วิธีการ วิ่งระยะทางไกลให้เร็วขึ้น

ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความ

คุณกำลังมองหาวิธีการวิ่งระยะไกลให้เร็วขึ้นหรือเปล่า ไม่ว่าจะเพราะต้องไปแข่ง ต้องสอบให้ผ่านการทดสอบสมรรถภาพทางร่างกายของทหาร หรือแค่อยากจะท้าทายตัวเอง คุณสามารถใช้กลยุทธ์และวิธีการฝึกซ้อมในบทความนี้เพื่อเพิ่มความเร็วของตนรอบลู่วิ่ง

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 4:

วิ่งระยะไกลอย่างเร็ว 1 ไมล์หรือ 1.6 กิโลเมตรในคราวเดียว

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 เริ่มด้วยการอบอุ่นร่างกายก่อนการแข่งขัน.
    ทำการวิ่งแบบสปรินท์ไม่กี่ก้าวเพื่อให้อัตราการเต้นของหัวใจเพิ่มขึ้น ในใจคิดถึงการแข่งขันเอาไว้ รู้ว่าคุณต้องทำให้ได้เวลาเท่าไหร่ในแต่ละรอบ
  2. How.com.vn ไท: Step 2 วิ่งด้วยความเร็วสูงเท่าที่จะทำได้ในรอบที่ 1....
    วิ่งด้วยความเร็วสูงเท่าที่จะทำได้ในรอบที่ 1. คุณจำเป็นจะต้องวิ่งให้เร็วกว่าเวลาที่ตั้งเป้าไว้สักเล็กน้อย
    • โดยทางจิตวิทยาแล้ว คุณจะวิ่งช้าลงเมื่อวิ่งมากขึ้นในแต่ละรอบ ฉะนั้นให้แน่ใจว่ารอบแรกจะต้องเร็วพอทดแทนรอบอื่นได้ ในขณะเดียวกัน อย่าใช้พลังงานทั้งหมดกับรอบนี้อย่างเดียว
    • ตัวอย่างที่ดีก็คือ ถ้าคุณต้องการวิ่ง 1.6 กิโลหรือ 4 รอบสนาม แต่ละรอบจะต้องใช้เวลา 75 วินาที รอบแรกควรจะให้ได้เวลา 71 ถึง 73 วินาที มันไม่เร็วจนเกินไป แต่เร็วพอจะรับประกันความมั่นใจให้คุณได้
  3. How.com.vn ไท: Step 3 วิ่งรอบที่ 2 ด้วยอัตราเร็วแบบสบายๆ.
    นี่เป็นรอบที่ควรจะทำให้ได้ตามเป้า ในการวิ่ง 1.6 กิโลภายใน 5:00 นาทีตามที่เราว่าไว้นั้น รอบ 2 จะต้องเป็นรอบที่ทำเวลาได้ 75 วินาทีเป๊ะ เพื่อที่ความเร็วเมื่อผ่านไปครึ่งทางจะได้อยู่ที่ 2.26-2.28 นาที
    • ถ้าคุณเคยวิ่งระยะ 400 เมตรมาก่อน คุณจะรู้อัตราความเร็วที่คุณต้องทำในการวิ่งแต่ละรอบ คุณจะรู้สึกได้ว่ากล้ามเนื้อในร่างจะจดจำฝีเท้าตามนั้นได้
    • อะดรีนาลีนที่พลุ่งพล่านน่าจะเริ่มลดลงเมื่อวิ่งเข้าสู่รอบนี้และคุณจะเริ่มรู้สึกถึงมัน เพ่งไปที่การรักษาฝีเท้าเข้าไว้
  4. How.com.vn ไท: Step 4 เน้นในรอบที่ 3.
    รอบนี้จะเป็นรอบที่หนักหนาที่สุดทั้งทางกายและใจของคนส่วนใหญ่ และปกติแล้วรอบนี้แหละที่จะเป็นตัวตัดสินว่าคุณจะทำได้ตามเวลาเป้าหมายหรือไม่ โอกาสสูงที่คุณจะมีความเร็วลดลงจากฝีเท้าปกติ
    • ในตัวอย่างวิ่ง 5:00 นาทีของเรานั้น คนส่วนใหญ่จะวิ่งรอบที่ 3 ระหว่าง 77 ถึง 78 วินาที อย่างไรก็ตาม เนื่องจากรอบแรกได้เวลาทดเอาไว้พอดี จึงทำให้เวลารวมจะได้เกือบ พอดีที่ 3.45
    • พยายามรักษาฝีเท้าในรอบนี้ให้ได้มิเช่นนั้นคุณจะตามหลัง จำไว้ว่ารอบต่อไปนั้นจะเป็นรอบสำคัญ!
  5. How.com.vn ไท: Step 5 ใส่สุดตัวในรอบที่ 4.
    นี่คือรอบชี้ชะตา คุณเกือบจะได้ตามเป้าแล้ว นั่นคือสิ่งที่คุณต้องบอกกับตัวเองในจุดนี้ คุณอาจผ่อนฝีเท้าลงเล็กน้อยในรอบที่แล้ว จึงจำต้องควบเต็มที่ในรอบนี้และฮึดขึ้นอีกนิดเพื่อให้ได้ตามเวลา
    • ความสำคัญอย่างยิ่งอยู่ที่ 200 เมตรสุดท้าย ในสนามส่วนใหญ่นั่นจะเป็นโค้งสุดท้าย นี่คือจุดที่คุณต้อง "ใส่สุดฝีเท้า"
    • ทั้งหมดที่จะพูดได้ในรอบนี้คือคุณแค่ทุ่มเต็มที่ แล้วจะทำได้ตามเวลาเป้าหมาย แค่เชื่อมั่นในตัวเอง
  6. How.com.vn ไท: Step 6 เร่งความเร็วเมื่อเข้าโค้ง.
    ในราว 6 ถึง 10 วินาทีที่ต้องใช้ตอนช่วงเข้าโค้งนั้น ให้เร่งฝีเท้าขึ้น มันจะช่วยลดเวลารวมลงกว่าเดิมอีก
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 4:

