วิธีการ ทดสอบว่าคุณชอบเขาหรือแค่เหงาเท่านั้น

ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความ

เขาที่เรากำลังจะพูดถึงอาจหมายถึงคนรัก เพื่อน หรือคนที่คุณไปมาหาสู่หรือใช้เวลาด้วยกันเป็นประจำ แต่คุณกลับไม่แน่ใจว่าความสัมพันธ์หรือมิตรภาพครั้งนี้เกิดขึ้นด้วยเหตุผลที่ถูกที่ควร หรือแค่เพราะคุณรู้สึกเหงา ถ้านี่ตรงกับกรณีของคุณล่ะก็ เรามีขั้นตอนในการทดสอบว่าคุณชอบใช้เวลากับเขาคนนั้นจริงๆ หรือแค่ไม่อยากเหงากันแน่มาฝากกัน

  1. How.com.vn ไท: Step 1 ตั้งคำถมกับแรงจูงใจแรกที่ทำให้คุณเลือกทำความรู้จักกับคนๆ นี้....
    ตั้งคำถมกับแรงจูงใจแรกที่ทำให้คุณเลือกทำความรู้จักกับคนๆ นี้. ตอนแรก คุณอาจจะสนใจข้อดีในตัวเขาจริงๆ หรือรู้สึกว่าเรามีอะไรเหมือนๆ กันในครั้งแรกที่ได้พบ แต่ในทางตรงกันข้าม คุณอาจรู้สึกว่าฉันควรจะทำดีกับเขาเพียงเพราะเพื่อนคนอื่นๆ ดูจะชอบเขา หรืออาจกำลังอยู่ในภาวะซึมเศร้าหลังจากเลิกกับแฟน หรือมีอะไรบางอย่างในชีวิตของอีกฝ่ายที่ทำให้คุณรู้สึกเห็นใจ พยายามคิดย้อนกลับไปยังจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ และคิดหาเหตุผลให้ได้มากที่สุดว่า ทำไมคุณจึงเข้ามาข้องเกี่ยวกับคนๆ นี้ วิธีการนี้จะช่วยให้ตัดสินใจได้ว่าคุณรู้สึกยังไงกับคนๆ นี้กันแน่
  2. How.com.vn ไท: Step 2 ไตร่ตรองดูว่า คุณมักจะรู้สึกอย่างไรเมื่อได้อยู่กับเขา....
    ไตร่ตรองดูว่า คุณมักจะรู้สึกอย่างไรเมื่อได้อยู่กับเขา. คิดถึงสิ่งที่ตัวคุณได้รับเมื่อใช้เวลาอยู่กับคนๆ นี้ คุณรู้สึกเบื่อ วิตกกังวล หรือรู้สึกอัดอัดบ้างรึเปล่า หรือในทางตรงข้าม คุณอาจจะรู้สึกมีความสุข สนุก ชอบ หรืออบอุ่นเมื่อได้ใช้เวลาอยู่กับเขา ลองใช้เวลาคิดถึงความทรงจำต่างๆ ให้ได้มากที่สุด เพื่อให้ได้ภาพของสิ่งที่มักเกิดขึ้นเสมอ (ถ้ามี) เช่น คุณมักจะมีช่วงเวลาแห่งความสุขเมื่อได้อยู่กับเขา หรือแค่ให้นึกถึงครั้งล่าสุดที่รู้สึกดีเมื่อได้อยู่กับเขาก็ยากแล้ว
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ห่างกันสักพัก.
    ขั้นตอนนี้อาจจะยากสักหน่อยสำหรับคนที่ไม่ชอบอยู่คนเดียวจริงๆ แต่ก็ถือเป็นขั้นสำคัญที่ควรลอง เพราะการได้ห่างจากคนที่ยังไม่แน่ใจในความสัมพันธ์ อาจจะทำให้คุณมองเห็นได้ชัดเจนขึ้นว่าสิ่งที่ทำให้คุณอยากคุยกับเขาเป็นเพียงเพราะความเหงาล้วนๆ หรือมีเหตุผลดีๆ ที่ทำให้คุณยังติดต่อกันอยู่เสมอ พยายามห่างกันให้ได้อย่างน้อย 2 สัปดาห์ เพราะระยะเวลาประมาณนี้จะช่วยให้ตัดสินใจได้ว่าคุณคิดถึงเขาคนนั้นจริงๆ หรือแค่รู้สึกเบื่อเมื่อไม่มีเขาอยู่ใกล้ๆ โดยในระหว่างที่ห่างกัน ให้ลองไตร่ตรองดูว่า
    • คุณคิดถึงอะไรบางอย่างเกี่ยวกับเขาหรือเปล่า เพราะถ้าคิดถึง ก็มีความเป็นไปได้สูงว่าคุณแคร์คนๆ นั้นจริงๆ
    • คุณพบว่า มันกลับเป็นเรื่องยากถ้าจะให้คิดว่ามีอะไรขาดหายไปจากชีวิตบ้างเมื่อไม่มีเขา หรือความรู้สึกคิดถึงเขาคนนั้นเป็นเพียงแค่ภาพลางๆ ในใจคุณ คุณอาจจะรู้สึกโล่งเลยก็ได้ที่ไม่ต้อง “ทน” กับทัศนคติหรือพฤติกรรมที่เขาชอบทำเมื่ออยู่ด้วยกัน ถ้าเป็นกรณีนี้ล่ะก็ เป็นไปได้ว่าคุณยังเก็บเขาไว้ในชีวิตเพื่อเติมเต็มช่องโหว่บางอย่างเท่านั้น
