วิธีการ ปฏิเสธเมื่อถูกเพื่อนร่วมงานจีบ

ดาวน์โหลดบทความ

ดาวน์โหลดบทความ

ภายในบทความนี้:

ขอบคุณสำหรับความรู้สึก

ปฏิเสธอย่างสุภาพ

อธิบายว่าทำไมถึงปฏิเสธ

ย้ำว่าไม่ใช่ความผิดเขา

ถ้าเขายังไม่เข้าใจ ให้หาข้ออ้างที่ฟังขึ้น

คุยแต่เรื่องงานเท่านั้น

หนักแน่นเข้าไว้ ถ้าเขาเริ่มบังคับ

อย่าไปสนถ้าเขายังหยอดเรื่อยๆ

ไปเที่ยวกันเป็นกลุ่มแทน ถ้าเผลอตอบตกลง

เตือนตัวเองเรื่องความเสี่ยงที่อาจเกิด

แสดงเพิ่มอีก 7...

แสดงน้อยลง...

บทความที่เกี่ยวข้อง

ข้ออ้างอิง

ถ้าวันดีคืนดี เพื่อนร่วมงานคนหนึ่งเกิดขอคบ หรือชวนคุณออกเดทขึ้นมา แถมรอฟังคำตอบแบบใจจดจ่อ หรือสังหรณ์ใจว่าเพื่อนคอกข้างๆ ในออฟฟิศท่าทางจะแอบชอบคุณอยู่ คุณคงอยากหาโอกาสดีๆ ให้พ้นจากสถานการณ์แสนอึดอัดใจนี้ โดยไม่ทำร้ายน้ำใจกัน ซึ่งบอกเลยว่าจริงๆ การปฏิเสธเพื่อนร่วมงานที่ชวนเดท นั้นควรเป็นไปอย่างตรงไปตรงมานั่นแหละ แม้ตอนนั้นอาจมีอึดอัดใจกันบ้าง ขอแค่คุณชัดเจน จริงใจ เอาใจเขามาใส่ใจเรา ไม่ทำอะไรเกินคำว่าเพื่อนร่วมงาน ก็ไม่น่าจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ ถ้ากำลังหาวิธีปฏิเสธเขาแบบไม่เสียหน้าที่การงาน ก็เลื่อนลงไปอ่านเคล็ดลับและเทคนิคดีๆ ในบทความวิกิฮาวนี้ได้เลย

ขั้นตอน

1

ขอบคุณสำหรับความรู้สึก

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   ถนอมน้ำใจเขาโดยขอบคุณก่อน. ไม่ได้จะบอกให้ทอดสะพานหรือให้ความหวังลมๆ แล้งๆ กับเขา แต่ก็ต้องเริ่มจากแสดงความเป็นมิตร แล้วค่อยบอกสิ่งที่คุณคิด ถ้าเริ่มด้วยคำพูดน่าฟัง ก็จะไม่เสี่ยงมีปากเสียงกันหลังปฏิเสธ ถ้าทำเขาไม่พอใจแต่แรก ระวังจะเข้าหน้ากันไม่ติดในที่ทำงานภายหลัง อาจจะพูดประมาณ

   • “ขอบคุณมากนะคะที่อุตส่าห์ชวน แต่…”
   • “ไม่เคยทราบเลยค่ะว่าพี่คิดกับหนูแบบนี้ หนูดีใจนะ แต่…”
   • “ขอบคุณมากค่ะ เป็นเกียรติมากเลย แต่…”
   โฆษณา

2

ปฏิเสธอย่างสุภาพ

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   “ปฏิเสธ” แบบถนอมน้ำใจ. ปฏิเสธอย่างสุภาพ ค่อยเป็นค่อยไป ให้เขารู้ว่าเราไม่ได้มีใจ แต่ก็ไม่ได้รังเกียจหรือชวนทะเลาะจนเขาเสียใจหรือไม่พอใจ เน้นประโยคที่ “ตัวคุณ” เป็นประธาน เพื่อบอกความรู้สึกของคุณ มากกว่าจะบอกว่าเป็นเพราะเขา จะได้ไม่เสี่ยงชวนทะเลาะ อาจจะพูดประมาณ

   • “ถ้าเราคุยกันเฉพาะเรื่องงานได้ไหมคะ”
   • “ต้องขอโทษมากเลยค่ะ แต่ตอนนี้ยังไม่พร้อมจริงๆ”
   • “ไม่ได้เป็นเพราะพี่นะคะ แต่ตอนนี้ชีวิตหนูสารพัดเรื่อง ยังไม่อยากมีใครจริงๆ ค่ะ”
   • “ดีใจที่พี่รู้สึกดีๆ นะคะ แต่เราเป็นพี่เป็นน้องกันแบบนี้ต่อไปดีกว่านะ”