แผนการฝึกซ้อมสำหรับนักวิ่งหน้าใหม่ที่ต้องการเพิ่มฝีเท้า

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 เริ่มช้าๆ ในระหว่างสัปดาห์ที่ 1.
    คุณจะต้องค่อยๆ เพิ่มระยะทางและระยะเวลาของการวิ่งในขณะที่ต้องฝึกแบบครอสเทรนเพื่อป้องกันอาการบาดเจ็บ ให้ทำตามแผนการพัฒนาต่อไปนี้:
    • วันจันทร์: วิ่งเหยาะๆ 1 ถึง 2 ไมล์ (1.6 ถึง 4.2 กิโลเมตร)
    • วันอังคาร: ปั่นจักรยานหรือว่ายน้ำ
    • วันพุธ: วิ่งเหยาะๆ 1 ถึง 2 ไมล์ (1.6 ถึง 4.2 กิโลเมตร)
    • วันพฤหัสบดี: ปั่นจักรยานหรือว่ายน้ำ
    • วันศุกร์: วิ่งเหยาะๆ 1 ถึง 2 ไมล์ (1.6 ถึง 4.2 กิโลเมตร)
  2. How.com.vn ไท: Step 2 วิ่งเพิ่มอีกหนึ่งไมล์ในสัปดาห์ที่ 2.
    ในวันจันทร์ พุธ และศุกร์ ให้วิ่งเหยาะๆ 2 ถึง 3 ไมล์ (3.2-4.8 กิโลเมตร) ยังคงปั่นจักรยานหรือว่ายน้ำในวันอังคารกับพฤหัสบดี
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ปั่นจักรยานหรือว่ายน้ำเพียงอย่างเดียวในสัปดาห์ที่ 3....
    ปั่นจักรยานหรือว่ายน้ำเพียงอย่างเดียวในสัปดาห์ที่ 3. การหยุดวิ่งอาจฟังดูแปลกๆ แต่นักวิ่งหน้าใหม่นั้นเสี่ยงต่ออาการบาดเจ็บ คุณจะกลับมาวิ่งในสัปดาห์ที่ 4
  4. How.com.vn ไท: Step 4 เริ่มวิ่งอีกครั้งในสัปดาห์ที่ 4.
    ตั้งเป้าไว้ที่วิ่งให้ได้ 12 นาที วิ่ง 3 ไมล์ หรือ 4.8 กิโลเมตร ในวันจันทร์ พุธ ศุกร์ ปั่นจักรยานหรือว่ายน้ำในวันอังคารและพฤหัสบดี
  5. How.com.vn ไท: Step 5 เปลี่ยนรูปแบบในสัปดาห์ที่ 5.
    ยังคงเพิ่มความเร็ว โดยทำตามแผนการฝึกดังนี้:
    • วันจันทร์: วิ่ง 2 ไมล์หรือ 3.2 กิโลเมตร
    • วันอังคาร: วิ่ง 3 ไมล์หรือ 4.8 กิโลเมตร
    • วันพุธ: พัก ไม่ออกกำลังกาย
    • วันพฤหัสบดี: วิ่ง 4 ไมล์หรือ 6.4 กิโลเมตร
    • วันศุกร์: วิ่ง 2 ไมล์หรือ 3.2 กิโลเมตร
  6. How.com.vn ไท: Step 6 ผลักดันตัวเองในสัปดาห์ที่ 6.
    คุณควรลองวิ่งนานถึง 10 นาทีดู รูปแบบการฝึกซ้อมเป็นดังนี้:
    • วันจันทร์: วิ่ง 2 ไมล์หรือ 3.2 กิโลเมตร ถึง 3 ไมล์หรือ 4.8 กิโลเมตร
    • วันอังคาร: วิ่ง 3 ไมล์หรือ 4.8 กิโลเมตร ถึง 4 ไมล์หรือ 6.4 กิโลเมตร
    • วันพุธ: พัก ไม่ออกกำลังกาย
    • วันพฤหัสบดี: วิ่ง 4 ไมล์หรือ 6.4 กิโลเมตร ถึง 5 ไมล์หรือ 8 กิโลเมตร
    • วันศุกร์: วิ่ง 2 ไมล์หรือ 3.2 กิโลเมตร ถึง 3 ไมล์หรือ 4.8 กิโลเมตร
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 4:

การฝึกซ้อมสำหรับนักวิ่งมีประสบการณ์ที่อยากจะทำความเร็วในการวิ่งเพิ่มขึ้น

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ทำการฝึกซ้อมตามแผนต่อไปนี้ในระหว่างสัปดาห์ที่ 1 ถึง...
    ทำการฝึกซ้อมตามแผนต่อไปนี้ในระหว่างสัปดาห์ที่ 1 ถึง 4:
    • วันจันทร์: วิ่ง 2 ไมล์หรือ 3.2 กิโลเมตร พยายามวิ่งให้ได้ไกลที่สุดตามความเร็วเป้าหมายที่คุณหวังไว้ แล้วตามสถิติการวิ่งของคุณดูว่าคุณรักษาฝีเท้าตามที่ต้องการได้นานแค่ไหน
    • วันอังคาร: วิ่งแบบสปรินต์ในระยะ ¼ ไมล์ (400 เมตร) 6 ถึง 8 ครั้งในความเร็วฝีเท้าระหว่าง 90 วินาที ถึง 2 นาทีต่อแต่ละครั้ง โดยระหว่างการพักให้วิ่งเหยาะๆ สัก 1 ถึง 2 นาทีเพื่อฟื้นฟูร่างกาย
    • วันพุธ: พัก อาจไปว่ายน้ำหรือออกกำลังเน้นลำตัวช่วงบน
    • วันพฤหัสบดี: วิ่ง 2 ไมล์หรือ 3.2 กิโลเมตร จับเวลาฝีเท้าดูว่าคุณวิ่งได้ครบหนึ่งไมล์ในเวลาเท่าไหร่ จากนั้นวิ่งเหยาะๆ 2 ไมล์หรือ 3.2 กิโลเมตรในจังหวะฝีเท้าที่ช้าลงมา
    • วันศุกร์: วิ่ง 3 ไมล์หรือ 4.8 กิโลเมตรในระดับฝีเท้าระหว่าง 90 วินาทีจนถึง 2 นาที พยายามผลักดันตัวเองวันนี้เพื่อดูว่าคุณเพิ่มความเร็วฝีเท้าได้หรือไม่ หากความเร็วหล่นลง ให้เดินหรือวิ่งเหยาะๆ 2 นาทีแล้วลองวิ่งใหม่ หากคุณไม่สามารถรักษาฝีเท้าให้คงที่ได้ ให้กลับไปซ้อมแบบช่วงๆ พยายามเร่งเท่าที่จะทำได้
    • วันเสาร์: วิ่งเหยาะๆ 4 ถึง 6 ไมล์ หรือ 6.4 ถึง 7.6 กิโลเมตรในฝีเท้าแบบสบายๆ
  2. How.com.vn ไท: Step 2 เน้นการฝึกให้เข้มข้นขึ้นในสัปดาห์ที่ 5 ถึง 8:
    • วันจันทร์: วิ่ง 2 ไมล์หรือ 3.2 กิโลเมตร รักษาฝีเท้าให้ได้ตลอดทั้งสองไมล์นั้น
    • วันอังคาร: วิ่งแบบสปรินต์ในระยะ 1/2 ไมล์ (800 เมตร) 6 ถึง 8 ครั้งในความเร็วฝีเท้าระหว่าง 3 นาที ถึง 4 นาทีต่อแต่ละครั้ง คุณต้องเพิ่มระยะทางขึ้นมาโดยที่รักษาความเร็วคงเดิม
    • วันพุธ: พัก อาจไปว่ายน้ำหรือออกกำลังเน้นลำตัวช่วงบน
    • วันพฤหัสบดี: วิ่ง 2 ไมล์หรือ 3.2 กิโลเมตรตามฝีเท้าความเร็วที่ตั้งเป้าไว้ แล้ววิ่งเหยาะๆ 2 ไมล์หรือ 3.2 กิโลเมตรในความเร็วฝีเท้าสบายๆ
    • วันศุกร์: วิ่ง 3 ไมล์หรือ 4.8 กิโลเมตรในระดับฝีเท้าระหว่าง 90 วินาทีจนถึง 2 นาที พยายามผลักดันตัวเองวันนี้เพื่อดูว่าคุณเพิ่มความเร็วฝีเท้าได้หรือไม่ หากความเร็วหล่นลง ให้เดินหรือวิ่งเหยาะๆ 2 นาทีแล้วลองวิ่งใหม่ตามความเร็วฝีเท้าที่ตั้งไว้
    • วันเสาร์: วิ่งเหยาะๆ 4 ถึง 6 ไมล์ หรือ 6.4 ถึง 7.6 กิโลเมตรในฝีเท้าแบบสบายๆ ให้แน่ใจว่าได้ยืดเหยียดถูกต้อง[1]
    โฆษณา
ส่วน 4
ส่วน 4 ของ 4:

