ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความX
บทความนี้ร่วมเขียนโดยเหล่าบรรณาธิการและนักวิจัยที่ผ่านการฝึกฝนมาเพื่อความถูกต้องและครอบคลุมของเนื้อหา
ทีมผู้จัดการด้านเนื้อหาของวิกิฮาว จะตรวจตราผลงานจากทีมงานด้านเนื้อหาของเราเพื่อความมั่นใจว่าบทความทุกชิ้นได้มาตรฐานตามที่เราตั้งไว้
บทความนี้ถูกเข้าชม 1,771 ครั้ง
ถ้าคุณอยากทำใบเสจแห้งเก็บไว้ใช้เอง ก็มาถูกบทความแล้ว ใบเสจ (Sage) เป็นหนึ่งในสมุนไพรที่ทำให้แห้งได้ง่ายที่สุดเลย เพราะใบไม่นิ่มแต่แรก ตัวใบมีความชื้นต่ำกว่าสมุนไพรอื่นๆ ก่อนจะเริ่มขั้นตอนตากแห้งหรืออบแห้งใบเสจ ต้องเตรียมใบเสจก่อน โดยเด็ดแล้วล้างทำความสะอาด ใบเสจนั้นแห้งง่าย เลยเป็นสมุนไพรที่เหมาะจะนำมาตากแห้งมากๆ[1] แต่ถ้าใจร้อนอยากใช้เร็วๆ ก็นำไปอบแห้งในเตาอบหรือเครื่องอบแห้งอาหาร (dehydrator) โดยเฉพาะก็ได้ ตากแห้งหรืออบแห้งใบเสจเสร็จแล้วก็เก็บใส่ภาชนะที่ปิดมิดชิดแน่นหนาได้เลย
ขั้นตอน
เด็ดใบจากก้าน. ใบเสจค่อนข้างหนา ถ้าเด็ดก้านออกจะแห้งง่ายกว่า ให้ค่อยๆ เด็ดแต่ละใบออกมาวางบนผ้าสะอาดๆ[2]- หรือใช้กรรไกรคมๆ ตัดใบจากก้านก็ได้ แต่จะเสียเวลากว่าใช้มือเด็ดเยอะเลย
- ใบไหนเหี่ยว แหว่ง เป็นรู ให้ทิ้งไป. เช็คว่าแต่ละใบสวยแข็งแรงดี ถ้าไม่คัดสภาพใบก่อน ใบเสจจะรสเพี้ยนได้ ทำให้รสชาติของอาหารจานที่ทำพลอยไม่อร่อยไปด้วย[3]
- สำรวจหาแมลง. แมลงกับสมุนไพรเป็นของคู่กัน ใบเสจก็หนีไม่พ้น ให้เช็คว่าแต่ละใบมีร่องรอยของแมลงศัตรูพืชหรือเปล่า เช่น แมลงตัวเป็นๆ ใยเหนียว หรือจุดขาวที่อาจเป็นไข่แมลงได้[4]
- จริงๆ จะหยิบแมลงออกเฉยๆ ก็ได้ แต่แนะนำให้เด็ดใบที่มีใยหรือไข่แมลงทิ้งไปจะปลอดภัยกว่า
- ล้างใบเสจในน้ำเย็น แล้วสะบัดให้สะเด็ดน้ำ. เปิดน้ำก๊อกราดใบเสจ 2 - 3 วินาที จะถือไว้ในมือหรือใส่กระชอนไว้ก็ได้ แต่ใบเสจค่อนข้างใหญ่ ถ้าใช้กระชอนก็ล้างทำความสะอาดง่ายหน่อย พอล้างเสร็จก็สะบัดเบาๆ แล้ววางบนผ้าแห้งสะอาดได้เลย[5]
- ใช้ผ้าสะอาดซับใบเสจให้แห้ง. ค่อยๆ ซับดูดความชื้นจากใบเสจ ใช้ผ้าสะอาดผืนที่ 2 ซับๆ กดๆ เสร็จแล้ววางใบเสจบนผ้าแห้ง[6]โฆษณา
