บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Guy Peters. กาย ปีเตอร์ส เป็นเจ้าของ MOP STARS Cleaning Service บริการทำความสะอาดบ้านแบบเต็มรูปแบบสำหรับลูกค้าตามที่อยู่อาศัยและอาคารพาณิชย์ในเดนเวอร์ รัฐโคโลราโด MOP STARS ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2557 โดยให้บริการทำความสะอาดแบบประจำ ย้ายเข้า/ออก ลึก และเชิงพาณิชย์ กายสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีศิลปศาสตรบัณฑิตสาขานการเงินจาก California State University - Sacramento และปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจจากมหาวิทยาลัยคอร์เนล
บทความนี้ถูกเข้าชม 37,707 ครั้ง
การลบรอยปากกาเคมีออกจากพื้นผิวพลาสติกนั้นง่าย แต่เราก็ต้องระมัดระวังด้วย เพราะสารที่ใช้ได้ผลดีบางสารอย่างเช่น อะซิโตน อาจทำลายพื้นผิวพลาสติกได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าสารเหล่านั้นถูกปล่อยทิ้งไว้บนพื้นผิวพลาสติกนานเกินไป บทความนี้จะแสดงวิธีการลบรอยปากกาเคมีออกจากพื้นผิวพลาสติก โดยวิธีการลบก็มีอยู่หลายวิธีด้วยกัน อย่างไรก็ตามอย่าลืมว่าเราอาจไม่สามารถลบคราบหมึกปากกาเคมีที่แข็งตัวและฝังแน่นออกได้หมด
ขั้นตอน
- เตรียมปากกาไวท์บอร์ด. เราจะใช้ปากกาไวท์บอร์ดสีอะไรก็ได้ ฉะนั้นถ้าต้องการเลือกใช้ปากกาไวท์บอร์ดสีเข้ม ก็ย่อมได้ ปากกาไวท์บอร์ดใช้ได้ผลดียิ่งกับคราบหมึกปากกาเคมีบนกระดานไวท์บอร์ดและปลอดภัยที่จะใช้บนพื้นผิวพลาสติกที่เรียบลื่น ปากกาไวท์บอร์ดอาจใช้ไม่ได้ผลกับพื้นผิวขรุขระ ฉะนั้นหากเป็นคราบปากกาเคมีบนพื้นผิวที่ขรุขระ ให้ใช้รับบิ้งแอลกอฮอล์ หรือเบกกิ้งโซดากับยาสีฟันแทน
- ใช้ปากกาไวท์บอร์ดเขียนทับรอยปากกาเคมี. ปากกาไวท์บอร์ดประกอบด้วยตัวทำละลายที่ช่วยละลายหมึกปากกาเคมีได้
- ใช้ผ้านุ่มๆ เช็ดบริเวณที่มีคราบให้สะอาด. เมื่อใช้ผ้านุ่มๆ เช็ดบริเวณที่มีคราบแล้ว รอยปากกาเคมีจะหลุดออกมาพร้อมกับหมึกปากกาไวท์บอร์ด[1]
- ฉีดน้ำยาเช็ดกระจก ถ้าเช็ดหมึกปากกาไวท์บอร์ดไม่ออก. ถ้าหมึกปากกาไวท์บอร์ดแห้งและเราเช็ดหมึกไม่ออก (รวมทั้งหมึกปากกาเคมีด้วย) ฉีดน้ำยาเช็ดกระจกไปที่บริเวณซึ่งมีคราบและใช้กระดาษชำระอเนกประสงค์เช็ดคราบหมึกออก[2]โฆษณา
- ซื้อฟองน้ำมหัศจรรย์. เราสามารถหาซื้อฟองน้ำมหัศจรรย์ได้ทางอินเทอร์เน็ต ฟองน้ำมหัศจรรย์มีสีขาวและรูปร่างเหมือนก้อนอิฐ เราต้องซื้อฟองน้ำมหัศจรรยเปล่าๆ ไม่มีสารใดใส่เพิ่มเข้ามาอย่างเช่น สารฟอกขาว
