วิธีการ สานสัมพันธ์กับน้องแมว

ดาวน์โหลดบทความ

ดาวน์โหลดบทความ

ภายในบทความนี้:

ดูแลเอาใจใส่น้องแมว

ใช้เวลาอย่างเพลิดเพลินไปกับน้องแมว

บทความที่เกี่ยวข้อง

ข้ออ้างอิง

น้องแมวเป็นสัตว์เลี้ยงแสนน่ารักที่ครองใจผู้คนทั่วโลก อย่างไรก็ตาม พวกเขามีนิสัยที่คาดเดาไม่ค่อยได้เท่าไรนัก คุณอาจพบว่าพวกเขาอาจแสดงความรักกับคุณในช่วงหนึ่งแต่กลับหลีกเลี่ยงที่จะออดอ้อนคุณในหลังจากนั้น ดังนั้นหากคุณหมั่นสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างคุณกับน้องแมวรวมถึงพยายามทำความเข้าใจกับพฤติกรรมของพวกเขา คุณก็สามารถทำให้น้องแมวชื่นชอบหรือแม้กระทั่งหลงรักคุณได้อย่างง่ายดาย

ขั้นตอน

ส่วน 1

ส่วน 1 ของ 2:

ดูแลเอาใจใส่น้องแมว

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   จัดเตรียมพื้นที่สำหรับน้องแมว. น้องแมวเป็นสัตว์ที่ชื่นชอบการนอนหลับ การมีเวลาส่วนตัว การเล่นสนุก และความสะอาดเป็นชีวิตจิตใจ ดังนั้นการจัดเตรียมพื้นที่ที่สะอาดและสะดวกสบายสำหรับน้องแมวจึงช่วยให้เขารู้สึกผ่อนคลายและเปิดใจยอมรับคุณในฐานะผู้ดูแลหรือ “พ่อแม่” ของเขา

   • จัดเตรียมที่นอนแสนสบายให้กับน้องแมวของคุณ โดยคุณสามารถหาซื้อที่นอนสำหรับสัตว์เลี้ยงสักอันหนึ่งหรืออาจทำขึ้นมาเองก็ได้เช่นกัน จำไว้ว่าน้องแมวมักมีนิสัยชอบมุดเข้าไปในกล่อง ดังนั้นจึงเป็นความคิดที่ดีที่คุณจะเตรียมที่นอนสำหรับน้องแมวจากกล่องลังและปูรองด้วยผ้าห่มหรือผ้าขนหนู คุณอาจนำสิ่งของที่คุณสวมใส่วางไว้ในที่นอนเพื่อให้น้องแมวคุ้นชินกับกลิ่นของคุณ
   • ควรแน่ใจว่าน้องแมวของคุณมีกระบะทรายสำหรับขับถ่ายที่ใหม่และสะอาด
   • จัดเตรียมพื้นที่สำหรับเล่นให้กับน้องแมวของคุณ โดยคุณอาจหาซื้อที่ฝนเล็บหรือของเล่นสักกล่องสำหรับให้น้องแมวแทะเล่นหรือลากไปมาและวางเตรียมไว้ในพื้นที่ภายในห้องนั่งเล่นที่สามารถเข้าถึงได้อย่างสะดวก
   • จัดเตรียมพื้นที่อีกส่วนหนึ่งสำหรับจัดวางชามอาหารของน้องแมวโดยเฉพาะ วิธีนี้เป็นการฝึกให้น้องแมวทานข้าวในบริเวณเดียวและทำให้น้องแมวรับรู้ว่าชามอาหารของเขาจะจัดวางไว้ที่เดิมอยู่เสมอ
2. 
   2
   ให้อาหารน้องแมวเป็นประจำ. อาหารที่มีประโยชน์นอกจากจะมีส่วนในการส่งเสริมสุขภาพที่ดีของน้องแมวแล้ว การให้อาหารกับน้องแมวเป็นประจำยังช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างคุณกับน้องแมวและทำให้เขารักคุณมากยิ่งขึ้น

