วิธีการ ได้แฟนเก่ากลับมา

ดาวน์โหลดบทความ

ดาวน์โหลดบทความ

ภายในบทความนี้:

การประเมินการเลิกรา

การใช้เวลาลำพัง

อยากได้แฟนเก่ากลับคืนมา

การพูดคุยเรื่องความสัมพันธ์

การสร้างความสัมพันธ์ที่ดี

การตัดสินใจเดินหน้าต่อ

แสดงเพิ่มอีก 3...

แสดงน้อยลง...

บทความที่เกี่ยวข้อง

ข้ออ้างอิง

อย่าติดต่อเขาในช่วงเดือนแรกหลังจากเลิกกันและสนใจตัวเอง ลองดูว่าเขายังสนใจในตัวคุณหรือเปล่าจากนั้นจึงคบกันแบบเพื่อน ถ้ามันเป็นไปได้ด้วยดีก็ให้ขอคุยกับเขาเป็นการส่วนตัว ขอโทษและขอให้กลับมาคบกัน

ขั้นตอน

ส่วน 1

ส่วน 1 ของ 6:

การประเมินการเลิกรา

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   เข้าใจการเลิกรา. อะไรที่ทำให้คุณเลิกกัน? ปัญหาในความสำคัญส่วนใหญ่ไม่ได้เกิดในชั่วข้ามคืนแต่สะสมมาเป็นเวลานาน โอกาสคือมันไม่ได้เกิดจากปัญหาที่มาจากด้านเดียวและมีสัญญาณบ่งบอกก่อนจะเกิดขึ้น ใช้เวลาและตามหาตัวเองก่อนที่จะพยายามได้แฟนเก่ากลับมา คุณต้องทำให้แน่ใจว่าคุณจะไม่เสียเวลาหรือพลังงานกับบางอย่างที่ไร้สาระ

   • งานวิจัยพบว่าสาเหตุอันดับ 1 ของการเลิกลาคือความล้มเหลวในการสื่อสาร หากความสัมพันธ์ของคุณไม่มีความสุข ปัญหานี้อาจแก้ไขได้โดยการกำหนดความคาดหวังที่ชัดเจนและพูดคุยเรื่องที่ค้างคาใจอย่างเปิดอกก่อนที่จะทะเลาะกันครั้งใหญ่ ปัญหาอื่นอาจจะยากในการฝ่าฟัน เช่น ความไม่ซื่อสัตย์หรือความหึงหวง แต่แม้แต่ปัญหาเหล่านี้ก็สามารถแก้ไขได้ด้วยความพยายามและคำปรึกษาที่ดี
2. 
   2
   ระลึกว่าใครเป็นคนเริ่มเลิกรา. คุณหรือเปล่า? ถ้าใช่ คุณทำสิ่งนั้นหลังจากที่ได้ตรึกตรองมาอย่างดีหรือทำไปเพราะความโมโหจนคุณต้องรู้สึกผิดอยู่ในขณะนี้? หรือเป็นแฟนเก่าของคุณและเขามีเหตุผลอะไร? หรือมันเป็นการตัดสินใจของทั้งสองฝ่าย?

   • มันจำเป็นที่คุณต้องเข้าใจว่าใครที่บงการการเลิกราแล้วทำไมมันถึงเกิดขึ้นตั้งแต่แรก หากเป็นเพราะคุณและแฟนเก่าของคุณไม่เห็นด้วยกับการเลิกรา การกลับไปคบกันก็อาจจะง่ายกว่าการที่แฟนของคุณเป็นคนบอกเลิกตั้งแต่แรก
3. 
   3
   แปลความหมายของอารมณ์. ในความเจ็บปวดและความไม่เข้าใจการเลิกรา มันอาจใช้ง่ายที่คุณจะสับสนทางอารมณ์จนคุณแปลความหมายของความรู้สึกเหงาและเจ็บปวดเป็นหลักฐานว่าคุณต้องการแฟนเก่ากลับมาในชีวิต อันที่จริงแล้วเกือบจะทุกคนที่เคยเลิกราเริ่มรู้สึกเสียใจกับความสัมพันธ์ที่จบลงประจวบกับความรู้สึกเครียด ความรู้สึกผิด ความหดหู่และความเหงา โดยทั่วไป ยิ่งความสัมพันธ์นั้นจริงจังมากเท่าไหร่ ความเจ็บปวดก็จะรุนแรงมากขึ้นเท่านั้น คู่ที่เคยแต่งงานกันหรือเคยใช้ชีวิตร่วมกันมักจะมีการเลิกราที่แย่ที่สุด ในขณะที่คู่ที่แค่เดทกันเล่นๆ จะมีชีวิตที่ง่ายกว่าหลังการเลิกรา แต่ความเจ็บปวดของความรู้สึกไม่ได้หมายความว่าคุณควรกลับไปคบกับแฟนเก่า

