วิธีการ ทำลิปบาล์ม

ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ใช้ลิปบาล์มแทบทุกวัน ถ้าทำเองได้ก็ช่วยประหยัดแถมสนุกดี ที่สำคัญคือคุณเลือกได้ว่าจะผสมอะไรในลิปบาล์มบ้าง ทั้งปลอดภัยและได้ลิปบาล์มทำมือที่ทั้งสี กลิ่น และรสถูกใจอย่าบอกใคร แต่ถ้าขี้เกียจคิดสูตรเอง บทความวิกิฮาวนี้ก็มีสูตรทำลิปบาล์มมาฝากกัน ทำครั้งเดียวได้ลิปบาล์มได้หลายกระปุกเลย ทำเสร็จก็ให้เก็บในตู้เย็น หรือเอาไปฝากเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ก็ได้เหมือนกัน

วิธีการ 1

วิธีการ 1 ของ 3:

ทำลิปบาล์มจากปิโตรเลียมเจลลี่

ดาวน์โหลดบทความ

เทปิโตรเลียมเจลลี่ 2 ช้อนโต๊ะ (ประมาณ 30 กรัม) ใส่ชามทนความร้อน. นี่คือ base หรือลิปบาล์มตั้งต้น^{[1]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง} แนะนำให้ใช้ปิโตรเลียมเจลลี่ธรรมดา ที่ไม่แต่งรส กลิ่น สี เพราะถ้ามีสีมาแล้ว แสดงว่าเป็นลิปบาล์มนะจ๊ะ!
อุ่นปิโตรเลียมเจลลี่ 30 วินาทีด้วยกัน จากนั้นคนเล็กน้อย แล้วอุ่นต่ออีก 30 วินาที ให้อุ่นต่อรอบละ 30 วินาทีแบบนี้เป็นรอบๆ ไป โดยหยุดคนระหว่างรอบ จนปิโตรเลียมเจลลี่เหลว^{[2]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง} ถึงตอนนี้ ปิโตรเลียมเจลลี่จะใส ไม่มีเศษหรือจับตัวเป็นก้อน ขั้นตอนนี้ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 3 - 4 นาที^{[3]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
3
ใส่สีและ/หรือผงชิมเมอร์ ตามต้องการ. ขั้นตอนนี้ไม่บังคับ ถ้าทำตามขั้นตอนนี้ ก็จะได้ลิปบาล์มที่ทั้งบำรุงริมฝีปาก และเป็นลิปสเตนหรือลิปกลอสในตัว ให้เลือกใช้หนึ่งในส่วนผสมที่แนะนำด้านล่าง แล้วคนให้เข้ากันกับเบสลิปบาล์ม
- แต่งสีลิปบาล์มด้วยบลัชออนหรืออายแชโดว์ที่บดเป็นผง^{[4]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง} หรือบิลิปสติกผสมหน่อยก็ใช้ได้เหมือนกัน^{[5]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- แต่งสีและความวาวด้วยกลิตเตอร์แต่งหน้าหรือผงไมก้า^{[6]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง} หรือใช้ผงชิมเมอร์แบบกินได้ ที่เอาไว้แต่งหน้าเค้กแทน^{[7]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- แต่งสีและรสด้วยผงชงเครื่องดื่ม แต่ระวังจะละลายไม่หมด^{[8]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
ใส่น้ำมันมะพร้าว ¼ ช้อนชา เพื่อบำรุงริมฝีปากมากกว่าเดิม. ขั้นตอนนี้ไม่จำเป็น แต่จะทำให้ลิปบาล์มช่วยบำรุงริมฝีปากได้ดียิ่งขึ้น แถมได้รสและกลิ่นหอมอ่อนๆ ไม่ฉุนจัด^{[9]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
5
แต่งรสด้วยสารสกัด น้ำมันหอมระเหย หรือผงแต่งรส. ขั้นตอนนี้ก็ไม่จำเป็น แต่ก็ช่วยให้ลิปบาล์มหอมและมีรสน่ากินไปอีกขั้น ให้หยดน้ำมันหอมระเหย 2 - 3 หยดหรือสารสกัด แนะนำเปปเปอร์มิ้นท์ หรือสเปียร์มิ้นท์ จะสุดยอดมา! อาจจะใช้ผงชงเครื่องดื่ม หรือผงโกโก้แทนก็ได้^{[10]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ถ้าใช้ผงชงเครื่องดื่มหรือผงโกโก้ แน่นอนว่าสีลิปบาล์มจะเปลี่ยนไป
6
กรอกลิปบาล์มใส่ตลับเล็กๆ ที่ล้างสะอาดแล้ว. เลือกตลับหรือกระปุกพลาสติกเล็กๆ ที่มีฝาหมุนปิดได้ ปกติมีขายตามร้านอุปกรณ์งานฝีมือ โดยเฉพาะโซนอุปกรณ์ทำสบู่ และในเน็ต หรือร้านขายอุปกรณ์วาดเขียน และในซูเปอร์มาร์เก็ต โซนเครื่องสำอางพกพา ขนาดตลับลิปบาล์มที่เหมาะสม คือประมาณ 1 นิ้ว (2.5 ซม.) สูตรนี้ทำแล้วกรอกใส่ได้หลายตลับ/กระปุกเลย
- กระป๋องเหล็กใส่ยาอมก็ใส่ลิปบาล์มได้เหมือนกัน!
ตั้งลิปบาล์มไว้ในที่ปลอดภัย ไม่มีใครชนหก อย่าเพิ่งปิดฝา ให้รอจนแข็งตัวก่อน น่าจะใช้เวลาประมาณ 1 - 2 ชั่วโมง^{[11]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง} แต่ถ้ารีบใช้ ให้เอาลิปบาล์มแช่ตู้เย็นหรือช่องฟรีซสัก 10 - 15 นาทีแทน
โฆษณา