   • พยายามให้อาหารในเวลาเดียวกันทุกวันเพื่อกำหนดกิจวัตรประจำวันของน้องแมวและทำให้เขาเข้ามาหาคุณเมื่อถึงเวลาทานข้าวอยู่เสมอ
   • ให้น้องแมวของคุณทานทั้งอาหารกระป๋องที่มีส่วนช่วยป้องกันการขาดน้ำของสัตว์เลี้ยงและอาหารเม็ด โดยคุณสามารถผสมอาหารทั้งสองชนิดเข้าด้วยกันหรือจะแยกใส่ชามแต่ละใบก็ได้เช่นกัน
   • อย่าลืมเตรียมชามสำหรับใส่น้ำด้วยเช่นกัน โดยควรแน่ใจว่าคุณจัดเตรียมน้ำเปล่าสะอาดให้กับน้องแมวเป็นประจำทุกวัน
   • ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพแมวแนะนำให้คุณให้อาหารน้องแมวในแต่ละวันตามช่วงเวลามื้ออาหารแทนการให้อาหารไม่เป็นเวลาเพื่อป้องกันการเพิ่มขึ้นของน้ำหนักตัวของเขา
   • หลีกเลี่ยงไม่ให้น้องแมวทานเศษอาหาร เพราะอาจทำให้เขามีอาการปวดท้องได้
3. 
   3
   ให้ขนมกับน้องแมวเป็นรางวัล. หากน้องแมวลังเลที่จะเข้าใกล้คุณ ลองถือขนมไว้ในมือพร้อมเรียกชื่อและปล่อยให้เขาทานขนมจากมือของคุณ วิธีนี้จะช่วยแสดงให้น้องแมวเห็นว่าเขาสามารถไว้วางใจคุณได้และเพลิดเพลินไปกับการใช้เวลาอยู่กับคุณ

   • ควรระวังอย่าให้น้องแมวทานขนมมากจนเกินไป เนื่องจากขนมประกอบด้วยน้ำตาลในปริมาณมากและอาจเป็นสาเหตุทำให้น้องแมวมีสุขภาพที่ไม่แข็งแรงและน้ำหนักตัวเกินได้ ซึ่งหากคุณกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ คุณก็สามารถเปลี่ยนให้น้องแมวทานอาหารกระป๋องชิ้นเล็กๆ แทนได้
4. 
   4
   ทำความสะอาดกระบะทรายทุกวัน. น้องแมวมีนิสัยที่รักสะอาด โดนเฉพาะอย่างยิ่งกับกระบะทรายของเขาที่ต้องสะอาดเป็นพิเศษ หมั่นทำความสะอาดกระบะทรายของน้องแมวเป็นประจำวันละครั้งหรือมากกว่านั้นหากจำเป็นเพื่อให้น้องแมวมีสุขภาพกายและใจที่ดีอยู่เสมอ