   • ลองตอบคำถามเหล่านี้ คุณคิดถึงแฟนเก่าหรือการมีแฟนหรือไม่? เขาหรือเธอทำให้คุณรู้สึกดีขึ้นเกี่ยวกับตัวเอง มั่นคงในโลกใบนี้และมีความสุขมากกว่าหรือไม่? คุณจินตนาการตัวเองกับบุคคลนี้ในระยะยาวถึงแม้ความตื่นเต้นในการตกหลุมรักจะหายไปแล้วคุณติดอยู่ในกิจวัตรประจำวันของชีวิตได้หรือไม่? หากคุณแค่คิดถึงความมั่นคงในการมีใครสักคนและความตื่นเต้นของความสัมพันธ์แบบดราม่า คุณก็หาสิ่งเหล่านี้ได้กับใครคนอื่นในความสัมพันธ์ที่ดีและมั่นคงกว่าเดิม
   • มันสำคัญที่ต้องใช้เวลาหลังการเลิกราและก่อนที่จะพยายามได้แฟนเก่ากลับมาเพื่อตรวจสอบความรู้สึกของตัวเองและตัดสินใจว่าคุณควรอยู่กับบุคคลนั้นหรือไม่ ความสัมพันธ์แบบกลับมาคบกันใหม่มักจะทรมานกับการไม่มีความไว้เนื้อเชื่อใจและมักจะจบลงด้วยวงจรเดิม หากคุณไม่มั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าคุณต้องการคบกับบุคคลนี้ในระยะยาว คุณก็ควรหลีกเลี่ยงความเจ็บปวดโดยการพยายามอย่างดีที่สุดที่จะลืมแฟนเก่าแทนที่จะกลับไปคบกับเขาอีกครั้ง

ส่วน 2

ส่วน 2 ของ 6:

การใช้เวลาลำพัง

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   หลีกเลี่ยงการติดต่อเขาในช่วงเดือนแรกหลังการเลิกรา. เขาจะโทรหาคุณหากเขาต้องการพูดด้วย แต่ถ้าเขาไม่โทรไม่ว่าคุณจะพูดอย่างไรก็ไม่มีทางเปลี่ยนแปลงได้ บางครั้งการเพิกเฉยแฟนเก่าอาจทำให้เขารู้สึกว่าคุณสบายดีโดยที่ไม่มีเขาและคุณกำลังเดินหน้าต่อไปซึ่งเป็นสิ่งตรงกันข้ามกับที่เขาต้องการ

   • การหลีกเลี่ยงการติดต่อนั้นไม่ใช่แค่วิธีรุกฆาตที่จะทำให้เขาคิดถึงคุณ มันยังให้เวลากับคุณในการทำสิ่งที่คุณต้องการทำเพื่อเตรียมตัวเองสำหรับความสัมพันธ์ครั้งใหม่ (ไม่ว่าจะเป็นกับแฟนเก่าหรือคนใหม่!) ใช้เวลาในช่วงเดือนนี้ทำความรู้จักตัวเองในฐานะปัจเจกบุคคลและพัฒนาสิ่งที่คุณอาจจะบกพร่องในความสัมพันธ์กับแฟนเก่า หากคุณเป็นคนบอกเลิก นี่จะเป็นเวลาในการระบุข้อบกพร่องของความสัมพันธ์และพัฒนาอย่างหนักเพื่อปรับปรุงในฐานะของมนุษย์คนหนึ่ง
   • เวลานี้จะช่วยให้คุณแยกแยะระหว่างความเสียใจธรรมดาหลังการเลิกรากับความปรารถนาที่แท้จริงในการกลับไปคบกับแฟนเก่า เกือบจะทุกคนรู้สึกเสียใจหลังการเลิกราแม้ว่าแฟนเก่าของพวกเขาจะนิสัยแย่และพวกเขาไม่เหมาะสมกันเลย เวลาลำพังกับตัวเองนี้จะช่วยให้คุณแยกแยะความรู้สึกเหล่านี้ได้
2. 
   2
   จดจ่อกับตัวเอง. ไปเที่ยวกับเพื่อน หางานหรือกิจกรรมอื่นๆ ทำ คุณคงไม่อยากให้ตัวเองดูต้องการหรือกำลังรอแฟนเก่าให้ติดต่อคุณอีกครั้ง

   • งานวิจัยพบว่าคนที่รู้สึกตัวเร็วหลังจากการเลิกลามักจะหายเจ็บปวดจากความสัมพันธ์ได้เร็วกว่า
3. 
   3
   อย่าเข้าหาแฟนเก่าในช่วงนี้. นั่นหมายถึงการไม่โทรหา ไม่ส่งข้อความหรือถามว่าเขาหรือเธอเป็นอย่างไร สิ่งสำคัญที่สุดคือห้ามถามคำถามแฟนเก่าว่าทำไมคุณถึงเลิกกันหรือถามว่าเขาหรือเธอกำลังคบคนใหม่หรือเปล่า สิ่งนี้จะทำให้คุณดูต้องการเกินไป.

