วิธีการ เป็นนักเรียนดีเด่น

ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความ

นักเรียนดีเด่น หมายถึงเรียนให้เข้าใจถ่องแท้ ดีกว่าตั้งหน้าตั้งตาสอบให้ได้คะแนนดีอย่างเดียว เป็นนักเรียนดีเด่นแล้วอยากเข้ามหาวิทยาลัยไหนก็เก่งเลือกได้ ดีไม่ดีจะสอบชิงทุนได้ด้วย! บทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำวิธีการเป็นนักเรียนดีเด่นให้คุณเอง

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 4:

จัดระเบียบชีวิต

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 เตรียมพร้อม.
    อะไรที่ต้องใช้ประกอบการเรียน พกไปให้หมด ไม่ว่าจะสมุด หนังสือ แฟ้ม ดินสอ ปากกา การบ้าน ชีทอ่านทบทวน และอื่นๆ
  2. How.com.vn ไท: Step 2 มีระเบียบ...
    มีระเบียบ. เวลาอยู่โรงเรียน สำคัญว่าต้องจัดระเบียบทุกอย่างรอบตัว นั่นแหละก้าวแรกสู่ความสำเร็จ ให้หาแฟ้มมาใส่เอกสารของแต่ละวิชาแยกกันไปเลย เช่น แฟ้มวิชาเลข แฟ้มภาษาไทย แฟ้มวิทยาศาสตร์ และอื่นๆ หรือถ้าใช้สีสันให้แตกต่างกันด้วยก็ยิ่งดี
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 4:

มุ่งมั่นตั้งใจ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ตั้งใจเรียนในห้อง.
    ฟังครูสอนแล้วจดตาม ถ้าสงสัยไม่เข้าใจตรงไหนก็ยกมือถาม ยิ่งถามมากก็ยิ่งรู้มาก ส่วนการจดโน้ตช่วยให้สมองคุณได้ประมวลผล เลยเข้าใจถ่องแท้มากขึ้น
    • ครูบาอาจารย์ชอบเด็กที่สงสัยแล้วถาม เพราะแสดงว่าคุณตั้งใจเรียนจริงๆ
    • มีสติและสมาธิ ตามองกระดานและอาจารย์ หูฟังบทเรียน ส่วนมือก็จดโน้ตไป
  2. How.com.vn ไท: Step 2 อย่าวอกแวก.
    อย่ารบกวนเพื่อน และอย่าวอกแวกซะเอง
    • แต่ถึงเพื่อนชวนเล่นชวนคุย ก็อย่าถึงกับโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง! แค่บอกให้รอ ขอฟังเรื่องนี้ที่อาจารย์สอนก่อน เดี๋ยวพักเที่ยงหรือหมดคาบแล้วค่อยคุยกันต่อ ถ้าเพื่อนคุณน่ารักหน่อยต้องเข้าใจแน่นอน ดีไม่ดีจะหันไปนั่งฟังอาจารย์อีกคน
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ว่างเมื่อไหร่ให้อ่านทวนโน้ตที่จดมา.
    ยิ่งถ้าเป็นเลคเชอร์วิชายากๆ อย่างพวกวิชากฎหมาย เศรษฐศาสตร์ หรือวิศวะ ให้ลองเรียบเรียงแล้วเขียนออกมาใหม่
  4. How.com.vn ไท: Step 4 ถามตอบหรือทำโจทย์ทบทวนด้วยตัวเอง แต่ถ้ามีคนช่วยก็ยิ่งดี....
    ถามตอบหรือทำโจทย์ทบทวนด้วยตัวเอง แต่ถ้ามีคนช่วยก็ยิ่งดี. ทบทวนเยอะจนเหนื่อยยังดีกว่าไม่ทบทวนเลยสักครั้ง
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 4:

เน้นให้ถูกจุด

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 อ่านหนังสือให้มากขึ้นทีละนิด.
    ถ้าปกติไม่ค่อยชอบอ่านหนังสือ ให้เริ่มอ่านที่ง่ายๆ ไม่ต้องเยอะ แล้วขยับขยายไปจากจุดนั้น แต่อย่าย่ำอยู่ที่เดิม เพราะการอ่านเนื้อหายากๆ ท้าทายสมอง จะเป็นการขยายขอบเขตความรู้ของคุณ โดยเฉพาะคำศัพท์ต่างๆ
  2. How.com.vn ไท: Step 2 ทำ mind map.
    จะทำให้เข้าใจเนื้อหาชัดเจนขึ้น โดยเฉพาะหัวข้อยากๆ
    • ระหว่างทำ mind map จะเป็นโอกาสให้คุณได้ทบทวนเนื้อหาก่อนสอบไปด้วย
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ท่องหนังสือจริงจัง.
    ไม่ว่าจะเรียนอยู่ชั้นไหน ก็ต้องหมั่นทบทวนบทเรียน แค่อ่านหนังสือ 2 ชั่วโมงต่อวันเกรดก็ดีขึ้นทันตาแล้ว แต่ 2 ชั่วโมงนั้นต้องเข้มข้น กำจัดสิ่งที่อาจทำคุณวอกแวกไปให้หมด เช่น มือถือ ทีวี เพลงมันส์ๆ ไปจนถึงเพื่อนฝูงและครอบครัวที่ชวนคุยซะเหลือเกิน บรรยากาศการอ่านหนังสือต้องสงบ มีสมาธิ
  4. How.com.vn ไท: Step 4 อย่าผัดวันประกันพรุ่ง.
    จัดตารางประจำวันให้ตัวเอง บอกเลยว่าได้ผล ตอนไหนทำการบ้านหรืออ่านหนังสือ พวกอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อย่างมือถือ iPod หรือแล็ปท็อปต้องห่างมือ จะได้มีสมาธิ เวลาเลิกเรียนกลับถึงบ้านเมื่อไหร่ ให้อ่านทวนเลคเชอร์ของวันนั้น แล้วทำแบบฝึกหัดเพิ่มเติม
  5. How.com.vn ไท: Step 5 อ่านหนังสือหนักต้องพักบ้าง.
    เช่น อ่านหนังสือแล้วหยุดพัก 15 นาทีทุก 2 ชั่วโมง ถ้าหนักสมองหรือไม่เข้าใจสักทีก็อย่าเพิ่งเครียดหรือหงุดหงิด พักสักหน่อยแล้วค่อยกลับไปตั้งใจอ่าน แบบนี้ความสำเร็จก็อยู่ไม่ไกล
  6. How.com.vn ไท: Step 6 บทเรียนไหนครูบอกล่วงหน้าว่าพรุ่งนี้จะสอน ให้อ่านล่วงหน้าไปก่อน....
    บทเรียนไหนครูบอกล่วงหน้าว่าพรุ่งนี้จะสอน ให้อ่านล่วงหน้าไปก่อน. จะได้พอเข้าใจแนวคิด ไม่สับสนตอนครูสอน แถมพอเห็นภาพว่าตัวเองไม่เข้าใจตรงไหน ให้เน้นหนักเนื้อหาส่วนที่คิดว่ายาก แล้วถามเมื่อไม่เข้าใจ
  7. How.com.vn ไท: Step 7 อย่าหยุดเท่าที่ครูสอน.
    อะไรศึกษาหรือฝึกฝนเพิ่มเติมได้ก็ลุยไปเลย ถึงตอนนี้คะแนนจะดีถึง 98% แล้ว แต่ก็ยังทำดีกว่านั้นได้อีก เพื่อเปิดโลกทัศน์ของคุณ
    • พอทำงานหรือการบ้านเสร็จแล้ว หรือเรียนจบบทเรียน ลองถามอาจารย์ดูว่าคุณสามารถต่อยอดวิธีไหนได้อีก
    • สำรวจตำราของระดับชั้นที่สูงกว่า แล้วลองอ่านหรือลงมือทำดู ว่ายากง่ายยังไง สมองจะได้ท้าทายตื่นตัว แถมพอเลื่อนชั้นแล้วก็เท่ากับแบ่งเบาภาระตัวเองไปล่วงหน้า แต่ก็อย่าตะลุยอ่านไปไกลจนลืมวางพื้นฐานตัวเองให้แน่นเข้าไว้ ยังไงความรู้พื้นฐานที่ดูเหมือนง่ายก็สำคัญสำหรับการต่อยอดเสมอ
  8. How.com.vn ไท: Step 8 ท่องหนังสือ.
    แนะนำให้เริ่มอ่านอย่างน้อย 2 - 3 วันก่อนสอบ จัดตารางเป็นวันๆ ไปเลย ถ้ามีกิจกรรมนอกหลักสูตรมากินเวลา ก็อาจบอกเพื่อนหรือครูที่รับผิดชอบว่าขอตัวไปอ่านหนังสือสอบ หรือจะเลิกก่อนเวลาก็ได้ ซึ่งก็ใช่ว่าจะทำได้เสมอไป บางงานก็ จำเป็น ต้องเข้าร่วมแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้ ถ้าเป็นแบบนั้นค่อยอ่านวันหลังแทน ถ้าทำตารางอ่านหนังสือทบทวนโดยละเอียดไว้จะเป็นประโยชน์มาก จดไว้เลยว่าสอบวันไหน ว่างวันไหนบ้าง วันไหนอ่านอะไรบ้าง ต้องใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ นึกถึงผลลัพธ์หรือความสำเร็จที่ปลายทางไว้ จะได้มีกำลังใจ
  9. How.com.vn ไท: Step 9 ให้พ่อแม่หรือพี่ช่วยอ่านเลคเชอร์ของคุณแล้วถามตอบกัน 3 วันก่อนสอบ....
    ให้พ่อแม่หรือพี่ช่วยอ่านเลคเชอร์ของคุณแล้วถามตอบกัน 3 วันก่อนสอบ. โดยเฉพาะคืนก่อนหน้า
    โฆษณา
ส่วน 4
ส่วน 4 ของ 4:

ทำการบ้านให้ครบ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ทำการบ้านให้ครบถ้วน...
    ทำการบ้านให้ครบถ้วน. ที่ครูเขาให้การบ้านก็เพราะอยากให้คุณทบทวนและฝึกฝนเรื่องที่เรียนไปอย่างต่อเนื่องนี่แหละ ว่างเมื่อไหร่ก็อย่าลืมทำการบ้าน หรือจะทำระหว่างทางกลับบ้านก็ได้ถ้าสะดวก บางโรงเรียนก็ให้นักเรียนทำการบ้านเพราะเป็นคะแนนช่วย แต่ถ้าเน้นเพื่อการทบทวนบทเรียนก็ต้องให้ความสำคัญกันหน่อย พยายามทำการบ้านให้ครบถ้วนสมบูรณ์ ส่งตามกำหนด สงสัยตรงไหนรีบถามอาจารย์เลย แต่ก็อย่าทำลวกๆ กะให้เสร็จเร็วๆ ต้องตรวจทานความถูกต้อง และทำให้เป็นระเบียบเรียบร้อยด้วย ถ้าอยากจะเป็นนักเรียนดีเด่น ก็ต้องรู้ว่าตอนไหนควรทุ่มให้เต็มที่ ตอนไหนต้องอดเปรี้ยวไว้กินหวาน แค่การบ้าน ไม่ยากเกินความสามารถของคุณหรอก การทำการบ้านส่งทันตามกำหนด เป็นการฝึกวินัยและทัศนคติที่ดีไปในตัว ถ้ามีงานหรือการบ้านอะไรก็แสดงความสามารถไปให้เต็มที่เลย

