วิธีการ แยกลูกแมวจากแม่แมวเพื่อมาเลี้ยงในบ้านใหม่

ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความ

หากแมวที่บ้านมีลูกแมวซึ่งคุณวางแผนจะส่งไปเลี้ยงที่อื่น หรือถ้าคุณเองคิดจะเริ่มเลี้ยงลูกแมว คุณคงต้องเข้ามาดูเพื่อความมั่นใจว่าทุกๆ ฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าตัวลูกแมว แม่แมว เจ้าของใหม่ และตัวคุณเอง ทุกฝ่ายล้วนมีความสุข สิ่งสำคัญที่สุดคือการรอจนกว่าลูกแมวจะโตพอ ส่วนใหญ่จะเลือกที่อายุ 12-13 สัปดาห์ ถ้าทำเช่นนั้น แม่แมวมักจะปรับตัวต่อการถูกแยกกับลูกน้อยได้เร็ว ในทางตรงข้าม ลูกแมวนั้นอาจจะต้องการเวลานานกว่า เพื่อที่จะทำให้การเปลี่ยนแปลงของลูกแมวแต่ละตัวเป็นไปอย่างราบรื่นเท่าที่จะทำได้ คุณจำต้องเตรียมตัวลูกแมวไว้ล่วงหน้า ให้แน่ใจว่ามันหย่านมแล้ว ค่อยๆ แนะนำให้มันได้คุ้นเคยกับบ้านใหม่ และเพิ่มความทะนุถนอมถ้าต้องนำมันเข้ามาในบ้านที่มีแมวเจ้าบ้านอยู่ก่อนแล้ว

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 5:

เตรียมตัวลูกแมวไว้สำหรับการแยกบ้าน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 คาดการณ์ว่าจะแยกลูกแมวออกจากแม่ตอนที่พวกมันมีอายุราว 12 สัปดาห์....
    คาดการณ์ว่าจะแยกลูกแมวออกจากแม่ตอนที่พวกมันมีอายุราว 12 สัปดาห์. ลูกแมวส่วนใหญ่จะเริ่มหย่านมใน 8-10 สัปดาห์ ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่แนะนำให้ทิ้งลูกแมวอยู่ร่วมกับพี่น้องร่วมกรงของมันไปก่อนจนกระทั่ง 12-13 สัปดาห์ เพื่อมันจะได้รู้จักการเข้าสังคมกับแมวตัวอื่นๆ[1][2] การปรับตัวเข้าสังคมเป็นกระบวนการที่ลูกแมวจะได้สำรวจสภาพแวดล้อมรอบตัวและยอมรับในสิ่งที่มันเห็นว่าปกติ ลูกแมวที่เข้าสังคมได้ดีจะกล้า มีความมั่นใจและเป็นมิตร ในทางตรงข้าม การแยกลูกแมวออกจากแม่เร็วเกินไปจะทำให้ลูกแมวยังเรียนรู้อะไรไม่เต็มที่และมีนิสัยก้าวร้าว[3]
    • ลูกแมวจะเริ่มเรียนรู้ตั้งแต่อายุประมาณ 3 สัปดาห์และยังคงซึมซับประสบการณ์จนกระทั่งอายุ 12-14 สัปดาห์ที่ความสามารถในการปรับตัวเข้ากับสิ่งที่ไม่คุ้นเคยเริ่มหายไป
    • ความหมายของเรื่องนี้ก็คือลูกแมวจะได้ประโยชน์มากกับการเรียนรู้จากแม่จนกระทั่งอายุ 12 สัปดาห์ อย่างไรก็ดี ถ้าหากการย้ายไปบ้านใหม่ถูกเลื่อนช้าออกไปมาก ลูกแมวมักจะเริ่มรู้สึกหวาดกลัวและแอบซ่อนจากเจ้าของใหม่
  2. How.com.vn ไท: Step 2 ให้แน่ใจว่าลูกแมวได้เรียนรู้การใช้กระบะทรายแมวเป็นก่อนจะย้ายให้ห่างจากแม่....
    ให้แน่ใจว่าลูกแมวได้เรียนรู้การใช้กระบะทรายแมวเป็นก่อนจะย้ายให้ห่างจากแม่. ลูกแมวเรียนรู้การใช้กระบะทรายแมวในอัตราความเร็วที่แตกต่างกัน แต่ส่วนใหญ่จะใช้เป็นในตอน 12 สัปดาห์ ให้แน่ใจว่าลูกแมวได้เรียนรู้ทักษะสำคัญนี้จากแม่ก่อนจะนำไปเลี้ยงที่ใหม่[4]
  3. How.com.vn ไท: Step 3 แนะนำลูกแมวให้ได้กลิ่นเจ้าของใหม่.
    ลูกแมวเรียนรู้สภาพแวดล้อมได้อย่างมากผ่านทางกลิ่น พวกมันจะจดจำแม่ พี่น้องร่วมกระบะ และที่นอนด้วยกลิ่น ใช้ประโยชน์จากความรู้นี้เพื่อลดความเครียดในการปรับตัวของลูกแมวจากแม่ไปยังบ้านใหม่ ทำโดยการ:
    • ให้เจ้าของใหม่เอาเสื้อยืดเก่าที่มีกลิ่นเหมือนตัวเขา เพราะลูกแมวเน้นเรื่องกลิ่น การวางเสื้อผ้าของเจ้าของใหม่ในที่นอนของลูกแมวหรือที่โปรดเพื่อให้มันคุ้นชินกับกลิ่นตัวของคนๆ นั้น (นี่เรียกว่า ‘แนะนำตัวด้วยกลิ่น’) เวลาที่ลูกแมวย้ายมาบ้านใหม่ มันจะได้รู้สึกคุ้นกับกลิ่นหนึ่งในนั้นและจะรู้สึกปลอดภัยมากขึ้น
  4. How.com.vn ไท: Step 4 แนะนำกลิ่นของลูกแมวให้แมวที่อยู่ในบ้านใหม่ได้คุ้นเคย....
    แนะนำกลิ่นของลูกแมวให้แมวที่อยู่ในบ้านใหม่ได้คุ้นเคย. เช่นเดียวกัน ถ้าบ้านใหม่เลี้ยงแมวมาก่อน ให้นำชิ้นส่วนผ้าปูนอนที่มีกลิ่นลูกแมวติดอยู่ให้มันดม การทำเช่นนี้เหมือนกับได้ให้แมวเจ้าบ้าน ‘จับมือแนะนำตัว’ ก่อนจะได้เห็นลูกแมวใหม่ มันจะเริ่มสลายความตึงเครียดที่อาจก่อตัวขึ้นระหว่างสัตว์สองตัวนี้ได้
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 5:

ให้ลูกแมวหย่านม

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 เริ่มให้ลูกแมวหย่านมแม่ตอนอายุประมาณ 4 สัปดาห์....
    เริ่มให้ลูกแมวหย่านมแม่ตอนอายุประมาณ 4 สัปดาห์. ลูกแมวจำเป็นต้องหย่านมแม่และมากินอาหารแข็งก่อนจะนำไปเลี้ยงเพื่อสุขภาพและเพื่อหลีกเลี่ยงพฤติกรรมแย่ๆ อย่างเช่น “การดูดเส้นด้าย” ซึ่งแมวจะเคี้ยวและดูดของจำพวกผ้า[5] แม่แมวจะเริ่มหยุดให้นมลูกเอง ปกติมักอยู่ในราว 8-10 สัปดาห์ ถ้าคุณคิดจะเลี้ยงลูกแมวตั้งแต่ก่อนหน้านั้น คุณจำต้องเร่งกระบวนการหย่านม:[6]
  2. How.com.vn ไท: Step 2 แยกลูกแมวจากแม่แมว.
    ใน 4 สัปดาห์ คุณสามารถเริ่มแยกลูกแมวออกมาอยู่เองนานทีละสองสามชั่วโมง นำลูกแมวมาอยู่ในพื้นที่ที่มีกระบะทรายแมว ถ้วยอาหารและน้ำเป็นของตนเอง
  3. How.com.vn ไท: Step 3 สอนลูกแมวให้เลียน้ำนมโดยใช้นมผงชนิดชงสำหรับลูกแมวในชามตื้น....
    สอนลูกแมวให้เลียน้ำนมโดยใช้นมผงชนิดชงสำหรับลูกแมวในชามตื้น. ให้ใช้นิ้วจุ่มลงไปในชามนม ลูกแมวจะพยายามดูดนิ้วมือคุณ แต่จะพบ (โดยสัญชาตญาน) ว่าเลียนิ้วจะง่ายกว่าดูด[7]
    • อย่าให้นมวัวแก่ลูกแมว เพราะมันอาจมีผลต่อระบบย่อยอาหาร
  4. How.com.vn ไท: Step 4 เริ่มให้อาหารแข็ง.
    พอลูกแมวสามารถเลียนมได้ ก็ถึงเวลาแนะนำอาหารแข็งที่ทำให้แฉะ คุณอาจจะเริ่มจากให้อาหารเหลวแบบข้าวต้มอย่างต่อเนื่อง และค่อยๆ ลดความแฉะออกไปช้าๆ จนกระทั่งเมื่ออายุได้ 8-10 สัปดาห์ ลูกแมวจะกินอาหารแห้งได้[8]
    • จะทำอาหารแมวแบบข้าวต้ม ให้ผสมอาหารแมวแห้งหรือชนิดกระป๋องกับนมผงชนิดชงจนกระทั่งมันข้นในระดับข้าวโอ๊ต
    • ในแต่ละวัน ค่อยๆ ลดปริมาณนมผงลงจนกระทั่งในสัปดาห์ที่ 6 อาหารจะแฉะเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
    • ในช่วงระหว่างสัปดาห์ที่ 8 กับ 10 ลูกแมวควรจะกินอาหารแห้งได้แล้ว
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 5:

ช่วยแม่แมวจัดการกับการแยกครอก

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 อย่าแยกลูกแมวทั้งหมดออกมาจากแม่แมวในคราวเดียว....
    อย่าแยกลูกแมวทั้งหมดออกมาจากแม่แมวในคราวเดียว. จะดีกว่าถ้าให้น้ำนมแม่แมวได้ค่อยๆ หมดลง ถ้าคุณนำลูกแมวออกมาทั้งหมดในคราวเดียว ต่อมน้ำนมของแม่แมวอาจมีอาการเต้านมคัดที่สร้างความเจ็บปวดได้ขึ้นมา[9]
  2. How.com.vn ไท: Step 2 เอาทุกอย่างที่ติดกลิ่นของลูกแมวออก.
    กลิ่นที่ยังอบอวลของลูกแมวอาจทำให้แม่แมวหวนคิดถึงลูกๆ และอาจอยากตรวจดูลูก เธอเลยอาจจะเดินตระเวณไปรอบบ้านมองหาลูกน้อย พอแยกลูกแมวไปบ้านใหม่แล้ว ทางที่ดีจึงควรเอาทุกอย่างที่ติดกลิ่นของพวกมันออกและปูที่รองนอนแก่แม่แมวใหม่ เมื่อกลิ่นค่อยๆ จางหายไปจากสภาพแวดล้อม สัญชาติญานที่จะออกตามหาของแม่แมวก็พลอยลดตามไป และเธอจะกลับมาใช้ชีวิตตามปกติอีกครั้ง
  3. How.com.vn ไท: Step 3 รู้ว่าแม่แมวจะฟื้นตัวจากการถูกจับแยกนี้ได้เร็ว....
    รู้ว่าแม่แมวจะฟื้นตัวจากการถูกจับแยกนี้ได้เร็ว. ธรรมชาติออกแบบมาให้แม่แมวมอบอิสระให้กับลูกเพื่อที่จะเอาชีวิตรอดได้ ตามกระบวนการนี้แม่แมวจะเริ่มห่างออกจากลูกแมวเพื่อให้พวกมันยืนได้ด้วยอุ้งเท้าของตนเอง การแยกบ้านลูกแมวจึงเป็นแค่การเร่งกระบวนการนี้เท่านั้น
    • ตราบเท่าที่ลูกแมวโตพอจะแยกออกไป (สมควรอยู่ที่ 12-13 สัปดาห์) และกลิ่นก็ถูกกำจัดออกไปหมด แม่แมวมักจะแสดงอาการกังวลเพียงวันสองวันก่อนจะกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ[10]
    โฆษณา
วิธีการ 4
วิธีการ 4 ของ 5:

แนะนำลูกแมวให้รู้จักบ้านหลังใหม่

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ใช้ผ้าปูนอนจากบ้านเก่าของลูกแมว.
    จัดเตรียมล่วงหน้านำผ้าขนหนูหรือผ้าห่มที่ปูให้ลูกแมวนอนจากบ้านเก่ามาใช้ การได้รับกลิ่นที่คุ้นเคยจะช่วยให้การปรับตัวเป็นไปได้ง่ายขึ้น ใช้ผ้าห่มหรือผ้าขนหนูนี้มาใช้ในกรงระหว่างนำออกจากบ้านและทิ้งไว้ให้ลูกแมวได้นอนในนั้น[11]
  2. How.com.vn ไท: Step 2 นำลูกแมวมาบ้านใหม่ในกรง.
    กรงจะทำให้ลูกแมวปลอดภัยและช่วยให้รู้สึกปลอดภัยขึ้น ให้ปูผ้าขนหนูในกรงเพื่อความอบอุ่นและช่วยซับปัสสาวะหากลูกแมวเผลอปล่อยออกมา[12]
    • อย่าใช้กรงของสัตว์ชนิดอื่น เพราะกลิ่นของสัตว์อื่นจะทำให้ลูกแมวเครียด
  3. How.com.vn ไท: Step 3 สร้างรังนอนที่ปลอดภัยแข็งแรงให้ลูกแมว.
    จัดเตรียมพื้นที่เล็กๆ เป็นของตัวเองให้ลูกแมว มันควรจะเงียบและไม่เกะกะขวางทาง พื้นที่นั้นควรมีที่นอน น้ำ อาหารแมว กระบะทราย เสาสำหรับลับเล็บ และของเล่นที่ปลอดภัย[13]
    • ไม่ว่าคุณจะใช้กล่องกระดาษหรือที่นอนที่ซื้อจากร้านขายสัตว์เลี้ยง ให้ลองนำเสื้อกล้ามเก่าๆ ของคุณมาปูรอง เผื่อลูกแมวจะคุ้นชินกับกลิ่นของคุณ
    • ให้แน่ใจว่าห้องหรือพื้นที่นั้นมีสถานที่ให้หลบซ่อน ถ้าเกิดไม่มีเฟอร์นิเจอร์ให้แอบซ่อนข้างหลัง ก็ใช้กล่องกระดาษในห้องมาตัดเป็นรูที่ลูกแมวสามารถมุดเข้าไปได้
  4. How.com.vn ไท: Step 4 ปล่อยให้ลูกแมวได้สำรวจตรวจตรารังตามใจมัน.
    วางกรงไว้ในห้อง เปิดประตู และให้ลูกแมวออกมาเมื่อพร้อม ทิ้งกรงไว้ในห้องเผื่อเป็นจุดหลบซ่อนตัวอีกจุดหนึ่ง[14]
  5. How.com.vn ไท: Step 5 จำกัดการเล่นโต้ตอบกับลูกแมวในช่วงสัปดาห์แรก....
    จำกัดการเล่นโต้ตอบกับลูกแมวในช่วงสัปดาห์แรก. คุณอาจจะอยากอุ้มลูกแมวมาลูบเล่นอยู่เรื่อยๆ ห้ามทำเช่นนั้น ลูกแมวจำเป็นต้องใช้เวลาในการปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ๆ รวมไปถึงผู้คนด้วยเช่นกัน แนะนำสมาชิกในบ้านทีละคน และอย่าเร่ง ให้ลูกแมวเข้ามาหาคุณเอง[15]
    • ให้แน่ใจว่าได้สอนเด็กเล็กในบ้านให้รู้จักวิธีการเล่นกับลูกแมวอย่างถูกต้อง รวมไปถึงวิธีการอุ้มที่ปลอดภัย
    • อย่าปล่อยให้เด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบเล่นกับลูกแมว มันไม่ปลอดภัยสำหรับแมว
  6. How.com.vn ไท: Step 6 แนะนำลูกแมวให้รู้จักบ้านคุณหลังจากที่มันคุ้นเคยกับรังนอนแล้ว....
