วิธีการ ปฏิเสธคนที่ชวนไปเดตแบบไม่น่าเกลียด

ดาวน์โหลดบทความ

ดาวน์โหลดบทความ

ภายในบทความนี้:

ทำตัวน่ารัก

ปฏิเสธ

รับมือกับท่าทีของอีกฝ่าย

บทความที่เกี่ยวข้อง

ข้ออ้างอิง

เวลาที่มีใครชวนเราไปเดตมันก็ทำให้หัวใจพองโตอยู่เหมือนกันนะ แต่บางครั้งคุณเองก็อาจจะอยากจะปฏิเสธคำชวน และคุณเองก็อยากปฏิเสธออกไปอย่างสุภาพเพื่อรักษาน้ำใจอีกฝ่าย แค่ทำตามไม่กี่ขั้นตอนต่อไปนี้ คุณก็สามารถปฏิเสธคำชวนได้แบบไม่น่าเกลียดแล้ว

ขั้นตอน

ส่วน 1

ส่วน 1 ของ 3:

ทำตัวน่ารัก

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   ขอบคุณที่ชวน. คิดไว้เสมอว่าอีกฝ่ายต้องรวบรวมความกล้ามากแค่ไหนถึงจะมาชวนคุณไปเดตได้ ถ้าคุณซึ้งใจจริงๆ ที่เขาชวนคุณไปเดต การขอบคุณเขาก็จะช่วยลดแรงกระแทกของการถูกปฏิเสธลงได้
2. 
   2
   กล่าวชมเขา. ทำตัวน่ารักและตอบกลับด้วยคำพูดดีๆ ก่อนปฏิเสธ บอกเธอไปว่าคุณชอบหรือประทับใจอะไรในตัวเธอแบบเจาะจง ตัวอย่างคำชมที่คุณอาจจะกล่าวชมเธอก็เช่น :

   • “ผมชอบอยู่กับคุณนะ แต่ว่า...”
   • “2-3 เดือนที่ผ่านมานี้คุณเป็นเพื่อนที่ดีมากเลยนะ แต่…”
   • “คุณใจดีแล้วก็น่ารักมากเลยที่คิดถึงผม แต่…”
3. 
   3
   ระวังภาษาท่าทาง. คุณอาจจะพูดออกไปชัดเจนและหนักแน่นแล้ว แต่ทว่าอาจจะเผลอส่งสัญญาณภาษาท่าทางที่ไม่ได้ตั้งใจหรือชวนให้สับสนออกไป อย่าเอียงตัวห่างจากอีกฝ่าย แต่ก็อย่าโน้มตัวเข้าไปหาเช่นเดียวกัน อย่ากอดอก แต่ให้สบตาและยิ้มอย่างอ่อนโยน สถานการณ์นี้เป็นสถานการณ์ที่ชวนกระอักกระอ่วน แต่ให้ใช้ภาษาท่าทางที่ผ่อนคลาย พยายามอย่าขบกรามแน่น ขมวดคิ้ว หรือเม้มปากเป็นเส้นตรงที่อาจทำให้ดูเกรี้ยวกราดและใจร้ายไปหน่อย
4. 
   4
   อย่านินทา. คุณอาจจะมองว่ามันตลกที่คนๆ นี้มาชวนคุณไปเดต หรือคุณอาจจะคันปากอยากเล่าให้เพื่อนสนิทฟัง แต่อย่ากระจายข่าวให้ใครรู้ว่าเขามาชวนคุณไปเดต เคารพความรู้สึกของเธอและนึกไว้เสมอว่า เธอต้องรวบรวมความกล้ามากแค่ไหนถึงจะมาชวนคุณไปเดตได้ตั้งแต่แรก

   • ถ้าเธอชวนคุณไปเดตผ่านข้อความ อย่าเก็บข้อความไว้หรือเอาให้ใครดู
   • ถ้าเธอชวนคุณไปเดตผ่านทางโซเชียลมีเดีย อย่าถ่ายภาพหน้าจอที่มีข้อความแล้วเอาให้คนอื่นดู
   โฆษณา

ส่วน 2

ส่วน 2 ของ 3:

ปฏิเสธ

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   ตรงไปตรงมา. บอกเหตุผลที่แท้จริงของคุณไปว่าทำไมคุณถึงปฏิเสธ คุณไม่จำเป็นต้องพูดจาขวานผ่าซากหรือหยาบคาย เพียงแต่บอกให้ชัดเจนว่าทำไมคุณถึงไม่สนใจจะไปเดตกับเขา อย่าใช้คำพูดคลุมเครือหรือโกหกโต้งๆ

