ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความX
วิกิฮาวเป็น "wiki" ซึ่งหมายความว่าบทความหลายๆ บทความของเรานั้นเป็นการร่วมมือกันเขียนของผู้เขียนหลายคน ในการเขียนบทความชิ้นนี้ ผู้คน 80 คน ซึ่งบางคนไม่ขอเปิดเผยตัว ได้ร่วมกันเขียนและปรับปรุงเนื้อหาของบทความอย่างต่อเนื่อง
บทความนี้ถูกเข้าชม 5,917 ครั้ง
ทุกความสัมพันธ์ล้วนแตกต่าง แต่คู่รักส่วนใหญ่ก็ต้องมีทะเลาะกันบ้าง คู่รักที่อยู่ด้วยกันมานานมักจะมีวิธีคืนดีและดำเนินชีวิตต่อไป ถ้าคุณไม่อยากทำเหมือนว่าไม่เคยทะเลาะกันและแค่รอให้ความตึงเครียดคลายไปเอง อ่านบทความนี้เพื่อเรียนรู้วิธีที่จะคืนดีอย่างเปิดใจและดีต่อความสัมพันธ์
ขั้นตอน
ดาวน์โหลดบทความ
มองหาสิ่งที่ซ่อนอยู่ภายใต้การโต้แย้ง. มีคำกล่าวไว้ว่า "สิ่งที่คุณคิดว่าเป็นเหตุผลให้ต้องทะเลาะไม่เคยเป็นเหตุผลที่แท้จริงหรอก" มันอาจจะเหมือนว่าคุณกำลังทะเลาะกันเรื่องเงิน เซ็กส์ หรือเรื่องอื่น แต่จริงๆ แล้วมันมักจะมาจากความรู้สึกที่ซ่อนอยู่ที่ไม่ได้แสดงออกมาอย่างเต็มตัว อาจจะเป็นสิ่งที่คุณเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังรู้สึกอยู่ การหาความรู้สึกที่เป็นต้นตอจะช่วยให้คุณใจเย็นลงและคืนดีกับคนรักได้ ความรู้สึกทั่วไปที่เป็นสาเหตุของการทะเลาะได้แก่ :- ความรู้สึกว่าตัวเองบกพร่อง คุณรู้สึกว่าตัวเองไม่ดีพอและคุณก็ไม่ค่อยเชื่อนักหรอกว่าคนรักเขาต้องการคนอย่าง คุณ อย่างน้อยก็ไม่นานนักหรอก
- ความกลัวการถูกทิ้ง คุณกังวลว่าคนรักจะจากคุณไปจริงๆ อาจจะด้วยการนอกใจคุณหรือไม่สนใจใยดีว่าคุณจะรู้สึกอย่างไร แต่การอยู่กับตัวเองสักเดี๋ยวหลังจากทะเลาะกันเป็นสิ่งที่ดี เพราะมันทำให้แต่ละฝ่ายใจเย็นลงเพื่อที่จะไม่พูดอะไรที่ดุเดือดออกไป
- ความรู้สึกไม่ได้รับการเอาใจใส่ คุณรู้สึกเหมือนอีกฝ่ายไม่เห็นคุณค่า หรืออาจจะรู้สึกเหมือนตัวเองถูกหลอกใช้
พูดสิ่งที่จริงที่สุดออกไปในประโยคเดียว. เรียนรู้ที่จะไม่ใช้ความรุนแรงในการสื่อสาร การพูดกับคนรักประมาณว่า "ฉันกลัวเวลาที่ฉันเห็นคุณคุยกับผู้หญิงคนอื่น" หรือ "ฉันโกรธที่ตอนนี้ฉันไม่มีเงินซื้ออันนี้" ทำให้คุณได้พูดประเด็นหลักและมักช่วยให้เขาหรือเธอเข้าใจความรู้สึกของคุณโดยไม่ต้องเถียงกันเรื่องนี้
รับผิดชอบ. คุณตะคอกใส่คนรักหรือเปล่า คุณพยายามควบคุมผลของการทะเลาะกันอยู่ใช่ไหม การควบคุมสถานการณ์เพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการนั้นง่ายกว่าการขอตรงๆ ใช่ไหม เราทุกคนต่างทำแบบนี้ไม่มากก็น้อย ถ้าคุณหาวิธีที่จะรับผิดชอบการโต้เถียงกันในส่วนของคุณได้โดยไม่พยายามโทษหรือโยนว่าเป็นความผิดของตัวเองหรือคนรัก มันก็อาจจะนำไปสู่การพูดคุยแบบใหม่เลยก็ได้
