บทความนี้ร่วมเขียนโดยเหล่าบรรณาธิการและนักวิจัยที่ผ่านการฝึกฝนมาเพื่อความถูกต้องและครอบคลุมของเนื้อหา
ทีมผู้จัดการด้านเนื้อหาของวิกิฮาว จะตรวจตราผลงานจากทีมงานด้านเนื้อหาของเราเพื่อความมั่นใจว่าบทความทุกชิ้นได้มาตรฐานตามที่เราตั้งไว้
มีการอ้างอิง 10 ข้อที่อ้างอิงอยู่ในบทความ ซึ่งสามารถพบได้ทางด้านล่างของบทความ
บทความนี้ถูกเข้าชม 30,463 ครั้ง
ถ้าคุณต้องการทำให้เสียงแหบอย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องพึ่งพาการสูบบุหรี่หรือการเป็นหวัด คุณต้องใช้หลักการสกัดเส้นเสียง ใช้เสียงอย่างหนักกับการตะโกน ร้องเพลง กระซิบ ไอ กระแอมหรือเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาหรือคอนเสิร์ตเสียงดัง ทานและดื่มสิ่งที่อาจจะทำให้เสียงแหบ (เช่น อาหารที่เป็นกรด เค็มและมันหรือมีคาเฟอีนหรือแอลกอฮอล์) อยู่กับอากาศร้อน หนาวและมีเสียงดัง
ขั้นตอน
- กระซิบให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้. ถึงแม้ว่าการกระซิบอาจดูเหมือนวิธีรักษาเสียงแต่มันทำให้เส้นเสียงต้องใช้พลังมากกว่าการพูดปกติ การกระซิบยังมีผลทำให้คอแห้งเพราะมันทำให้เสียงหาย ใช้การกระซิบแทนการพูดด้วยเสียงธรรมดาโดยทำเหมือนว่าคุณต้องแอบเล่าบทสนทนาหรือเริ่มบทสนทนาในที่ที่เงียบ (เช่น ห้องสมุด) [1]
- ตะโกนใส่หมอน. การตะโกนให้สุดเสียงคือวิธีทำให้เสียงแหบที่ได้ผลที่สุด หาหมอนใบหนาเพื่อปิดปากในขณะที่ตะโกน คุณควรทำสิ่งนี้เมื่อไม่มีคนอยู่ใกล้มากพอที่จะได้ยินและเป็นกังวล ทำวิธีนี้จนกว่าเสียงเริ่มแหบและหยุดถ้าหากคุณรู้สึกเจ็บ วิธีนี้จะช่วยทุกอย่างและทำให้คุณเป็นจุดสนใจอย่างที่คุณเป็น [2]
- ร้องคาราโอเกะ. ถึงแม้ว่านักร้องมืออาชีพมักจะวอร์มเสียงก่อนการแสดงแต่นักร้องรุ่นใหญ่มักจะทำเสียงให้แหบโดยการร้องเพลงดังๆ จนสุดเสียง ใช้เวลาช่วงเย็นร้องเพลงคาราโอเกะกับเพื่อนและมีความสุขกับการพยายามทำให้เสียงแหบ การเปล่งเสียงให้เต็มห้องหรือทางเดินจะทำให้กล่องเสียงของคุณบาดเจ็บหรือบวมทำให้เสียงแหบชั่วคราว [3]
- กระแอมหรือไอ. การไอหรือการกระแอมทำให้กล่องเสียงต้องใช้พลังจนเสียงแหบ การไอมากเป็นพิเศษสามารถทำให้เสียงแหบในระยะสั้นหรือระยะยาว เตรียมตัวให้พร้อมกับการไอหรือการกระแอมบ่อยๆ จนกว่าเสียงจะแหบและแห้งเพื่อทำให้เสียงแหบอย่างรวดเร็ว [4]
- เข้าร่วมคอนเสิร์ตหรือการแข่งขันกีฬา. ทำให้เสียงแหบในวิธีที่สนุกโดยการเข้าร่วมคอนเสิร์ตหรือการแข่งขันกีฬาที่มีเสียงดัง ใส่แรงเชียร์ ร้องเพลงหรือตะโกนให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถึงแม้ว่าการมีเสียงแหบจะเป็นข้อเสียของประสบการณ์ที่สนุกเหล่านี้แต่มันอาจจะเป็นความสำเร็จถ้าหากมันคือเป้าหมายสูงสุดของคุณ [5]
- การไปเที่ยวคลับ เข้าร่วมการประท้วงหรือไปแข่งรถโกคาร์ทเป็นกิจกรรมใช้เสียงที่ดีต่อการทำให้เสียงแหบ
โฆษณา
- บ้วนปากด้วยน้ำส้มสายชูและน้ำมะนาว. ผสมน้ำส้มสายชูขาวและน้ำมะนาวเพื่อทำให้เส้นเสียงระคายเคืองและทำให้เสียงแหบ ใส่น้ำส้มสายชู ¼ ถ้วยและน้ำมะนาว ¼ ถ้วยลงในแก้วและคนให้เข้ากัน บ้วนปากด้วยส่วนผสมเป็นเวลา 30 วินาทีจากนั้นจึงล้างออกและทำขั้นตอนซ้ำหากต้องการ [6]
- ถ้าหากส่วนผสมเข้มข้นเกินไปสำหรับคุณ คุณสามารถเติมน้ำ ¼ ถ้วยเพื่อให้เจือจาง
- ดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนหรือแอลกอฮอล์. เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนหรือแอลกอฮอล์สามารถทำให้ร่างกายขาดน้ำซึ่งทำให้คอแห้งได้ เส้นเสียงที่ดีต้องใช้ความชุ่มชื้นเพื่อให้เส้นเสียงสั่นและปิดอย่างเหมาะสม ไม่เช่นนั้นเสียงของคุณจะแหบและแห้ง ไปเที่ยวกลางคืนกับเพื่อนที่คาเฟ่หรือบาร์และดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนหรือแอลกอฮอล์เพื่อทำให้เสียงแหบอย่างรวดเร็ว[7]
- ทานอาหารที่เค็มจัด. การทานอาหารที่มีรสเค็มจัดไม่ดีต่อเสียงของคุณเพราะเกลือทำให้เสียงแหบ ลองรับประทานเบคอนเพื่อเป็นอาหารที่มีรสเค็มจัด (และยังมีไขมันสูงซึ่งเป็นอีกตัวการหนึ่งที่ทำให้เสียงแหบ) [10] อาหารรสเค็มจัด ได้แก่:[11]
- เพรทเซล
- ถั่วโรยเกลือ
- ซอสถั่วเหลือง
- ซุปพร้อมดื่ม
- แตงกวาดอง
โฆษณา
- เพิ่มความร้อน. ระบบความร้อนจะดึงความชุ่มชื้นออกจากอากาศทำให้ห้องแห้งแล้ง ความแห้งนี้สามารถดึงน้ำออกจากร่างกายรวมไปถึงเส้นเสียงและคอของคุณด้วย เพิ่มความร้อนในห้องหรือในบ้านให้มากที่สุดและปล่อยอุณหภูมินั้นไว้ชั่วข้ามคืนเพื่อทำให้เสียงแหบอย่างรวดเร็ว[12]
- พาตัวเองไปอยู่ในที่อากาศแห้งและเย็นจัด. อากาศที่เย็นและแห้งสามารถทำให้กล่องเสียงระคายเคืองและสกัดเส้นเสียงซึ่งทำให้เสียงแหบได้ ถ้าหากคุณอยู่ในภูมิประเทศที่หนาว ลองออกไปนอกบ้านเพื่อทำกิจกรรมหน้าหนาว (เช่น ไปเล่นสกี) หรือเดินเล่นนอกบ้าน ถ้าหากคุณอยู่ในภูมิประเทศที่อบอุ่น คุณต้องเปิดแอร์ให้เย็นที่สุดเท่าที่จะทำได้ [13]
- เพิ่มเสียงรอบตัว. เพิ่มระดับเสียงที่อยู่ในบ้านหรือที่ทำงานเพื่อที่คุณจะต้องพูดเสียงดังขึ้นหรือตะโกนเพื่อสื่อสารโดยอัตโนมัติเพื่อทำให้เสียงแหบอย่างรวดเร็ว ผู้คนมักจะเพิ่มระดับเสียง 3 เดซิเบลต่อระดับเสียงรอบตัวที่เพิ่มขึ้น 10 เดซิเบล เปิดเพลงหรือหนังเสียงดังหรือใช้เพลงบรรเลงถ้าหากคุณต้องการจดจ่อโดยไม่ถูกรบกวน [14]โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ http://www.livescience.com/34762-larynx-inflammation-laryngitis-treatment.html
- ↑ http://ourpastimes.com/make-raspy-like-youre-losing-7722095.html
- ↑ http://www.besthealthmag.ca/best-you/prevention/dont-lose-it-8-ways-to-take-care-of-your-voice/
- ↑ http://www.enki-village.com/how-to-make-your-voice-raspy.html
- ↑ http://www.besthealthmag.ca/best-you/prevention/dont-lose-it-8-ways-to-take-care-of-your-voice/
- ↑ http://www.enki-village.com/how-to-make-your-voice-raspy.html
- ↑ http://abcnews.go.com/Health/ColdandFluNews/story?id=6082396&page=1
- ↑ https://www.drugs.com/health-guide/chronic-laryngitis.html
- ↑ http://www.eatthis.com/foods-and-acid-reflux
- ↑ https://spoonuniversity.com/lifestyle/foods-for-voice
- ↑ https://www.healthaliciousness.com/articles/what-foods-high-sodium.php
- ↑ http://voicestudio.kristinaseleshanko.com/ThingsThatAffectYourVoice.htm
- ↑ http://www.besthealthmag.ca/best-you/prevention/dont-lose-it-8-ways-to-take-care-of-your-voice/
- ↑ http://www.besthealthmag.ca/best-you/prevention/dont-lose-it-8-ways-to-take-care-of-your-voice/
บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม
⚠️ Disclaimer:
Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.
- - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
- - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
- - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
- - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.