ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความX
บทความนี้ร่วมเขียนโดยเหล่าบรรณาธิการและนักวิจัยที่ผ่านการฝึกฝนมาเพื่อความถูกต้องและครอบคลุมของเนื้อหา
ทีมผู้จัดการด้านเนื้อหาของวิกิฮาว จะตรวจตราผลงานจากทีมงานด้านเนื้อหาของเราเพื่อความมั่นใจว่าบทความทุกชิ้นได้มาตรฐานตามที่เราตั้งไว้
บทความนี้ถูกเข้าชม 3,838 ครั้ง
เทียนดำเป็นยารักษาโรคด้วยตนเองมาตั้งแต่โบราณกาล และเรียกอีกอย่างว่าฮับบาตุซเซาดะฮ์ โดยเชื่อกันว่าเทียนดำมีฤทธิ์กระตุ้นภูมิคุ้มกัน และมีคุณสมบัติต้านแบคทีเรีย ต้านการอักเสบ ต้านเชื้อรา และต้านพยาธิ คนใช้เทียนดำในการรักษาโรคเกี่ยวกับระบบย่อยอาหารและปัญหาเกี่ยวกับทางเดินหายใจ แต่งานวิจัยก็พิสูจน์แล้วว่าเทียนดำมีสารต้านมะเร็งด้วย ในการใช้เทียนดำนั้น คุณจะต้องนำเมล็ดเทียนดำดิบไปผ่านความร้อนก่อนแล้วนำไปบดก่อนรับประทาน นอกจากนี้คุณยังสามารถผสมกับน้ำผึ้ง น้ำเปล่า โยเกิร์ต หรืออาหารอื่นๆ ได้ด้วย หรือจะนำน้ำมันเทียนดำทาลงบนผิวเฉพาะที่ก็ได้เช่นกัน
ขั้นตอน
นำเมล็ดไปคั่วก่อนรับประทาน. คุณไม่สามารถรับประทานเมล็ดเทียนดำดิบทั้งเมล็ดได้ แต่ต้องนำไปผ่านความร้อนก่อนเพื่อปกป้องกระเพาะอาหารและทำให้รสชาติดีขึ้นด้วย ใส่เมล็ดลงในกระทะและตั้งไฟอ่อน คนเมล็ดทุกๆ 2-3 นาที[1]- คุณจะรู้ว่าเมล็ดสุกแล้วก็ต่อเมื่อมันไม่มีรสชาติ หลังจากที่คุณคั่วเมล็ดไปประมาณ 5 นาที ให้ลองชิมดู ถ้ามันยังฝาดอยู่ ก็ต้องคั่วนานกว่านี้
นำเมล็ดไปบดหลังจากคั่วเสร็จแล้ว. นำเมล็ดไปบดในเครื่องบดเมล็ดกาแฟหรือเครื่องเทศ บดให้มีขนาดเล็กพอที่คุณจะรับประทานได้ง่ายๆ และถ้าจะให้รับประทานได้ง่ายที่สุดก็คือต้องบดละเอียดเป็นผงแป้ง[2]- คุณจะใช้ครกกับสากตำเมล็ดเทียนดำแทนการบดก็ได้
นำผงเมล็ดเทียนดำใส่ไว้ในภาชนะที่อากาศเข้าไม่ได้. คุณต้องใส่ผงเมล็ดเทียนดำไว้ในภาชนะที่ความชื้นไม่สามารถเข้าไปได้ คุณจะใส่ไว้ในแคปซูลยาหรือเก็บไว้ในโหลก็ได้เพื่อให้ง่ายต่อการรับประทานในแต่ละวัน
ซื้อน้ำมันเมล็ดเทียนดำหรือเมล็ดเทียนดำที่ผ่านการคั่วแล้ว. ถ้าคุณไม่อยากนำเมล็ดมาคั่วและบดเอง คุณก็สามารถซื้อเมล็ดแบบที่คั่วแล้วหรือน้ำมันเทียนดำก็ได้ โดยหาซื้อได้ทางออนไลน์หรือร้านขายอาหารธรรมชาติและร้านขายอาหารเพื่อสุขภาพจากธรรมชาติทั่วไป- อย่าซื้อผลิตภัณฑ์ที่แนะนำให้รับประทานในปริมาณมาก เพราะคุณรับประทานแค่นิดเดียวก็ได้ เช่น ครั้งละ 1 ช้อนโต๊ะ วันละ 1-2 ครั้ง
