วิธีการ ล้างคราบไหม้ก้นเตาอบ

เวลาทำอาหารหรืออบขนม อบเนื้อสัตว์ ต้องมีหก มีกระเด็นบ้างเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าไม่รีบทำความสะอาดทันที ระวังจะเกิดคราบไหม้แห้งกรังติดก้นเตาอบ วันนี้คุณมาถูกบทความแล้ว เพราะบทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำวิธีการทำความสะอาดคราบไหม้ก้นเตาอบง่ายๆ แบบไม่เปลืองแรงและเวลาเลย โดยใช้น้ำยาทำความสะอาดที่มีขายทั่วไป หรือจะผสมน้ำยาทำความสะอาดเองก็ประหยัดและปลอดภัย

ส่วน 1

ส่วน 1 ของ 3:

เตรียมล้างเตาอบ

ดาวน์โหลดบทความ

1
เอาทุกอย่างออกจากเตาอบให้หมด. เอาตะแกรงออกจากเตาอบก่อน จะได้ทำความสะอาดก้นเตาอบสะดวก นอกจากนั้นให้เอาทุกอย่างที่ปกติเก็บไว้ในเตาอบออกให้หมด ไม่ว่าจะเป็นที่วัดอุณหภูมิ หรือ pizza stone^{[1]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ถ้าตะแกรงในเตาอบก็มีเศษอาหารไหม้เกรอะกรัง ให้ทำความสะอาดด้วยน้ำยาแบบเดียวกัน โดยเอาตะแกรงออกไปขัดล้าง พอสะอาดแล้วค่อยใส่กลับเข้าไปในเตาอบ
- คุณล้างตะแกรงในเตาอบได้โดยแช่ในน้ำอุ่นผสมน้ำยาล้างจาน พอแช่ตะแกรงไป 2 - 3 ชั่วโมงแล้ว ให้ขัดคราบเหนียว เศษอาหารไหม้ ออกด้วยสก็อตไบรท์ด้านหยาบ สุดท้ายเช็ดให้แห้งด้วยผ้าเช็ดจาน^{[2]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
เช็ดเศษอาหารก้อนใหญ่ๆ หรือคราบที่เพิ่งเลอะออกก่อน. แนะนำให้กำจัดคราบที่ล้างง่ายออก ก่อนเริ่มทำความสะอาดคราบไหม้ โดยใช้ผ้าขี้ริ้วหรือทิชชู่เช็ดคราบหรือเศษอาหารออกจากก้นเตา
ปูหนังสือพิมพ์หรือผ้าเช็ดตัวเก่าที่พื้นหน้าเตาอบ. น้ำยาทำความสะอาดอาจจะกระเด็นเลอะเทอะได้ตอนล้างเตา เลยต้องหาอะไรมาปูกันพื้นครัวเปื้อน แถมแบบนี้ก็ทำความสะอาดง่ายขึ้นด้วย^{[3]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
4
เปิดเตาอบในโหมดล้างเครื่อง (self-cleaning) ถ้ามี. เป็นโหมดที่จะเปิดเครื่องโดยใช้ความร้อนสูง อบคราบและเศษอาหารที่เคยมันและเหนียวให้แห้งกรอบ จนเช็ดล้างทำความสะอาดได้ง่ายขึ้น ปกติจะใช้เวลาล้างเครื่อง 1.5 - 3 ชั่วโมง แล้วแต่เตาอบที่ใช้^{[4]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ถ้าก้นเตาอบมีเศษอาหารไหม้ติดอยู่เต็มไปหมด แนะนำให้ข้ามขั้นตอนนี้ไป เพราะถ้าใช้โหมดล้างเครื่องแล้ว เศษอาหารจะไหม้เยอะเกินไปจนควันโขมง ถ้าบ้านใครมีตัวจับควัน สัญญาณจะร้องจนปล่อยน้ำหรือสารเคมีดับไฟออกมาได้ วุ่นวายไปหมด^{[5]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ตอนใช้โหมดล้างเครื่อง ต้องเฝ้าเตาอบดีๆ ถ้าเริ่มเห็นควันเมื่อไหร่ แนะนำให้ปิดก่อน แล้วทำความสะอาดส่วนที่เหลือเองจะดีกว่า
- พอเดินเครื่องจนครบรอบ และเตาอบเย็นลงแล้ว ให้เก็บกวาดขี้เถ้าสีอ่อนก้นเตาอบ โดยใช้ผ้าชุบน้ำบิดหมาดเช็ดให้สะอาด^{[6]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
โฆษณา

ส่วน 2

ส่วน 2 ของ 3:

ลงน้ำยาทำความสะอาด

ดาวน์โหลดบทความ

1
ผสมเบคกิ้งโซดากับน้ำให้เขละๆ ป้ายง่าย. ผสมเบคกิ้งโซดา ½ ถ้วยตวง (250 กรัม) กับน้ำ 2 - 3 ช้อนโต๊ะ (30 - 45 มล.) ในถ้วย จากนั้นสวมถุงมือ แล้วทาเบคกิ้งโซดาที่ผสมแล้วบริเวณคราบและเศษอาหารไหม้ ทิ้งไว้ข้ามคืน จะช่วยให้เช็ดทำความสะอาดได้ง่าย^{[7]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ระหว่างทาเบคกิ้งโซดาที่ผสมแล้ว ให้ขัดถูไปด้วย น้ำยาจะได้ซึมเข้าไปตามคราบและเศษอาหารไหม้ จะเห็นเบคกิ้งโซดาเปลี่ยนเป็นสีออกน้ำตาลเลย^{[8]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ผสมน้ำส้มสายชูในน้ำยาสูตรนี้ด้วย จะยิ่งใช้ทำความสะอาดได้ล้ำลึกยิ่งขึ้น หรือฉีดพ่นน้ำส้มสายชูใส่เบคกิ้งโซดาก่อนขัดคราบออก น้ำส้มสายชูจะทำปฏิกิริยากับเบคกิ้งโซดา เพิ่มประสิทธิภาพในการชำระล้าง
2
อบเลมอนในเตา ช่วยทำความสะอาดแบบไม่ใช้สารเคมี. หั่นครึ่งเลมอน 2 ลูก แล้วคั้นน้ำใส่ถ้วยทนความร้อน หรือถาดอบ จากนั้นใส่เปลือกมะนาว และเติมน้ำใส่ถ้วยหรือถาดอบให้ได้ ⅓ ใส่ตะแกรงอบตรงกลางเตา แล้ววางถ้วยบนตะแกรง อบเลมอน 30 นาที โดยใช้ความร้อน 120 องศาเซลเซียส (250 องศาฟาเรนไฮต์) ไอระเหยจากน้ำเลมอนจะแทรกซึมเข้าไปตามคราบและเศษอาหารไหม้ ทำให้ขัดออกง่ายขึ้น^{[9]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ระหว่างทำขั้นตอนนี้ อาจจะมีควันบ้างเป็นธรรมดา ต้องทำให้อากาศถ่ายเท โดยเปิดพัดลมเตาอบ และเปิดหน้าต่างบานใกล้เคียง
- ทิ้งไว้ให้เตาเย็น แล้วเอาตะแกรงออกมาเช็ดคราบและรอยไหม้
3
ใช้น้ำยาทำความสะอาดสำเร็จรูปแทน ถ้าโอเคกับการใช้สารเคมีแรงๆ. น้ำยาทำความสะอาดที่เป็นสารเคมี จะขจัดคราบได้ดีกว่าวิธีการอื่นๆ เพราะงั้นถ้าเตาอบเลอะเทอะเป็นพิเศษ แนะนำให้ใช้วิธีนี้จะดีกว่า แต่เพราะมีสารเคมี เลยอาจเป็นพิษได้ ต้องเช็คก่อนว่าเช็ดหรือล้างน้ำยาออกหมดจดแล้ว ค่อยเริ่มอบอาหารรอบใหม่ เวลาทำความสะอาดให้ฉีดพ่นน้ำยาตรงคราบไหม้ แล้วทิ้งไว้ให้ออกฤทธิ์ประมาณ 20 - 30 นาที^{[10]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- แนะนำให้สวมแว่นนิรภัยกับถุงมือยางหนาๆ ก่อนใช้น้ำยาทำความสะอาดแรงๆ เพื่อป้องกันสารเคมีกระเด็นเข้าตาหรือกัดผิว
- อ่านวิธีใช้งานที่ฉลากก่อนเสมอ จะได้รู้ว่าต้องลงน้ำยายังไง และทิ้งไว้ให้ออกฤทธิ์นานแค่ไหน
4
ระวังอย่าให้น้ำยาทำความสะอาด (ไม่ว่าประเภทไหน) โดนความร้อน. ไม่ว่าจะใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดสูตรธรรมชาติหรือที่เป็นสารเคมี ย้ำว่าอย่าโดนความร้อน โดยเฉพาะอย่าให้หลงเหลือน้ำยาตอนจะเริ่มอบอาหารครั้งใหม่ เพราะพอเตาอบทำงาน ความร้อนจะทำให้คราบน้ำยาไหม้เกิดควัน รสชาติอาหารเปลี่ยนไปได้^{[11]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ถ้าเป็นเตาอบไฟฟ้า ให้ยกขดลวดหนาๆ ที่ทำความร้อนขึ้นก่อน แล้วฉีดน้ำยาข้างใต้แทน ถ้าเป็นเตาอบที่ใช้แก๊ส ระวังอย่าฉีดหรือลงน้ำยาที่วาล์วแก๊สหรือที่จุดเตา
- ถ้าเผลอทำน้ำยากระเด็นใส่แหล่งความร้อน ให้เช็ดออกด้วยผ้าชุบน้ำสะอาด
โฆษณา

ส่วน 3

ส่วน 3 ของ 3:

