วิกิฮาวเป็น "wiki" ซึ่งหมายความว่าบทความหลายๆ บทความของเรานั้นเป็นการร่วมมือกันเขียนของผู้เขียนหลายคน ในการเขียนบทความชิ้นนี้ ผู้คน 33 คน ซึ่งบางคนไม่ขอเปิดเผยตัว ได้ร่วมกันเขียนและปรับปรุงเนื้อหาของบทความอย่างต่อเนื่อง
บทความนี้ถูกเข้าชม 10,021 ครั้ง
คุณประดิษฐ์ stress ball หรือลูกบอลบีบเล่นแก้เครียดได้ง่ายๆ จากของเหลือใช้ในบ้านนี่แหละ ที่ต้องใช้ก็แค่ลูกโป่ง 2 - 3 ลูก กับวัสดุยัดไส้ที่เหมาะสม แต่ถ้าอยากได้ลูกบอลที่ให้อารมณ์เหมือนบีบลูกบอลที่ขายกันตามร้านที่สุด ก็ต้องเย็บเองจะดีที่สุด
ขั้นตอน
- หาลูกโป่งมา 3 ลูก. ขนาดและรูปร่างเดียวกัน ยังไม่ต้องเป่าลม อย่าใช้ลูกโป่งน้ำ เพราะผิวบางเกินไป ใช้ทำลูกโป่งบีบเล่นไม่ได้
- เลือก "ไส้". ถ้าอยากได้ลูกบอลบีบเล่นพอดีมือ ก็ต้องเติมไส้ในประมาณ ⅔ - 1 ถ้วยตวง (160 – 240 มล.) เช่น
- ถ้าอยากได้ลูกบอลแน่นๆ แข็งๆ ให้ใช้แป้ง เบคกิ้งโซดา หรือแป้งข้าวโพด (จะ cornstarch หรือ cornflour ก็ได้)
- แต่ถ้าอยากได้ลูกบอลนิ่มๆ หน่อย ให้ใช้ข้าวสาร และเมล็ดถั่วต่างๆ เช่น ถั่วแดง ถั่วเขียว หรืออีกทีคือทรายละเอียด (ที่ซื้อมาโดยเฉพาะ อย่าไปตักจากตามไซต์ก่อสร้างล่ะ)
- ผสมข้าวสารกับแป้งจะใช้ทนกว่าแป้งอย่างเดียว
- เป่าลูกโป่งไม่ต้องใหญ่มาก (ไม่จำเป็น). จะเทลงไปโดยไม่เป่าลมก่อนก็ได้ แต่เป่าแล้วจะเติมไส้สะดวกกว่า โดยเฉพาะถ้าลูกโป่งเหนียวไม่ค่อยยืดแต่ไส้ที่เติมมีเยอะ ให้เป่าจนได้ลูกโป่งขนาดประมาณเส้นผ่านศูนย์กลาง 3 – 5 นิ้ว (7.5 – 12.5 ซม.) จากนั้นบีบปากลูกโป่งไว้ ไม่ต้องมัด
- ถ้าใช้คลิปหนีบหรือให้คนช่วยถือไว้ก็สะดวกหน่อย
- แต่เป่าลมแล้วระวังเวลาลมออกไส้จะกระเด็นออกตามมาด้วย
- เอาปากลูกโป่งไปรัดกรวยกรอกน้ำ. ถ้าไม่มีกรวยกรอกน้ำ ให้ใช้ช้อนตักไส้เทลงในขวดพลาสติกแทน จากนั้นก็เอาลูกโป่งมาครอบปากขวด บีบแก้วพลาสติกให้แคบเป็นพวยกาก็ใช้ได้เหมือนกัน แต่ระวังหกเลอะเทอะ
- ค่อยๆ เทไส้ลงในลูกโป่ง. ถ้าอยากได้ลูกบอลขนาดเท่ากำมือ ให้เติมไส้ลงไปให้ได้ประมาณ 2 – 3 นิ้ว (5 – 7.5 ซม.) ค่อยๆ กรอก อย่าให้จุกอยู่แค่ปากลูกโป่ง
- ถ้าไส้ติดอยู่ตื้นๆ ให้ใช้ดินสอหรือด้ามช้อนค่อยๆ ดันลงไป
- ไล่อากาศออก แล้วมัดให้แน่น. เอากรวยออก จากนั้นไล่ลมออกให้มากที่สุด แล้วมัดปากลูกโป่งให้แน่น
- เวลาจะไล่ลมให้บีบปากลูกโป่ง แล้วค่อยๆ แยกนิ้ว ถ้าปล่อยนิ้วเลยทันที ระวังไส้แตกกระจายไปทั่ว
- ตัดยางส่วนเกิน. เอากรรไกรตัดปลายยางที่มัดลูกโป่งแล้วเกินออกมา แต่ระวังอย่าตัดลึก เดี๋ยวปมจะขาด
- เอาลูกโป่งมาใส่ทับอีก 2 ลูก. เอาลูกโป่งบีบเล่นของคุณใส่ในลูกโป่งซ้อนอีก 2 ลูกเพื่อความแข็งแรง จากนั้นมัดปาก ตัดปลายยางเหมือนเดิมโฆษณา