   • ควรซื้อกระบะทรายเปลี่ยนใหม่ทุกครั้งที่คุณรับน้องแมวตัวใหม่มาเลี้ยง รวมถึงเช็คให้แน่ใจว่ากระบะทรายมีขนาดที่ใหญ่พอกับขนาดตัวของน้องแมว การทำเช่นนี้จะช่วยลดความเสี่ยงที่ทำให้เขาได้กลิ่นแมวตัวอื่นจนไม่ยอมใช้กระบะทราย
   • กระบะทรายที่ไม่สะอาดอาจทำให้น้องแมวรู้สึกกลัวจนทำลายความพยายามของคุณในการทำให้เขาหลงรักคุณ
   • ตามปกติแล้วน้องแมวจะไม่หลีกเลี่ยงการใช้กระบะทรายโดยไม่มีเหตุผล ดังนั้นนี่จึงอาจเป็นสัญญาณว่ากำลังมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น พยายามสังเกตเพื่อหาปัญหาที่เกิดขึ้นและหาทางแก้ไขโดยเร็วที่สุด
   • เหตุผลหลักๆ ที่น้องแมวหลีกเลี่ยงการใช้กระบะทราย ได้แก่ น้องแมวยังไม่ได้ทำหมัน น้องแมวไม่พอใจกับอะไรบางอย่างของกระบะทรายอย่างเช่นขนาดหรือประเภทของทรายที่ใช้ น้องแมวกำลังป่วย น้องแมวรู้สึกไม่ปลอดภัยเมื่ออยู่ใกล้กับแมวตัวอื่นๆ น้องแมวรู้สึกเครียดจากอะไรบางอย่างและต้องการสร้างอาณาเขตของตัวเอง
   • หากคุณไม่สะดวกทำความสะอาดกระบะทรายอย่างสม่ำเสมอ คุณอาจจำเป็นต้องลงทุนซื้อห้องน้ำแมวอัตโนมัติที่สามารถทำความสะอาดได้เองทันทีหลังจากที่น้องแมวขับถ่ายเสร็จ โดยคุณสามารถหาซื้อได้ตามร้านสัตว์เลี้ยงทั่วไป
5. 
   5
   ดูแลสุขภาพของน้องแมว. น้องแมวที่มีสุขภาพกายที่สมบูรณ์ก็จะมีสุขภาพใจที่ดีไปด้วย จึงทำให้มีโอกาสน้อยลงที่เขาจะต่อต้านหรือรู้สึกไม่ชอบคุณ นอกจากการให้อาหารและทำความสะอาดกระบะทรายของน้องแมวเป็นประจำแล้ว คุณควรหมั่นสังเกตสัญญาณของอาการป่วยและโรคต่างๆ และพาเขาไปพบสัตวแพทย์ทันทีหากมีสิ่งผิดปกติใดๆ เกิดขึ้น

   • การหลีกเลี่ยงการใช้กระบะทรายของน้องแมวอาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะซึ่งจำเป็นต้องได้รับการรักษาจากสัตวแพทย์
   • เช่นเดียวกับมนุษย์ ปัญหาสุขภาพฟันอาจรุนแรงและสร้างความเจ็บปวดให้กับน้องแมวได้เช่นกัน คอยสังเกตว่าน้องแมวทานอาหารลำบากหรือไม่ โดยดูจากสัญญาณต่างๆ อย่างเช่นการทานอาหารน้อยลง น้ำหนักตัวลดลง หรือการเคี้ยวอาหารเพียงฝั่งเดียว
   • น้องแมวจำเป็นต้องได้รับการฉีดวัคซีนเช่นเดียวกับสัตว์อื่นๆ เพื่อป้องกันการเกิดโรคพิษสุนัขบ้าหรือโรคหัดแมว พาน้องแมวไปพบแพทย์เป็นประจำทุกปีเพื่อรับการตรวจสุขภาพและฉีดวัคซีน
   โฆษณา

ส่วน 2

ส่วน 2 ของ 2:

ใช้เวลาอย่างเพลิดเพลินไปกับน้องแมว

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   สานสัมพันธ์กับน้องแมวในช่วงเวลาที่เหมาะสม. เช่นเดียวกับมนุษย์ ในบางครั้งน้องแมวก็ต้องการพื้นที่ส่วนตัวเช่นเดียวกัน พยายามหลีกเลี่ยงการอุ้ม ลูบหัว หรือเล่นกับน้องแมวของคุณในขณะที่เขากำลังทำความสะอาดตัวเอง ทานข้าว ดื่มน้ำ หรือนอนหลับ เพื่อไม่ให้น้องแมวรู้สึกตกใจ เครียด หรือรำคาญใจจนแสดงความไม่เป็นมิตรออกมา