   • แม้มันจะสำคัญที่ไม่เข้าหาแฟนเก่าเป็นเวลา 1 เดือนหรือมากกว่านั้นแต่คุณสามารถตอบรับหากเขาพยายามติดต่อคุณ หากเขาโทรหาคุณก็อย่าวางสายหรือปฏิเสธที่จะพูดคุย มันไม่จำเป็นที่ต้องเล่นเกมหรือเล่นตัวและการทำเช่นนั้นอาจจะทำให้เขาออกห่างจากคุณซึ่งเป็นสิ่งที่ตรงข้ามกับเป้าหมายของคุณในตอนนี้
   • หากคุณได้ยินข่าวคราวว่าแฟนเก่าของคุณกำลังคบคนใหม่ก็พยายามอย่าด่วนสรุปหรือปล่อยให้ความหึงเข้ามา อีกทั้งคุณยังไม่ควรพยายามเสาะหาความสัมพันธ์ใหม่ ปล่อยให้แฟนเก่าของคุณมีเวลาคิดว่าคุณคือคนที่ใช่หรือไม่ คุณคงไม่อยากบังคับให้ใครมาคบกับคุณซึ่งเป็นคนที่อยากจะคบกับคนอื่น
4. 
   4
   ดูว่าเขายังคงสนใจในตัวคุณหรือไม่. ก่อนที่คุณจะเริ่มพยายามเอาชนะใจแฟนเก่า คุณต้องรู้ว่าเขาหรือเธอยังใส่ใจคุณหรือไม่ การรู้ว่าเขาหรือเธอยังใส่ใจคุณหรือไม่คือคำใบ้ที่สำคัญที่สุดและบ่งบอกว่าสิ่งต่างๆ นั้นรักษาได้หรือไม่

   • คุณไม่จำเป็นต้องเสาะหาทันทีและคุณไม่ควรส่งเพื่อนไปสืบสวนให้คุณ อย่าเข้าหาแฟนเก่าอย่างน้อย 1 เดือนหลังการเลิกรา แทนการทำเช่นนั้นคุณควรมองหาคำใบ้เมื่อคุณเจอเขาที่โรงเรียนหรือที่ทำงาน สื่อโซเชียลหรือจากความคิดเห็นของเพื่อนที่คุณมีร่วมกับเขา
   • จำไว้ว่า ⅓ ของคู่ที่อยู่ด้วยกันและ ¼ ของคู่ที่แต่งงานกันมักต้องเลิกรากันในที่สุด เพราะฉะนั้นหากแฟนเก่าของคุณยังคงสนใจ คุณก็ยังมีโอกาสที่จะได้เขากลับคืนมา

ส่วน 3

ส่วน 3 ของ 6:

อยากได้แฟนเก่ากลับคืนมา

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   พัฒนาความเชื่อมั่นในตัวเอง. หากคุณประสบปัญหากับความต้องการที่มากเกินไป คุณก็อาจจะต้อง พัฒนาความเชื่อมั่นในตัวเอง คุณอาจจะคาดหวังให้แฟนเก่าของคุณทำให้คุณรู้สึกดีกับตัวเองแต่ความจริงคือคุณคือคนเดียวที่สามารถทำสิ่งนั้นได้ คุณไม่ควรเอาความสุขของคุณตั้งอยู่บนคนอื่น มันทำให้พวกเขารู้สึกผิด ถูกบังคับและสิ่งเหล่านั้นจะย้อนกลับมาหาคุณในที่สุด