- จัดใบเสจเป็นช่อเล็กๆ. หยิบใบเสจขึ้นมาทีละใบโดยจับที่ปลายใบ อย่ารวมเกินช่อละ 8 ใบ อากาศจะได้ถ่ายเทสะดวก แห้งไว้[7]
- ใช้เชือก ด้าย หรือหนังยาง มัดช่อใบเสจ. มัดตรงแถวๆ ขั้วใบเพื่อยึดช่อใบเสจให้แน่น ไม่ต้องตัดปลายเชือกหรือด้าย เพราะเราจะเอาไว้แขวน หรือจะเอาเชือกอีกเส้นมามัดแล้วแขวนก็ได้
- ถ้าใช้หนังยาง พอใบเสจแห้งจะติดไปด้วยกันเลย ทำให้ใบเสจไม่หลุดจากช่อง่ายๆ[8]
- ครอบช่อใบเสจด้วยถุงกระดาษที่เจาะไว้หลายๆ รู. ถุงกระดาษจะช่วยกันฝุ่นให้ใบเสจ ส่วนรูที่ถุงช่วยระบายอากาศ ให้เอาถุงกระดาษครอบช่อใบเสจโดยไม่ต้องปิดถุง[9]
- หรือใช้ผ้ามัสลินห่อแทนถุงกระดาษก็ได้ แต่ห้ามใช้พลาสติก เพราะราจะขึ้นได้[10]
- บางคนก็ไม่ใช้อะไรห่อหรือคลุมช่อใบเสจเลย เพราะอยากดูใบเสจค่อยๆ แห้ง แต่ต้องระวังเรื่องฝุ่นให้ดี
- แขวนช่อใบเสจไว้ในที่ที่อากาศถ่ายเทดี ไม่โดนแดดตรงๆ. ให้แขวนช่อเสจคว่ำลง ห้อยเชือกไว้ โดยเลือกที่ที่อากาศถ่ายเทดี ลมพัดโกรก เช่น ตรงกันสาดของระเบียงบ้าน หรือในโซนแห้งของห้องครัวก็ได้[11]
- กลับด้านช่อเสจทุก 1 - 2 วัน จะได้แห้งเท่ากันทุกด้าน. แกะเชือกที่ห้อยช่อเสจ แล้วกลับด้านช่อ คุณอาจจะคิดว่าช่อเสจโดนลมรอบช่อ แต่ว่าแต่ละด้านของช่ออาจจะแห้งช้าเร็วต่างกันก็ได้ บางทีด้านหนึ่งอาจจะโดนลมหรือแดดส่องเยอะกว่า เลยทำให้ด้านนั้นแห้งเร็วกว่าก็ได้[15]
- เช็คว่าราขึ้นหรือเปล่า ถ้าบ้านคุณค่อนข้างชื้น. สมุนไพรราขึ้นง่ายมากถ้าตากแห้งไว้ในที่ชื้นๆ จริงๆ ถึงเป็นที่ที่อากาศชื้นก็ยังตากแห้งได้ แค่ต้องเฝ้าระวังเรื่องรา ถ้าเห็นจุดดำๆ หรือคราบขาวเมื่อไหร่ ให้เอาช่อเสจที่ตากไว้ลงทันที
- ถ้าอากาศแถวบ้านคุณชื้นมากเป็นพิเศษ แนะนำให้อบแห้งใบเสจด้วยวิธีอื่นแทน เช่น ใช้เครื่องอบแห้งอาหารโดยเฉพาะ (dehydrator)[16]
- ปล่อยให้ใบเสจแห้ง ประมาณ 7 - 10 วัน. หมั่นติดตามผลทุกวัน ใบเสจต้องใช้เวลาตากแห้งสักพัก ถ้าเอาลงเร็วเกินไปเท่ากับเสียเปล่าเลย[17]
- เช็คว่าใบเสจแห้งดีหรือยัง. เช็คว่าใบเสจแห้งกรอบหรือยัง โดยจับใบดูว่าแตกเป็นผงได้ง่ายหรือเปล่า ถ้าใช่ แสดงว่าตากแห้งใบเสจเสร็จเรียบร้อย[18]