3

อธิบายว่าทำไมถึงปฏิเสธ

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   ถ้าให้เหตุผลที่น่าเชื่อถือ เรื่องจะจบง่ายกว่า. บอกเลยว่าเขาเองก็ต้องรวบรวมความกล้าน่าดู กว่าจะมาขอคบกับคุณ คงยากจะยอมรับแค่เพราะคำว่า “ไม่” ถึงจะไม่จำเป็น แต่ก็ดีกว่าถ้าจะถนอมน้ำใจกัน ให้เรื่องจบเร็วขึ้นด้วย โดยอธิบายเขาสั้นๆ แต่ชัดเจนว่าทำไมปฏิเสธ อาจจะพูดประมาณ

   • “นี่ไม่ได้อ้างนะคะ แต่เรื่องนี้มันผิดกฎบริษัท หนูรักงานนี้มาก ไม่อยากเสียใจถ้าคบใครแล้วเสียเรื่องงาน”
   • “ตอนนี้เรายังไม่พร้อมมีใคร อยากโฟกัสเรื่องงานก่อน นอกจากเรื่องงานแล้วไม่เหลือเวลาให้เรื่องอื่นเลยค่ะ”
   • “แต่ก่อนเคยมีแฟนเป็นคนในออฟฟิศเดียวกันมาแล้ว มีแต่โดนคนนินทา ตีข่าวใส่ไข่กันตลอด เลยตั้งใจไว้แล้วว่าจะไม่คบคนที่ทำงานอีกแล้วค่ะ”
   โฆษณา

4

ย้ำว่าไม่ใช่ความผิดเขา

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   พูดให้เขาสบายใจ จะได้แยกกันแบบดีๆ. ถ้าเขาไม่ได้หยาบคายหรือคุกคามคุณ ก็อย่าไปทำร้ายจิตใจเขา ให้พูดดีๆ แบบไม่เอียงไปทางชู้สาว คุยจบจะได้แยกกันด้วยดี ไม่ทำเขาเสียศักดิ์ศรี ถ้ารักษาน้ำใจกัน ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องต่อไปจะเข้าหน้ากันไม่ติดในที่ทำงาน อาจจะพูดประมาณ

   • “พี่ใจดี เป็นคนดีมากเลย หนูมีเรื่องให้ต้องปรึกษาพี่ตลอด พี่ก็คอยแนะนำหนูตลอด หนูอยากให้เราเป็นแบบนี้ต่อไปนะคะ”
   • “อาจจะไม่ใช่คำตอบที่คุณหวัง แต่ดีใจมากเลยที่คุณเข้าใจ เพราะเราเป็นทีมกันมาตลอด ทำงานกับคุณแล้วสบายใจมากเลย เรื่องโปรเจ็คต์ก็สู้กันต่อนะครับ”
   • “ตั้งแต่ผมเคยทำงานกับคนมา คุณทำงานเก่งที่สุดเลย อยากจะทำงานกับคุณนานๆ ขอบคุณที่เข้าใจความรู้สึกผมนะครับ”

5

ถ้าเขายังไม่เข้าใจ ให้หาข้ออ้างที่ฟังขึ้น

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   ถ้าเขายังดันทุรัง ก็ยิ่งต้องเด็ดขาด. แค่ระวังอย่าส่งสัญญาณผิดๆ จนเขาเกิดความหวังลมๆ แล้งๆ ต่อไปถ้าสถานการณ์เปลี่ยน นี่แหละจุดอันตราย แถมอ้างอะไรไปก็ต้องจำให้ดี อย่าโป๊ะแตก อย่างถ้าบอกไปว่ามีแฟนแล้ว ก็อย่าเผลอบอกเพื่อนร่วมงานคนอื่นว่ายังโสดตอนเม้ามอยพักเที่ยง อย่างน้อยข้ออ้างนี้ก็ช่วยคุณออกจากสถานการณ์อึดอัดได้ อาจจะพูดประมาณ

   • “ขอโทษครับ แต่ผมมีแฟนแล้ว คบกันมา 10 ปีแล้ว”
   • “ตอนนี้ชีวิตเรายุ่งยากมากเลย อยากจะโฟกัสแค่เรื่องงานกับเรื่องตัวเอง ขอโทษนะคะ”
   • “เคยมีแฟนมาแล้วแต่จบกันไม่สวยเลย ตั้งใจจะเป็นโสดไปอีกนานๆ ขอโทษจริงๆ ค่ะ”
   โฆษณา