   • การปล่อยให้น้องแมวทำความสะอาดตัวเองและนอนหลับอย่างสงบจะทำให้เขารู้สึกชื่นชอบและไว้วางใจในตัวคุณ ซึ่งจะช่วยสร้างสัมพันธภาพที่ดีระหว่างคุณกับน้องแมว
   เคล็ดลับจากผู้เชี่ยวชาญ

   

   Pippa Elliott, MRCVS

   สัตวแพทย์ ราชวิทยาลัยสัตวแพทยศาสตร์

   ดร.เอลเลียตเป็นสัตวแพทย์ที่มีประสบการณ์กว่าสามสิบปี เธอสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยกลาสโกว์ในปี 1987 และทำงานเป็นศัลยสัตวแพทย์นาน 7 ปี หลังจากนั้น ดร.เอลเลียตทำงานเป็นสัตวแพทย์ในคลินิกสัตว์มานานนับสิบปี

   

   Pippa Elliott, MRCVS
   สัตวแพทย์ ราชวิทยาลัยสัตวแพทยศาสตร์

   Pippa Elliott, สัตวแพทย์ที่ได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ, อธิบายไว้ว่า: "ในการดูแลแมวนั้นยิ่งทำน้อยยิ่งได้มาก พยายาม รอให้แมวเข้ามาหาคุณ แทนการเรียกร้องความสนใจจากแมว"
2. 
   2
   แสดงความรักและความอ่อนโยน. หมั่นแสดงความรักและความอ่อนโยนกับน้องแมวเสมอเพื่อแสดงให้น้องแมวเห็นว่าเขาสามารถเชื่อใจคุณได้จนทำให้เขาอยากเข้าหาและใช้เวลากับคุณมากกว่าเดิม

   • ลูบหัวและอุ้มน้องแมวอย่างเบามือทุกครั้ง จำไว้เสมอว่าน้องแมวมีขนาดตัวที่เล็กกว่าคุณหลายเท่า
   • ห้ามกอดน้องแมวแรงๆ หรือดึงหางของเขาโดยเด็ดขาด
3. 
   3
   ปล่อยให้น้องแมวเข้าหาคุณเอง. แม้ว่าคุณจะอยากแสดงความรักให้น้องแมวเห็นโดยการไล่ตามและอุ้มเขาตลอดเวลา แต่จำไว้ว่าการกระทำเช่นนี้เป็นสิ่งที่ขัดต่อพฤติกรรมธรรมชาติของเขา พยายามปล่อยให้น้องแมวเข้ามาหาคุณเองเมื่อต้องการเพื่อให้เขารู้สึกผ่อนคลายและสบายใจเมื่อได้รับความสนใจจากคุณ

   • คุณสามารถสอนให้น้องแมวเข้ามาหาคุณทุกครั้งเมื่อคุณเรียกชื่อด้วยวิธีการฝึกง่ายๆ
   • ห้ามวิ่งไล่ตามน้องแมวหรือใช้เสียงดังกับเขาโดยเด็ดขาด การทำเช่นนี้จะทำให้น้องแมวรู้สึกหวาดกลัวซึ่งไม่เพียงแต่ในช่วงขณะนั้นเท่านั้นแต่ยังรวมถึงในอนาคตอีกด้วย
   • หากดูเหมือนว่าน้องแมวไม่อยากเข้ามาหาคุณ คุณอาจลองชักจูงเขาด้วยขนมหรือแคทนิป
4. 
   4
   อยู่ในตำแหน่งในระดับสายตาของน้องแมว. การนั่งยอง นอนราบกับพื้น หรือนั่งคุกเข่าให้ตัวเองอยู่ในระดับความสูงเดียวกับน้องแมวจะทำให้เขารู้สึกกลัวคุณน้อยลง วิธีนี้จะช่วยให้น้องแมวรู้สึกผ่อนคลายลงเมื่ออยู่ใกล้กับคุณและสร้างความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับเขาให้ดีขึ้น