   • ความเชื่อมั่นในตัวเองคือการเชื่อว่าคุณคือคนที่มีค่าและพอเพียงในแบบของคุณ เมื่อเป็นเรื่องของความสัมพันธ์ มันสำคัญที่คุณต้องรู้สึกเติมเต็มในฐานะของปัจเจกบุคคลแทนที่จะมองหาคนอื่นมาเติมเต็มคุณหรือทำให้ชีวิตของคุณมีค่า
   • คุณควรเน้นความแข็งแกร่งในทุกส่วน อารมณ์ สังคม ความสามารถและทักษะ รูปรับและสิ่งอื่นที่สำคัญกับคุณเพื่อพัฒนาความเชื่อมั่นของตัวเอง เช่น คุณอาจจะมีความเมตตาโดยธรรมชาติ ความสามารถในการทำให้คนอื่นรู้สึกเข้าใจ ความสามารถในการทำขนมและมีผมที่สวย การจดจ่ออยู่กับสิ่งที่เป็นบวกและเมินเฉยสิ่งที่เป็นลบสามารถช่วยให้คุณรู้สึกพอเพียงและมีค่าในฐานะปัจเจกบุคคล โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณเข้าถึงส่วนที่ดีที่สุดของตัวเองเพื่อช่วยเหลือคนอื่น หากคุณรู้สึกว่าไร้ค่า คุณต้องทำตัวเองให้มีค่า ใช้ความเมตตาโดยธรรมชาติและความสามารถในการอบขนมของคุณเพื่ออบคุกกี้อร่อยๆ ให้กับคนแก่แถวบ้าน
2. 
   2
   เป็นคนที่แฟนเก่าของคุณเคยตกหลุมรักด้วย. ลองนึกย้อนไปเมื่อเวลาที่คุณทั้งคู่คบกันในช่วงแรก เขาหลงรักอะไรเกี่ยวกับตัวคุณ? มันคือมุขตลกหรือสไตล์ที่ยอดเยี่ยมของคุณ? ไม่ว่ามันจะเป็นอะไรก็ให้คุณลองจุดไฟในแบบเดียวกับที่มันเคยโชติช่วงมาก่อน

   • แฟนเก่าของคุณชอบคุณเพราะว่าพวกเขารู้สึกดีกับคุณและคุณเติมเต็มความต้องการทางอารมณ์ของพวกเขา คุณเปลี่ยนไปหรือเปล่า? แก้ไขพฤติกรรมที่ไม่ดีและความผิดพลาดหากมี เป็นบวกเมื่ออยู่กับพวกเขา หัวเราะและยิ้ม คิดบวกเสมอเพื่อรู้สึกดีเกี่ยวกับตัวเองและทำให้ตัวเองดึงดูดคนอื่น
3. 
   3
   พัฒนาบุคลิกภาพ. ซื้อเสื้อผ้าใหม่ เปลี่ยนแปลงทรงผม เข้าฟิตเนสหรือทำเล็บ ทำให้ตัวเองโดดเด่นและดูสดชื่นจากที่แฟนเก่าเคยเห็นคุณ

   • แม้คุณจะไม่อยากเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อจะได้แฟนเก่ากลับคืนมา (เพราะสุดท้ายพวกเขาจะไปอีกครั้งมีตัวตนที่แท้จริงของคุณกลับมา) แต่มันเป็นประโยชน์ที่จะเป็นคนที่ดีที่สุดที่คุณสามารถเป็นได้ แฟนเก่าของคุณเคยชอบคุณและคุณสามารถดึงดูดความสนใจของเขาได้อีกครั้ง
4. 
   4
   ใช้เวลากับคนอื่น. คุณไม่ต้องนอนกับพวกเขาแต่การใช้เวลากับผู้ชายหรือผู้หญิงคนอื่นจะทำให้แฟนเก่าของคุณรู้ว่าคุณพร้อมที่จะมีความสำคัญอีกครั้ง หากพวกเขายังคงสนใจ พวกเขาก็อาจจะตัดสินใจว่านี่คือเวลาที่เขาควรจะเข้ามาและหยุดคุณจากการมองหาคนใหม่

   • หากคุณไม่สนใจที่จะเดทคนอื่นหรือให้โอกาส คุณก็ควรไปดูหนังเป็นกลุ่มหรือใช้เวลากับเพื่อนต่างเพศ แค่การอยู่กับคนโสดคนอื่นก็น่าจะเพียงพอที่จะทำให้แฟนเก่าของคุณหึง
5. 
   5
   ไปเที่ยวกับแฟนเก่า. ทำสิ่งที่ไม่ผูกมัด เช่น ไปดื่มกับเพื่อนฝูงหรือเล่นกอล์ฟหลุมเล็กโดยที่มีเขาไปด้วย ทำสิ่งที่ทั้งเพื่อนและคู่เดทสามารถทำได้ และไม่ว่ามันจะเป็นอะไรก็ทำให้มันสนุกและงดเว้นการพูดจริงจังในช่วง