    • คุณพบว่าตัวเองนั่งเปรียบเทียบเขากับแฟนเก่าหรือคนก่อนๆ ที่เคยคุยด้วย บางครั้ง ช่วงเวลาที่ห่างกันอาจจะเผยให้เห็นรูปแบบของปัญหา บุคลิก และลักษณะนิสัยด้านลบที่คล้ายกับความสัมพันธ์ก่อนหน้านี้ ในกรณีนี้ อาจจะหมายความว่าคุณได้ทำเรื่องผิดพลาดแบบเดิมซ้ำอีกครั้ง ด้วยการมีความสัมพันธ์ที่ไม่ได้ช่วยเติมเต็มฝ่ายใดเหมือนอย่างที่คุณเคยมี
    • ให้เวลาตัวเองได้ทบทวนและค้นหาตัวเอง เพราะการที่คุณรู้จักตัวเองไม่ดีพอ มักจะทำให้คุณรู้สึกอ่อนแอและพยายามไขว่คว้าหาคุณค่าของตัวเองจากความสัมพันธ์ต่างๆ ทำให้คุณตกอยู่ใต้คำสาปแห่งความคาดหวังว่าคนอื่นๆ จะช่วย “ฉุดคุณขึ้นมา” ถ้ารู้สึกว่านี่คือสิ่งที่คุณทำมาโดยตลอดล่ะก็ ลองให้เวลาตัวเองได้ค้นหาว่าจริงๆ แล้วคุณคือใครและสิ่งที่คุณแคร์คืออะไรกันแน่ เพื่อให้คุณรู้สึกชอบตัวเองมากยิ่งขึ้น วิธีนี้จะช่วยแทนที่ความรู้สึกเหงาด้วยความรู้สึกชอบตัวเอง อีกทั้งยังช่วยสร้างรากฐานอันแข็งแกร่งให้กับการมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อไป
  4. How.com.vn ไท: Step 4 ถามตัวเองดูว่า คุณคาดหวังกับความสัมพันธ์นี้สูงเกินไปรึเปล่า....
    ถามตัวเองดูว่า คุณคาดหวังกับความสัมพันธ์นี้สูงเกินไปรึเปล่า. บางครั้ง คุณอาจจะตั้งคำถามว่าฉันอยากมีเขาคนนั้นอยู่ในชีวิตจริงๆ หรือเปล่า เพราะคุณเอาแต่ทะเลาะกันไม่หยุดหย่อน แต่บางทีคุณอาจจะไม่ได้เกลียดเขาจริงๆ ก็ได้ ความจริงแล้ว คุณอาจจะชอบเขามากพอสมควร แต่ดันมีนิสัยหรือบุคลิกบางอย่างในตัวเขาที่คุณทำใจยอมรับได้ยาก หรือต้องรับมือกับมันมานานพอสมควร ซึ่งแสดงให้เห็นว่าคุณแค่ยังสนิทกันไม่มากพอ หรือคุณอาจต้องใช้เวลาอยู่ด้วยกันให้ “น้อยลง” เช่น ปัญหาอาจจะมาจากการที่เขาเป็นคนเก็บตัวในขณะที่คุณเป็นคนชอบเข้าสังคม หรือบางที ความสนใจของเขาอาจไม่ค่อยตรงกับคุณสักเท่าไร แต่เขาก็ยังเอาแต่พูดถึงแต่ความสนใจของตัวเอง และไม่เคยแสดงมารยาทตอบแทนด้วยการรับฟังเรื่องของคุณบ้าง ถ้าอ่านหัวข้อนี้แล้วคิดว่า “นี่มันเรื่องของฉันชัดๆ!” นี่อาจจะเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าคุณสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ด้วยการใช้เวลากับคนอื่นให้มากขึ้น ในขณะที่ยังใช้เวลากับคนๆ นี้บ้าง (แต่อาจจะน้อยลง) มากกว่าจะเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าคุณไม่ชอบคนๆ นั้น และเลือกที่จะใช้เวลากับเขาเพียงเพราะไม่อยากอยู่คนเดียวเท่านั้น
  5. How.com.vn ไท: Step 5 นำตัวเองออกไปพบผู้คนให้มากสุดเท่าที่รู้สึกว่าทำได้....
    นำตัวเองออกไปพบผู้คนให้มากสุดเท่าที่รู้สึกว่าทำได้. เพราะการได้ใช้เวลากับคนอื่นอาจจะช่วยให้คุณเข้าใจได้มากขึ้นว่าตัวเองอยากคบค้ากับคนประเภทไหน นอกจากนี้ การได้พบผู้คนในบริบทต่างๆ อาจช่วยให้คุณเข้าใจได้ว่า คนที่คุณใช้เวลามากมายไปกับเขาเข้าข่ายคนที่คุณอยากคบค้าด้วยหรือเปล่า หรือคุณมีความเป็นผู้ใหญ่มากกว่าเขาหรือเปล่า
