บทความนี้ร่วมเขียนโดยเหล่าบรรณาธิการและนักวิจัยที่ผ่านการฝึกฝนมาเพื่อความถูกต้องและครอบคลุมของเนื้อหา
ทีมผู้จัดการด้านเนื้อหาของวิกิฮาว จะตรวจตราผลงานจากทีมงานด้านเนื้อหาของเราเพื่อความมั่นใจว่าบทความทุกชิ้นได้มาตรฐานตามที่เราตั้งไว้
บทความนี้ถูกเข้าชม 15,459 ครั้ง
ความเชื่อใจอันน้อยนิดอาจทำให้ความสัมพันธ์ดีๆ ต้องล้มเหลวได้ อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณมีเหตุผลที่ดีพอที่จะสงสัยว่าแฟนของคุณกำลังนอกใจคุณอยู่แล้วละก็ ยิ่งรู้ความจริงเร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดีเท่านั้น ถ้าอยากรู้จริงๆ ว่าแฟนของคุณไม่ซื่อสัตย์กับคุณอยู่หรือไม่ ทำตามขั้นตอนเหล่านี้เลย
ขั้นตอน
- ดูว่าเธอหันมาดูแลรูปลักษณ์ของตัวเองมากขึ้นหรือเปล่า. ถ้าจู่ๆ เสื้อผ้าของเธอก็เพิ่มขึ้นสามเท่าตัวในเวลาแค่สองเดือนที่ผ่านมา ในขณะที่คุณทั้งสองแทบไม่ได้ไปเที่ยวด้วยกันเลย ถ้าเจอแบบนี้แล้ว เธออาจจะไปเที่ยวกับคนอื่นอยู่บ่อยๆ ก็ได้ อาจจะเป็นเพื่อนร่วมงาน เพื่อนที่เรียนด้วยกัน หรือใครก็ได้ในชีวิตเธอ แล้วยิ่งถ้าเธอใช้เวลาทำผมและแต่งหน้านานเป็นพิเศษในวันที่แค่ออกไปซื้อของ หรือไปร้านกาแฟกับเพื่อนละก็ เริ่มน่าสงสัยแล้วล่ะ
- ถ้าอยู่ๆ เธอก็ใช้เวลาในฟิตเนสนานเป็นพิเศษ อีกทั้งใส่ใจดูแลรูปร่าง อาจจะเป็นเพราะเธอต้องการเอาใจผู้ชายคนอื่นก็เป็นได้
- แต่ก็ต้องดูให้ดีนะ เพราะหากมองอีกมุมหนึ่งแล้ว เธออาจจะแค่เริ่มหันมาใส่ใจรูปลักษณ์ เพราะอยากดูดีขึ้นก็ได้ แต่ถ้านำการกระทำนี้ไปพิจารณารวมกับสัญญาณอื่นๆ แล้ว เราก็อาจจะตัดสินได้ว่าเธอกำลังนอกใจคุณอยู่ก็ได้
- ดูว่าเธอถอยห่างออกจากครอบครัวของคุณมากขึ้นหรือเปล่า. เช่น แฟนของคุณมักจะชอบไปกินบาร์บีคิวที่บ้านป้าของคุณบ่อยๆ แต่อยู่ๆ ก็ไม่ว่างติดกันถึงสามครั้ง หรือถ้าแฟนของคุณมักจะไปช้อปปิ้งกับน้องสาวของคุณบ่อยๆ แล้วอยู่ๆ ก็ไม่ได้คุยกันเป็นอาทิตย์ หรือแม้กระทั่งการใช้เวลาอยู่กับพ่อแม่ของคุณด้วย เมื่อก่อนเธออาจจะทั้งเป็นมิตรและกระตือรือร้นที่จะพบพวกท่านอยู่ตลอด แต่อยู่ดีๆ ก็กลายเป็นคนไม่พูดไม่จาและมีท่าทางอึดอัดทุกครั้งที่เจอพวกท่าน แฟนของคุณเป็นแบบที่กล่าวมานี้หรือเปล่าล่ะ
