นย่างหรือปิ้งเนื้อไก่จนสุกดี
ผสมน้ำเลมอน 1 ลูก น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ น้ำมันมะกอก 1 ช้อนโต๊ะ และเกลือพริกไทยเล็กน้อยในชามเล็กๆ เทส่วนผสมลงในถุงซิปล็อกและใส่เนื้อไก่ลงไป ใส่ตู้เย็นไว้ 15-60 นาที จากนั้นนำไปย่าง
6
นำไปหมักกับสมุนไพร. ผสมน้ำส้มสายชู 1 ช้อนโต๊ะ สมุนไพรแห้ง 2-3 ช้อนโต๊ะ ผงกระเทียมหรือผงหอมหัวใหญ่ 1-2 ช้อนโต๊ะ น้ำมันมะกอกชนิดบริสุทธิ์พิเศษ ¼ ถ้วย (30 มิลลิลิตร) และมัสตาร์ด 1-2 ช้อนโต๊ะในชามเล็กๆ เทส่วนผสมลงในถุงซิปล็อกและใส่อกไก่ลงไป ปิดถุงและหมักไก่ไว้ตู้เย็น 2-3 ชั่วโมง หลังจากหมักไก่เสร็จแล้วจะนำไปย่างหรืออบก็ได้^{[3]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- สำหรับน้ำส้มสายชู ให้ให้สิ่งใดสิ่งหนึ่งต่อไปนี้: แอปเปิลไซเดอร์ บัลเซมิก หรือไวน์แดง
- สำหรับสมุนไพร ให้ใช้สิ่งใดสิ่งหนึ่งต่อไปนี้: ใบกระวานสับ ออริกาโน โรสแมรี หรือใบไธม์สับละเอียด
- คุณสามารถแช่เนื้อไก่ในช่องฟรีซและหมักทิ้งไว้ได้ถึง 2 สัปดาห์
ผสมซอสถั่วเหลือง 1 ถ้วย (240 มิลลิลิตร) น้ำเปล่า 1 ถ้วย (240 มิลลิลิตร) น้ำตาลทรายขาว ¾ ถ้วย (180 มิลลิลิตร) ซอสวูสเตอร์ ¼ ถ้วย (60 มิลลิลิตร) น้ำส้มสายชูกลั่น 3 ช้อนโต๊ะ น้ำมันพืช 3 ช้อนโต๊ะ ผงกระเทียม 2 ช้อนชา และขิงสดขูด 1 ช้อนชาในชามเล็กๆ พอน้ำตาลละลายแล้ว ให้เทส่วนผสมทั้งหมดลงในถุงซิปล็อกแล้วใส่เนื้อไก่ลงไป หมักทิ้งไว้ในตู้เย็น 2-3 ชั่วโมงถึงข้ามคืน พอหมักเสร็จแล้วก็นำเนื้อไก่ไปย่างหรืออบ
8
รู้ว่าเมื่อไหร่ถึงใช้ซอสบาร์บีคิว. ซอสบาร์บีคิวเป็นซอสที่เข้ากับเนื้อไก่มากๆ แต่การราดซอสบาร์บีคิวลงบนเนื้อไก่ในช่วงเวลาที่ต่างกันสามารถสร้างความแตกต่างของรสชาติได้เป็นอย่างมาก ถ้าคุณราดซอสบาร์บีคิวเร็วเกินไป เนื้อไก่ก็อาจจะมีรสชาติเข้มข้นเกินไปได้ แต่ถ้าราดช้าไป เนื้อไก่ก็อาจจะไม่ค่อยมีรสชาติมากนัก แนวทางในการราดซอสบาร์บีคิวคือ:
- ถ้าคุณอบหรือย่างไก่ ให้ราดซอสบาร์บีคิวทีหลังสุด ตอนที่ไก่สุกพอดี
- ถ้าคุณตุ๋นไก่ในหม้ออบหรือหม้อตุ๋น ให้ราดซอสบาร์บีคิวหลังจากไก่สุกไปแล้วครึ่งหนึ่ง
- คุณอาจจะเติมมัสตาร์ดน้ำผึ้งลงในซอสบาร์บีคิวเล็กน้อยเพื่อเพิ่มความเข้มข้นให้กับรสชาติ
- ถ้าคุณกะจะย่างเนื้อไก่ คุณอาจจะหมักเนื้อไก่กับซอสบาร์บีคิวเลยก็ได้
โฆษณา

วิธีการ 2

วิธีการ 2 ของ 3:

ปรุงรสสำหรับการอบด้วยความร้อนต่ำ การปิ้งโดยใช้ความร้อนจากด้านบน และการอบด้วยความร้อนสูง