   • การนอนราบกับพื้นเป็นวิธีที่ช่วยให้น้องแมวใกล้ชิดกับคุณได้มากขึ้น
   • การนั่งบนโซฟาหรือเก้าอี้เป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้น้องแมวเข้าใกล้คุณได้อย่างสบายใจยิ่งขึ้น
   • เนื่องจากน้องแมวมีนิสัยชอบจ้องมองสัตว์ที่ตัวเล็กกว่า คุณอาจลองนอนราบหรือนั่งอยู่ใกล้กับหน้าต่างเพื่อสร้างความเพลิดเพลินให้กับน้องแมวและทำให้คุณสามารถลูบตัวเขาได้ในขณะที่เขากำลังเกาะขอบหน้าต่าง
5. 
   5
   ลูบตัวน้องแมว. น้องแมวเป็นสัตว์ที่ชอบสังเกตและมักตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นเขาจึงมักเชิดหัวขึ้นสูงอยู่บ่อยครั้ง พยายามลูบไล้น้องแมวตรงบริเวณโปรดของเขาในช่วงเวลาดังกล่าวเพื่อให้เขารู้สึกผ่อนคลายและทำให้เขาเป็นมิตรกับคุณมากยิ่งขึ้น

   • ลองลูบที่คอหรือบริเวณอื่นๆ ที่น้องแมวอาจชื่นชอบ เช่น หลัง ใต้คาง หรือท้องของน้องแมว
   • พอเวลาผ่านไปสักพักคุณจะรู้ได้ว่าน้องแมวชื่นชอบให้คุณลูบที่บริเวณใดและคุณอาจพบว่าเขาเริ่มเข้ามาหาคุณเพื่อสิ่งนี้
   • พยายามลูบตัวน้องแมวอย่างเบามืออยู่เสมอ
   • คุณสามารถลูบตัวน้องแมวเพื่อเป็นรางวัลสำหรับการทำสิ่งต่างๆ สำเร็จอย่างเช่นการใช้กระบะทราย รวมถึงหมั่นลูบตัวเขาเป็นครั้งคราวเมื่อคุณนำชามที่ใส่อาหารสดใหม่วางเตรียมไว้บนพื้น
   • หากน้องแมวมีท่าทางลังเลใจเมื่อคุณต้องการลูบตัว ให้คุณยกมือค้างไว้และปล่อยให้เขาดมกลิ่นที่มือของคุณ น้องแมวอาจเริ่มเอาแก้มถูที่มือของคุณและรู้สึกสบายใจมากขึ้นเมื่อคุณลูบตัวเขาในช่วงนั้น
   • คุณสามารถปล่อยให้น้องแมวเคลิ้มหลับบนตักของคุณในขณะที่คุณกำลังลูบตัวเขาอยู่
6. 
   6
   ตอบรับการแสดงความรักของน้องแมว. นอกเหนือจากการดูแลขั้นพื้นฐานแล้ว หนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดในการทำให้น้องแมวชื่นชอบคุณคือการแสดงความรักให้เขาเห็น จำไว้ว่าการหมั่นลูบหรือเล่นกับน้องแมวเป็นวิธีที่จะช่วยสร้างความรักและความไว้วางใจระหว่างคุณและน้องแมวได้เป็นอย่างดี น้องแมวอาจแสดงความรักต่อคุณด้วยวิธีต่างๆ ดังนี้