โฆษณา
รับประทานเมล็ดเทียนดำครั้งละ 1 ช้อนชา วันละ 2 ครั้ง. เชื่อกันว่าเมล็ดเทียนดำนั้นช่วยเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันและป้องกันโรคต่างๆ มากมาย ในการรับประทานเพื่อเสริมภูมิคุ้มกันโดยรวมขั้นพื้นฐานนั้น ให้คุณรับประทานเมล็ดเทียนดำครั้ง 1 ช้อนชา วันละ 2 ครั้ง- นอกจากนี้คุณยังสามารถใช้น้ำมันเทียนดำได้ด้วย แต่เมล็ดเทียนดำที่บริสุทธิ์ที่สุดก็คือเมล็ดที่คุณคั่วเอง เพราะมันรับประกันได้ว่า คุณจะไม่ได้รับสารปรุงแต่งที่ไม่จำเป็นหรือเป็นอันตราย
ผสมน้ำมันเทียนดำกับน้ำผึ้ง. ตวงน้ำมันเมล็ดเทียนดำ 1 ช้อนชาแล้วผสมกับน้ำผึ้งป่าแท้ 1 ช้อนชา รับประทานส่วนผสมนี้วันละ 1-3 ครั้ง เชื่อกันว่าส่วนผสมนี้มีคุณสมบัติในการรักษาโรคต่างๆ มากมาย เช่น มะเร็ง เบาหวาน ไข้หวัดใหญ่ และซิสติก ไฟโบรซิส[3]- คุณจะเติมผงเมล็ดเทียนดำบด 1 ช้อนชาลงไปในส่วนผสมด้วยก็ได้
ทำน้ำเมล็ดเทียนดำ. ถ้าคุณไม่อยากบดเมล็ดแต่อยากให้มันผ่านความร้อนก่อนรับประทาน คุณก็สามารถต้มลงไปในน้ำได้ ต้มเมล็ดเทียนดำ 1 ช้อนชาลงไปในน้ำเล็กน้อย หลังจากน้ำเดือดแล้ว ทิ้งไว้ให้เย็นลงประมาณ 5 นาที จากนั้นเทใส่แก้วน้ำร้อนเมื่อมันเย็นพอที่จะดื่มได้แล้ว
ผสมน้ำมันเทียนดำกับเคเฟอร์หรือโยเกิร์ต. น้ำมันเมล็ดเทียนดำนั้นใช้รักษาอาการเจ็บป่วยที่ลำไส้และกระเพาะอาหารมาเนิ่นนานแล้ว ถ้าคุณเป็นโรคลำไส้แปรปรวน ท้องเสีย หรือมีปัญหาเกี่ยวกับทางเดินอาหารอื่นๆ ให้ผสมเคเฟอร์ กรีกโยเกิร์ต หรือโยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1 ถ้วยกับน้ำมันเมล็ดเทียนดำ 1 ช้อนชา รับประทานวันละ 2 ครั้ง[4]
ใส่เมล็ดเทียนดำลงในอาหาร. หลังจากที่คุณคั่วและบดเมล็ดแล้ว คุณก็สามารถใส่เมล็ดเทียนดำลงในอาหารประเภทใดก็ได้ คุณอาจจะใส่เมล็ดเทียนดำ 1 ช้อนชาในขนมปัง ข้าวโอ๊ต สมูตตี้ หรืออาหารอื่นๆ ที่คุณรับประทานโฆษณา
นวดน้ำมันเมล็ดเทียนดำลงบนผิวหนัง. น้ำมันเมล็ดเทียนดำมีคุณสมบัติต้านการอักเสบและต้านแบคทีเรีย ซึ่งเหมาะกับการรักษาสิวหรือปัญหาผิวอื่นๆ นอกจากนี้ยังประกอบไปด้วยวิตามิน สารอาหาร และสารต้านอนุมูลอิสระมากมายที่ช่วยในเรื่องของการชะลอวัยด้วย นวดน้ำมันเมล็ดเทียนดำลงบนผิวเป็นประจำทุกวันเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของกิจวัตรในการดูแลผิว
ทาน้ำมันเมล็ดเทียนดำที่หน้าอก. น้ำมันเมล็ดเทียนดำมีคุณสมบัติที่ช่วยในเรื่องของระบบทางเดินหายใจและมีคุณสมบัติในการรักษาโรค เช่น ซิสติก ไฟโบรซิส ถูน้ำมันเมล็ดเทียนดำลงบนหน้าอกบางๆ วิธีนี้จะช่วยให้น้ำมันซึมเข้าไปในผิวและคุณก็จะได้สูดน้ำมันเข้าไปด้วย
ถูน้ำมันตรงขมับ. น้ำมันเมล็ดเทียนดำอาจช่วยบรรเทาอาการปวดหัวได้โดยการนวดลงบนขมับ นอกจากนี้คุณยังสามารถนวดน้ำมันเทียนดำ 2-3 หยดบนหนังศีรษะได้ด้วย- ถ้าคุณปวดไมเกรนอย่างรุนแรง คุณก็สามารถแตะน้ำมัน 2-3 หยดเข้าไปในรูจมูกได้ ซึ่งจะทำให้คุณหายใจเอาน้ำมันเมล็ดเทียนดำเข้าไปและอาจช่วยบรรเทาอาการปวดหัวได้
ผสมเมล็ดเทียนดำบดกับน้ำมันมะกอกเพื่อบรรเทาอาการปวดหู. นอกจากนี้เมล็ดเทียนดำก็อาจช่วยบรรเทาอาการปวดหูได้ด้วยการตักเมล็ดเทียนดำที่ผ่านการคั่วและบดแล้ว 1 ช้อนชา ผสมกับน้ำมันมะกอก 2-3 หยด คนจนกว่าจะผสมเป็นเนื้อเดียวกัน หยดส่วนผสมประมาณ 7 หยดลงในหูทั้งตอนเช้าและกลางคืนโฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
นักเขียนในทีมวิกิฮาว
บทความนี้ร่วมเขียนโดยเหล่าบรรณาธิการและนักวิจัยที่ผ่านการฝึกฝนมาเพื่อความถูกต้องและครอบคลุมของเนื้อหา
ทีมผู้จัดการด้านเนื้อหาของวิกิฮาว จะตรวจตราผลงานจากทีมงานด้านเนื้อหาของเราเพื่อความมั่นใจว่าบทความทุกชิ้นได้มาตรฐานตามที่เราตั้งไว้ บทความนี้ถูกเข้าชม 3,838 ครั้ง
ทีมผู้จัดการด้านเนื้อหาของวิกิฮาว จะตรวจตราผลงานจากทีมงานด้านเนื้อหาของเราเพื่อความมั่นใจว่าบทความทุกชิ้นได้มาตรฐานตามที่เราตั้งไว้ บทความนี้ถูกเข้าชม 3,838 ครั้ง
หมวดหมู่: เครื่องสำอาง
มีการเข้าถึงหน้านี้ 3,838 ครั้ง
บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม
⚠️ Disclaimer:
Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.
- - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
- - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
- - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
- - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.
โฆษณา