   • ทุกความสัมพันธ์ควรจะตั้งอยู่บนพื้นฐานที่แข็งแรงของมิตรภาพ เพราะฉะนั้น มันจำเป็นที่ต้องทำให้แน่ใจว่ามิตรภาพของคุณแข็งแรงก่อนที่จะพยายามเปลี่ยนมันเป็นความรัก
   • หากแฟนเก่าของคุณติดอยู่กับความเป็นเพื่อน (เช่น เขาพูดว่า “ฉันไม่ได้รักเธออีกแล้ว") คุณอาจจะสามารถสร้างประสบการณ์การตกหลุมรักได้โดยการใกล้ชิดกับแฟนเก่า ในงานวิจัยชิ้นหนึ่ง นักวิจัยนำคนแปลกหน้า 2 คนมาจ้องตากันและตอบคำถามส่วนตัว (เช่น “อะไรคือสิ่งที่คุณกลัวมากที่สุด?” และ "ความทรงจำในวัยเด็กที่ดีที่สุดของคุณคืออะไร?") คำถามเหล่านี้สามารถสร้างสายสัมพันธ์อันลึกซึ้งกับคนแปลกหน้า สร้างความชอบพอและแม้แต่ความรู้สึกรัก ลองใช้เวลาสบตาแฟนเก่าและถามคำถามที่ลึกซึ้งเหล่านี้และดูว่ามันสามารถช่วยให้ความสัมพันธ์ของคุณกลับมาเหมือนเดิมหรือไม่

ส่วน 4

ส่วน 4 ของ 6:

การพูดคุยเรื่องความสัมพันธ์

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   ขอให้แฟนเก่าคุยกับคุณ. หลังจากที่คุณใช้เวลาในการในฐานะเพื่อน มันก็ถึงเวลาที่จะคุยกันยังเปิดใจเกี่ยวกับเรื่องความหลังและดูว่ามันสามารถพัฒนาในอนาคตได้หรือไม่

   • แม้การส่งข้อความและการคุยกันผ่านคอมพิวเตอร์จะเป็นวิธีสื่อสารที่ทำได้ง่ายในความสัมพันธ์ที่สร้างขึ้นแล้ว แต่การพูดคุยเรื่องแบบนี้ควรทำต่อหน้า ชวนแฟนเก่าของคุณมาทานมื้อเย็นหรือไปที่ร้านกาแฟโปรด
2. 
   2
   ใช้ความหลังให้เป็นประโยชน์. หากแฟนเก่าของคุณชอบชุดใดชุดหนึ่งของคุณมากก็ให้ใส่ชุดนั้นอีกครั้ง แบ่งปันความทรงจำที่คุณมีด้วยกัน เจอกันที่สถานที่ที่คุณเคยมาด้วยกัน

   • หากเขาหรือเธอซื้อเครื่องประดับให้คุณก็ให้คุณใส่เวลามาเจอกัน สิ่งนี้จะส่งข้อความที่ชัดเจนว่าคุณยังมีความรู้สึกต่อเขาหรือเธอ
3. 
   3
   เตรียมคำพูด. สิ่งแรกที่คุณจะพูดกับแฟนเก่านั้นสำคัญมาก หากคุณใช้คำผิดคุณก็จะเสียโอกาสที่จะได้มันกลับมา คุณต้องเข้าใจว่าแม้คุณจะไม่ได้คบกันแต่มันยังมีโอกาสที่เขายังมีความรู้สึกแรงกล้าต่อคุณ

   • มันมีหลายวิธีที่คุณสามารถเริ่มบทสนทนาแต่วิธีที่ปลอดภัยคือพูดบางอย่าง เช่น "ฉันอยากคุยกับคุณเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเราและดูว่ามันเป็นอย่างไร" แสดงความรู้สึกผิดที่สิ่งต่างๆ ไปไม่รอดและถามว่าคุณยังพูดเกี่ยวกับมันตอนนี้ได้ไหมเพราะคุณมีมุมมองบางอย่าง
   • ปล่อยให้บทสนทนาพัฒนาไปอย่างธรรมชาติ หากแฟนเก่าของคุณสบายดีและมีรายงานว่าเขาหรือเธอกำลังคบคนอื่น คุณก็อาจจะตัดสินใจที่จะไม่เสียเวลาพยายามเกลี้ยกล่อมให้เขาหรือเธอกลับมาคบกัน แต่ถ้าแฟนเก่าของคุณดูจะยังมีใจให้คุณ คุณก็สามารถหยิบยกความเป็นไปได้ในการลองใหม่อีกครั้ง
4. 
   4
   ขอโทษ. คิดให้ลึกเกี่ยวกับทุกสิ่งที่คุณทำและไม่ได้ทำที่นำไปสู่จุดตกต่ำของความสัมพันธ์และล้างเกมโดยการขอโทษแฟนเก่า รับผิดชอบการกระทำเหล่านี้อย่างเต็มที่โดยไม่โทษแฟนเก่า หาข้ออ้างหรือคาดหวังคำขอโทษ (หรือแม้แต่การให้อภัย) เป็นการตอบแทน มันอาจจะเป็นแฟนเก่าของคุณที่ทำให้เกิดเหตุการณ์เหล่านี้แต่คุณไม่สามารถขอโทษแทนคนอื่น อย่านำเขาหรือเธอเข้ามาเกี่ยวและโอกาสคือคำขอโทษจะเป็นที่ยอมรับ