ถ่อมตัว. บางครั้งถ้าคุณขอโทษในสิ่งที่คุณทำ (แม้ว่าคุณจะไม่ได้เป็นฝ่าย "เริ่ม" ก็ตาม) ก็อาจทำให้คนรักคลายโกรธและลงเอยด้วยการที่เขาหรือเธอขอโทษคุณด้วยเช่นกัน การพูดประมาณว่า "ฉันไม่ได้อยากให้มันเป็นแบบนี้เลย และฉันก็ขอโทษด้วยที่มันต้องเป็นแบบนี้ เราเลิกเถียงกันสักพักนึง สงบสติอารมณ์ แล้วมาลองกันใหม่ได้มั้ย แต่ครั้งนี้ต้องโกรธน้อยลงนะ" แต่จำไว้เสมอว่า อย่าขอโทษในสิ่งที่คุณไม่ได้ทำเพียงเพื่อที่จะได้เลิกทะเลาะกัน คุณต้องจริงใจ
เลิกอยากเป็นฝ่ายถูก. การอยากจะเอาชนะเวลาเถียงกันเป็นวิธีที่รับประกันได้เลยว่า คุณจะยังทะเลาะกันต่อไป เพราะไม่มีใครชนะในสถานการณ์แบบนี้และมีแต่จะทำให้คุณไม่ได้เชื่อมโยงกับคนรักอย่างแท้จริง คำโบราณฝรั่งเขาบอกไว้ว่า "คุณอยากเป็นฝ่ายถูกหรือมีความสุขมากกว่ากัน"
ปล่อยให้คนรักเรียนรู้เอง. คุณควบคุมได้แต่ตัวคุณและความเร็วในการเรียนรู้ของคุณเท่านั้น ถ้าคนรักไม่เข้าใจ คุณก็ไม่สามารถทำให้เขาหรือเธอเข้าใจปัญหาในแบบของคุณได้ คุณทั้งคู่ต่างมีข้อมูลในการโต้แย้ง แต่คุณไม่สามารถ ทำให้ ใครเข้าใจอะไรในมุมมองของคุณได้ มีแต่เขาจะเข้าใจหรือไม่เข้าใจเท่านั้นเอง- ถ้าคุณขอโทษแล้ว และคนรักก็ยังไม่ให้อภัยคุณ ให้เป็นฝ่ายเปิดใจอภัยให้เขาหรือเธอเสียเอง การยอมรับแบบนี้ถ้าคุณไม่กระทำในลักษณะที่เป็นการดูถูกอีกฝ่าย ก็อาจเป็นการแสดงให้เห็นว่าคุณยอมรับความไม่สมบูรณ์แบบของคนรัก ซึ่งจะช่วยให้เขาหรือเธอตั้งแง่น้อยลงได้ เช่น หลังจากไม่พูดพร่ำทำเพลงอธิบายความรู้สึกของคุณให้คนรักฟังแล้ว (อย่างที่กล่าวไว้ก่อนหน้านี้) ให้พูดว่า "ฉันรู้ว่าคุณไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายความรู้สึกของฉันด้วยการลืมวันครบรอบของเรา ฉันก็ยังน้อยใจอยู่นั่นแหละ แต่ฉันก็เต็มใจที่จะเชื่อว่าคุณไม่ได้ตั้งใจ และครั้งต่อไปคุณจะจำได้ โอเคนะ"
เห็นคุณค่าของคนรัก. ยิ่งคุณสองคนกลับมาสนุกและร่าเริงได้เร็วเท่าไหร่ ก็ยิ่งดีเท่านั้น ความสัมพันธ์ที่ประสบความสำเร็จมีอัตราส่วนของการเห็นคุณค่าและการวิจารณ์อยู่ที่ 5 ต่อ 1 การกระทำที่สร้างความรู้สึกเชิงบวกอย่างจริงใจจะช่วยเติมธนาคารอารมณ์ในความสัมพันธ์ด้วยการสังเกตและแสดงให้เห็นว่า คุณชอบอะไรหลายๆ อย่างในตัวคนรัก ในตัวเอง และการที่คุณอยู่ด้วยกัน แต่ถ้าคุณยังรู้สึกไม่โอเคกับสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ล่ะก็ ให้เริ่มจากตัวเองก่อน