    • หากรู้สึกประหม่าเมื่อต้องใช้เวลากับคนอื่น (โดยเฉพาะถ้าคุณใช้เวลาส่วนใหญ่หมดไปกับเขา) การลองวิธีนี้ไม่จำเป็นต้องหมายถึงการใช้เวลากับครอบครัวหรือเพื่อนสนิทเท่านั้น (แม้สิ่งเหล่านี้จะช่วยได้มากก็ตาม) แค่พูด “สวัสดี” อย่างร่าเริงแจ่มใส หรือหาโอกาสพูดคุยสั้นๆ กับคนรู้จัก (ไม่ว่าจะเป็นพนักงานร้าน เพื่อนร่วมงาน หรือคนที่เดินสวนกันบนถนนเป็นประจำ) ก็ล้วนแล้วแต่เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี
    • ถ้าคุณยอมให้คนๆ นี้เข้ามาควบคุมพื้นที่มากมายในชีวิตและปิดตายคุณจากคนอื่นๆ อาจจะลองคิดถึงการทำงานอาสาสมัครให้กับกลุ่มคนที่รู้สึกเหงา เช่น ผู้อาวุโสหรือเด็กยากไร้ วิธีการนี้จะช่วยให้คุณได้เห็นมุมมองใหม่ๆ ของความเหงา ทำให้คุณเข้าใจผู้คนอีกมากมาย และคิดถึงความต้องการของพวกเขามากกว่าของตัวเอง
    • ถ้ารู้สึกไม่ดีกับการโผเข้าหาประสบการณ์ใหม่ๆ ให้มองว่าคุณกำลังทำเพื่อคนอื่น เพราะการใช้เวลากับผู้คนมากมายไม่ได้ช่วยทลายวงจรแห่งความเหงาของคุณเท่านั้น แต่คุณยังได้ช่วยอีกฝ่ายด้วยเช่นกัน เพราะงานวิจัยของมหาวิทยาลัยชิคาโก มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย-ซานดิเอโก และมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดที่จัดทำขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้พบว่า ความเหงาเป็นสิ่งที่แพร่กระจายได้ง่ายและสามารถส่งต่อถึงผู้อื่นได้ นั่นหมายความว่า คุณอาจส่งต่อความเหงาถึงเขาคนนั้นโดยไม่ได้ตั้งใจ[1] ด้วยเหตุนี้ การเปิดโอกาสให้ตัวเองได้พบปะคนอื่นๆ มากขึ้นจึงอาจช่วยทลายวงจรแห่งความเหงาของคุณทั้ง 2 คน
  6. How.com.vn ไท: Step 6 ตรวจสอบความคิดและอารมณ์ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง....
    ตรวจสอบความคิดและอารมณ์ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง. อีกหนึ่งวิธีที่สามารถนำไปใช้เพื่อทดสอบว่าความสัมพันธ์นั้นๆ มีคุณค่ากับคุณอย่างไร คือ การวางแผนทำอะไรซักอย่างกับคนๆ นั้นและทำให้ได้ตามแผนที่วางไว้ โดยตลอดระยะเวลาที่กำลังทำตามแผน ให้คอยจับตาดูความคิดและปฏิกิริยาตอบสนองทางอารมณ์ของคุณที่เกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ โดยทั้งก่อนหน้าและในระหว่างนี้ ถ้าคุณพบว่าในหัวของตัวเองเต็มไปด้วยความคิดแง่ลบ เช่น “มันต้องออกมาแย่แน่ๆ” หรือ “ฉันอยากทำอะไรที่น่าสนุกกว่า/น่าสนใจกว่า/ดีกว่านี้” หรือเกิดความรู้สึกแย่แบบสุดๆ เช่น หวาดกลัวรุนแรง ขยะแขยง เบื่อหน่าย ฯลฯ สิ่งเหล่านี้อาจจะเป็นสัญญาณเตือนว่าคุณไม่ชอบใช้เวลากับเขาหรือไม่เห็นคุณค่าของเขาในฐานะคนที่มีอะไรร่วมกัน
  7. How.com.vn ไท: Step 7 ปิดฉากมิตรภาพ...
    ปิดฉากมิตรภาพหรือความสัมพันธ์นั้นซะ ถ้าเห็นว่าเหมาะสม. หลังจากลองวิธีการต่างๆ ข้างต้นแล้วรู้สึกว่า คุณไม่ชอบเขาเอาจริงๆ แต่เลือกที่จะคบค้าสมาคมเพียงเพราะไม่อยากอยู่คนเดียว อาจถึงเวลาต้องคิดถึงการปิดฉากความสัมพันธ์ครั้งนี้ และค้นหาบุคคลหรือกิจกรรมอื่นๆ ที่ช่วยเติมเต็มช่วงเวลาของคุณได้ เพราะนอกจากจะช่วยให้คุณรู้สึกโล่งใจแล้ว ยังเป็นการยุติธรรมกับอีกฝ่ายมากกว่าการดึงรั้งความสัมพันธ์อันแสนหม่นหมองนี้ต่อไป จงยอมรับให้ได้ว่า บางครั้งคนเราก็จำเป็นต้องปล่อยบางอย่างเพื่อที่จะก้าวต่อไป
    โฆษณา