   • หลีกเลี่ยงการใช้คำว่า "แต่" "ฉันขอโทษแต่..." แปลว่า "ฉันไม่ขอโทษ" อีกทั้งอย่าพูดว่า "ฉันขอโทษที่เธอรู้สึกแบบนี้" หรือ "ฉันขอโทษหากเธอรู้สึกเจ็บ" สิ่งนี้จะทำให้มันดูเหมือนคุณกำลังกล่าวโทษอีกฝ่ายและไม่ใช่คำขอโทษจริงๆ
   • คำขอโทษที่แท้จริงควรมีหลักการตามนี้: รู้สึกผิด ความรับผิดชอบและการแก้ไข ขั้นตอนแรกระบุว่าคุณรู้สึกผิดกับสิ่งที่ได้ทำลงไป ขั้นตอนที่ 2 นำมาซึ่งความรับผิดชอบของคุณโดยไม่มีข้ออ้างหรือกล่าวโทษคนอื่น ขั้นตอนสุดท้ายแนะนำให้คุณทำให้ถูกต้องหรือเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในอนาคต เช่น "ฉันอยากขอโทษที่ฉันทำลายช่วงเวลาที่เธออยากใช้กับฉัน คุณคงรู้สึกเหมือนถูกละเลย ฉันจะพยายามอย่างหนักจากนี้เพื่อให้ถึงจุดที่ฉันสามารถทำสิ่งต่างๆ มากมายกับคุณโดยที่คุณไม่รู้สึกแบบนั้นอีก ฉันดีใจที่คุณให้มุมมองที่ทำให้ฉันตระหนักสิ่งนั้น"

ส่วน 5

ส่วน 5 ของ 6:

การสร้างความสัมพันธ์ที่ดี

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   พูดคุย. เพราะปัญหาในการสื่อสารคือปัญหาหลักในการเลิกรา คุณต้องพยายามอย่างหนักในฐานะคู่รักเพื่อทำให้มั่นใจว่าคุณสื่อสารกันอย่างเปิดอก เมื่อคุณกลับมาคบกัน คุณต้องใช้เวลาสร้างความคาดหวัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในจุดที่เคยเป็นปัญหามาก่อน

   • วางแผนรับมือกับความคาดหวังที่ไปไม่ถึง เช่น หากคุณเลิกกับแฟนเก่าเพราะว่าเขาหรือเธอใช้เวลากับเพื่อนมากเกินไป คุณก็ต้องพูดอย่างเปิดใจเกี่ยวกับเวลาที่เขาควรใช้อย่างสมเหตุสมผลและวิธีที่คุณจะต่อรองกับอีกฝ่ายหากคุณต้องการเวลากับเพื่อนมากขึ้น
2. 
   2
   จำไว้ว่าอะไรที่ทำให้คุณเลิกกัน. ความสัมพันธ์แบบเดี๋ยวรักเดี๋ยวเลิกมักจะเปราะบางและไม่มั่นคงทางอารมณ์ การจำว่าอะไรที่ทำให้คุณเลิกกันตั้งแต่แรกและการรับมือกับปัญหาเหล่านั้นสามารถช่วยป้องกันความท้าทายเดิมที่จะเกิดขึ้นอีก

   • ค่อยๆ พูดคุยเกี่ยวกับสิ่งที่คุณเคยเห็นพ้องไม่ตรงกัน ปัญหาอะไรก็ตามที่ทำให้คุณเลิกกันมักจะยังเป็นจุดอ่อนสำหรับคุณทั้งคู่ หากคุณมีปัญหาเรื่องความหึงหวง ปัญหาครอบครัว ปัญหาการควบคุมหรืออื่นๆ คุณก็ต้องตระหนักว่าปัญหาเหล่านั้นจะยังคงอยู่เมื่อความใหม่เข้ามาแทนที่ความรักที่เคยเกิดขึ้น
3. 
   3
   ทำเหมือนความสัมพันธ์นี้เป็นครั้งใหม่. จำไว้ว่าความสัมพันธ์แรกของคุณนั้นไม่ประสบความสำเร็จ มันจบลงด้วยการอกหัก ทำครั้งที่ 2 ให้เหมือนความสัมพันธ์ครั้งใหม่คือสร้างกฎเกณฑ์ใหม่ของการมีส่วนร่วม