เคล็ดอื่นๆ เพื่อความสำเร็จ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 หาเพื่อนร่วมวิ่ง.
    เลือกคนที่วิ่งฝีเท้าใกล้เคียงกับคุณเท่าที่จะหาได้ เพราะมันยิ่งช่วยเพิ่มแรงกระตุ้นให้เกิดการแข่งขันกัน ถึงคุณจะฝึกคนเดียวก็ได้ แต่ฝึกคู่กับนักวิ่งด้วยกันเป็นตัวเพิ่มแรงบันดาลใจได้ดี แต่บางคนการมีเพื่อนร่วมวิ่งจะทำให้วิ่งช้าลง ถ้าอย่างนั้นก็ไม่จำเป็นต้องมีคู่หู แต่เก็บไว้พิจารณาก็ดีเหมือนกัน
  2. How.com.vn ไท: Step 2 ตั้งเป้าในใจ.
    ไม่ว่าเป้าหมายจะเป็น 10 นาที 8 นาที หรือ 6 นาที คุณต้องเพ่งจิตใจอยู่กับการทำลายสถิติให้ได้ ร่างกายจะตอบสนองต่อความคิด ถ้าเชื่อว่ามันเกิดขึ้นจริงไม่ได้ มันก็จะเกิดขึ้นจริงไม่ได้ตาม
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ยืดเหยียด...
    ยืดเหยียด หลังอบอุ่นร่างกายและผ่อนคลายกล้ามเนื้อ. ให้ทำการอบอุ่นร่างกายและผ่อนคลายกล้ามเนื้อ 5 ถึง 10 นาทีเสมอ การเพิ่มมันเข้าไปในแผนการฝึกจะช่วยป้องกันอาการบาดเจ็บ
  4. How.com.vn ไท: Step 4 เรียนรู้ที่จะวิ่งอย่างถูกต้อง.
    ท่วงท่าเป็นเรื่องสำคัญและบางครั้งยังเป็นเหตุที่ทำให้คนวิ่งได้ไม่เร็วขึ้น
    • มองที่ขอบฟ้า ไม่ใช่ที่เท้าคุณ การมองเช่นนี้จะทำให้ศีรษะทำมุมเป็นแนวตรงและทำให้คอกับหลังแข็งแกร่งขึ้น
    • รักษาไหล่ให้เสมอกันและไม่เกร็ง ถ้ามันเริ่มยกขึ้นมาที่ใบหู ให้หยุดวิ่งและสะบัดไหล่ยืดมันเบาๆ
    • วางแขนเป็นมุม 90 องศาและให้มันแกว่งไปหน้าหลังแทนที่จะข้ามลำตัว กำมือหลวมๆ ให้นิ้วสัมผัสฝ่ามือเล็กน้อย
    • วิ่งให้ตัวตรง. ถ้าตัวเริ่มแอ่นลง ให้สูดหายใจลึกๆ แล้วลำตัวจะยืดขึ้นตามธรรมชาติ รักษาท่วงท่านี้ในระหว่างหายใจออก
    • รักษาสะโพกให้ตรงกับลำตัว การบิดสะโพกจะเพิ่มความกดดันที่ไม่สมควรให้กับบริเวณหลังส่วนล่าง
    • รักษาระยะก้าวให้ถูกต้อง แต่ละก้าว เท้าควรเหยียบพื้นใต้ลำตัวโดยงอเข่าเล็กน้อย ถ้าวางเท้าลงหน้าลำตัว แสดงว่าคุณก้าวเท้ายาวเกินไป [2]
  5. How.com.vn ไท: Step 5 รักษาความชุ่มชื้น.
    ดื่มน้ำเยอะๆ ราว 1,900 มล. ต่อวัน