- ถ้าเธอกำลังนอกใจคุณอยู่จริงๆ การพบปะครอบครัวคุณจะเป็นการย้ำเตือนเธอถึงการที่เธอกำลังนอกใจคุณอยู่ จึงไม่แปลกที่เธอจะไม่อยากเจอพวกท่านสักเท่าไหร่
- การที่เธอเริ่มถอยห่างจากครอบครัวของคุณ อาจะเป็นสัญญาณอีกอย่างหนึ่งที่บ่งบอกว่าเธอพร้อมจะออกจากความสัมพันธ์ขอคุณทั้งสองแล้วก็ได้ ไม่ว่าเธอจะนอกใจคุณหรือไม่ก็ตาม
- ดูว่าเธอถอยห่างจากเพื่อนของคุณด้วยหรือเปล่า. เราสามารถตีความแบบเดียวกันกับกรณีครอบครัวของคุณ ก่อนหน้านี้เธออาจจะชอบออกไปเที่ยวชายหาดหรือไปสังสรรค์ตอนกลางคืนกับกลุ่มเพื่อนของคุณ แต่ถ้าอยู่ๆ เธอก็ไม่อยากไปเที่ยวกับคนพวกนี้ขึ้นมา นั่นอาจหมายความว่าเธอกำลังพยายามตีตัวออกห่างจากคุณก็ได้ หรือถ้ากำลังนอกใจจริงๆ เธออาจจะรู้สึกผิดจนไม่กล้าสู้หน้าเพื่อนๆ ของคุณ หรือกระทั่งไม่อยากเอาตัวเองเข้าไปเจอความรู้สึกดีๆ ที่เคยมีให้กับคุณและเพื่อนๆ ก็เป็นได้
- ถ้ามันชัดเจนมาก อย่ากลัวที่จะถามเธอตรงๆ เพราะเธออาจจะมีคำอธิบายอื่นว่าทำไมเธอถึงไม่อยากใช้เวลากับเพื่อนๆ ของคุณก็ได้
- หรือเวลาที่เธอออกไปเที่ยวกับคุณและเพื่อนๆ ของคุณ แล้วเพื่อนๆ ทำตัวแปลกๆ หรือท่าทางอึดอัดเวลาอยู่กับเธอ พวกเขาอาจจะรู้อะไรบางอย่างที่คุณยังไม่รู้ก็ได้นะ จริงๆ แล้วมันเป็นสัญญาณที่สำคัญมากเลยล่ะ ที่บ่งบอกว่าแฟนของคุณกำลังนอกใจคุณอยู่ และคุณเป็นคนสุดท้ายที่รู้
- ดูว่าเธอถอยห่างออกจากการมีเพศสัมพันธ์กับคุณหรือเปล่า. แม้ว่าผู้ชายที่กำลังนอกใจแฟนอยู่จะมีแนวโน้มที่จะมีเพศสัมพันธ์กับผู้หญิงอื่นมากขึ้นกว่าเดิมมาก แต่สำหรับผู้หญิงนั้นจะมีแนวโน้มต่ำกว่า เพราะถ้าเธอได้รับรักจากชายอื่นแล้ว เธออาจจะรู้สึกผิด หรือไม่อยากนอนกับคุณเลย สมมุติว่าปกติคุณทั้งสองมีเพศสัมพันธ์กันบ่อยๆ แต่อยู่มาวันหนึ่ง เธอก็ “เหนื่อยเกินไป” หรือ “รู้สึกไม่ค่อยสบาย” ทุกครั้งที่คุณพยายามจะมีอะไรกับเธอถึงสิบครั้งติดกัน นี่ก็น่าจะเป็นสัญญาณที่บ่งบอกอย่างชัดเจนว่าตอนนี้เธอได้สนองความต้องการกับชายคนอื่นแล้ว
- ถ้าเธอกำลังนอกใจคุณอยู่ ร่างกายของเธอจะไม่ค่อยเปิดรับคุณด้วย เธออาจจะไม่อยากให้คุณเห็นเธอตอนไม่ใส่เสื้อผ้า และส่วนมากจะนอนหลบอยู่ใต้ผ้าห่มมากกว่า