   • เอาหัวชน. น้องแมวมีวิธีการทักทายโดยการเอาหัวชนส่วนต่างๆ ของร่างกายของคุณ การทำเช่นนี้จะกระตุ้นต่อมไขมันที่อยู่บริเวณด้านหน้าหูของเขาและทำให้กลิ่นตัวของเขาติดที่ตัวคุณ หากน้องแมวเอาหัวชนกับศีรษะของคุณ ให้คุณชนกลับอย่างเบาๆ
   • หันก้นใส่. เมื่อน้องแมวหันหลังใส่คุณพร้อมยกหางขึ้น แสดงว่าเขากำลังต้องการให้คุณซึ่งเหมือนเป็นพ่อแม่ของเขาทำความสะอาดตัวให้ คุณสามารถตอบรับเขาง่ายๆ เพียงเป่าลมใส่ก้นของเขา ซึ่งการทำเช่นนี้จะทำให้น้องแมวเริ่มคุ้นเคยกับคุณและวิธีการทำความสะอาดของคุณ
   • นวด. การที่น้องแมวใช้อุ้งเท้านวดที่ตัวของคุณเป็นสัญญาณว่าเขากำลังมีความสุขและเริ่มคุ้นเคยกับคุณในฐานะพ่อแม่ ปล่อยให้น้องแมวนวดไปเรื่อยๆ เท่าที่ต้องการเพื่อให้เขารู้สึกผ่อนคลายและสร้างความผูกพันระหว่างคุณกับเขา
   • เลีย. การเลียขนเป็นวิธีการหนึ่งที่น้องแมวใช้ในการสร้างกลิ่นในหมู่พวกเดียวกัน ดังนั้นการที่น้องแมวเลียที่ตัวของคุณแสดงว่าเขากำลังสื่อว่าคุณกับเขาเป็นพวกเดียวกัน ซึ่งจะช่วยพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างคุณและน้องแมวให้ดียิ่งขึ้น
7. 
   7
   พูดคุยกับน้องแมว. สิ่งหนึ่งที่สำคัญคือการทำให้น้องแมวสามารถจดจำชื่อของตัวเองได้ คุณจึงควรหมั่นพูดคุยกับเขาเป็นประจำพร้อมกับเรียกชื่อของเขา และเมื่อไรก็ตามที่น้องแมวส่งเสียงร้องเหมียว ให้คุณตอบรับโดยการพูดคุยกับเขา การพูดคุยจะทำให้น้องแมวรู้สึกมีความสุขและพยายามเรียกร้องความสนใจจากคุณอยู่เรื่อยๆ

   • ยกตัวอย่างเช่น หากใกล้ถึงเวลาทานอาหารของน้องแมวและเขาเริ่มส่งเสียงร้องเหมียว คุณอาจพูดคุยกับเขาอย่างเช่น “หิวข้าวหรือยัง เจ้าแซม” และพยายามต่อบทสนทนาไปเรื่อยๆ จนกระทั่งน้องแมวส่งเสียงร้องเหมียวต่อ
8. 
   8
   เล่นกับน้องแมว. น้องแมวเป็นสัตว์ที่มีความกระฉับกระเฉงและมีสุขภาพกายและใจที่ดีจากการวิ่งเล่นไปมา การเล่นกับน้องแมวและหยอกล้อเขาด้วยของเล่นเป็นประจำจะทำให้น้องแมวรู้สึกมีความสุขและช่วยเพิ่มความสนิทสนมระหว่างคุณกับน้องแมวได้มากยิ่งขึ้น

   • เตรียมของเล่นให้น้องแมวหลากหลายประเภท ทั้งของเล่นที่เขาสามารถขว้างได้เอง ของเล่นที่ต้องมีส่วนร่วมจากเจ้าของ และของเล่นที่เขาสามารถ “ล่า” ได้ โดยคุณสามารถหาซื้อของเล่นประเภทต่างๆ สำหรับน้องแมวได้ตามร้านสัตว์เลี้ยงทั่วไป
   • เมื่อเล่นกับน้องแมวโดยใช้ของเล่นที่ต้องมีส่วนร่วมจากเจ้าของอย่างเช่นของเล่นที่สามารถกระดิกหรือแกว่งได้ ให้คุณพูดคุยกับเขาและลูบหัวเขาเบาๆ เมื่อเขามีส่วนร่วมในการเล่นเป็นอย่างดี
   • พยายามหาสิ่งอื่นนอกเหนือจากของเล่นให้น้องแมวได้เล่นด้วยเช่นกัน คุณอาจนำถุงกระดาษที่ไม่มีที่จับหรือกล่องลังวางไว้ทั่วภายในบ้านเพื่อให้เขาได้วิ่งเล่นสำรวจไปมารอบๆ
   • จัดวางคอนโดแมวไว้ใกล้กับหน้าต่างเพื่อให้น้องแมวได้มองชมนก กระรอก และสัตว์เล็กอื่นๆ ที่อยู่นอกหน้าต่าง
   โฆษณา