  6. How.com.vn ไท: Step 6 เติมการเพิ่มความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อและการออกกำลังแบบพลัยโอเมทริค....
    เติมการเพิ่มความแข็งแกร่งของกล้ามเนื้อและการออกกำลังแบบพลัยโอเมทริค. การฝึกกล้ามเนื้อเล่นเวทจะช่วยให้ร่างกายแข็งแกร่ง และพลัยโอเมทริคจะช่วยเพิ่มความเร็วในการวิ่ง
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • เข้าห้องน้ำก่อนวิ่ง ฟังดูงี่เง่าเนอะ แต่วิ่งตอนปวดฉี่นี่มันกวนใจอย่างมากเลย
  • การมีทัศนคติเชิงบวกเป็นสิ่งสำคัญ ถ้าคุณพร่ำแต่บอกกับตนเองว่าเราห่วยหรือเป้าหมายที่วางไว้คงทำไม่สำเร็จ คุณก็จะไม่มีวันสำเร็จ บอกตัวเองว่าคุณแข็งแรงและวิ่งเร็ว และนึกภาพผลที่ออกมาตามเป้า
  • หายใจลึกๆ หายใจเข้าลึกๆ ทางจมูก และหายใจออกทางปาก หายใจช้าๆ เพื่อให้อัตราการเต้นของหัวใจสงบลงและทำให้คุณแข็งแรงขึ้น
  • พาตัวเองออกมาวิ่งทั้งที่ในใจอาจไม่คิดอยาก พอวิ่งได้สัก 20 นาที คุณจะดีใจที่ได้ออกมาวิ่ง
  • หาซื้อรองเท้าวิ่งที่มีน้ำหนักเบา คนธรรมดาจะเดินเฉลี่ย 880 ก้าวต่อหนึ่งไมล์ (1.6 กิโลเมตร) ถ้าคุณซื้อรองเท้าที่เบาลง 2 ออนซ์ (57 กรัม) นั่นหมายถึงคุณไม่ได้ลากน้ำหนักรวมถึง 108 ปอนด์ (50 กิโลกรัม) ไปด้วยเชียวนะ
  • ถ้าเริ่มรู้สึกหมดกำลังใจ ลองแบ่งการวิ่งออกเป็นช่วงๆ เช่นอีก 400 เมตรจนถึงสี่แยกหรือวิ่งจนถึงตู้ไปรษณีย์ถัดไป พอวิ่งได้ตามเป้าก็กำหนดระยะช่วงถัดไป
  • หายใจทางปากในตอนท้ายตอนที่เร่งฝีเท้าเข้าเส้นชัย อย่างไรก็ดี การหายใจทางปากไม่มีอะไรกรองจึงไม่ควรทำเป็นเวลานาน มันยังทำให้คุณขาดน้ำได้อย่างเร็วด้วย จึงไม่ควรหายใจทางปากในเวลาวิ่ง
  • รอบแรกไม่สมควรวิ่งจนสุดฝีเท้า นี่เป็นความผิดอย่างยิ่ง สงวนพละกำลังไว้ตอนท้ายสุดดีกว่า สำหรับการวิ่งส่วนใหญ่นั้น รักษาฝีเท้าให้คงที่ แล้วมาเร่งขึ้นในตอนท้าย
  • ถ้าใจคุณไปคิดในสิ่งที่ไม่ถูกต้องเช่นคิดถึงขาที่เจ็บหรือว่าคงทำไม่สำเร็จ ให้ร้องเพลงในใจหรือนึกเรื่องอะไรขึ้นมาในหัวแทน
  • รักษาหลังให้ตรงและเงยศีรษะขึ้นในระหว่างวิ่ง
โฆษณา