- แน่นอนว่า การที่เธอไม่อยากมีเพศสัมพันธ์ก็อาจหมายถึงความไม่พอใจอะไรบางอย่างในความสัมพันธ์ของคุณทั้งสองก็ได้ แต่ถ้าคุณสังเกตได้ว่าเธอกระตือรือร้นหรือชอบไปหยอกเย้าคนอื่นๆ แต่ไม่สนใจใยดีคุณเลย แบบนี้ก็เป็นปัญหาแล้วล่ะ
- ดูว่าเธอเลิกสนใจคุณหรือเปล่า. อะไรที่แย่กว่าแฟนสาวที่คอยจู้จี้กับคุณตลอดเวลาล่ะ ก็แฟนสาวที่ไม่สนใจใยดีอะไรเลยยังไงล่ะ เมื่อไหร่ที่เธอไม่สนใจคุณแล้ว คุณจะคิดถึงเธออย่างแน่นอน และคงอยากให้เธอมาคอยบ่นเวลาคุณไม่ล้างจานมากกว่าไม่สนใจเลย เมื่อไหร่ที่เธอเลิกถามคุณเกี่ยวกับงาน หรือโรงเรียน หรือแม้กระทั่งรับรู้เหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นในชีวิตของคุณแล้ว อาจแปลว่าเธอได้ตัดสินใจถอนตัวออกจากความสัมพันธ์นี้แล้วก็ได้ เธออาจจะกำลังคบคนอื่นอยู่ หรือแค่เลิกสนใจคุณไปเลยก็ได้
- เมื่อไหร่ที่สิ่งนี้เกิดขึ้น ถึงเวลาที่คุณต้องหาคำตอบแล้ว ไม่มีประโยชน์เลยถ้าจะปล่อยให้เป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ ถ้าเธอเลิกสนใจคุณแล้วจริงๆ
- ดูว่าอยู่ๆ เธอก็ยุ่งเกินกว่าที่จะเจอคุณหรือเปล่า. เมื่อก่อนคุณทั้งสองอาจจะเจอกันวันอาทิตย์เพื่อกินข้าวหรือแค่พบปะกัน แต่ตอนนี้เธอไม่ว่างที่จะเจอกันแล้ว หรือว่าคุณนัดกันดูรายการทีวีโปรดด้วยกันทุกวันอังคาร แต่อยู่ๆ เธอก็หายไปแบบไร้ร่องรอย อีกทั้งเธอยังไม่แม้แต่จะขอโทษหรือสังเกตที่คุณไม่ได้ทำอะไรด้วยกันด้วย ถ้าอยู่ๆ เธอก็หมกตัวอยู่แต่ที่ทำงาน “และ” ใช้เวลากับเพื่อนมากขึ้น “และ” ใช้เวลาในฟิตเนสมากกว่าเดิม หากแฟนสาวของคุณกำลังเป็นอย่างที่กล่าวมานี้ละก็ เธออาจจะกำลังใช้เวลากับผู้ชายคนอื่นอยู่นะ
- ลองสังเกตดูว่าเธอทำตัวยังไง เวลาที่ก้าวออกจากบ้านเพื่อ “ไปเจอเพื่อน” เธอดูเซ็กซี่กว่าปกติ ฮัมเพลงกันตัวเอง หรือแค่มีท่าทางตื่นเต้นแปลกๆ บ้างหรือเปล่า ถ้าใช่ ก็อาจจะเป็นเพราะว่าเธอกำลังจะไปเจอคนพิเศษก็ได้
- ดูว่าเธอพยายามปกปิดมือถือหรือคอมพิวเตอร์หรือเปล่า. ก่อนหน้านี้เธอมักจะชี้ให้คุณอ่านบทความตลกๆ ในแล็ปท็อปเธอตลอด หรือขอให้คุณช่วยเช็คข้อความในมือถือให้ แต่ตอนนี้กลายเป็นว่า เธอรีบปิดจอแล็ปท็อปทันทีที่คุณเข้ามา ไม่ส่งข้อความต่อหน้าคุณแล้ว แถมยังใส่พาสเวิร์ดไว้ล็อกมือถือหรือคอมพิวเตอร์อีกด้วย ถ้าก่อนหน้านี้เธอไม่ปกปิดขนาดนี้ แล้ววันหนึ่งเธอเปลี่ยนไป แปลว่าเธอต้องไม่อยากให้คุณเห็นว่าคุยกับใครอยู่แน่ๆ