เคล็ดลับ

• หากน้องแมวส่งเสียงขู่ ให้คุณออกไปจากห้องจนกระทั่งเขาเริ่มใจเย็นลง แต่หากคุณไม่สามารถไปที่อื่นได้ พยายามอย่ามองหรือสัมผัสตัวของเขา รวมถึงพยายามเว้นระยะห่างอย่างพอดีเพื่อให้เขารู้สึกผ่อนคลายลง
• อย่าเล่นกับน้องแมวรุนแรงเกินไป เพราะอาจกระตุ้นให้เขารู้สึกเครียดหรือเป็นกังวลจนเผลอทำร้ายคุณ
• ห้ามปลุกน้องแมวในขณะที่เขากำลังหลับอยู่
• หลีกเลี่ยงการจ้องตาน้องแมว เพราะการทำเช่นนี้จะทำให้เขารู้สึกกำลังถูกคุกคามและอาจทำร้ายคุณได้ เมื่อคุณจ้องมองที่น้องแมว พยายามกระพริบตาช้าๆ และถี่ๆ เพื่อให้เขารู้สึกผ่อนคลาย
• อาจต้องใช้เวลานานหลายวันกว่าที่น้องแมวจะเริ่มเข้าหาคุณ ดังนั้นอย่าเพิ่งหมดกำลังใจหากดูเหมือนว่าคุณยังทำไม่สำเร็จเสียที
• หากน้องแมวไม่ต้องการให้คุณจับหรืออุ้ม ให้คุณปล่อยเขาไปทันที เพราะการอุ้มน้องแมวในขณะที่เขาไม่ต้องการนั้นอาจทำให้เขารู้สึกกลัวได้ การปล่อยน้องแมวไปทันทีเมื่อเขาเริ่มรู้สึกอึดอัดสามารถช่วยสร้างความเชื่อใจในตัวคุณคุณมากยิ่งขึ้น
• หากคุณถูกน้องแมวข่วน ให้รีบล้างทำความสะอาดตรงบริเวณที่โดนข่วนด้วยน้ำร้อนและสบู่สูตรอ่อนโยนทันที
• หากน้องแมวเริ่มมาคลอเคลียพร้อมกับร้องเหมียวๆ ไปด้วย แสดงว่าเขาเริ่มรู้สึกชื่นชอบคุณและต้องการความสนใจจากคุณ
• หากคุณเลี้ยงสุนัขด้วย สิ่งสำคัญที่สุดคือการทำให้น้องแมวรู้สึกปลอดภัย
• ให้ขนมเป็นรางวัลเมื่อน้องแมวประพฤติตัวดี

โฆษณา

คำเตือน

• ของเล่นที่ประกอบด้วยเชือกหรือขนนกอาจเป็นอันตรายกับน้องแมวได้หากเขาเผลอกลืนเข้าไป ดังนั้นคุณจึงควรใช้ของเล่นเหล่านี้เฉพาะเวลาที่คุณคอยจับตาดูน้องแมวอยู่เท่านั้นและนำของเล่นเก็บไว้ให้ห่างจากเขาเมื่อเล่นเสร็จแล้ว

โฆษณา

สิ่งของที่ใช้

• ของเล่นหรือขนมสุดโปรด
• อาหารแมว
• ทรายแมวและกระบะทราย
• ที่นอน