คำเตือน

  • ถ้าคุณร่างกายอ้วนท้วน หรือไม่ได้วิ่งมานานสักระยะหนึ่ง อย่าพยายามทำเป็นพระเอกและเริ่มด้วยการวิ่งยาว 8 ไมล์ หรือ 12.8 กิโลเมตร ไม่เพียงแต่คุณจะสูญเสียแรงกระตุ้นแต่ยังอาจเกิดอาการบาดเจ็บได้ เช่น กล้ามเนื้อฉีกหรือตึง หรือปัญหาไขข้อ
  • อย่าฝึกซ้อมหนักเกินไป พอคุณฝึกซ้อมย่างเข้าสัปดาห์ที่สามหรือสี่ คุณควรรู้สึกดีขึ้นและหลังวิ่งเสร็จก็ยังสดชื่นกว่าเมื่อก่อน หากรู้สึกเหนื่อยหมดแรงหลังวิ่ง ให้พักสักหนึ่งถึงสองวัน เมื่อกลับมาวิ่งใหม่จะ วิ่งได้เร็ว กว่าเดิม ถ้ารู้สึกปวดระหว่างออกกำลังกาย ให้หยุดพักหรือปรึกษาแพทย์กับผู้ฝึกซ้อม
โฆษณา

สิ่งของที่ใช้

  • เพื่อนร่วมวิ่ง
  • น้ำหรือเครื่องดื่มเกลือแร่

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

How.com.vn ไท: ทีมงานวิกิฮาว
ร่วมเขียน โดย:
นักเขียนในทีมวิกิฮาว
บทความนี้ร่วมเขียนโดยเหล่าบรรณาธิการและนักวิจัยที่ผ่านการฝึกฝนมาเพื่อความถูกต้องและครอบคลุมของเนื้อหา

ทีมผู้จัดการด้านเนื้อหาของวิกิฮาว จะตรวจตราผลงานจากทีมงานด้านเนื้อหาของเราเพื่อความมั่นใจว่าบทความทุกชิ้นได้มาตรฐานตามที่เราตั้งไว้ บทความนี้ถูกเข้าชม 23,890 ครั้ง
มีการเข้าถึงหน้านี้ 23,890 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

⚠️ Disclaimer:

Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.

Notices:
  • - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
  • - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
  • - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
  • - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.

โฆษณา