6

คุยแต่เรื่องงานเท่านั้น

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นไปในทางไหน ขอให้อย่าล้ำเส้นความเป็นเพื่อนร่วมงาน. ถ้าอีกฝ่ายเริ่มใช้อารมณ์ เริ่มพูดไม่ดี ก็อย่าไปมีอารมณ์ตาม สงบใจเข้าไว้ เพราะถ้าตอบโต้แรงๆ ไป จะมีปัญหากันในที่ทำงานได้ ยังไงเราก็ไม่ได้ติดค้างอะไรเขา แต่ก็ต้องพูดจาสุภาพ เป็นทางการไว้ ถึงอีกฝ่ายจะทำตรงกันข้ามก็เถอะ

   • เรื่องนี้สำคัญมาก ถ้าเขาขอเดทในออฟฟิศเลย ห้ามมีเรื่องกันเสียงดังใหญ่โตเด็ดขาด เพราะจะกลายเป็นที่สนใจ ถ้าเขาจะใช้อารมณ์ เอาหน้าที่การงานมาเสี่ยง ก็เรื่องของเขา ถ้าเห็นท่าไม่ดีก็แค่ขอตัวออกไปจากตรงนั้น หรือเรียกหัวหน้างานมาเลย
   • ถ้าเขาดูอาการไม่ค่อยดี น้ำตาแตก คุณต้องใจเย็น เตือนเขาว่าเขาเป็นคนดีนะ เขาไม่ได้ทำอะไรผิด ขอแค่อย่าไปให้ความหวังเขา และอย่าทำตัวสนิทสนม เป็นทางการเข้าไว้ แล้วมันจะผ่านไป

7

หนักแน่นเข้าไว้ ถ้าเขาเริ่มบังคับ

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   ถ้าอาทิตย์หน้าเขากลับมาพูดเรื่องเดิมอีก ต้องตัดจบแบบเด็ดขาด (และสุภาพ). บางคนก็อ่านบรรยากาศไม่ค่อยออก ถ้ายังมีคราวหน้าเหมือนรีรัน แย่กว่านั้นคือรอบสาม สี่ ต่อๆ ไป ก็ถึงเวลาต้องตัดจบให้เด็ดขาด ว่าเขากำลังล้ำเส้นเรา ย้ำว่าทุกอย่างต้องเป็นไปอย่างสุภาพ เข้าอกเข้าใจ แต่ต้องชัดเจนว่าเราเสียใจที่เขาไม่เคารพการตัดสินใจของเรา อาจจะพูดประมาณ

   • “บอกแล้วนะคะว่าคิดกับพี่แค่เพื่อนร่วมงานจริงๆ อย่าคุยเรื่องนี้กันอีกเลยนะคะ”
   • “ผมไม่อยากทำร้ายจิตใจคุณนะครับ แต่อย่าทำแบบนี้อีก ผมไม่ได้คิดกับคุณแบบนั้นจริงๆ ไม่ใช่ว่าคุณไม่ดีตรงไหน แต่เราอย่าคุยเรื่องนี้กันอีกเลย”
   • ถ้าสถานการณ์มันเลวร้ายกว่าเดิม หรือทำยังไงเขาก็ไม่เข้าใจ ลองคุยกับทางฝ่ายบุคคลหรือหัวหน้างานดู
   โฆษณา

8

อย่าไปสนถ้าเขายังหยอดเรื่อยๆ

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   ถ้าเขาโยนหินถามทางอีก อย่าไปสนใจ อย่าไปเล่นด้วย. บางคนก็ชอบใครแล้วฝังใจ ถ้าเขายังหยอดคุณเรื่อยๆ ในหลายอาทิตย์หรือหลายเดือนต่อมาหลังขอเดทครั้งแรก เขาแค่โยนหินถามทางว่าคุณเปลี่ยนใจมาเล่นด้วยหรือยัง ก็อย่าส่งสัญญาณผิดๆ แค่ทำไม่สนใจพฤติกรรมหวังผลของเขา แต่ก็เป็นมิตร แค่อย่าสนิทสนมเกินจนเขาเข้าใจผิด