   • ถ้าเขามาชวนคุณไปเดตเป็นครั้งที่สองหรือครั้งที่สามแล้วและคุณไม่ได้ชอบเขา คุณก็อาจจะบอกไปว่า “ตอนไปเดตกันครั้งแรกผมสนุกมากเลยนะ แต่ผมแค่ไม่ได้รู้สึกกับคุณแบบนั้น” พูดแบบนี้จะฟังเข้าท่ากว่าการพูดว่า “ผมไม่ได้ชอบคุณ”
   • ถ้าเพื่อนมาชวนคุณไปเดตและคุณอยากจะเป็นเพื่อนกันมากกว่า คุณก็อาจจะพูดว่า “ฉันประทับใจในความเป็นเพื่อนของเรา อยู่กับแกแล้วเราสนุกมาก แต่เราไม่ได้คิดกับแกแบบนั้นแล้วก็อยากเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม”
   • ถ้ามีคนที่เพิ่งเข้ามาเรียนหรือเข้ามาทำงานชวนคุณไปเดตโดยที่เขาไม่รู้ว่าคุณมีแฟนอยู่แล้ว คุณก็อาจจะพูดว่า “ขอบคุณมากนะครับที่มาชวนผม ดีใจที่ได้รู้จักกันนะครับ แต่ผมอยากให้คุณรู้ว่าผมมีแฟนแล้วครับ”
   เคล็ดลับจากผู้เชี่ยวชาญ

   

   Christina Jay, NLP

   โค้ชด้านการเดทและความสัมพันธ์

   คริสติน่า เจย์เป็นแม่สื่อและไลฟ์โค้ชที่มีใบรับรองในโทรอนโต แคนาดา เธอเป็นผู้ก่อตั้งบริการหาคู่ชั้นนำ เธอมีประสบการณ์ด้านการให้คำปรึกษากว่า 10 ปี ได้รับใบรับรอง NLP (Neuro-linguistic Programming) และจบปริญญาตรีด้านการบริหารธุรกิจจากมหาวิทยาลัยบร็อค

   

   Christina Jay, NLP
   โค้ชด้านการเดทและความสัมพันธ์

   ผู้เชี่ยวชาญเห็นตรงกันว่า: ถ้ามีคนชวนคุณไปเดต ก็ให้พูดประมาณว่า "ขอบคุณที่ชวนนะครับ แต่ตอนนี้ผมยังไม่อยากไปเดตกับใคร" ถ้าคุณรู้จักเขาแล้วคุณเองก็เปิดใจที่จะไปเดตกับคนอื่น เพียงแต่ว่าไม่อยากไปเดตกับคนๆ นี้ คุณก็อาจจะพูดว่า "ขอบคุณนะครับ แต่ผมเคารพในความเป็นเพื่อนของเรามากกว่า แล้วก็ไม่อยากให้ความสัมพันธ์มันเปลี่ยนไป"
2. 
   2
   อย่าตกลงเพื่อเอาใจคนอื่น. เป็นเรื่องปกติที่คุณจะไม่อยากรู้สึกอึดอัดหรือกระอักกระอ่วน แต่อย่าตอบ “ตกลง” แค่เพื่อให้เขาสบายใจขึ้น เพราะถ้าคุณไปปฏิเสธเธอทีหลัง เธอจะสับสน อย่าหลอกให้ใครดีใจ เวลาที่ “ปฏิเสธ” คุณควร:

   • พูดให้กระชับ คุณมีสิทธิ์ที่จะพูดว่า “ไม่” โดยไม่ต้องอธิบายอะไรเพิ่มเติม
   • อย่าเอาแต่ขอโทษขอโพย คุณไม่จำเป็นต้องขอโทษในสิ่งที่คุณรู้สึก คุณมีสิทธิ์ที่จะแสดงความรู้สึกอย่างตรงไปตรงมา
   • หนักแน่น พูดย้ำว่า “ไม่” ถ้าอีกฝ่ายไม่เข้าใจหรือถ้าเขาพยายามทำให้คุณเปลี่ยนใจ
3. 
   3
   ปฏิเสธเดี๋ยวนั้น. อย่ายื้อเวลาเมื่อมีคนมาชวนคุณไปเดต อย่าเทหรือจู่ๆ ก็ไม่โผล่มาเลย เพราะมันเป็นการไม่ให้เกียรติกันและคุณก็ไม่อยากให้ใครทำแบบนี้กับคุณด้วย ให้คำตอบเขาโดยเร็วที่สุด