    แนะนำลูกแมวให้รู้จักบ้านคุณหลังจากที่มันคุ้นเคยกับรังนอนแล้ว. เมื่อลูกแมวได้กิน ดื่มน้ำและใช้กระบะทรายขับถ่ายเป็นประจำแล้ว นั่นเป็นสัญญาณว่ามันรู้สึกปรับตัวกับห้องได้ดี คุณก็สามารถเริ่มแนะนำให้มันรู้จักส่วนอื่นของบ้านโดยทำครั้งละห้อง[16] วางลูกแมวในกรงที่เปิดประตูไว้ภายในห้องนั้นแล้วปล่อยให้มันได้ออกสำรวจด้วยตัวเอง หลังจากปล่อยให้สำรวจ นำลูกแมวกลับมาที่รังนอนของมันอย่างน้อยสักสองสามชั่วโมงก่อนไปสำรวจห้องใหม่[17]
    • หากลูกแมวปีนป่ายข้าวของเครื่องใช้ อย่างเช่นตู้หนังสือ เตียง ซึ่งคุณไม่ต้องการให้มันทำเช่นนั้น ก็ให้อุ้มกลับมาวางที่พื้น ถ้าคุณทำเช่นนี้ตั้งแต่วันแรก คุณจะไม่เจอความยุ่งยากเท่าไหร่สำหรับการจำกัดขอบเขตให้ลูกแมว
  7. How.com.vn ไท: Step 7 ยังคงให้อาหารแก่ลูกแมวแบบเดียวกับที่ให้ตอนหย่านมเพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดปัญหาด้านสุขภาพในระหว่างย้ายบ้าน....
    ยังคงให้อาหารแก่ลูกแมวแบบเดียวกับที่ให้ตอนหย่านมเพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดปัญหาด้านสุขภาพในระหว่างย้ายบ้าน. การให้อาหารที่ลูกแมวคุ้นเคยเป็นส่วนหนึ่งของการอำนวยความสะดวกและยังเลี่ยงการปวดท้องที่อาจเกิดจากแบคทีเรียในกระเพาะที่ต้องปรับตัวกับอาหารชนิดใหม่[18]
    • วางแผนล่วงหน้าและสอบถามคนที่คุณซื้อลูกแมวมาว่าเขาให้อาหารชนิดใดแก่พวกมัน เพื่อคุณจะได้เตรียมอาหารเหล่านั้นไว้พร้อมเวลานำลูกแมวมาที่บ้าน
  8. How.com.vn ไท: Step 8 ลองพิจารณาการใช้เครื่องพ่นฟีโรโมนแบบเสียบปลั๊กเพื่อลดความกังวลของลูกแมว....
    ลองพิจารณาการใช้เครื่องพ่นฟีโรโมนแบบเสียบปลั๊กเพื่อลดความกังวลของลูกแมว. แมวจะผลิตฟีโรโมนที่ใบหน้าซึ่งมันจะใช้ถูกับสิ่งของต่างๆที่พวกมันรู้ว่าปลอดภัย อย่างที่นอนของมัน เก้าอี้หรือแม้กระทั่งขาของคุณ มันมีเครื่องพ่นฟีโรโมนแบบเสียบปลั๊กที่จะปล่อยฟีโรโมนเหล่านี้ในแบบสังเคราะห์ขึ้น มันจะช่วยทำให้แมวรู้ว่าพวกมันอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย เครื่องพ่นจะพ่นได้นานราว 30 วัน ซึ่งมากพอที่จะทำให้แมวรู้สึกสบายจนกว่าจะปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่นี้ได้[19]
    • เครื่องพ่นฟีโรโมนชนิดที่แพร่หลายที่สุดคือ Feliway มันมีทั้งแบบสเปรย์หรือเป็นแบบอุปกรณ์ที่คุณใช้เสียบกับผนังและจะปล่อยฟีโรโมนออกมาโดยอัตโนมัติ
    โฆษณา
วิธีการ 5
วิธีการ 5 ของ 5:

แนะนำลูกแมวใหม่กับแมวตัวเดิมที่มีอยู่

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ค่อยๆ แนะนำลูกแมวกับแมวที่อยู่ในบ้านอยู่แล้ว....
    ค่อยๆ แนะนำลูกแมวกับแมวที่อยู่ในบ้านอยู่แล้ว. ถ้าลูกแมวได้รับการฝึกเข้าสังคมมาอย่างถูกต้องและนำมาบ้านใหม่ในช่วงอายุระหว่าง 12 และ 13 สัปดาห์ มันจะสามารถปรับตัวเข้ากับบ้านใหม่ได้ง่าย อย่างไรก็ดี หากมีแมวตัวอื่นอาศัยอยู่ในบ้านอยู่ก่อนแล้ว คุณควรแนะนำแมวสองตัวให้คุ้นเคยกันอย่างช้าๆ
  2. How.com.vn ไท: Step 2 จัดเตรียมรังนอนของลูกแมวในบริเวณที่แมวตัวที่อยู่เดิมไม่ค่อยได้ใช้....
    จัดเตรียมรังนอนของลูกแมวในบริเวณที่แมวตัวที่อยู่เดิมไม่ค่อยได้ใช้. นี่จะทำให้แมวตัวเก่ามีโอกาสได้ตระหนักว่ามีแมวอีกตัวอยู่ในถิ่นของมันในแบบไม่ได้มาท้าทาย ด้วยมันไม่ได้มาแข่งขันแย่งอาหารหรือจุดที่ชอบใช้นอน (พูดง่ายๆ คือทรัพยากรของมันนั่นเอง)[20]
  3. How.com.vn ไท: Step 3 แนะนำด้วยกลิ่นก่อน.
    แมวของคุณอาจดมกลิ่นของอีกฝ่ายจากใต้ประตูห้องลูกแมวใหม่ คุณยังอาจสลับผ้ารองนอนระหว่างแมวสองตัวนี้เพื่อที่พวกมันจะคุ้นเคยกับกลิ่นของอีกฝ่าย มันยังช่วยขีดเส้นแมวตัวหนึ่ง แล้วค่อยให้อีกตัวมาผสมกลิ่นเคล้ากัน[21]
    • ให้แน่ใจว่าได้เพิ่มความใส่ใจแก่แมวตัวเก่ามากขึ้นเพื่อลดความกังวลของมัน หากคุณเมินเฉยต่อมันและทุ่มความสนใจไปแต่ที่ลูกแมว มันจะเกิดปัญหาขึ้นได้[22]
  4. How.com.vn ไท: Step 4 ให้อาหารแมวทั้งสองฟากของประตูห้องลูกแมวใหม่....
    ให้อาหารแมวทั้งสองฟากของประตูห้องลูกแมวใหม่. มันจะทำให้แมวแต่ละตัวเชื่อมโยงกลิ่นของอีกตัวกับอะไรดีๆ: อาหารนั่นเอง[23]
  5. How.com.vn ไท: Step 5 ให้แมวได้สลับที่กันเมื่อลูกแมวปรับตัวกับรังนอนใหม่ได้แล้ว....
    ให้แมวได้สลับที่กันเมื่อลูกแมวปรับตัวกับรังนอนใหม่ได้แล้ว. ในระหว่างที่ทำการแนะนำลูกแมวไปยังส่วนอื่นๆ ของบ้าน ให้นำแมวตัวเก่ามาอยู่ในห้องลูกแมว นี่จะช่วยให้แมวทั้งคู่ได้สำรวจกลิ่นของอีกฝ่ายในพื้นที่ใหม่[24]
  6. How.com.vn ไท: Step 6 ให้แมวทั้งสองมาเจอกันเมื่อลูกแมวปรับตัวในบ้านใหม่ได้สบายแล้ว....
    ให้แมวทั้งสองมาเจอกันเมื่อลูกแมวปรับตัวในบ้านใหม่ได้สบายแล้ว. วางแนวกั้นระหว่างแมวสองตัวหรือให้ลูกแมวอยู่ในกรงเพื่อที่มันจะไม่ข่วนหรือกระโดดใส่แมวตัวเก่าที่อาจมองการทำเช่นนี้เป็นการดูหมิ่น ปล่อยให้พวกมันสร้างความคุ้นเคยโดยการดมและแตะจมูกผ่านทางตะแกรงข้างกรง รอจนแมวตัวเก่ารู้สึกถึงการไม่มีอะไรแตกต่างจากเดิมและแค่เดินจากไป นี่เป็นสัญญาณว่ามันยอมรับในลูกแมวตัวนั้นแล้ว
    • หากแมวทั้งคู่แสดงสัญญาณของความเป็นปรปักษ์กันอย่างรุนแรง เช่น ส่งเสียงฟ่อ พยายามจะข่วนหรือกัดอีกฝ่าย ให้ใช้เวลาเพิ่มอีกสองสามวันให้พวกมันได้ทำความคุ้นเคยกับการปรากฏตัวของอีกฝ่ายก่อนจะนำมาอยู่ในห้องเดียวกันอีกครั้ง
  7. How.com.vn ไท: Step 7 ลองให้อาหารแมวทั้งคู่ด้วยกันถ้ามันเข้ากันไม่ได้....
    ลองให้อาหารแมวทั้งคู่ด้วยกันถ้ามันเข้ากันไม่ได้. ในตอนแรก ให้วางชามคนละฟากของห้อง แล้วค่อยๆ ขยับใกล้กันมากขึ้น ความคิดในที่นี้คือให้แมวทั้งสองได้เชื่อมการมีอยู่ของอีกฝ่ายกับประสบการณ์เชิงบวกของการกินอาหาร[25]
  8. How.com.vn ไท: Step 8 แยกลูกแมวออกจากแมวอีกตัวถ้าลูกแมวดูมีความกระตือรือล้นมากไปสักหน่อย....
    แยกลูกแมวออกจากแมวอีกตัวถ้าลูกแมวดูมีความกระตือรือล้นมากไปสักหน่อย. พอแมวตัวเก่ายอมรับในลูกแมว คุณสามารถปล่อยลูกแมวให้ไปไหนมาไหนทั่วบ้านได้โดยอิสระ อย่างไรก็ตาม ยังคงจำเป็นต้องจับตามองลูกแมวไว้ โดยเฉพาะเวลามีแมวตัวเก่าอยู่ใกล้ๆ[26]
    • ถ้าลูกแมวเริ่มเล่นหยอกเย้าจนเริ่มทำให้แมวตัวเก่าหงุดหงิด ให้คว้าลูกแมวไปอยู่อีกห้องหนึ่งเพื่อที่แมวตัวเก่าจะยังได้รับเอกสิทธิ์ในถิ่นเดิมของมัน
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • จำไว้ว่า โดยสัญชาตญาณแล้ว แม่แมวจะปล่อยให้ลูกน้อยของมันออกไปเผชิญโลกกว้างในท้ายที่สุดอยู่แล้ว ฉะนั้นเมื่อลูกแมวออกไปอยู่บ้านใหม่ ในสายตาแม่แมวจะมองว่าเธอได้ทำหน้าที่สมบูรณ์แบบแล้ว
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