- ถ้าคุณค่อนข้างมั่นใจ แถมยังเห็นว่าเธอกำลังแชทกับคนอื่นอยู่ ลองถามเธอเล่นๆ ดูว่าเธอคุยกับใคร แล้วดูว่าเธอทำตัวยังไง เธอดูตกใจและพยายามเปลี่ยนเรื่องหรือเปล่า หรือแค่ตอบกลับมาอย่างรวดเร็วและมั่นใจล่ะ
- ดูว่าเธอหายสาบสูญไปเลยหลายชั่วโมงโดยไม่อธิบายอะไรเลยหรือเปล่า. นี่เป็นสัญญาณที่สำคัญมากที่จะบ่งบอกได้ว่าแฟนของคุณไม่ซื่อสัตย์กับคุณ ถ้าทั้งโทรและส่งข้อความไปก็ไม่ตอบ งานเข้าแล้วล่ะ ถ้าเกิดขึ้นแค่ครั้งสองครั้งยังพอให้อภัยได้ แต่ถ้าเป็นแบบนี้หลายครั้งภายในสัปดาห์เดียว อีกทั้งเธอมักจะแก้ตัวโดยการบอกว่ามือถือแบตหมด หรือไม่ได้ยินเสียงตอนคุณโทรเข้าละก็ คุณควรจะเริ่มสงสัยบ้างแล้วล่ะ
- ถ้าเธอหายไปสองสามชั่วโมง ถามไปเลยว่าทำอะไรอยู่ แล้วลองดูสีหน้าเธอด้วย ดูว่าเธอพยายามเปลี่ยนเรื่องหรือมีสีหน้าอับอายบ้างหรือเปล่า
โฆษณา
- สังเกตว่าจู่ๆ เธอก็พูดถึง “เพื่อนใหม่” หรือเปล่า. มีชื่อของเพื่อนร่วมงานหรือเพื่อนร่วมชั้นหลุดออกมาจากปากเธอครั้งสองครั้งเมื่อไม่นานมานี้บ้างหรือเปล่าล่ะ หรือพูดถึงใครสักคนอยู่บ่อยๆ บ้างไหม ถ้าใช่ ผู้ชายคนนี้อาจจะเป็นคนที่คุณเกรงกลัวอยู่ก็ได้ เริ่มจากลองถามคำถามทั่วๆ ไปเกี่ยวกับผู้ชายคนนี้ก่อน แล้วถ้าเธอเริ่มหน้าแดง หรือเริ่มพยายามปกป้องตัวเอง นี่ก็อาจจะเป็นเพราะเธอไม่อยากให้คุณรู้จักคนที่เธอแอบคบหาอยู่
- ลองสังเกตน้ำเสียงหรือสีหน้าของเธอเวลาที่คนๆ นั้นเข้าใกล้เธอ เธอดูตื่นเต้น ทำตัวแปลกๆ หรือเปล่า หรือไม่ก็แสดงท่าทีว่ารู้สึกผิดบ้างไหม ถ้าเป็นอย่างที่ว่า เธอน่าจะแอบคบกับเขาคนนั้นอยู่นะ
- สังเกตว่าเธอเริ่มจู้จี้กับคุณมากเป็นพิเศษหรือเปล่า. ไม่แปลกที่เธอจะชอบบ่นคุณด้วยเหตุผลต่างๆ แต่เหตุผลข้อหนึ่งอาจจะเป็นการที่เธอไม่ได้หลงรักคุณเหมือนเดิมแล้วก็ได้ ทำให้ความสัมพันธ์อยู่ในจุดที่ไม่แน่นอน หรือเธออาจจะรู้สึกผิดอยู่ก็ได้ที่หักหลังคุณ ส่งผลให้เธอบ่นคุณมากขึ้นกว่าเดิมเพื่อพยายามปกปิดความผิดของตัวเอง ยิ่งถ้าเธอบ่นไปซะทุกเรื่องแล้ว เธออาจจะทำไปเพื่อให้ตัวเธอเองรู้สึกดีขึ้นก็ได้