ดาวน์โหลดบทความ

1
ทาสมุนไพรสดๆ ลงบนเนื้อไก่. ผสมใบไธม์สดสับละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ ใบเสจสดสับละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ โรสแมรีสดสับละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ พริกไทยดำ 1 ช้อนชา เกลือ 1 ช้อนชา พริกป่น ½ ช้อนชา และกระเทียมสับ 2 กลีบในชามเล็กๆ ทาส่วนผสมให้ทั่วเนื้อไก่ก่อนนำไปอบด้วยความร้อนต่ำหรือนำไปย่าง
- สูตรนี้ใช้ปรุงรสเนื้อไก่ได้ 1.5 กิโลกรัม ถ้าคุณไม่ได้กะจะใช้เครื่องปรุงทั้งหมด ให้เก็บไว้ในโถใบเล็กๆ แล้วเก็บไว้ในตู้เย็น และใช้ให้หมดภายใน 1 สัปดาห์
2
ทำไก่แช่น้ำเกลือด้วยน้ำผึ้ง เลมอน และใบเสจ. ใส่น้ำผึ้ง ½ ถ้วย (120 มิลลิลิตร) เกลือ ½ ถ้วย (140 มิลลิลิตร) น้ำเปล่า 950 มิลลิลิตร กระเทียมหั่นบาง 2 กลีบ และน้ำมันมะกอก ¼ ถ้วย (60 มิลลิลิตร) ลงไปในหม้อใบใหญ่ ดึงหนังไก่ออกมาจากเนื้อไก่สักครู่แล้วยัดใบเสจ 6 ใบกับเลมอนหั่นเสี้ยวบางๆ 6 ชิ้นเข้าไปข้างใต้ นำไก่ใส่ลงไปในน้ำเกลือและแช่ไว้ในตู้เย็นหลายชั่วโมง พอได้เวลาแล้วก็ใช้แปรงทาน้ำมันมะกอกลงบนเนื้อไก่ก่อนนำไปอบด้วยไฟแรง^{[4]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ถ้าเป็นอกไก่ไม่ติดหนัง ให้แช่ไว้ 2 ชั่วโมง
- สำหรับชิ้นเนื้อไก่ที่มีกระดูกอยู่ข้างใน ให้ทิ้งไว้ 4 ชั่วโมง
- สำหรับไก่ทั้งตัว ให้ทิ้งไว้ 4 ชั่วโมงถึงข้ามคืน
3
ทำน้ำเกลือผสมน้ำตาล. ผสมน้ำเย็น 1 แกลลอน (3.8 ลิตร) เกลือโครเชอร์ ½ ถ้วย (140 กรัม) และน้ำตาลธรรมชาติ ⅔ ถ้วย (135 กรัม) ลงในหม้อใบใหญ่ แช่เนื้อไก่ไว้ในน้ำเกลือไม่เกิน 2 ชั่วโมง ล้างออก แล้วนำไปทำอาหารได้ตามต้องการ^{[5]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ถ้าคุณไม่มีเกลือโครเชอร์ ใช้เกลือบริโภคธรรมดา ¼ ถ้วย (70 กรัม) แทนก็ได้
4
ใช้น้ำเกลือบัตเตอร์มิลค์เพื่อให้เนื้อไก่นุ่มขึ้น. ผสมบัตเตอร์มิลค์ 950 มิลลิลิตร เกลือโครเชอร์ 4 ช้อนชา และพริกไทยดำป่นสดๆ 1 ช้อนชาลงไปในหม้อใบใหญ่ ใส่เนื้อไก่ลงไป ปิดฝา แล้วแช่ตู้เย็นไว้ 4 ชั่วโมง เมื่อคุณพร้อมจะนำไก่ไปประกอบอาหารแล้ว ให้คุณกรองเอาบัตเตอร์มิลค์ออก ปริมาณส่วนผสมเท่านี้เพียงพอต่อการแช่ไก่ 1 ตัว^{[6]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- หลังจากที่คุณแช่น้ำเกลือเสร็จแล้ว คุณอาจจะนำไก่ไปอบกับเลมอนหั่นเป็นแผ่นบางๆ 2 ชิ้น กระเทียมขูดละเอียด 4 กลีบ และผักชีลาวสดหั่น 2 ถ้วย
ลองทำน้ำเกลือธรรมดาเพื่อเพิ่มความฉ่ำและเพิ่มรสชาติให้กับเนื้อไก่. ในหม้อที่ตั้งไฟปานกลาง ให้ใส่น้ำอุ่น 1 แกลลอน (3.8 ลิตร) เกลือ ¾ ถ้วย (210 กรัม) น้ำตาล ⅔ ถ้วย (150 กรัม) ซอสถั่วเหลือง ¾ ุถ้วย (180 มิลลิลิตร) และน้ำมันมะกอก ¼ ถ้วย (60 มิลลิลิตร) คนทุกอย่างให้เข้ากันจนกว่าน้ำตาลกับเกลือจะละลาย จากนั้นก็ปล่อยให้น้ำเกลือเย็นจนถึงอุณหภูมิห้อง นำเนื้อไก่ใส่ลงไปในน้ำเกลือและแช่ไว้ในตู้เย็น 2-4 ชั่วโมง ล้างและซับเนื้อไก่ให้แห้งก่อนนำไปทำอาหาร^{[7]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
โฆษณา