- ตัดฟองน้ำออกเป็นชิ้นเล็กๆ. ฟองน้ำชิ้นเล็กๆ จะนำมาใช้งานได้ง่ายกว่า อีกทั้งยังใช้ได้ผลดีอีกด้วย
- นำฟองน้ำมาชุบน้ำ. ถ้าเป็นคราบหมึกที่หลุดออกยากมาก ให้นำฟองน้ำมาชุบรับบิ้งแอลกอฮอล์แทน[3]
- ใช้ฟองน้ำเช็ดถูบริเวณที่มีคราบเป็นวงกลมจนกว่าคราบจะหลุดออก. อย่ากดแรงมากเกินไป อาจใช้เวลาประมาณห้าถึงสิบนาทีกว่าจะเริ่มเห็นผล[4]โฆษณา
ลบรอยปากกาเคมีด้วยรับบิ้งแอลกอฮอล์ ผลิตภัณฑ์ล้างมือ หรืออะซิโตน
- เตรียมรับบิ้งแอลกอฮอล์ ผลิตภัณฑ์ล้างมือ หรืออะซิโตน. สารทั้งสามอย่างนี้จะช่วยละลายสารเคมีต่างๆ ในหมึกปากกาเคมี ทำให้หมึกละลายง่ายขึ้น นี้คือข้อดีและข้อเสียของแต่ละสาร
- รับบิ้งแอลกอฮอล์เป็นสารที่ใช้ได้อย่างปลอดภัยมากที่สุด แต่จะได้ผลไม่ดีเท่าอะซิโตนและอาจต้องใช้สักสองสามครั้งกว่าคราบหมึกจะหลุดออก ยิ่งรับบิ้งแอลกอฮอล์มีเปอร์เซ็นต์สูง ก็ยิ่งใช้ได้ผล พยายามเลือกใช้รับบิ้งแอลกอฮอล์ 90% ขึ้นไป[5]
- ผลิตภัณฑ์ล้างมือจะใช้ได้ดีกับพื้นผิวโค้งเพราะคงรูปได้ดีกว่าและไม่หยดมาก ผลิตภัณฑ์ล้างมือใช้ได้ผลดีแทบจะเทียบเท่ากับใช้รับบิ้งแอลกอฮอล์เลย
- อะซิโตนเป็นสารที่รุนแรงแต่ใช้ได้ผลมากที่สุด อะซิโตนอาจทำให้สีหลุดออกและละลายพื้นผิวบางพื้นผิว จึงไม่แนะนำให้ใช้สารนี้กับพื้นผิวที่ทาสีและพลาสติกที่อ่อนนุ่ม ฉะนั้นทดสอบสารนี้กับบริเวณซึ่งไม่เป็นที่สังเกตเห็นก่อนใช้จริง เวลาใช้งานนำสำลีก้อนชุบอะซิโตนแล้วกดบริเวณที่มีคราบปากกาเคมีสักสองสามวินาทีก่อนเช็ดออก ถ้าพื้นผิวพลาสติกดูเหมือนบิดเบี้ยวหรือสีซีด อย่าใช้อะซิโตน ให้ใช้รับบิ้งแอลกอฮอล์หรือผลิตภัณฑ์ล้างมือแทน
- ใช้สำลีก้อนชุบแอลกอฮอล์ หากพื้นผิวพลาสติกเป็นพื้นผิวโค้งและคราบมีขนาดเล็ก. ถ้าหากเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ล้างมือ หยดผลิตภัณฑ์ล้างมือลงบนคราบหมึกสักสองสามหยดแล้วใช้นิ้วเกลี่ยน้ำยาให้ทั่วคราบหมึกปากกาเคมี
- ใช้สำลีก้อนเช็ดคราบหมึกออกให้หมด. สำลีก้อนเหมาะสำหรับใช้เช็ดบนพื้นผิวโค้งรวมทั้งแป้นพิมพ์และโทรศัพท์ด้วย ถ้าคราบหมึกปากกาเคมีนั้นหลุดออกยาก นำสำลีก้อนใหม่ชุบแอลกอฮอล์และกดที่คราบหมึกไว้สักสองสามนาที จากนั้นเช็ดคราบหมึกออก หากใช้อะซิโตน อย่ากดสำลีนานขนาดนี้ เพราะอะซิโตนอาจละลายพลาสติกได้ หากปล่อยให้สารนี้สัมผัสพื้นผิวพลาสติกนานเกินไป
- เทแอลกอฮอล์ลงบนคราบหมึก หากพื้นผิวมีลักษณะแบนราบและคราบมีขนาดใหญ่. ใช้นิ้วเกลี่ยแอลกอฮอล์ให้กระจายไปทั่วคราบหมึกปากกาเคมี