- นี่อาจจะเป็นเพียงแค่สัญญาณที่บอกว่าเธอไม่ค่อยพอใจกับความสัมพันธ์ตอนนี้ก็ได้ แต่มันก็ไม่ใช่สิ่งที่ดีหรอกนะ
- แน่นอนว่า ถ้าพฤติกรรม “ของคุณ” เปลี่ยนไป เธอก็น่าจะบ่นคุณมากขึ้นอยู่แล้ว
- สังเกตว่าเธอจงใจปกปิดตารางเวลาของเธอหรือเปล่า. ถ้าปกติเธอมักจะบอกคุณเสมอว่าจะทำอะไร เช่น “ฉันจะไปกินกาแฟกับเคธี่ อีกสองชั่วโมงจะกลับนะ” แต่ตอนนี้กลายเป็นว่ารีบออกจากบ้านไปเลยโดยไม่บอกไม่กล่าวว่าจะไปไหน เธอน่าจะปกปิดอะไรบ้างอย่างแล้วล่ะ ถ้าคุณไม่รู้เลยว่าเธอหายไหนหลายชั่วโมงนี้ แล้วเธอยังพยายามปกปิดอีกตอนที่คุณถาม เธอคงกำลังใช้เวลากับคนอื่นอยู่แน่ๆ
- ถ้าเริ่มแรก เธอบอกคุณว่าทำอย่างหนึ่งอยู่ แต่หลังจากนั้นบอกว่าทำอีกอย่าง เธอน่าจะโกหกคุณอยู่ล่ะ
- สังเกตว่าอยู่ๆ เธอก็สนใจตาราง “ของคุณ” มากเป็นพิเศษหรือเปล่า. คุณอาจจะคิดว่านั่นเป็นเพราะเธอใส่ใจคุณมาก แต่มันก็อาจจะเป็นวิธีการหนึ่งที่เธอใช้เพื่อป้องกันไม่ให้คุณจับเธอได้ก็ได้นะ ถ้าเธอถามเวลาเป๊ะๆ ที่คุณจะกลับบ้าน หรือส่งข้อความมาถาม เธอคงไม่ได้เฝ้ารอคุณอยู่หรอกนะ แต่ที่เธอถามก็เพราะไม่อยากให้คุณอยู่ใกล้ตอนที่เธอกำลังเดทกับอีกคนอยู่ต่างหาก
- ถ้าคุณอยากจะลองจับเธอให้ได้คาหนังคาเขา ลองใช้วิธีนี้ดูสิ เริ่มจากบอกเธอว่าวันนั้นคุณคงไม่ออกไปเที่ยวที่ๆ คนไปกันเยอะๆ เช่น บาร์ในเมือง หลังจากนั้นก็ลองไปที่นั่นแล้วดูว่าจะเจอเธอกับคนอื่นหรือเปล่า ถ้าเธอถามก็บอกไปว่าเปลี่ยนใจกระทันหัน
โฆษณา
- แอบตามเธอ. แม้ว่าวิธีนี้จะเสี่ยงมากต่อการสูญเสียความเชื่อมั่นและไว้ใจ แต่ถ้าคุณไปถึงจุดที่อยากรู้มากจริงๆ แต่ไม่กล้าถามตรงๆ ละก็ ลองแอบตามไปดูเลย ว่าเธอไปทำอย่างที่เธอพูดไว้หรือเปล่า ไม่ขนาดต้องขับรถตามตลอดเหมือนพวกโรคจิตนะ แค่แวะไปที่ๆ เธอบอกว่าจะไป แล้วไปดูด้วยตาตัวเองว่าเธอทำอย่างที่พูดจริงๆ หรือเปล่า
- ถ้าเธอบอกคุณว่าเธอต้องกลับจากที่ทำงานดึก ลองไปหาเธอที่ทำงานพร้อมซื้อข้าวไปฝากด้วย แล้วดูว่าเธอรู้สึกยังไง ซึ่งถ้าเธอไม่อยู่ที่ทำงานนะ ก็เรื่องใหญ่แล้วล่ะ