   • ค่อยเป็นค่อยไป อย่าสรุปว่าคุณควรสานต่อจากจุดที่คุณค้างไว้ในความสัมพันธ์ครั้งก่อน เช่น การนอนด้วยกันและการพูดว่า “ฉันรักเธอ” ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรพูดจนกว่าคุณจะสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจอีกครั้ง
   • รู้จักกันและกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่คุณเลิกกันมาสักพัก คุณและแฟนเก่าต่างก็เปลี่ยนแปลงในฐานะปัจเจกบุคคลตามกาลเวลา อย่าสรุปว่าคุณรู้จักทุกอย่างเกี่ยวกับเขาหรือเธอ ใช้เวลาในการทำความรู้จักกันอีกครั้ง
4. 
   4
   พิจารณาการขอคำปรึกษา. โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณเคยแต่งงานกันหรืออยู่ในความสัมพันธ์ที่จริงจังและต้องการสานต่อในความสัมพันธ์ที่จริงจัง คุณมักจะต้องใช้การบำบัดแบบคู่รักเพื่อค้นพบต้นตอของปัญหาและทำให้มั่นใจว่าคุณสามารถก้าวผ่านมัน

   • จำไว้ว่าความสัมพันธ์ที่มีวงจรเดิม (ความสัมพันธ์ที่เคยเลิกแล้วกลับมาคบกัน) มักจะมีโอกาสสูงของความไม่พอใจ ความไม่ไว้ใจและความล้มเหลวในที่สุด เพราะฉะนั้น เตรียมตัวพยายามอย่างหนักเพื่อความสัมพันธ์ครั้งใหม่

ส่วน 6

ส่วน 6 ของ 6:

การตัดสินใจเดินหน้าต่อ

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   สังเกตสัญญาณว่าความสัมพันธ์ของคุณจะไม่ได้ผล. แม้คุณอาจจะมีความรู้สึกที่แรงกล้าต่อบุคคลนี้แต่บางครั้งคนสองคนก็ไม่เหมาะสมกัน หากความสัมพันธ์เป็นพิษ คุณก็ต้องเดินหน้าต่อแทนที่จะพยายามได้แฟนเก่ากลับคืนมา สัญญาณบางอย่างที่บ่งบอกว่าความสัมพันธ์ของคุณนั้นเกินจะเยียวยา ได้แก่:

   • การทำร้ายทุกรูปแบบ หากแฟนเก่าของคุณเคยลงไม้ลงมือกับคุณหรือบังคับให้คุณมีเซ็กส์หรือทำสิ่งที่คุณไม่อยากทำ เขาหรือเธอทำร้ายคุณและคุณไม่ควรดึงคนๆ นั้นกลับมา
   • การไม่มีความเคารพต่ออีกฝ่าย หากคุณคือแฟนเก่าเคยด่ากัน ถากถางกันหรือพูดสิ่งที่ไม่ดีเกี่ยวกับครอบครัวหรือเพื่อนของอีกฝ่ายก็แสดงว่ามันไม่มีความเคารพอยู่ในความสัมพันธ์นี้ สิ่งเหล่านี้คือส่วนประกอบของความสัมพันธ์ที่ร้ายแรงทางอารมณ์ หาคนที่สามารถให้ความเคารพที่คุณควรได้รับและปฏิบัติกับเขาหรือเธอด้วยความเคารพเช่นกัน
   • ความหลังของการไม่ซื่อสัตย์ แม้บางความสัมพันธ์จะสามารถก้าวผ่านความไม่ซื่อสัตย์ในอดีต แต่ความไว้ใจที่ถูกทำลายนั้นยากที่จะซ่อมแซมและแม้ว่าคุณจะสามารถสร้างมันกลับคืน มันก็จะถูกทำลายอีกครั้งได้ง่าย ความสัมพันธ์ที่เคยประสบกับความไม่ซื่อสัตย์นั้นต้องการความช่วยเหลือพิเศษในรูปแบบของการให้คำปรึกษาอย่างต่อเนื่องเพื่อซ่อมแซมความไว้ใจที่ถูกทำลาย
2. 
   2
   รับฟังเพื่อนและครอบครัวของคุณ. แม้คุณจะรู้สึกว่าคุณเอาอยู่แต่คนที่ใกล้ชิดคุณและรู้จักคุณดีมีมุมมองเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของคุณ หากบางคนที่คุณรู้จักและไว้ใจมีความรู้สึกที่ไม่ดีเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของคุณ คุณก็ควรรับฟังเป็นข้อชี้แนะว่าอาจจะมีปัญหาเกิดขึ้น

