วิธีการ เอาใจน้องเหมียว

ดาวน์โหลดบทความ

ดาวน์โหลดบทความ

ภายในบทความนี้:

เอาใจน้องเหมียว

เอาใจน้องเหมียวสูงวัย

บทความที่เกี่ยวข้อง

ข้ออ้างอิง

จะเป็นทาสแมวต้องรู้จักดูแลเอาใจใส่เรื่องความเป็นอยู่ของน้องแมว เช่น จัดหาน้ำสะอาดและอาหารดีๆ ที่หลับที่นอนต้องอุ่นสบาย และพาไปตรวจสุขภาพประจำปีกับสัตวแพทย์ แต่นั่นเป็นแค่เรื่องธรรมดาทั่วไป สิ่งสำคัญคือความรักและการเอาใจใส่ เพื่อความสนิทชิดเชื้อระหว่างกัน ส่วนนอกเหนือจากนั้นก็แล้วแต่ทาสแมวอย่างคุณจะสรรหาเลย

ขั้นตอน

วิธีการ 1

วิธีการ 1 ของ 2:

เอาใจน้องเหมียว

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   หมั่นแปรงขน. แมวชอบให้คุณแปรงขนซ้ำๆ เป็นจังหวะ จากหัวไปหาง นอกจากจะทำให้มีความสุขกันทั้งแมวและเจ้าของแล้ว การแปรงขนยังมีประโยชน์อีกหลายอย่าง เช่น กำจัดขนส่วนเกิน ไม่ให้ขนพันกัน (ถ้าขนยาว) แถมกระตุ้นผิวหนังให้ผลิตน้ำมันตามธรรมชาติออกมาทั่วตัวจนขนสวยเงางาม

   • ถ้าไม่เคยแปรงขนแมวมาก่อน ให้เริ่มจากแปรงแค่ไม่กี่นาที (5 - 10 นาที) พอแมวเริ่มคุ้นก็ค่อยแปรงนานขึ้น
   • แมวแต่ละตัวก็ชอบแปรงที่ใช้ไม่เหมือนกัน ให้คุณลองใช้แปรงดูหลายๆ แบบ (เช่น แปรงขนหมู และแปรงขนลวด) จนจับทางได้ว่า "เจ้านาย" ของทาสอย่างคุณชอบแปรงแบบไหน
   • แปรงขนตอนที่คุณและแมวสบายใจ ผ่อนคลาย ถ้าใครคนใดคนหนึ่งเครียดหรือหงุดหงิด จะกลายเป็นภาระหน้าที่ขึ้นมาแทน
   • แมวขนสั้นไม่ต้องแปรงบ่อยๆ (อาทิตย์ละครั้งก็พอ) ถ้าแมวขนยาวอาจต้องบ่อยถึงวันละครั้งเลยทีเดียว
   • เวลาแปรงขนตรงหน้าอกกับพุงกะทิ ขอให้เบามือเป็นพิเศษ
2. 
   2
   อยู่เงียบๆ กันสองคน. แมวชอบบรรยากาศเงียบสงบ แค่ขลุกอยู่ในห้องเดียวกันก็ถือเป็นการผ่อนคลายและผูกสัมพันธ์กันแล้ว พอแมวนอนตักคุณสบายใจก็ลูบเล่นได้เลย แต่ระวังว่าแมวส่วนใหญ่ไม่ค่อยชอบให้จับพุง บางตัวมองว่าคุณกำลังจู่โจมด้วยซ้ำ จนอาจได้รอยข่วนหรือรอยเขี้ยวเป็นที่ระลึก
3. 
   3
   จัดที่นอนให้แมวหลายๆ จุด. แมวน่ะนอนไม่เลือกที่! เพราะงั้นให้จัดมุมสบายไว้ให้น้องเหมียวหลายๆ มุม แต่พยายามเลือกที่เป็นมุมสงบของบ้าน ไม่ค่อยมีใครหรืออะไรไปรบกวน