วิธีการ 3

วิธีการ 3 ของ 3:

ปรุงรสสำหรับการทอด

ดาวน์โหลดบทความ

ผสมพริกป่น 1 หยิบมือ เกลือพริกไทยเล็กน้อย พริกคาเยน เกลือปรุงรส และผงกระเทียมลงในถ้วยหรือชามแยกต่างหาก จากนั้นทาเครื่องปรุงให้ทั่วเนื้อไก่แล้วนำเนื้อไก่ไปทอดในกระทะ
2
ถ้าคุณผัดเนื้อไก่ในกระทะ ให้ปรุงรสเนื้อไก่ด้วยกระเทียมสับ. นอกจากกระเทียมแล้วคุณก็อาจจะบีบน้ำเลมอนลงไปด้วยเพื่อเพิ่มความอร่อย
- ไม่ต้องกังวลถ้ากระเทียมกลายเป็นสีเขียว เพราะมันเป็นแค่ปฏิกิริยาเอนไซม์เท่านั้น ซึ่งเกิดขึ้นเป็นปกติ
- ถ้าคุณคิดว่ากระเทียมสดสับกลิ่นแรงเกินไป คุณอาจจะใช้ผงกระเทียมหรือเกลือกระเทียมแทนก็ได้
แปรงน้ำมันมะกอกลงบนเนื้อไก่ จากนั้นเลือกเครื่องเทศอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้โรยลงบนเนื้อไก่: ผงพริกคาเยน กระเทียม พริกไทยปรุงรสเลมอน พริกไทย โรสแมรี เกลือ หรือใบไธม์ การปรุงรสแบบนี้ใช้กับไก่ย่างหรือไก่อบได้เช่นกัน
แค่โรยเกลือพริกไทยลงบนเนื้อไก่ให้ทั่วตามปริมาณที่คุณชอบ จากนั้นก็นำไปปรุงอาหารได้ตามใจชอบ นอกจากนี้คุณอาจจะใช้พริกไทยปรุงรสเลมอนแทนพริกไทยธรรมดาก็ได้เพื่อเพิ่มความอร่อย ซึ่งคุณจะซื้อพริกไทยปรุงรสเลมอนสำเร็จรูป หรือคุณจะทำเองก็ได้ด้วยการบีบเลมอนลงบนเนื้อไก่ให้ทั่ว จากนั้นโดยเกลือพริกไทยลงไป การปรุงรสแบบนี้ใช้กับไก่ย่างหรือไก่อบได้เช่นกัน
ทาเกลือพริกไทยเล็กน้อย บีบน้ำเลมอนเล็กน้อย และพริกป่น 1 หยิบมือลงบนเนื้อไก่ การปรุงรสแบบนี้ใช้กับไก่ย่างหรือไก่อบได้เช่นกัน
โฆษณา

เคล็ดลับ

สมุนไพรแบบแห้งจะมีกลิ่นแรงกว่าแบบสด เพราะฉะนั้นถ้าสูตรที่คุณใช้บอกให้ใช้สมุนไพรสดแต่คุณมีแต่แบบแห้ง ให้ลดส่วนผสมลงครึ่งหนึ่ง
ถ้าเนื้อไก่ของคุณติดหนังและคุณใช้ส่วนผสมทาหรือปรุงรสเนื้อไก่ คุณต้องให้เครื่องปรุงลงไปถึงใต้หนังด้วย วิธีนี้จะช่วยให้รสชาติซึมเข้าไปในเนื้อไก่ได้ดีขึ้น

โฆษณา

คำเตือน

คุณต้องให้เนื้อไก่สุกดีก่อนรับประทาน ถ้าตรงกลางยังเป็นสีชมพู ให้ปรุงอาหารต่ออีก 5 นาทีและเช็กอีกครั้งว่าสุกดีหรือยัง
บางคนคิดว่าการใส่เกลือลงไปในเนื้อไก่ก่อนนำไปปรุงอาหารทำให้เนื้อแห้งกว่าเดิม ถ้าคุณอยากได้เนื้อไก่แบบฉ่ำๆ คุณก็อาจจะเติมเกลือลงไปทีหลัง

โฆษณา