   • หากคุณรู้ว่าเพื่อนหรือสมาชิกในครอบครัวไม่ชอบแฟนเก่าของคุณ คุณก็ควรนั่งลงและพูดคุยว่าทำไม ลองดูว่ามันเป็นเพราะวิธีที่แฟนเก่าของคุณปฏิบัติต่อคุณหรือผู้อื่นหรือไม่ ลองหาความรู้ที่เพื่อนคุณมีแต่คุณอาจจะไม่มีหรือหลักฐานที่อาจจะมีความหมาย
3. 
   3
   ยอมรับการเลิกราและเดินหน้าต่อ. หากขั้นตอนเหล่านี้ไม่ได้ผลสำหรับคุณและ/หรือหากคุณได้ประเมินสถานการณ์และตัดสินใจว่ามันไม่ฉลาดที่จะพยายามได้แฟนเก่าคืนมา คุณต้องมั่นใจว่าคุณใช้เวลากับตัวเองเพื่อเยียวยาใจที่แตกสลาย

   • งานวิจัยพบว่ามันสำคัญที่ต้องจดจ่อกับส่วนที่ดีที่สุดของความสัมพันธ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิธีที่มันช่วยให้คุณเติบโตในฐานะบุคคลหนึ่งและปล่อยให้ตัวเองลืมประสบการณ์ที่ไม่ดี วิธีหนึ่งที่จะช่วยให้คุณทำสิ่งนี้คือการใช้เวลา 15 ถึง 30 นาทีต่อวันเป็นเวลา 3 วันติดกันเพื่อเขียนด้านที่ดีเกี่ยวกับการเลิกรา
   • หลังจาก 3 วันนั้นคุณต้องปล่อยความสัมพันธ์นี้ไป ให้เวลาตัวเองเพื่ออยู่ลำพัง ใช้เวลากับเพื่อนและครอบครัวและทำสิ่งที่คุณรัก เมื่อคุณอยู่ในที่ที่ดี คุณก็จะสามารถมองหารักได้อีกครั้ง

เคล็ดลับ

• มันยากที่จะได้แฟนเก่าคืนมา จำไว้ว่ามันอาจจะไม่ได้ผลและหากมันไม่ได้ผลคุณก็ต้องรักษาการควบคุมและศักดิ์ศรี
• เป็นตัวของตัวเอง อย่าเป็นคนอื่นเพื่อต้องการดึงดูดเขาหรือเธออีกครั้ง แฟนเก่าของคุณตกหลุมรักคุณตั้งแต่แรกเพราะคุณเป็นตัวของตัวเอง อย่าเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อใคร
• บางความสัมพันธ์ไม่ควรจะเกิดตั้งแต่แรก อย่าฝืนหากอีกฝ่ายไม่สนใจ
• จำไว้ว่ามันต้องใช้เวลา อย่าสูญเสียศรัทธา
• การกลับมาคบกันนั้นเสี่ยง คุณอาจจะเติบโตและสัมผัสความเป็นตัวของตัวเองระหว่างช่วงที่คุณเลิกกันแต่แฟนเก่าของคุณอาจจะนำคุณกลับมาสู่จุดเดิมหากคุณตกลงที่จะกลับมาคบกัน
• ค่อยๆ หยิบยกความทรงจำหรือมุขตลกในอดีตที่ทำให้เขาหรือเธอรู้สึกอย่างที่เคยรู้สึก
• แสดงให้เขาเห็นว่าคุณสบายดีโดยไม่มีเขา มันจะชัดเจนกับเขาว่าคุณไม่ใช่แฟนเก่าที่หมกมุ่นแต่มันจะยังแสดงให้เขาเห็นว่าคุณสามารถมีความสุขได้โดยไม่ต้องมีเขาซึ่งอาจจะทำให้เขาคิดถึงคุณมากขึ้นไปอีก

คำเตือน

• หลีกเลี่ยงพฤติกรรมข่มขู่ สะกดรอยหรือผิดกฎหมายหรือผิดจริยธรรม ในหลายที่ในโลก คุณอาจจะได้รับคำสั่งหรือแม้แต่ถูกจับเข้าคุกหากพฤติกรรมของคุณล้ำเส้นเข้าข่ายการสะกดรอยตาม