   • หาเบาะหรือที่นอนสบายๆ เลือกที่เป็นของแมวโดยเฉพาะ นอกจากร้านขายของใช้สัตว์เลี้ยงแล้ว เดี๋ยวนี้ในเน็ตก็มีขายเยอะแยะไป
4. 
   4
   วางแท่นลับเล็บไว้หลายๆ จุด. เสาหรือแท่นลับเล็บเป็นของจำเป็นเพื่อสุขภาพอันดีของน้องแมว เพราะแมวใช้ลับเล็บให้สั้นลง แถมยังได้ออกกำลังกาย ยืดเส้นยืดสายอีกด้วย พยายามวางแท่นลับเล็บไว้หลายๆ จุดเหมือนเบาะนอน ที่นี้น้องแมวก็สนุกสนาน เล่นคนเดียวก็ได้เวลาคุณไม่ว่างหรือไม่อยู่

   • เลือกแท่นลับเล็บหลายๆ วัสดุ (เช่น ทำจากเชือกป่าน กระดาษลัง หรือผ้าแบบพรม) และหลายรูปร่าง (วางแนวตั้งหรือแนวนอน) แมวจะได้ไม่เบื่อซะก่อน
   • วางแท่นลับเล็บไว้ตามจุดที่น้องแมวชอบเดินผ่าน แมวจะได้ไม่วอกแวกไปลับเล็บตามเฟอร์นิเจอร์ระหว่างทาง
   • เลือกแท่นลับเล็บที่แข็งแรงมั่นคงหน่อย รวมถึงสูงหรือยาวพอ (ประมาณ 2 ไม้บรรทัด) แมวจะได้ยืดสุดตัวตอนลับเล็บ
   • พอแมวลับเล็บจนเก่าหรือรุ่งริ่งแล้วอย่าเพิ่งรีบเอาไปทิ้ง เพราะนั่นแหละ "สภาพนางฟ้า" สำหรับแมวเลย!
   • หรือคุณอาจหาซื้อ cat tree หรือบ้านแมวแบบเป็นแท่นสูงๆ ขึ้นไป มีเสาลับเล็บในตัว พร้อมของเล่นห้อยไว้ แบบนี้ละสวรรค์ของแมวเลย หาซื้อได้ตามร้านขายของใช้สัตว์เลี้ยงและทั่วไปในเน็ต
5. 
   5
   ประเคนของเล่นแบบจัดเต็ม. ทาสแมวคงรู้ดีว่าเจ้านายเบื่อง่ายแค่ไหน ของเล่นเดิมๆ ชิ้นสองชิ้นจะไปพออะไร เพราะงั้นให้หาของเล่นไว้หลากหลายหน่อย ไม่ได้หมายความว่าให้ทุ่มซื้อหมดร้าน แค่หมั่นสลับเอาออกมาให้น้องแมวเล่น (ชิ้นละอาทิตย์) จะได้ไม่เบื่อของเล่นหน้าเดิมๆ

   • ถ้าอยากกระตุ้นสัญชาตญาณนักล่า ก็ลองเอาของเล่นไปซ่อนตามมุมต่างๆ ในบ้านดู
   • แมวใครไฮโซหน่อย ก็ให้เล่นแอพต่างๆ สำหรับแมวในแท็บเล็ตซะเลย
6. 
   6
   ชวนน้องเหมียวเล่นแบบสร้างสรรค์. จริงๆ แล้วแมวถนัดในการหาความบันเทิงใส่ตัว แต่จะเลี้ยงแมวทำไมถ้าไม่หาเวลามาเล่นด้วยกันบ้าง ถ้าจริงจังกับการเล่นหน่อยจะทำให้ทั้งสนุกด้วยกันทั้งคู่ เช่น ซ่อนตัวหลังโซฟาแล้วยื่นหน้ามาแอบดูน้องเหมียวเป็นระยะ เพื่อกระตุ้นต่อม "เผือก" ของน้องแมวให้มาดูว่าคุณทำอะไร เป็นการฝึกสัญชาตญาณนักล่าไปในตัว

   • จะปิดม่านหรือหรี่ไฟด้วยก็ได้ เพราะแมวจะตื่นตัวเป็นพิเศษเวลาแสงน้อยๆ
   • เล่นกับแมวให้ได้ครั้งละประมาณ 10 - 15 นาที 2 ครั้งต่อวัน
7. 
   7
   ให้แมวดูอะไรที่เคลื่อนไหว. ง่ายๆ คือทำแท่นหรืออะไรให้แมวยืนข้างหน้าต่าง อันนี้แล้วแต่ว่าวิวนอกหน้าต่างเป็นยังไง ถ้าน่าสนใจแมวจะนั่งอยู่แบบนั้นได้นานเป็นชั่วโมงๆ ถ้าคุณมีสนามหน้าบ้านหรือหลังบ้านนอกหน้าต่าง ให้หาที่ให้อาหาร/น้ำนกมาตั้งหรือแขวนไว้ แมวจะได้ดูนกเพลินไปเลย