คำเตือน

  • ถ้าคุณเลือกที่จะปิดฉากความสัมพันธ์นั้นไปแล้ว และเพิ่งมาตัดสินใจได้ภายหลังว่าคุณชอบคนๆ นั้นจริงๆ คุณอาจจะทำให้เขากลับมาชอบหรือไว้ใจคุณอีกครั้งได้ยาก หรืออาจเป็นไปไม่ได้เลย เพราะฉะนั้น ถ้าตั้งใจจะเผาสะพานตัดความสัมพันธ์ ก็ต้องคิดให้ดีๆ ว่านี่คือสิ่งที่คุณต้องการจริงๆ
  • การตัดสินใจปิดฉากความสัมพันธ์มักจะมีการตอบสนองในทางลบ
โฆษณา

บทความวิกิฮาวอื่น ๆ ที่่เกี่ยวข้อง

ข้อมูลอ้างอิง

  1. MSNBC, Loneliness can be contagious, new study finds, http://www.msnbc.msn.com/id/34209727/ns/health-behavior/

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

วิกิฮาวเป็น "wiki" ซึ่งหมายความว่าบทความหลายๆ บทความของเรานั้นเป็นการร่วมมือกันเขียนของผู้เขียนหลายคน ในการเขียนบทความชิ้นนี้ ผู้คน 39 คน ซึ่งบางคนไม่ขอเปิดเผยตัว ได้ร่วมกันเขียนและปรับปรุงเนื้อหาของบทความอย่างต่อเนื่อง บทความนี้ถูกเข้าชม 65,287 ครั้ง
มีการเข้าถึงหน้านี้ 65,287 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

⚠️ Disclaimer:

Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.

Notices:
  • - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
  • - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
  • - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
  • - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.

โฆษณา