- ใช้กระดาษชำระอเนกประสงค์เช็ดคราบหมึกออกให้หมด. ถ้าเป็นคราบที่หลุดออกยาก ปล่อยแอลกอฮอล์ทิ้งไว้สักสองสามนาที แต่ถ้าใช้อะซิโตน อย่าปล่อยสารนี้ทิ้งไว้บนพื้นผิวพลาสติกเกินสองสามวินาที ไม่อย่างนั้นอะซิโตนอาจทำลายพื้นผิวของพลาสติกได้
- ใช้สำลีก้อนชุบแอลกอฮอล์แล้วเช็ดถูพื้นผิวพลาสติกไปเรื่อยๆ จนกระทั่งคราบหมึกหลุดออกหมด. คราบหมึกส่วนใหญ่จะหลุดออกหลังจากเช็ดถูพื้นผิวรอบแรก แต่ก็อาจมีคราบหมึกหลงเหลืออยู่ได้ อย่าลืมว่ายิ่งปล่อยให้คราบหมึกปากกาเคมีติดอยู่บนพื้นผิวพลาสติกนาน ก็จะยิ่งลบออกยาก ในบางกรณีคราบหมึกอาจซึมเข้าไปในพื้นผิวพลาสติกลึกมาก ในกรณีนี้เราจะยังคงเห็นคราบหมึก “ลางๆ” อยู่โฆษณา
- เตรียมส่วนผสม. เราต้องใช้เบกกิ้งโซดาหนึ่งส่วนและยาสีฟันสีขาวหนึ่งส่วน [6] จะใช้ส่วนผสมมากแค่ไหนนั้นขึ้นอยู่กับขนาดของคราบ เราจะต้องใช้ยาสีฟันที่มีเนื้อสีขาว (หรือยาสีฟันที่มีเนื้อสีเขียวมิ้นต์อ่อนๆ) อย่าใช้ยาสีฟันแบบเจล เพราะยาสีฟันสีขาวมีเนื้อที่หยาบกว่ายาสีฟันแบบเจล ฉะนั้นจึงใช้ได้ผลดีกว่า เนื่องจากวิธีการนี้ใช้สารขัดถู จึงไม่แนะนำให้ใช้กับพื้นผิวที่ทาสี เพราะอาจขูดสีได้ ให้ทดสอบน้ำยากับบริเวณซึ่งไม่เป็นที่สังเกตเห็นก่อนนำมาใช้ลบรอยปากกาเคมี
- ถ้าคราบหมึกปากกาเคมีเป็นคราบเล็กๆ ให้ใช้ยาสีฟันและเบกกิ้งโซดาในปริมาณเท่ากับขนาดเมล็ดถั่วลันเตา ถ้าเป็นคราบหมึกขนาดใหญ่ เราจะต้องใช้ยาสีฟันและเบกกิ้งโซดาอย่างละหนึ่งช้อนชาหรือหนึ่งช้อนโต๊ะ
- เราจะต้องเตรียมภาชนะไว้ใส่ยาสีฟันและเบกกิ้งโซดาด้วย จะใช้ชาม จาน หรือถ้วยเล็กๆ ก็ได้
- นำยาสีฟันกับเบกกิ้งโซดามาผสมกันแล้วคนจะกว่าจะได้น้ำยาที่ข้นเหนียว. ตวงยาสีฟันและเบกกิ้งโซดา เราต้องใช้ทั้งสองอย่างในปริมาณเท่ากันและใช้ส้อมหรือช้อนคนให้เข้ากัน จะใช้ไม้จิ้มฟันหรือไม้ไอติมคนส่วนผสมก็ได้เช่นกัน
- ป้ายน้ำยาให้ทั่วคราบหมึกปากกาเคมี. อย่าป้ายน้ำยาบางเกินไป แต่ก็อย่าป้ายน้ำยาหนาเกินไปด้วย หลังจากป้ายน้ำยาลงไปแล้ว ถ้าเรายังเห็นคราบหมึกปากกาเคมีอยู่ ให้ป้ายน้ำยาเพิ่มลงไปอีกนิด
- ขัดถูคราบสักหนึ่งนาที. ถ้าพื้นผิวที่มีคราบหมึกนั้นขรุขระมาก ให้ใช้แปรงสีฟันในการขัดถูคราบ ขนแปรงจะสามารถเข้าไปในซอกเล็กๆ ทุกซอกได้ ถ้าพื้นผิวที่มีคราบหมึกนั้นเรียบมาก ใช้ผ้าขนหนูหรือนิ้วขัดถูบริเวณนั้น แต่อย่าขัดถูแรงมากเกินไป ไม่อย่างนั้นพื้นผิวอาจมีรอยขีดข่วนได้