วิธีการ 2

วิธีการ 2 ของ 3:

ทำลิปบาล์มจากขี้ผึ้ง น้ำมัน และบัตเตอร์ต่างๆ (ไขมันที่แข็งตัว)

ดาวน์โหลดบทความ

เติมน้ำใส่หม้อแบบมีด้ามจับ ให้สูงประมาณ 1 - 2 นิ้ว (2.5 - 5 ซม.) จากนั้นซ้อนชามทนความร้อนในหม้ออีกที ถ้าไม่มีชามแบบที่ว่า ให้ใช้ขวดโหลแก้วแทน ตอนนี้อย่าเพิ่งเปิดไฟนะ!
2
ใส่น้ำมันตัวพา 3 ½ ช้อนโต๊ะ (ประมาณ 50 มิลลิลิตร) ในชาม. น้ำมันตัวพา (carrier oil) เป็นน้ำมันเหลวๆ แบบ food-grade (เข้าปากแล้วไม่เป็นไร) ใช้ทำเบสลิปบาล์มได้ แถมช่วยบำรุงริมฝีปาก เพิ่มความชุ่มชื้น จะใช้แค่ชนิดเดียว หรือหลายๆ ชนิดรวมกันก็ได้ น้ำมันตัวพาที่แนะนำ รวมถึงประโยชน์ที่ได้ก็เช่น^{[12]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- น้ำมันมะพร้าว กลิ่นหอม รสอร่อย จะแข็งตัวในอุณหภูมิห้อง แต่ก็ละลายเร็ว
- น้ำมันมะกอก เป็นน้ำมันดีมีประโยชน์ แถมหาง่าย ส่วนใหญ่จะมีติดบ้านกัน!
- น้ำมันทานตะวัน ช่วยฟื้นฟูผิวเสีย
- น้ำมันอัลมอนด์หวาน ช่วยบำรุงริมฝีปากให้นุ่มเนียน
- น้ำมันกุหลาบ ช่วยให้ปากนุ่ม ไม่ขาดน้ำ แถมกลิ่นหอม
3
ใส่น้ำมันอีกชนิด ปริมาณ ½ ช้อนโต๊ะ (ประมาณ 8 มิลลิลิตร). ถ้าอยากผสมอย่างง่าย จะใช้น้ำมันชนิดเดียวกับตอนแรกก็ได้ (น้ำมันมะพร้าว น้ำมันมะกอก เป็นต้น) หรือใช้โอกาสนี้ เพิ่มเติมน้ำมันที่เข้มข้นกว่าเข้าไปก็ได้ เช่น^{[13]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- น้ำมันแอพริคอท เหมาะกับคนที่ผิวแพ้ง่ายและ/หรือผิวสูงวัย
- น้ำมันอะโวคาโด เข้มข้นมาก เหมาะกับคนปากแห้ง เพราะช่วยคืนความชุ่มชื้น
- น้ำมันละหุ่ง ช่วยเพิ่มความมันวาวให้ลิปบาล์ม
- น้ำมันเมล็ดกัญชง ช่วยฟื้นฟูสภาพริมฝีปาก
- โจโจ้บาออยล์ เด่นเรื่องแก้ปากแห้งแตก ให้กลับนุ่มชุ่มชื้น
- น้ำมันเมล็ดทับทิม ก็เป็นอีกชนิดที่เข้มข้น ช่วยให้ปากนุ่มชุ่มชื้น สดใสขึ้น
ลองใช้ขี้ผึ้งขูด หรือขี้ผึ้งเม็ดดู เพราะละลายง่ายดี ถ้าเป็นสายวีแกน มังสวิรัติเคร่งๆ ไม่ใช้ผลิตภัณฑ์จากสัตว์ ให้ใช้ candelilla wax หรือไขจากต้นแคนเดลิลลา ½ ช้อนโต๊ะ (ประมาณ 8 กรัม) แทน^{[14]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
5