กำหนดขอบเขต. ถ้าการโต้เถียงกันของคุณชักจะไปกันใหญ่ คุณอาจจะอยากกำหนดข้อตกลงเรื่องขอบเขตและเงื่อนไขในความสัมพันธ์กับคนรัก เช่น "ฉันตกลงว่าจะไม่เรียกคุณเสียๆ หายๆ อีก" หรือ "ฉันอยากให้เราตกลงกันว่า เราจะคุยเรื่องที่เกิดขึ้นแบบไม่ตะโกนใส่กัน"โฆษณา
เคล็ดลับ
- อันดับแรกต้องบอกก่อนว่า การให้อภัยไม่ใช่ความรู้สึก แต่เป็นทางเลือกที่อยู่เหนือความรู้สึก เป็นสิ่งที่ทำด้วยความเต็มใจ
- ค่อยพูดค่อยจากันและรับฟังกัน เพื่อที่คุณจะได้พยายามไม่ให้ทะเลาะกันได้อีก
- ตลอดช่วงเวลาที่พยายามจะดีกันนั้น คุณต้องใจเย็นๆ จำไว้ว่าความตั้งใจอย่างเดียวของคุณก็คือ การทำให้ทุกอย่างดีขึ้นและกลับมามีความสุขอีกครั้ง
- ถ้าเขาบอกว่าเขาต้องการพื้นที่และยังไม่อยากคุยตอนนี้ ก็ให้พื้นที่และเวลาให้ทั้งคุณและเขาได้ใจเย็นๆ และคิดเรื่องนี้ก่อน
- เรียนรู้จากการโต้เถียง สิ่งที่คุณเถียงอยู่นี้เป็นเรื่องเดียวกับที่คุณเถียงกับคนอื่นหรือเปล่า ถ้าคุณเถียงกันเรื่องเดิมๆ ก็อาจจะเป็นเพราะคุณยังคงคาราคาซังกับปัญหานี้โดยที่คุณเองก็ไม่รู้ตัวหรือเปล่า คุณเรียนรู้อะไรจากปัญหาได้บ้าง ถ้าคุณกับคนรักทะเลาะเรื่องเดิมซ้ำไปซ้ำมา โดยที่คนใดคนหนึ่งหรือทั้งคู่ก็ยังไม่สามารถหาทางประนีประนอมกันได้ (เช่น คนนึงอยากมีลูก อีกคนไม่อยากมี) ความสัมพันธ์นี้ก็คงจะไม่ใช่ความสัมพันธ์ที่เข้ากันได้มากนัก
- อย่าติดสินบนด้วยเซ็กส์หรืออะไรก็แล้วแต่ เพราะมันไม่ได้แก้ปัญหาอะไร และอาจนำไปสู่การโต้เถียงเรื่องอื่นก็ได้
- ถ้าคุณรู้สึกว่าตัวเองแพ้ตลอด หรือถ้าการโต้เถียงมักจบลงด้วยการที่คุณเป็นฝ่ายขอให้อีกคนอภัยให้คุณแม้ว่าคุณจะเชื่อว่าคุณไม่ผิด คุณก็อาจจะต้องศึกษาวิธีสังเกตความสัมพันธ์แบบควบคุมหรือบงการ
- รับฟังเขาเสมอ เพราะถ้าคุณไม่ฟัง ก็อาจนำไปสู่การเถียงกันอีกเรื่องได้
- เปิดใจให้อภัย
- พยายามมองสถานการณ์ด้วยสายตาคนนอก และดูว่ามีอะไรในตัวคุณที่ต้องเปลี่ยนแปลงหรือเปล่า
- เราไม่ได้มีชีวิตอยู่ตลอดกาล จำไว้เสมอว่า ทุกวินาทีที่เราไม่พอใจทำให้ชีวิตของเราสั้นลงตามนั้น
- เป็นคนในแบบที่คุณอยากให้คนรักเป็น ทำให้เห็นเป็นตัวอย่าง
โฆษณา
คำเตือน
- ไม่มีใครชนะถ้าคุณเลิกเถียงกันแต่กลับรู้สึกต่อกันไม่ติดแล้ว
โฆษณา
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
มีการเข้าถึงหน้านี้ 5,917 ครั้ง
บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม
⚠️ Disclaimer:
Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.
- - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
- - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
- - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
- - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.
โฆษณา