- ขจัดคราบหมึกออกให้หมด. เบกกิ้งโซดากับยาสีฟันจะขจัดคราบหมึกปากกาเคมีออกจนหมด แต่หลังจากนั้นเราอาจใช้รับบิ้งแอลกอฮอล์ขจัดคราบที่ยังหลงเหลืออยู่ออกอีกครั้งก็ได้โฆษณา
- ใช้ทีทรีออยล์. น้ำมันนี้จะช่วยละลายคราบหมึกปากกาเคมี ทำให้คราบหมึกหลุดออกง่ายขึ้น อีกทั้งยังมีกลิ่นน่าพึงใจมากกว่ารับบิ้งแอลกอฮอล์และอะซิโตนเยอะ แค่นำสำลีก้อนชุบทีทรีออยล์แล้วเช็ดถูบริเวณที่มีคราบจนกว่าคราบจะหลุดออกจนหมด ถ้าบริเวณที่มีคราบเป็นพื้นที่ขนาดเล็กมาก ให้ใช้สำลีก้านแทน เมื่อเช็ดถูคราบออกหมดแล้ว ใช้กระดาษชำระอเนกประสงค์เช็ดทำความสะอาดบริเวณนั้นอีกครั้ง
- ถ้ายังมีน้ำมันหลงเหลืออยู่ นำสำลีก้อนชุบรับบิ้งแอลกอฮอล์แล้วเช็ดน้ำมันออกให้หมด
- ใช้ยางลบดินสอ. เราต้องใช้ยางลบที่มีคุณภาพดี ยางลบดินสอจะใช้ได้ผลดีที่สุดกับคราบเบา และพื้นผิวเรียบ แค่ใช้ยางลบดินสอลบคราบหมึกจนกว่าคราบหมึกจะหายไป[7]
- ใช้ครีมกันแดด.[8] ครีมกันแดดมีน้ำมันที่สามารถช่วยละลายสารเคมีต่างๆ ในหมึกปากกาเคมีได้ อย่างไรก็ตามอย่าลืมว่าน้ำมันในครีมกันแดดอาจทำให้พื้นผิวบางพื้นผิวเป็นคราบได้เช่นกัน ฉะนั้นทดสอบครีมกันแดดกับบริเวณซึ่งไม่เป็นที่สังเกตเห็นก่อนใช้จริง
- ใช้เบกกิ้งโซดาและน้ำส้มสายชู. โรยเบกกิ้งโซดาลงบนคราบหมึกปากกาเคมี จากนั้นเทน้ำส้มสายชูกลั่นลงบนคราบหมึก ปล่อยให้ส่วนผสมเกิดฟองอยู่บนคราบหมึกสักสองสามนาที จากนั้นใช้กระดาษชำระอเนกประสงค์เช็ดออก[9]
- ใช้ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์. เราต้องใช้ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ชนิดที่อยู่ในขวดสีเข้ม โดยหาซื้อได้จากร้านขายยา นำสำลีก้อนมาชุบไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์แล้วเช็ดคราบหมึกออก ถ้าเป็นคราบขนาดใหญ่ เทไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ลงบนคราบหมึกแล้วใช้กระดาษชำระอเนกประสงค์เช็ดออก[10]
- ใช้สเปรย์จัดแต่งทรงผม. สารเคมีต่างๆ ในสเปรย์จัดแต่งทรงผมจะช่วยละลายคราบหมึกปากกาเคมี ทำให้คราบหมึกหลุดออกง่ายขึ้น ฉีดสเปรย์ใส่บริเวณที่มีคราบหมึก จากนั้นใช้กระดาษชำระอเนกประสงค์เช็ดออกให้หมด แต่อย่าลืมว่าสารเคมีต่างๆ ในสเปรย์จัดแต่งทรงผมอาจสร้างความเสียหายให้แก่พื้นผิวพลาสติกบางพื้นผิว ทดสอบสเปรย์จัดแต่งทรงผมกับบริเวณซึ่งไม่เป็นที่สังเกตเห็นก่อนฉีดใส่คราบหมึกปากกาเคมี
- ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีน้ำมันเป็นส่วนประกอบหลักด้วยความระมัดระวัง. ผลิตภัณฑ์อย่างเช่น Goo Gone และ Goof Off สามารถขจัดคราบต่างๆ และคราบเหนียวๆ ได้รวมทั้งคราบปากกาเคมีด้วย[11] อย่างไรก็ตามสารเคมีในผลิตภัณฑ์เหล่านี้อาจทำลายพื้นผิวบางพื้นผิวได้ โดยแฉพาะถ้าพื้นผิวนั้นเป็นพื้นผิวมันวาว ฉะนั้นอ่านคำแนะนำการใช้ของผู้ผลิตและทดสอบผลิตภัณฑ์กับบริเวณซึ่งไม่เป็นที่สังเกตเห็นก่อน เมื่อใช้ผลิตภัณฑ์กับคราบหมึกปากกาเคมีแล้ว อาจมีคราบน้ำมันหลงเหลืออยู่ ใช้สำลีก้อนชุบรับบิ้งแอลกอฮอล์แล้วเช็ดคราบน้ำมันออกโฆษณา
เคล็ดลับ
- เราอาจต้องลบรอยปากกาเคมีหลายครั้ง หากคราบนั้นเก่าและเป็นคราบหนัก
- ลองใช้ยางลบดินสอลบรอยปากกาเคมีออกจากแผ่นเซลโลเฟนหรือกระดาษแก้วดูสิ มันได้ผลจริงๆ
คำเตือน
- ถ้าเราใช้สารเคมีอย่างเช่น อะซิโตน ครีมกันแดด และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีน้ำมันเป็นส่วนประกอบหลัก ให้ทดสอบสารเคมีกับบริเวณซึ่งไม่เป็นที่สังเกตเห็นก่อนใช้จริงเสมอ
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ Cleanipedia, How to Remove Permanent Marker from Surfaces
- ↑ Enchanted Mommy, How to Remove Sharpie — Who Knew?!
- ↑ Retro Fixes, How to Remove Sharpie Marker from Plastic
- ↑ Retro Fixes, How to Remove Sharpie Marker from Plastic
- ↑ Bargain Babe, How to Remove Permanent Market from Plastic
- ↑ Cleanipedia, How to Remove Permanent Marker from Surfaces
- ↑ One Good Thing by Jillee, How to Remove Permanent Marker from {Just About} Anything
- ↑ One Good Thing by Jillee, How to Remove Permanent Marker from {Just About} Anything
- ↑ Bargain Babe, How to Remove Permanent Market from Plastic
- ↑ Bargain Babe, How to Remove Permanent Market from Plastic
- ↑ One Good Thing by Jillee, How to Remove Permanent Marker from {Just About} Anything
บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม
⚠️ Disclaimer:
Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.
- - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
- - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
- - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
- - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.