ใส่บัตเตอร์ (ไขมันที่แข็งตัว) 1 ช้อนโต๊ะ. บัตเตอร์ที่ว่า ไม่ใช่เนยที่ใช้ทาขนมปังปิ้ง แต่ solid butter นั้นหมายถึวน้ำมันชนิดต่างๆ ที่แข็งตัวในอุณหภูมิห้องนั่นเอง จริงๆ แล้วจะไม่ใส่ ก็ได้ แต่ถ้าใส่ก็จะช่วยให้ลิปบาล์มเนียนเข้มข้นยิ่งขึ้น บัตเตอร์ที่แนะนำให้ผสมในลิปบาล์มก็เช่น^{[15]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- แมงโก้บัตเตอร์ (มะม่วง)
- เชียบัตเตอร์
- โกโก้บัตเตอร์ และเพิ่มน้ำมันตัวพาเล็กน้อย แต่บัตเตอร์ชนิดนี้จะแห้งได้
- โคคุมบัตเตอร์ (Kokum butter) และเพิ่มน้ำมันตัวพาเล็กน้อย
เปิดไฟที่เตา แล้วตั้งไฟอ่อนปานกลาง รอจนน้ำร้อน ค่อยใส่ส่วนผสมลงไปละลาย
วางพักไว้บนพื้นผิวที่ทนความร้อน แล้วคนทุกอย่างผสมกันจนสีเนียน อย่าให้สีเป็นจุดเป็นเส้น เหมือนลายหินอ่อน
8
ใส่น้ำมันหอมระเหย 5 - 10 หยด ตามต้องการ. จะข้ามขั้นตอนนี้ไปก็ได้ แต่น้ำมันหอมระเหยจะช่วยให้ลิปบาล์มหอมและมีรสเวลาทา แต่ระวังว่าน้ำมันหอมระเหยบางชนิด ก็ใช้กับผิว ไม่ได้ น้ำมันหอมระเหยที่ใช้ได้ปลอดภัยดีก็เช่น^{[16]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- หัวเชื้อวานิลลาเข้มข้นสูง (vanilla absolute) ใส่แล้วหอมหวาน เหมือนกินขนม
- เปปเปอร์มิ้นท์ หรือสเปียร์มิ้นท์ ใส่แล้วเย็นสดชื่น โดยใส่ได้มากถึง 16 หยดเลย
- ส้มแมนดาริน ส้มเกลี้ยง หรือส้มเขียวหวาน ก็ใส่แล้วเปรี้ยวหวานดี
- เลมอนหรือมะนาวเขียวก็ใช้ได้ ขอแค่เป็นแบบกลั่น ไม่ใช่สกัดเย็น
- ลาเวนเดอร์และกุหลาบ ก็กลิ่นหอมแน่นอน แต่บางคนก็ไม่ชอบรส
- กานพลู อันนี้อย่าใช้เยอะเกินไป (แค่ 1 - 2 หยดก็พอ)
- การบูร หรือทีทรีออยล์ก็ดีสำหรับแผลโรคเริม (cold sores) แต่ต้องใส่แค่เล็กน้อย 1 - 2 หยดเท่านั้น
9
กรอกลิปบาล์มใส่ตลับหรือกระปุกเล็กๆ สะอาดๆ. หาซื้อได้ในเน็ต หรือตามร้านขายอุปกรณ์ทำสบู่ ไม่ก็ในซูเปอร์มาร์เก็ต แถวพวกเครื่องสำอางพกพา อีกทีก็ร้านขายบรรจุภัณฑ์ต่างๆ ให้เลือกที่มีความกว้างประมาณ 1 นิ้ว (2.5 ซม.)
- เช็คดีๆ ว่าตลับหรือกระปุกสะอาดดี
วางกระปุกหรือตลับพักไว้แบบเปิดฝา บริเวณที่ไม่มีใครมาจับต้อง แล้วรอจนลิปบาล์มเซ็ตตัวแข็ง ส่วนมากไม่เกิน 1 ชั่วโมง แต่ถ้าตลับเล็กๆ แค่ไม่เกิน 10 - 15 นาทีก็ได้แล้ว ถ้ารีบใช้เป็นพิเศษ ให้เอาตลับหรือกระปุกลิปบาล์มไปแช่ตู้เย็นหรือช่องฟรีซสัก 2 - 3 นาที
โฆษณา