   • ถ้าคุณต้องการเวลาเพื่อคิดหาคำตอบจริงๆ เพราะสถานการณ์มันซับซ้อน ก็ให้บอกเขาไปตามตรงว่าคุณขอเวลา
   • เช่น ถ้าคุณเองก็สนใจคนที่มาชวนคุณไปเดต แต่เขาดันเคยเดตกับเพื่อนคุณมาก่อน คุณก็อาจจะไม่อยาก “ปฏิเสธ” เดี๋ยวนั้นเลย คุณก็อาจจะบอกเขาไปว่า “ฉันยังไม่แน่ใจ ฉันชอบคุณนะ แล้วฉันก็คิดว่าถ้าได้ไปเดตกับคุณก็คงสนุกดี แต่ฉันรู้ว่าคุณเคยเดตกับเพื่อนฉันมาก่อน ฉันต้องไปคุยกับเธอก่อนถึงจะให้คำตอบคุณได้”
4. 
   4
   รักษามารยาท. แสดงความสุภาพด้วยการปฏิเสธเธอในแบบที่ทำให้เธอรู้สึกว่า อย่างน้อยคุณก็รับฟังและให้เกียรติเธอ ถ้าคุณตอบเธอกลับไปแบบผู้ใหญ่ คุณจะแสดงให้เธอเห็นว่าคุณเป็นคนดี

   • เลือกสถานการณ์ที่เหมาะจะปฏิเสธเธอ เช่น ถ้าเธอชวนคุณไปเดตแบบต่อหน้า แต่ชวนต่อหน้าคนอื่น คุณก็อาจจะเลี่ยงไม่ปฏิเสธเธอจนกว่าจะอยู่ด้วยกันตามลำพัง คุณอาจจะพูดว่า “ขอบคุณมากนะครับ! ถ้างั้นเราไปดื่มกาแฟหรือเดินเล่นเพื่อคุยกันเรื่องนี้ดีมั้ย”
   • เลือกวิธีการสื่อสาร ถ้าเขาชวนคุณไปเดตทางข้อความ อีเมล หรือโซเชียลมีเดีย คุณก็อาจจะตอบกลับไปด้วยช่องทางเดียวกันหรือโทรศัพท์ไปหาเธอ
   โฆษณา

ส่วน 3

ส่วน 3 ของ 3:

รับมือกับท่าทีของอีกฝ่าย

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   แสดงความเข้าอกเข้าใจ. เข้าใจและนึกถึงความรู้สึกของอีกฝ่าย รับฟังและรับรู้ถึงปฏิกิริยาของเขา ทำให้เขารู้ว่าคุณเข้าใจในความเปราะบางและให้ความสำคัญกับความรู้สึกของเขา

   • คุณอาจจะพูดว่า “ผมรู้ว่าตอนนี้คุณคงเจ็บปวดหรือสับสน ผมดีใจนะที่คุณชวนผมไปเดต มันต้องใช้ความกล้าหาญมากๆ และผมเองก็นึกไม่ออกเลยว่ามันยากแค่ไหน”
   • คุณอาจจะถามว่า “เธออยากได้อะไรเพื่อให้สบายใจขึ้นมั้ย ฉันรู้ว่ามันคงแปลกๆ เพราะเรายังต้องไปโรงเรียนด้วยกันอยู่”
2. 
   2
   แนะนำทางเลือกอื่น. ถ้าคุณเชื่อใจหรือก็ชอบคนที่มาชวนคุณไปเดตแต่ว่าไม่อยากไปเดตกับเธอ คุณก็อาจจะเสนอตัวช่วยเหลือเธอในทางอื่น แนะนำทางเลือกอื่นว่าคุณจะสานสัมพันธ์กันแบบอื่นได้อย่างไร