- ถ้าเธอบอกว่าเธอจะไปบาร์หรือร้านอาหารกับเพื่อนๆ และมันไม่น่าเกลียดเกินไปที่จะบังเอิญอยู่แถวนั้นพอดีละก็ ลองแวะไปเจอเธออีกหนึ่งชั่วโมงหลังจากนั้นดู แล้วดูว่าเธออยู่ที่นั่นจริงๆ หรือเปล่า อย่าลืมคิดหาคำแก้ตัวติดไปด้วยล่ะ
- แวะไปบ้านเธอโดยไม่ได้บอกล่วงหน้า. ถ้าเธอบอกว่าขอเวลาสามสิบนาที คุณก็ไปถึงตอนนั้นเลย แล้วบอกเธอว่าคุณอยากเจอเธอจนทนไม่ไหว แล้วดูว่าเธอพร้อมที่จะอาบน้ำเลย หรือพยายามปกปิดหลักฐานว่ามีผู้ชายคนอื่นมาบ้าน เธอไม่ยอมให้คุณเข้าห้องนอนไหม หรือที่แย่กว่านั้นคือ เธอไม่ยอมให้คุณมาหาเลยหรือเปล่า การกระทำเหล่านี้เป็นสัญญาณที่บ่งบอกชัดเจนมาก อีกทั้งก็เป็นวิธีการที่ดีที่จะจับเธอหากเธอโกหก ถ้าคุณต้องการจับให้ได้คาหนังคาเขานะ
- ไปแบบซื่อๆ เลย แล้วบอกว่าแค่อยากมาเซอร์ไพรส์ หรือหลอกว่าคุณเข้าใจข้อความที่ส่งหากันผิด อย่าเพิ่งรีบเปิดเผยว่าคุณกำลังสงสัยเธออยู่ล่ะ
- แอบดูของๆ เธอ. วิธีนี้ก็เป็นอีกทางที่เสี่ยง เพราะเธออาจจะไม่ไว้ใจคุณอีกเลย แต่ถ้ามันเข้าขั้นวิกฤตแล้วจริงๆ ลองแอบดูคอมพิวเตอร์หรือมือถือของเธอ แล้วดูว่าจะเข้าอีเมลหรือข้อความเก่าๆ ได้หรือเปล่า ถ้าเธอลบข้อความกับอีเมลเหล่านั้นทิ้งไปหมดแล้ว ก็น่าสงสัยไม่ใช่น้อย วิธีนี้ไม่ใช่วิธีที่ดีเลย แต่ก็เป็นวิธีหนึ่งที่จะทำให้รู้ได้ว่าเธอไม่ซื้อสัตย์กับคุณจริงๆ ไหม
- ถามออกไปตรงๆ เลย. บอกเธอไปว่าคุณมีเรื่องข้องใจ เธอมีเวลาว่างคุยกันสองต่อสองไหม อย่าเพิ่งรีบกล่าวหาเธอ (เช่น พูดโพล่งออกไปเลยว่า “ผมรู้นะว่าเธอกำลังนอกใจฉันอยู่น่ะ!) ค่อยๆ เล่าความรู้สึกดีกว่า (เช่น “ผมรู้สึกได้ว่าช่วงนี้คุณไม่ค่อยใส่ใจความสัมพันธ์ของเราสองคนเท่าไหร่”)
- สังเกตดูว่าเธอตอบคำถามคุณหรือเปล่า เพราะถ้าเธอไม่ได้นอกใจคุณ ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่เธอจะไม่ตอบตรงๆ และแสดงความมั่นใจว่าไม่ได้มีอะไรจริงๆ แต่ถ้าใช่อย่างที่คุณคิดละก็ เธอคงจะพูดวนไปวนมา โดยไม่ได้ตอบคำถามเลยก็ได้
- ถ้าเธอพยายามปกป้องตัวเอง หรือพยายามพลิกสถานการณ์ละก็ เธออาจจะรู้สึกผิดอยู่ก็ได้
- ทำตามสัญชาตญาณ. บางครั้ง ตัวคุณเองนั่นแหละที่รู้ได้ด้วยสัญชาตญาณว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างคุณกับแฟนสาว โดยไม่ต้องมานั่งคิดแล้วคิดอีก จะร้องไห้หรือโกหกตัวเองมากแค่ไหนก็ไม่น่าจะช่วยให้อะไรดีขึ้น ดังนั้นเมื่อพิจารณาหลักฐานทั้งหมดที่มีแล้ว ก็ถึงเวลาที่จะทำตามสิ่งที่ตัวเองคิดว่าดีที่สุดแล้วล่ะโฆษณา