วิธีการ 3

วิธีการ 3 ของ 3:

ลองทำลิปบาล์มสูตรอื่น

ดาวน์โหลดบทความ

1
ทำลิปบาล์มรสน้ำผึ้งแก้ปากแตก. นึ่งขี้ผึ้งให้ละลายไปครึ่งหนึ่ง ด้วยวิธี double-boiler (ซ้อนชามในน้ำร้อน) คนผสมน้ำมันมะพร้าว และน้ำผึ้งเล็กน้อยเข้าไป รอจนทุกอย่างละลายหมด ค่อยยกชามออกจากน้ำร้อน ผสมวิตามินอีเข้าไป 2 แคปซูล และน้ำมันหอมระเหย 2 - 3 หยด (แล้วแต่ชอบ) สุดท้ายเทส่วนผสมใส่ตลับลิปบาล์ม ทิ้งไว้ให้เย็นลงจนแข็งตัว^{[17]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ขี้ผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ (15 กรัม)
- น้ำมันมะพร้าว 1 ช้อนโต๊ะ (15 กรัม)
- น้ำผึ้ง 1 เหยาะ
- วิตามินอี 2 แคปซูล
- น้ำมันหอมระเหย (ถ้ามี)
2
ทำลิปบาล์มน้ำมันหอมระเหยซินนามอน (อบเชย) ใช้แล้วปากดูอวบอิ่ม. ละลายน้ำมันมะพร้าวกับขี้ผึ้งด้วยวิธี double-boiler ผสมน้ำมันวิตามินอี น้ำผึ้ง และน้ำมันหอมระเหย เสร็จแล้วกรอกใส่ตลับลิปบาล์ม แล้วทิ้งไว้ให้แข็งตัว^{[18]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- น้ำมันมะพร้าว 4 ช้อนโต๊ะ (60 กรัม)
- ขี้ผึ้ง 1½ ช้อนโต๊ะ (ประมาณ 20 กรัม)
- วิตามินอี 2 - 3 แคปซูล
- น้ำผึ้ง ¾ ช้อนโต๊ะ (ประมาณ 10 กรัม)
- น้ำมันหอมระเหยซินนามอน (อบเชย) 15 หยด
3
ใส่ pumpkin pie spice ให้เข้ากับฤดูใบไม้ร่วง. ละลายน้ำมันอัลมอนด์กับขี้ผึ้งแบบ double-boiler คนผสมน้ำผึ้งและ pumpkin pie spice ลงไป เทใส่ตลับลิปบาล์มเล็กๆ แล้วทิ้งไว้ให้แข็งตัว^{[19]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- น้ำมันอัลมอนด์หวาน 2 ช้อนโต๊ะ (30 มิลลิลิตร)
- ขี้ผึ้ง 1 ช้อนชา
- น้ำผึ้ง 1 ช้อนชา
- pumpkin pie spice ¼ ช้อนชา
4