- ห่อลูกเด้งด้วย memory foam. คุณหาซื้อลูกเด้ง (ลูกบอลยางเล็กๆ) ได้ทั่วไปตามร้านขายของเล่นหรือร้านโชห่วย ส่วน memory foam ต้องดูตามเน็ต หรือร้านขายผ้าและอุปกรณ์งานฝีมือ เราต้องใช้ memory foam ขนาดประมาณ 3.5 x 5 นิ้ว (9 x 12.5 ซม.) และหนาประมาณ 1 - 3 นิ้ว (2.5 – 7.5 ซม.) ยิ่ง memory foam หนา ลูกบอลของคุณก็ยิ่งนิ่มน่าบีบ
- เย็บ memory foam ที่ห่อลูกเด้งไว้. ห่อลูกเด้งด้วย memory foam แล้วเย็บติดด้วยเข็มกับด้าย เอาให้บังลูกเด้งมิดชิด จากนั้นเล็ม memory foam ส่วนเกินออก จะได้ออกมาเป็นลูกกลมๆ
- เย็บถุงเท้าหรือเศษผ้าหนาๆ หุ้มรอบ memory foam อีกที. ถุงเท้าเก่าๆ จะช่วยให้ลูกบอลของคุณยิ่งทนทาน แต่จะใช้เศษผ้าหนาๆ แทนก็ได้ สุดท้ายเล็มส่วนเกินออก ให้ได้ลูกกลมสวยงาม เท่านี้ลูกบอลบีบเล่นแก้เครียดของคุณก็เสร็จสิ้นโฆษณา
สิ่งของที่ใช้
ลูกโป่งบีบเล่นแก้เครียด:
- ลูกโป่ง 3 ลูก ขนาดและรูปร่างเดียวกัน (อย่าใช้ลูกโป่งน้ำ)
- แป้ง ⅔ - 1 ถ้วยตวง (160 – 240 มล.) เบคกิ้งโซดา แป้งข้าวโพด ทรายละเอียด (ที่ใช้ตามสนามเด็กเล่น) ข้าวสาร ถั่วต่างๆ
- กรวยกรอกน้ำ หรือขวดพลาสติก
ลูกบอลบีบเล่นแก้เครียด:
- เข็มและด้าย
- ถุงเท้า
- Memory foam
- ลูกเด้ง
เคล็ดลับ
- ถ้าอยากตกแต่งลูกโป่งบีบเล่นของคุณ ให้ใช้ลูกโป่งต่างสีกันในแต่ละชั้น อย่าลืมเจาะรูที่ลูกโป่งชั้นนอก จะได้เห็นสีลูกโป่งข้างในโผล่มา
- หรือเขียนลายด้วยปากกามาร์กเกอร์แบบลบไม่ได้
- ถ้าเติมแป้งข้าวโพดผสมน้ำช้อนเล็กๆ เวลาบีบเบาๆ จะรู้สึกนิ่มๆ แต่พอบีบแรงจะแข็งแน่น ให้ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาทีก่อนบีบเล่น ให้น้ำซึมเข้าไปในแป้งข้าวโพดก่อน แต่ลูกบอลบีบเล่นแบบนี้จะอยู่ได้ไม่นาน
- ยิ่งซ้อนลูกโป่งหลายชั้นก็ยิ่งทนทาน
- อย่าเติมน้ำในแป้งข้าวโพดมากไป ไม่งั้นแป้งจะเหลว
- อย่าเติมไส้ในลูกโป่งเยอะเกินไป!
- เติม orbeez (เบบี้คริสตัล) เป็นไส้ในลูกโป่งใสก็สวยดี!
- ใช้ kinetic sand (ทรายแม่เหล็ก) ลูกบอลจะยิ่งนุ่มจนคุณวางไม่ลง!
คำเตือน
- ถ้าเติมน้ำผสมเกลือ ระวังผิวลูกโป่งจะเสื่อมเร็ว
บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม
⚠️ Disclaimer:
Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.
- - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
- - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
- - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
- - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.