วิกิฮาวเป็น "wiki" ซึ่งหมายความว่าบทความหลายๆ บทความของเรานั้นเป็นการร่วมมือกันเขียนของผู้เขียนหลายคน ในการเขียนบทความชิ้นนี้ ผู้คน 52 คน ซึ่งบางคนไม่ขอเปิดเผยตัว ได้ร่วมกันเขียนและปรับปรุงเนื้อหาของบทความอย่างต่อเนื่อง
บทความนี้ถูกเข้าชม 197,159 ครั้ง
คุณสามารถแปลงหน่วยวัดอุณหภูมิระหว่างองศาเซลเซียส องศาฟาเรนไฮต์และเคลวินได้โดยใช้การคำนวณง่ายๆ ครั้งหน้าที่คุณต้องการเปลี่ยนหน่วยอุณหภูมิ คุณจะสามารถทำได้โดยใช้เวลาเพียงแค่ไม่กี่วินาที
ขั้นตอน
- ทำความเข้าใจเรื่องหน่วยวัดอุณหภูมิกันก่อน. หน่วยองศาฟาเรนไฮต์กับหน่วยองศาเซลเซียสนั้นเริ่มต้นด้วยเลขที่ไม่เท่ากัน 0 องศาเซลเซียส คือจุดเยือกแข็งของน้ำ ซึ่งเท่ากับ 32 องศาในหน่วยองศาฟาเรนไฮต์ นอกจากจะเริ่มต้นด้วยเลขที่ต่างกันแล้ว หน่วยวัดอุณหภูมิทั้งสองยังมีอัตราการเพิ่มขึ้นที่ไม่เท่ากันด้วย กล่าวคือ ช่วงอุณหภูมิตั้งแต่จุดเยือกแข็งจนถึงจุดเดือดของน้ำในหน่วยองศาเซลเซียส คือ 0-100 องศา แต่ในหน่วยองศาฟาเรนไฮต์จะเป็น 32-212 องศา[1]
- นำผลลัพธ์ที่ได้ไปหารด้วย 1.8. ช่วงอุณหภูมิตั้งแต่จุดเยือกแข็งจนถึงจุดเดือดของน้ำในหน่วยองศาเซลเซียสคือ 0-100 องศา แต่ในหน่วยองศาฟาเรนไฮต์คือ 32-212 องศา นั่นเท่ากับว่าในช่วงอุณหภูมิ 180 องศาฟาเรนไฮต์นั้นมีค่าเท่ากับ 100 องศาเซลเซียส หรือเท่ากับ 180/100 ซึ่งทำเป็นทศนิยมได้เท่ากับ 1.8 เราจึงนำเลขนี้ไปหาร เพื่อแปลงหน่วยจากองศาฟาเรนไฮต์เป็นองศาเซลเซียส
- ตัวอย่างเช่น ในขั้นแรกเราได้ผลลัพธ์คือ 42 จากนั้นเราก็นำผลลัพธ์มาหารด้วย 1.8 เป็น 42/1.8 = 23 องศาเซลเซียส ดังนั้น 74 องศาฟาเรนไฮต์จึงมีค่าเท่ากับ 23 องศาเซลเซียสนั่นเอง
- 1.8 มีค่าเท่ากับ 9/5 หากคุณไม่มีเครื่องคิดเลขหรือถนัดที่จะคำนวณจากเศษส่วนมากกว่า คุณสามารถนำ 9/5 ไปหารแทน 1.8 ก็ได้
โฆษณา
- ทำความเข้าใจเรื่องหน่วยวัดอุณหภูมิก่อน. เช่นเดิม เรายังคงใช้ตัวเลข 32 และ 1.8 จากความต่างของหน่วยวัดอุณหภูมิดังที่ได้อธิบายไว้ในหัวข้อแรก คราวนี้คุณแค่ใช้หลักการนี้ในทางตรงข้าม
- จากนั้นให้บวกผลลัพธ์อีก 32. นำผลลัพธ์ที่ได้จากขั้นตอนที่แล้วมาบวกด้วย 32 แล้วคุณก็จะได้อุณหภูมิในหน่วยองศาฟาเรนไฮต์
- จากผลลัพธ์ในขั้นตอนที่แล้วซึ่งเท่ากับ 54 ให้เรานำ 32 บวกเข้าไป 54+32 = 86 ดังนั้น 30 องศาเซลเซียสจึงเท่ากับ 86 องศาฟาเรนไฮต์
โฆษณา