ใช้เบอร์รี่ฟรีซดรายแต่งสีและรสลิปบาล์ม. พอได้สตรอว์เบอร์รี่หรือราสเบอร์รี่ฟรีซดรายมา ก็ให้ปั่นในเครื่องปั่นหรือเครื่องผสมอาหาร แล้วแยกไว้ จากนั้นละลายส่วนผสมทั้งหมดแบบ double-boiler คนผสมให้เข้ากัน แล้วกรองผ่านกระชอน บรรจุลงในตลับลิปบาล์ม ทิ้งไว้จนแข็งตัว คนเป็นระยะ อะไรที่ติดอยู่ในกระชอนก็ทิ้งไป^{[20]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ขี้ผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ (15 กรัม)
- น้ำมันมะพร้าว ½ ช้อนโต๊ะ (ประมาณ 8 กรัม)
- น้ำมันอัลมอนด์หวาน ½ ช้อนโต๊ะ (ประมาณ 8 มิลลิลิตร)
- น้ำมันวิตามินอี ⅛ ช้อนชา
- สตรอว์เบอร์รี่หรือราสเบอร์รี่ฟรีซดราย 2 - 4 ช้อนโต๊ะ (15 - 30 กรัม)
5
ใส่สีลิปบาล์มโดยเปลี่ยนขี้ผึ้งเป็นสีเทียน. แกะกระดาษห่อสีเทียนออกก่อน แล้วหั่นเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ละลายแบบ double-boiler ให้เข้ากับน้ำมันมะพร้าว ใส่น้ำมันหอมระเหยด้วยก็ได้ เทส่วนผสมที่ละลายแล้วใส่ตลับลิปบาล์ม แล้วทิ้งไว้จนแข็งตัว สูตรนี้ใช้สีเทียนซึ่งปกติเข้าปากแล้วอาจเป็นอันตรายได้ ทางที่ดีผสมใช้เล่นๆ แค่ไม่กี่ครั้งจะปลอดภัยกว่า และไม่แนะนำให้ใช้กับเด็กๆ^{[21]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- น้ำมันมะพร้าว 2 ช้อนชา
- สีเทียนคุณภาพดี 1 แท่ง
- น้ำมันหอมระเหย 1 - 2 หยด (ถ้ามี)
6
ใส่กลีบกุหลาบให้หรูดูแพง. ละลายทุกอย่างด้วยวิธี double-boiler จากนั้นคนผสมเข้าด้วยกัน แล้วเทใส่ตลับลิปบาล์ม ถ้าไม่อยากให้มีกลีบกุหลาบติดไปด้วย ก็กรองด้วยกระชอนก่อน ทิ้งให้ลิปบาล์มเย็นจนแข็งตัวแล้วค่อยใช้^{[22]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ขี้ผึ้ง 4 ช้อนโต๊ะ (60 กรัม)
- น้ำมันมะพร้าว 2 ช้อนโต๊ะ (30 กรัม)
- เชียบัตเตอร์ 2 ช้อนโต๊ะ (30 กรัม)
- น้ำมันอัลมอนด์หวาน 1 ช้อนชา
- กลิ่นมะพร้าว หรือกลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
- กลีบกุหลาบอบแห้ง บดเป็นผง ¼ ถ้วยตวง (ประมาณ 60 กรัม)
โฆษณา