   • ถ้าเขาส่งยิ้มข้ามห้องมาให้ ก็แค่ยิ้มตอบตามมารยาทสั้นๆ ก่อนหันไปทางอื่น อย่ายิ้มหวาน ถ้าเขาชมว่าผมสวยจัง ก็ตอบไปว่า “ขอบคุณค่ะ” แล้วทำอย่างอื่นต่อไป สักพักเขาจะจับสังเกตได้เอง
   • กรณีนี้จะได้ผลเฉพาะคนที่แค่หยอดๆ ไม่ได้รุกหนัก ถ้าเขาเดินหน้าจีบคุณเต็มที่ ถึงขั้นแตะต้องตัว หรือทำคุณอึดอัด ให้ร้องเรียนไปที่ฝ่ายบุคคลเลย อย่าไปกลัวเขาเสียใจ เพราะเขาล้ำเส้นมาแล้ว

9

ไปเที่ยวกันเป็นกลุ่มแทน ถ้าเผลอตอบตกลง

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   ถ้าเขาชวนไปเที่ยว คุณเผลอตอบตกลง แล้วเขาทึกทักว่าเป็นเดท ก็ชวนเพื่อนไปเยอะๆ เลย!. ถ้าเขาเล่นทีเผลอ หรือคุณดันเข้าใจผิดไป ก็เท่ากับเอาตัวเข้าไปอยู่ในสถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออกแล้ว ถ้าไปปฏิเสธหลังตอบตกลงไปแล้ว โดยที่เขาเข้าใจว่าคุณจะไปเดทกับเขา ยิ่งจะทำให้ทุกอย่างแย่ลง เพราะงั้นให้ชวนเพื่อนร่วมงานคนอื่นไปด้วย กลายเป็นงานกระชับมิตรในออฟฟิศซะเลย

   • ถ้าเขาถามว่านี่มันอะไรกัน ก็แค่เล่นไปตามน้ำว่านึกว่าชวนทุกคน ให้เขารู้ไปเลยว่าถ้ารู้แต่แรกว่าชวนเดทสองต่อสองคงไม่ไป
   • กรณีนี้จะได้ผลแน่ๆ ก็ต่อเมื่อเขาเองก็คลุมเครือเรื่องชวนเดท (ประมาณว่า “เลิกงานแล้วไปหาอะไรกินกันไหม?”) ถ้าเขาตรงไปตรงมาขนาดว่าออกตัวชวนเดท แล้วคุณก็ตกปากรับคำเพราะเกรงใจ ก็ต้องหาข้ออ้างที่ฟังขึ้น ว่าพอดีใจลอยตอนเขาถาม
   โฆษณา

10

เตือนตัวเองเรื่องความเสี่ยงที่อาจเกิด

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   ถ้าเถียงกับตัวเองอยู่เรื่องจะคบกับเขาดีไหม ให้นึกถึงผลเสียที่จะตามมาเยอะๆ. คบกันเองในออฟฟิศเรื่องเยอะพอสมควร ลองนึกถึงถ้าคบกันจริงๆ แล้ววันหนึ่งเกิดทะเลาะกันขึ้นมา ระวังจะเสียงานไปทั้งวัน ยิ่งถ้าตอนหลังเลิกกัน จะยังทำใจทำงานที่เดียวกันทุกวันได้ไหม หรือกรณีเลวร้ายหน่อย อย่างเจ้านายมารู้ทีหลังว่าคุณแอบคบกันผิดกฎบริษัท อาจถึงขั้นถูกไล่ออกได้เลย

   • เรื่องจะยิ่งยุ่งถ้าไปคบกับหัวหน้าหรือเจ้านาย เอาเป็นว่าคนที่ตำแหน่งสูงกว่า เพราะเสี่ยงเกิดปัญหามาก ความสัมพันธ์มักสั่นคลอนเสมอ ถ้าอีกคนมีอำนาจสั่งการในที่ทำงาน

เคล็ดลับ

• มันก็มีนะ สถานการณ์ที่ออกเดทกับเพื่อนร่วมงานได้แบบสะดวกใจ เช่น ตำแหน่งไม่ข่มกัน ทำงานคนละแผนกกัน และบริษัทที่ทำอยู่ไม่ห้ามพนักงานคบกัน แต่จะทำอะไรก็ขอให้เหมาะสม เปิดเผย ถ้าแน่ใจแล้วว่าจะคบกันจริงจัง

โฆษณา

คำเตือน

• ถ้ามีอะไรทำให้รู้สึกว่า “นี่มันเข้าข่ายคุกคามทางเพศหรือเปล่านะ?” ก็แปลว่าจริงๆ แล้วมันใช่เลย ถ้าที่ทำงานมีใครทำให้รู้สึกอึดอัด ไม่สบายใจ รู้สึกเหมือนเขาล้ำเส้น ให้นัดคุยกับฝ่ายบุคคล จะแจ้งร้องเรียนก็ได้

โฆษณา