ล้างน้ำยา

ดาวน์โหลดบทความ

1
ใช้ผ้าขี้ริ้วเปียกหมาด เช็ดน้ำยาทำความสะอาดออกไปพร้อมคราบ. ตลอดขั้นตอน ให้ซักแล้วบิดผ้าให้หมาดบ่อยๆ เพื่อให้แน่ใจว่าตามซอกมุมไม่เหลือน้ำยาตกค้าง^{[12]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง} ถ้าใช้น้ำยาทำความสะอาดสำเร็จรูป ต้องอ่านวิธีใช้และคำเตือนที่ฉลากให้ละเอียดก่อนใช้งาน จะได้รู้วิธีล้างน้ำยาตอนสุดท้าย
- ถ้าใช้เบคกิ้งโซดาที่ผสมแล้ว ให้กรอกน้ำส้มสายชูกลั่นขาวใส่ขวดเล็กน้อย ใช้ฉีดพ่นเบคกิ้งโซดาที่ป้ายไว้ ก่อนเช็ดออก เบคกิ้งโซดาที่ผสมกับน้ำส้มสายชูแล้ว จะเป็นฟองละเอียด เห็นง่าย เช็ดง่าย^{[13]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ถ้าล้างเตาอบด้วยเลมอน ให้ใช้น้ำเลมอนที่เหลือ ขัดบริเวณที่มีรอยไหม้เพิ่มเติม^{[14]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- สปาทูล่าพลาสติก ใช้แซะเศษอาหารไหม้เกรอะกรังได้ดี^{[15]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
ชุบน้ำให้พอหมาด แล้วใช้ขัดคราบเหนียว คราบไหม้เกรอะกรังออกได้อย่างง่ายดาย จะใช้ฟองน้ำไมโครไฟเบอร์ หรือฝอยขัดหม้อแทนก็ได้^{[16]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
3
ใช้ผ้าเปียกหมาดเช็ดเตาอบอีกรอบ แล้วปล่อยให้แห้ง. หาผ้าสะอาดมาเช็ดก้นเตาอบอีกรอบ เพื่อให้ปราศจากคราบ เศษอาหาร และน้ำยาตกค้าง จากนั้นเช็ดด้วยผ้าสะอาดหรือผึ่งลมจนแห้งสนิท^{[17]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ถ้าใช้น้ำยาทำความสะอาดแรงๆ แนะนำให้ล้างทำความสะอาดก้นเตาอบอีกรอบ ด้วยน้ำยาล้างจานเล็กน้อย เพื่อไม่ให้เหลือสารเคมีอันตราย
- ถ้ามีคราบเกรอะกรังเหลืออยู่เล็กน้อย ให้พ่นน้ำส้มสายชู แล้วเช็ดด้วยผ้าเปียกหมาดจนสะอาด น้ำส้มสายชูจะช่วยขจัดคราบฝังแน่นได้
4
ทำความสะอาดบริเวณโดยรอบ แล้วใส่ตะแกรงคืนที่. อย่าลืมเช็ดผนังเตาอบด้านข้างและฝาเตาอบด้วย ถ้าฉีดน้ำยาไป จากนั้นเก็บหนังสือพิมพ์หรือผ้าที่ปูพื้นไว้ แล้วเช็ดเศษตกค้างที่กระเด็นออกมาจากเตาอบ
- ถ้าต้องล้างตะแกรงเตาอบ ที่วัดอุณหภูมิ หรืออื่นๆ ที่ถอดออกมาก่อนทำความสะอาดด้วย ก็ให้ล้างก่อนใส่กลับเข้าไป
โฆษณา

เคล็ดลับ

คุณใช้เบคกิ้งโซดาผสมน้ำเขละๆ ทำความสะอาดส่วนที่เป็นกระจกของประตูเตาอบ ได้เหมือนที่ใช้ทำความสะอาดเตาอบส่วนที่เหลือเลย ลงน้ำยาแล้วทิ้งไว้สัก 20 นาที จากนั้นเช็ดออกด้วยฟองน้ำสะอาด สุดท้ายเช็ดกระจกด้วยผ้าสะอาด^{[18]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
ถ้าปกติใช้เตาอบเป็นประจำ แนะนำให้ทำความสะอาดทุก 3 เดือน แต่ถ้านานๆ จะใช้ที ทำความสะอาดแค่ 1 - 2 ครั้งต่อปีก็พอ^{[19]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
บอกเลยว่าหมั่นล้างเตาอบ อาหารจะสดใหม่ อร่อยยิ่งขึ้น! เพราะเศษอาหารไหม้กรังก้นเตา จะส่งกลิ่นควันฉุนๆ ทำให้รสชาติอาหารที่อบใหม่เปลี่ยนไป^{[20]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
ป้องกันคราบมันและรอยไหม้แห้งกรังสะสม โดยทำความสะอาดทันทีหลังใช้เตาอบแต่ละครั้ง แต่รอจนเย็นลงก่อน ไม่งั้นอาจลวกมือได้^{[21]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}

โฆษณา

คำเตือน

จริงๆ แล้วน้ำยาฟอกขาวใช้ทำความสะอาดเตาอบได้ แต่ไม่แนะนำ เพราะเป็นอันตรายต่อปอดและผิวหนัง แถมช่วยขจัดคราบมันจากเตาอบได้ไม่ดีเท่าที่ควร^{[22]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}

โฆษณา