เคล็ดลับ
- ถ้าเธอคุย (ส่งข้อความ) กับผู้ชายคนอื่นมากกว่าที่เธอคุยกับคุณ หรือเวลาที่คุณทั้งสองทำอะไรด้วยกันอยู่ นี่ก็เป็นสัญญาณหนึ่งที่ชัดเจนมากทีเดียว
- ถ้าเธอไม่ซื่อสัตย์กับคุณจริงๆ เธอจะเริ่มหาข้อแก้ตัวต่างๆ นาๆ ซึ่งนอกจากจะทำให้คุณรู้สึกแย่แล้ว มันจะทำให้เธอรอดพ้นจากการกล่าวหาด้วย
- ถ้าแฟนของคุณเริ่มทำตัวแปลกไป ทั้งการวิธีการพูดกับคุณ และการปฏิบัติตัวเวลาที่คุณไม่อยู่ ล้วนเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าเธอกำลังนอกใจคุณอยู่ทั้งสิ้น
- คุณไม่สามารถใช้คำพูดบังคับเธอได้ บางครั้งนั้น ไม่มีอะไรที่คุณจะทำได้นอกจากถอยออกมาจากความสัมพันธ์นี้ ห้ามตัดวิธีนี้ออกเด็ดขาดนะ เพราะมันจะทำให้คุณจมปลักและแก้ปัญหาไม่ได้สักที
- ถ้าเธอมักจะคุยโทรศัพท์ตลอดเวลา หรือสายไม่ว่างอยู่บ่อยๆ นี่ก็เป็นสัญญาณที่ชัดมากอย่างหนึ่ง
- ถ้าเธอไม่กล้ามองหน้าคุณตรงๆ เวลาคุยกัน เธออาจจะไม่ซื่อสัตย์กับคุณอยู่ก็ได้
- อย่าถามเธอโดยไม่มีปี่มีขลุ่ยว่า “เธอคงไม่ได้กำลังนอกใจฉันกับคนอื่นอยู่หรอกนะ ใช่ไหม” ไม่ว่าจะยังไง เธอก็จะบอกว่าได้ทำอยู่ดี อีกทั้งเธอยังจะไม่เชื่อใจคุณด้วย
- ถ้าเธอไม่อยากให้คุณรู้จักคนรู้จักของเธอ ลองเช็คอีเมลหรือมือถือของเธอดู
- ถ้าเธอทำตัวหวานเป็นพิเศษ นั่นก็อาจเป็นสัญญาณหนึ่งเหมือนกัน
- ผู้หญิงมีเพื่อนผู้ชายได้อยู่แล้ว และพวกเธอก็มักจะจับเนื้อต้องตัวกับพวกเขาเป็นปกติถ้าเป็นเพื่อนกัน ไม่ว่าจะเป็นเพศไหนก็ตาม ดังนั้นอย่าทึกทักเอาเองว่าเธอกำลังนอกใจคุณ เพียงเพราะเห็นเธอกอดผู้ชายคนอื่น
บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม
⚠️ Disclaimer:
Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.
- - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
- - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
- - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
- - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.