เคล็ดลับ

คุณสามารถทำลิปบาล์มได้หลายสีและรสในรอบเดียว โดยเริ่มจากผสมลิปบาล์มธรรมดา แล้วแบ่งใส่หลายๆ ถ้วย หยดสี รส และกลิ่นที่ชอบลงไป แล้วเทใส่ภาชนะที่ต้องการ
ผสมปิโตรเลียมเจลลี่แล้วช่วยให้ลิปบาล์มนิ่มขึ้น ส่วนขี้ผึ้งจะทำให้ลิปบาล์มแน่นแข็งขึ้น
ตกแต่งฝาภาชนะใส่ลิปบาล์มด้วยลูกปัด เปลือกหอย หรือหินสี โดยติดกาวแบบทนทานหน่อย เช่น E6000^{[23]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
ถ้าไม่สะดวกทำ double-boiler (ซ้อนชามในน้ำร้อน) ให้เตรียมลิปบาล์มในขวดโหลปากกว้างแทน จากนั้นเอาขวดโหลใส่หม้อที่ต้มน้ำเดือดสูงประมาณ 2 - 3 นิ้ว/ซม. เพื่อให้ทุกอย่างละลาย^{[24]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
แต่งสีให้ลิปบาล์มวิบวับ โดยใช้ผงชิมเมอร์ (ผงวิ้งๆ) แบบกินได้ หาซื้อได้ตามแผนกอุปกรณ์แต่งหน้าเค้กในร้านงานฝีมือ^{[25]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
ผสมผงชงเครื่องดื่มหลายรสได้ เช่น ผสมผงน้ำมะนาว ให้รสเบอร์รี่อ่อนขึ้น สีลิปบาล์มจะเปลี่ยนจากแดงอมชมพู เป็นชมพูใสๆ ด้วย^{[26]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
ถ้าลิปบาล์มออกมาผิดพลาดตรงไหน ก็แค่ละลายใหม่อีกรอบด้วยวิธี double-boiler ถ้าลิปบาล์มแข็งไป ให้เพิ่มน้ำมัน ถ้าลิปบาล์มนิ่มไป ให้เพิ่มขี้ผึ้ง จากนั้นเทลิปบาล์มที่ละลายแล้ว กลับใส่ภาชนะ แล้วทิ้งไว้จนเซ็ตตัว^{[27]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
จริงๆ แล้วลิปบาล์มสูตรที่ทำง่ายใช้ง่ายที่สุด ก็คือใช้น้ำมันมะพร้าวแต้มริมฝีปากได้เลย^{[28]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
ทำลิปบาล์มเสร็จให้แช่เย็นไว้ โดยเฉพาะสูตรที่ผสมน้ำมันและบัตเตอร์ต่างๆ
คุณแต่งรสลิปบาล์มได้โดยใช้น้ำผึ้งหรือน้ำตาล แต่ถ้าเป็นน้ำตาลแบบไม่ผสมน้ำ ลิปบาล์มที่ได้ก็จะเป็นเกล็ดๆ

โฆษณา

คำเตือน

ต้องล้างภาชนะสำหรับบรรจุลิปบาล์มให้สะอาด ถ้าใช้ทั้งที่สกปรก ก็เสี่ยงจะมีแบคทีเรียปนเปื้อนในลิปบาล์ม ซึ่งจะติดไปยังคุณตอนใช้งาน
ถ้ามีการแต่งสีลิปบาล์มด้วยเครื่องสำอาง ต้องเลือกที่ใช้ทาปากได้ อย่าไปผสมยาทาเล็บหรืออื่นๆ ที่มีสารเคมีที่เข้าปากแล้วอันตราย ถ้าใช้สีผสมอาหารสำหรับแต่งหน้าเค้กได้จะดีที่สุด

โฆษณา