- ทำความเข้าใจเรื่องหน่วยวัดอุณหภูมิทั้งสองก่อน[6] . แม้ว่าตัวเลขระหว่างหน่วยองศาเซลเซียสกับหน่วยเคลวินจะต่างกับตัวเลขระหว่างหน่วยองศาเซลเซียสกับหน่วยองศาฟาเรนไฮต์อยู่มาก แต่สิ่งหนึ่งที่องศาเซลเซียสกับเคลวินเหมือนกันคือ อัตราในการเพิ่มขึ้นใน 1 องศา อัตราส่วนระหว่างองศาเซลเซียสกับองศาฟาเรนไฮต์นั้นคือ 1:1.8 แต่อัตราส่วนระหว่างองศาเซลเซียสกับเคลวินคือ 1:1[7]
- แม้จะดูแปลกที่ว่าจุดเยือกแข็งของหน่วยเคลวินนั้นมีค่ามากถึง 273.15 เคลวิน แต่นั่นเป็นเพราะว่าหน่วยวัดอุณหภูมินี้เริ่มคิดจากจุดศูนย์สัมบูรณ์ โดยอุณหภูมิที่จุดนี้จะเท่ากับ 0 เคลวินพอดี
- นำอุณหภูมิในหน่วยองศาเซลเซียสบวกเพิ่มไป 273.15[8] . และเนื่องจากอุณหภูมิทั้งสองหน่วยมีอัตราในการเพิ่มขึ้นที่เท่ากัน การแปลงหน่วยจากองศาเซลเซียสเป็นเคลวินจึงทำได้ง่าย ๆ แค่บวกด้วย 273.15
- ตัวอย่างเช่น หากอุณหภูมิตั้งต้นคือ 30 องศาเซลเซียส ก็ให้บวกเข้าไปอีก 273.15 เป็น 30+273.15 = 303.15 เคลวิน
โฆษณา
- เรียนรู้หน่วยวัดอุณหภูมิทั้งสองก่อน. อัตราส่วนระหว่างองศาเซลเซียสและเคลวินเท่ากับ 1:1 และหน่วยวัดอุณหภูมินี้ต่างกัน 273.15 จากนั้นคุณก็แค่สลับวิธีที่คุณแปลงหน่วยจากองศาเซลเซียสเป็นเคลวินในทางตรงข้าม
- ลบ 273.15 ออกจากอุณหภูมิในหน่วยเคลวิน. สมมติว่าอุณหภูมิเริ่มต้นคือ 280 เคลวิน คุณก็นำ 273.15 ลบออกเป็น 280-273.15 = 6.85 องศาเซลเซียสโฆษณา
- เรียนรู้หน่วยวัดอุณหภูมิทั้งสองก่อน. สิ่งสำคัญที่ควรรู้ในการแปลงหน่วยระหว่างเคลวินกับองศาฟาเรนไฮต์ก็คืออัตราการเพิ่มขึ้น เนื่องจากอัตราในการเพิ่มขึ้นของเคลวินและองศาเซลเซียสนั้นเท่ากัน ดังนั้นอัตราส่วนระหว่างเคลวินกับองศาฟาเรนไฮต์จึงเท่ากับอัตราส่วนระหว่างองศาเซลเซียสกับองศาฟาเรนไฮต์ ซึ่งก็คือเมื่ออุณหภูมิเพิ่มขึ้น 1 เคลวิน อุณหภูมิในหน่วยองศาฟาเรนไฮต์จะเพิ่มขึ้น 1.8 องศา[9]
- คูณอุณหภูมิในหน่วยเคลวินด้วย 1.8. ตามอัตราส่วนระหว่างเคลวินและองศาฟาเรนไฮต์
- เช่น อุณหภูมิตั้งต้นคือ 295 เคลวิน ก็ให้คูณตัวเลขนี้ด้วย 1.8 เป็น 295 x 1.8 = 531
- จากนั้นนำผลลัพธ์ที่ได้ลบออกด้วย 459.7. โดยใช้หลักการเดียวกับที่เราต้องบวกตัวเลขเพิ่มไปอีก 32 เมื่อเราแปลงหน่วยจากองศาเซลเซียสเป็นองศาฟาเรนไฮต์โดยดูที่จุดเริ่มต้น เมื่อเราแปลงหน่วยเคลวินเป็นฟาเรนไฮต์ก็ต้องทำเช่นกัน แต่ 0 เคลวินเท่ากับ -459.7 ฟาเรนไฮต์ [10] นั่นแปลว่าเราต้องลบผลลัพธ์ที่ได้ออกด้วยเลขจำนวนนี้แทน
- จากตัวอย่างที่แล้ว ให้เราลบผลลัพธ์ออกด้วย 459.7 จึงเป็น 531-439.7 = 71.3 องศาฟาเรนไฮต์
โฆษณา
- ลบอุณหภูมิในหน่วยองศาฟาเรนไฮต์ออกไป 32. เนื่องจากการแปลงหน่วยจากองศาฟาเรนไฮต์เป็นเคลวิน ทำได้ง่ายกว่าถ้าเราแปลงองศาฟาเรนไฮต์เป็นองศาเซลเซียสก่อนแล้วจึงค่อยแปลงเป็นเคลวิน