เคล็ดลับ

  • เวลาทำสอบให้พยายามเขียนตัวบรรจง อาจารย์จะได้อ่านออก ตรวจให้คะแนนไม่พลาด
  • ถ้าพอมีเวลาว่างก่อนไปโรงเรียน ก็อ่านหนังสือซะเลย
  • ตั้งใจฟังอาจารย์สอน ไม่เข้าใจให้ถาม จัดตารางอ่านหนังสือ ใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ และอย่าลืมทำการบ้าน
  • ทำบัตรคำเอาไว้ท่องศัพท์และถามตอบทวนเนื้อหา
  • จดไว้ว่าวันไหนสอบ วันไหนว่าง วันนี้จะอ่านวิชาอะไร
  • ตั้งใจเรียนและเคารพครูบาอาจารย์
  • ทำงานและการบ้านเสร็จตรงเวลา
  • รับผิดชอบ เป็นผู้ใหญ่ มีน้ำใจ น่าเชื่อถือ พึ่งพาได้ และมองโลกในแง่ดี
  • อ่านหนังสือก่อนสอบเสมอ แต่ก็ต้องนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอด้วย
  • วิชาคณิตศาสตร์ต้องท่องสูตรต่างๆ ให้แม่นยำ
  • อ่านหนังสือเสร็จก็ลุกไปเดินยืดเส้นยืดสายบ้าง จะได้พักสมอง
  • ถ้าเหลือบ่ากว่าแรงจริงๆ ก็หาครูสอนพิเศษเถอะ
โฆษณา

คำเตือน

  • ได้เกรดหรือคะแนนห่วยอย่าเพิ่งเฟล เพราะเป็นเรื่องธรรมชาติ ใครๆ ก็เคยเจอ ขนาดคนเรียนปริญญาตรี ปริญญาโท บางวิชาก็ได้คะแนนไม่ดีเท่าที่คิด ไม่มีใครเก่งไปซะหมด โลกยังไม่แตก เพราะโลกไม่ได้หมุนรอบตัวคุณ ที่ทำได้ก็คือตั้งสติแล้วลองดูใหม่อีกสักตั้ง
  • แต่ก็อย่านิ่งนอนใจถ้าได้เกรดต่ำเตี้ยเรี่ยดินตลอดศก ถ้าโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยของคุณออกเกรดในเว็บด้วย ก็หมั่นเช็คบ่อยๆ จะได้ไม่เซอร์ไพรซ์ (ช็อค) เวลาเกรดออก คุณจะได้รู้ว่า 1) ลืมส่งงานอะไรหรือเปล่า 2) ต้องปรับปรุงตรงไหนบ้าง 3) อาจารย์ออกเกรดตรงหรือเปล่า
  • สำคัญยิ่งกว่าอะไรคือห้ามลอกหรือโกงข้อสอบ เพราะนอกจากไม่ได้อะไรแล้ว ยังอาจเสียหายมหาศาล โทษของการโกงข้อสอบนอกจากพักการเรียนแล้วอาจถึงขั้นถูกไล่ออก คิดดูว่าคุ้มกันหรือเปล่า


โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

วิกิฮาวเป็น "wiki" ซึ่งหมายความว่าบทความหลายๆ บทความของเรานั้นเป็นการร่วมมือกันเขียนของผู้เขียนหลายคน ในการเขียนบทความชิ้นนี้ ผู้คน 253 คน ซึ่งบางคนไม่ขอเปิดเผยตัว ได้ร่วมกันเขียนและปรับปรุงเนื้อหาของบทความอย่างต่อเนื่อง บทความนี้ถูกเข้าชม 8,093 ครั้ง
มีการเข้าถึงหน้านี้ 8,093 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

⚠️ Disclaimer:

Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.

Notices:
  • - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
  • - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
  • - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
  • - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.

โฆษณา