   • หรือเปิดคลิปสำหรับแมวโดยเฉพาะทิ้งไว้ตอนคุณไม่ว่างหรือไม่อยู่ ส่วนใหญ่คลิปพวกนี้จะมีนกหรือหนูเคลื่อนไหวไปมาเรียกความสนใจ
8. 
   8
   ให้กินขนมใหม่ๆ. ขนมแมวนี่แหละถูกใจเจ้านายชะมัด แต่ก็ใช่ว่าเป็นทาสแมวแล้วต้องประเคนขนมทุกวัน อย่างแรกคือขนมไม่มีประโยชน์เท่าอาหารแมวแน่นอน เหตุผลต่อมาคืออาจทำให้แมวติดขนมมากกว่าอาหารนี่สิ

   • พยายามป้อนขนม 2 - 3 ครั้งต่ออาทิตย์ก็พอ
   • ห้ามให้กินอาหารคนเด็ดขาด
   • ตำแยแมว/กัญชาแมว และข้าวสาลี นั้นให้ได้ถือว่ามีประโยชน์พอควร แถมหาซื้อง่ายอีกต่างหาก
   • ถ้าแมวเริ่มดื้อและตื้อจะกินขนม ถือว่าเริ่มนิสัยเสียแล้ว แบบนี้ห้ามตามใจโดยให้อาหารหรือความสนใจเด็ดขาด
   โฆษณา

วิธีการ 2

วิธีการ 2 ของ 2:

เอาใจน้องเหมียวสูงวัย

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   วางกระบะทรายไว้หลายๆ จุดในบ้าน. แมวสูงวัยจะขยับไปไหนก็ลำบาก เลยเดินไปไม่ค่อยถึงกระบะทราย แถมแมวสูงวัยยังมักเป็นโรคทางเดินปัสสาวะ กลั้นอึกลั้นฉี่ลำบากอีกต่างหาก เพราะงั้นให้พยายามวางกระบะทรายไว้หลายๆ จุดในบ้าน โดยเฉพาะตามจุดที่แมวชอบไปขลุกอยู่ แมวจะได้ไม่ถ่ายเรี่ยราด

   • ถ้าเป็นถาดแทนกระบะ หรือกระบะเตี้ยๆ หน่อยจะดีที่สุด เพราะแมวสูงวัยปีนเข้า-ออกไม่ค่อยไหว
2. 
   2
   ทำให้แมวสบายใจไม่กังวล. นอกจากขยับเขยื้อนไม่สะดวกเหมือนเก่าแล้ว แมวสูงวัยยังอาจหูตาฟ้าฟางอีกด้วย เลยทำให้กังวลง่ายเวลาจะไปไหนทำอะไร คุณต้องพยายามให้อาหารและเล่นด้วยเหมือนเดิมทุกๆ วัน แมวจะได้รู้สึกปลอดภัยสบายใจในพื้นที่ของตัวเอง
3. 
   3
   นวดคลายกล้ามเนื้อ. ให้หมั่นนวดแมวสูงวัยเพื่อคลายกล้ามเนื้อตึงเกร็ง ลดอาการปวดข้อ แถมช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ที่สำคัญกว่าคือแมวจะผ่อนคลายสบายใจ รู้สึกถึงความรักและการเอาใจใส่ของคุณ นอกจากนี้ยังเป็นโอกาสให้คุณได้สำรวจว่าตามตัวของแมวมีตุ่มหรือก้อนอะไรที่น่าเป็นห่วงหรือเปล่า

   • นวดให้เบามือที่สุด
   • ใช้นิ้วนวดวนเป็นวงเล็กๆ เริ่มจากหลังหู แล้วค่อยๆ เลื่อนลงมาที่ต้นคอ ไปจนถึงหลัง
   • อย่าไปนวดตรงไหนที่อ่อนแอหรือบอบบาง เดี๋ยวแมวจะเจ็บได้
4. 
   4
   ดูแลขน. เพราะกล้ามเนื้อตึงเกร็งและปวดข้อ แมวสูงวัยเลยเลียตัวแต่งขนเหมือนแต่ก่อนไม่สะดวก เพราะงั้นให้คุณใช้แปรงขนนุ่มช่วยแปรงแทน เบามือหน่อยเพราะผิวหนังของแมวสูงวัยอ่อนแอกว่าแมวเด็กเยอะเลย