- สมมติว่า อุณหภูมิที่ต้องการแปลงคือ 82 องศาฟาเรนไฮต์ นำ 82 ลบออกไป 32 เป็น 82 – 32 = 50
- คุณผลลัพธ์ที่ได้ด้วย 5/9 เพื่อเปลี่ยนอุณหภูมิเป็นองศาเซลเซียส. หรืออาจจะหารด้วย 1.8 แทนก็ได้
- 50 x 5/9 = 27.78 ตอนนี้เราก็จะได้อุณหภูมิในหน่วยองศาเซลเซียสแล้ว
- จากนั้นบวกผลลัพธ์ที่ได้ด้วย 273.15. เนื่องจากผลต่างระหว่างองศาเซลเซียสกับเคลวินคือ 273.15
- 273.15+27.78 = 300.9 ดังนั้น 82 องศาฟาเรนไฮต์จึงเท่ากับ 300.9 เคลวิน
โฆษณา
เคล็ดลับ
- ตัวเลขที่คุณควรรู้ในการแปลงหน่วยวัดองศามีดังนี้
- น้ำมีจุดเยือกแข็งที่ 0°C หรือเท่ากับ 32°F.
- อุณหภูมิร่างกายเท่ากับ 37°C หรือเท่ากับ 98.6°F.
- น้ำเดือดที่ 100°C หรือเท่ากับ 212°F.
- ที่อุณหภูมิ -40 อุณหภูมิในหน่วยทั้งสองนี้จะเท่ากันพอดี
- ตรวจเช็คการคำนวณของคุณเสมอ
- หากคุณต้องใช้คำให้เป็นทางการขึ้นให้ใช้คำว่า องศาเซลเซียส แทนคำว่า เซลเซียส หรือ เซนติเกรด
- จำไว้ว่าเคลวินมากกว่าองศาเซลเซียสอยู่ 273.15 องศา
- คุณอาจจะใช้สูตร C=5/9(F-32) ในการแปลงองศาฟาเรนไฮต์เป็นองศาเซลเซียสและใช้สูตร 9/5C = F-32 ในการแปลงองศาเซลเซียสเป็นองศาฟาเรนไฮต์ สูตรทั้งสองนี้มาจากสมการ C/100=(F-32)/180 ซึ่งมาจากความสัมพันธ์ระหว่างหน่วยองศาเซลเซียสและองศาฟาเรนไฮต์ที่กล่าวไปข้างต้น
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ http://www.mathsisfun.com/temperature-conversion.html
- ↑ http://www.mathsisfun.com/temperature-conversion.html
- ↑ http://www.mathsisfun.com/temperature-conversion.html
- ↑ http://www.mathsisfun.com/temperature-conversion.html
- ↑ http://www.mathsisfun.com/temperature-conversion.html
- ↑ http://www.metric-conversions.org/temperature/fahrenheit-to-celsius.htm
- ↑ http://www.metric-conversions.org/temperature/fahrenheit-to-celsius.htm
- ↑ http://www.metric-conversions.org/temperature/fahrenheit-to-celsius.htm
- ↑ http://www.metric-conversions.org/temperature/fahrenheit-to-celsius.htm
บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม
⚠️ Disclaimer:
Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.
- - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
- - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
- - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
- - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.