   • แนะนำเพื่อนที่อาจจะเหมาะเป็นคู่เดตของเธอ แต่ต้องขออนุญาตเพื่อนก่อนนะ
   • ถามว่าคุณสองคนเป็นเพื่อนกันได้มั้ย ถ้าปกติคุณไม่ได้เป็นเพื่อนกัน
   • ขอเวลาถ้าคุณยังไม่แน่ใจในการตัดสินใจหรือไม่สามารถตอบตกลงไปเดตกับเธอได้ในตอนนี้ แต่ก็อยากไปเดตกับเธอในวันข้างหน้าเหมือนกัน
   • เสนอให้คุณสองคนใช้เวลาร่วมกันตามลำพังมากขึ้นถ้าคุณไม่ได้รู้จักเธอดี แต่อยากจะรู้จักเธอให้มากกว่านี้ก่อนไปเดตกันอย่างเป็นทางการ
3. 
   3
   ระมัดระวังเรื่องความปลอดภัย. ระวังคนที่ตามตื้อคุณไม่หยุดหรือไม่ยอมรับคำปฏิเสธของคุณ สังเกตปฏิกิริยาที่แสดงความโกรธหรือการใช้ภาษาหยาบคาย ถ้าคนๆ นี้ดูไม่น่าไว้ใจ น่ากลัว หรือประพฤติตัวไม่เหมาะสมเมื่อคุณปฏิเสธเขา คุณสามารถดูแลตัวเองให้ปลอดภัยได้ด้วยการ:

   • ถ้าคุณอยู่กับเขาตามลำพัง บอกให้คนอื่นรู้ว่าคุณอยู่ที่ไหน
   • เดินหนีจากสถานการณ์ทันทีแล้วไปในที่ที่มีคนอื่นอยู่ด้วย
   • ปิดกั้นเขาในแอพพลิเคชันโซเชียลมีเดียหรือเว็บหาคู่ที่คุณคุยกับเขา
   • อย่ารับโทรศัพท์และตอบกลับอีเมลหรือข้อความของเขา
   • อย่าอยู่กับเขาตามลำพังอีกในอนาคต
4. 
   4
   รับมือกับความรู้สึกผิด. แม้ว่าคุณจะปฏิเสธแบบไม่น่าเกลียดไปแล้ว แต่อีกฝ่ายก็อาจจะรับมือกับการถูกปฏิเสธได้ไม่ดีพอและมีท่าทีที่ไม่ดีอย่างรุนแรงตอบกลับมา ซึ่งอาจจะทำให้คุณรู้สึกผิด และอาจทำให้คิดไปว่าจริงๆ แล้วคุณควรตอบตกลงไปเพื่อให้ดูเป็นคนดีหรือเปล่านะ หรืออีกฝ่ายอาจจะตั้งใจทำให้คุณรู้สึกผิด แต่คุณไม่จำเป็นต้องรู้สึกแย่หรือรู้สึกผิดที่คุณซื่อสัตย์และจริงใจต่อความรู้สึกและความคิดของตัวเอง คุณไม่สามารถบังคับตัวเองให้รู้สึกแบบนั้นแบบนี้ได้ และถ้าคุณไม่ได้รู้สึกเชื่อมโยงกับคนๆ นี้แบบคนรัก คุณก็ไม่สามารถที่จะพูดหรือหลอกให้ตัวเองรู้สึกถึงความเชื่อมโยงนั้นได้ ท่าทีของเธอเป็นของเธอเอง และถ้าเธอมีท่าทีที่ไม่ดีกลับมา ก็ไม่ใช่ความผิดของคุณ
   โฆษณา

เคล็ดลับ

• ถ้าหลังจากทำตามขั้นตอนเหล่านี้แล้วอีกฝ่ายก็เริ่มประพฤติตัวหยาบคายหรือก้าวร้าวใส่คุณ ให้เดินหนีออกมาจากเขา/เธอจะดีที่สุด
• ถ้าคุณไม่ได้สนใจคนๆ นี้ คุณก็ควรแสดงออกอย่างสุภาพ แต่ในขณะเดียวกันก็อย่าเป็นกันเองจนเกินไป เพราะถ้าคุณอัธยาศัยดีเกินไป เขาอาจจะคิดว่ามันเป็นสัญญาณว่าเขายังมีหวังว่าคุณอาจจะเปลี่ยนใจ
• เป็นไปได้ว่าอีกฝ่ายอาจจะยังรู้สึกเจ็บปวดอยู่ดีแม้ว่าคุณจะปฏิเสธเขาดีๆ แบบไม่ให้น่าเกลียดแล้วก็ตาม เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะรับมือกับการถูกปฏิเสธได้อย่างง่ายดาย
• บางคนก็ยอมรับคำปฏิเสธได้ยากมาก แม้ว่ามันจะเป็นการปฏิเสธอย่างสุภาพก็ตาม

โฆษณา