How.com.vn ไท: Jessica Char
ร่วมเขียน โดย:
ผู้ให้คำปรึกษาด้านพฤติกรรมแมวและสุนัข
บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Jessica Char. เจสสิกา ชาร์เป็นครูฝึกแมวและสุนัข ผู้ให้คำปรึกษาด้านพฤติกรรมแมวและสุนัข และผู้ก่อตั้ง Feline Engineering and Canine Engineering เธอเชี่ยวชาญในการแก้ไขปัญหาพฤติกรรมสัตว์ที่ท้าทายความสามารถอย่างเช่น อาการกลัวและพฤติกรรมก้าวร้าว เป็นต้น โดยใช้วิธีการฝึกแบบการเสริมแรงทางบวก เจสสิกาเป็นครูฝึกลดความกลัวที่มีใบรับรอง ครูฝึกสุนัขมืออาชีพที่มีใบรับรอง และครูฝึกลดความวิตกกังวลจากการพรากจากที่มีใบรับรอง เธอยังเป็นสมาชิกสมาคมผู้ให้คำปรึกษาด้านพฤติกรรมสัตว์นานาชาติอีกด้วย เจสสิกาได้รับปริญญาวิทยาศาสตรบัณฑิตและวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิศวกรรมชีวการแพทย์ จากมหาวิทยาลัยวอชิงตันที่เซนต์หลุยส์ บทความนี้ถูกเข้าชม 65,002 ครั้ง
หมวดหมู่: แมว
มีการเข้าถึงหน้านี้ 65,002 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

⚠️ Disclaimer:

Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.

Notices:
  • - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
  • - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
  • - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
  • - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.

โฆษณา