   • ตัดเล็บบ้าง ถ้าแมวยอม. แมวสูงวัยอาจต้องตัดเล็บบ่อยหน่อย (ทุก 2 - 3 อาทิตย์) เพราะลับเล็บที่แท่นเองไม่ค่อยได้แล้ว ให้ตัดห่างจาก quick หรือส่วนที่เป็นเนื้อสีชมพูหน่อย เลือดจะได้ไม่ไหล แมวก็ไม่เจ็บ
   • เล็บแมวจะม้วนเข้า ถ้ายาวไปอาจจิกอุ้งเท้านิ่มๆ ได้ แบบนั้นแมวเดินไม่สะดวกแถมเจ็บแน่นอน ถ้าสังเกตว่าแมวใช้แท่นลับเล็บไม่ค่อยได้แล้ว ให้เริ่มตัดเล็บเป็นประจำทันที เล็บจะได้ไม่ยาวจนทิ่มเท้า
5. 
   5
   เปลี่ยนอาหาร. แมวสูงวัยต้องการสารอาหารต่างจากแมวเด็ก พอแมวอายุได้ 7 - 9 ปี ให้เปลี่ยนไปให้อาหารสำหรับแมวสูงวัยโดยเฉพาะ เพื่อให้แน่ใจว่าจะได้สารอาหารต่างๆ ในปริมาณที่เหมาะสม

   • ค่อยๆ เปลี่ยนอาหารโดยใช้เวลาประมาณ 5 วัน วันแรกให้อาหารใหม่ 20% อาหารเก่า 80% วันที่ 2 ให้อาหารใหม่ 40% อาหารเก่า 60% วันที่ 3 ให้อาหารใหม่ 60% อาหารเก่า 40% วันที่ 4 ให้อาหารใหม่ 80% อาหารเก่า 20% และวันที่ 5 ก็ให้อาหารใหม่ 100% ได้เลย
   • อันนี้แล้วแต่สภาพร่างกายและโรคประจำตัวของแมว บางทีก็ต้องกินอาหารเสริมร่วมด้วย (เช่น โปรไบโอติกส์ หรือกรดไขมัน)
   • ก่อนจะเปลี่ยนอาหาร ควรปรึกษาสัตวแพทย์ประจำตัวก่อน
6. 
   6
   หนุนเบาะนอนให้หนานุ่มเป็นพิเศษ. แมวสูงวัยควรได้นอนเบาะที่หนานุ่มกว่าปกติ เพราะนอกจากเจ็บข้อแล้ว แมวสูงวัยมักสูญเสียมวลกล้ามเนื้อไปมาก ทำให้นอนพื้นราบหรือแข็งๆ ไม่สบาย
   โฆษณา

เคล็ดลับ

• ทาสแมวอย่างคุณดูแลเอาใจ "เจ้านาย" ได้มากมายหลายวิธี เพราะงั้นก็ครีเอทกันตามสบาย เอาให้สนุกมีความสุขกันทั้งแมวและคุณ
• ถ้าตัวอยู่ไกลแต่อยากเอาใจน้องเหมียว ก็ฝากเลี้ยงไว้ที่โรงแรมแมวหรูๆ ซะเลย
• ถ้ากลัวแมวเจ็บ ไม่กล้าตัดเล็บให้แมวสูงวัยด้วยตัวเอง ลองพาไปหาสัตวแพทย์หรือร้านรับอาบน้ำ-ตัดขนแมวดู
• ถ้าเป็นแท่นลับเล็บแนวนอน แมวสูงวัยอาจจะยังใช้ได้อยู่

โฆษณา

คำเตือน

• อย่าเอาใจแมวโดยเน้นให้อาหารและขนม เพราะเดี๋ยวคุณจะกลายเป็น "ทาสหมู" แทน แถมโรคภัยจะเริ่มถามหา บางโรคก็ร้ายแรงน่าดู (เช่น โรคข้ออักเสบ เบาหวาน และโรคหัวใจ) ยังไงลองปรึกษาคุณหมอดู ว่าแมวของคุณควรได้รับอาหารในปริมาณเท่าไหร่ต่อวัน

โฆษณา