- ป้องกันเรื่องแมลงและไข่แมลงตกค้างหลังตากแห้ง. บางทีแมลงหรือไข่แมลงก็หลงตาคุณไปได้ ต้องจัดการหลังตากแห้งใบเสจเสร็จแล้ว โดยเอาไปอบหรือแช่ช่องฟรีซ
- ถ้าใช้เตาอบ ให้วอร์มเตาอบที่ 160 องศาฟาเรนไฮต์ (ประมาณ 70 องศาเซลเซียส) เป็นเวลา 30 นาที ห้ามนานเกินนี้ เพราะใบเสจจะเสียหายได้
- ถ้าใช้ช่องฟรีซ ให้แช่แข็งไว้ 48 ชั่วโมง[19]
- ถ้าเลือกอบแห้งใบเสจแทน ก็ข้ามขั้นตอนนี้ไปได้เลย
โฆษณา
- ตั้งเครื่องอบแห้งที่อุณหภูมิต่ำ. อุณหภูมิที่เหมาะแก่การอบแห้งใบเสจที่สุด ก็คือ 95 - 110 องศาฟาเรนไฮต์ (35 - 46 องศาเซลเซียส) อุณหภูมิต่ำๆ ทำให้ต้องอบนานขึ้น แต่ก็ดีกว่าเสี่ยงทำใบเสจสุกหรือไหม้ เพราะจะเสียไปเลย[20]
- ถ้าแถวบ้านคุณอากาศชื้นมาก อาจจะต้องใช้อุณหภูมิ 125 องศาฟาเรนไฮต์ (ประมาณ 50 องศาเซลเซียส) แทน[21]
- กระจายใบเสจในถาดอบเป็นชั้นเดียว อย่าซ้อนกัน. อย่าให้ใบเสจชิดติดกันหรือซ้อนทับกัน เพราะจะทำให้อบแห้งไม่ทั่วถึง ถ้าจะอบเยอะๆ แบ่งอบเป็นรอบๆ ไป และรอบละน้อยๆ จะดีกว่า[22]
- อบแห้งแค่ใบเสจ รสจะได้ไม่ปนกัน. ถ้าที่เหลือเยอะ อาจจะรู้สึกอยากอบสมุนไพรหลายๆ ชนิดทีเดียวไปเลยเพื่อประหยัดเวลา หรืออบสมุนไพรพร้อมกับผลไม้ แต่บอกเลยว่าห้าม เพราะทำให้รสปนกันได้ อบสมุนไพรในเครื่องอบแห้งแค่ทีละอย่างดีกว่า[23]
- เช็คใบเสจทุก 30 นาทีว่าแห้งหรือยัง. อันนี้แล้วแต่เครื่องอบแห้งที่ใช้ บางทีก็ต้องอบใบเสจนาน 1 - 4 ชั่วโมงกว่าจะแห้ง ยังไงอ่านคู่มือของตัวเครื่องดูก่อน จะได้รู้เวลาอบแห้งที่แนะนำ[24]
- เช็คความแห้งของใบเสจ. ดูว่าขอบใบแห้งกรอบหรือยัง ถ้าดูแห้งดี ลองหยิบมาสักใบว่าแตกร่วนง่ายหรือเปล่า ถ้าใช่ แสดงว่าอบแห้งใบเสจเสร็จแล้ว[25]โฆษณา
- เรียงใบเสจเป็นชั้นเดียวในถาดอบคุกกี้. แนะนำให้ปูรองถาดอบคุกกี้ด้วยผ้ามัสลินหรือกระดาษรองอบก่อนค่อยใส่ใบเสจ และต้องเรียงไม่ให้ใบเสจชิดติดกันหรือซ้อนกัน เพราะจะทำให้แห้งไม่ทั่วถึง ถ้าใบเสจแห้งแค่บางส่วน เท่ากับใบเสจนั้นจะเสียไปเลย ใช้ไม่ได้[26]
- ตั้งเตาอบที่อุณหภูมิต่ำ. เลือกใช้อุณหภูมิต่ำสุดที่มี เพราะเวลาอบแห้งใบเสจในเตาอบนั้น จะเสียรสชาติ สีสัน และน้ำมันในใบไปได้ง่ายมาก เลือกอบแห้งช้าๆ แต่ได้ใบเสจสภาพดีจะดีกว่า
- อุณหภูมิสูงสุดขอให้ไม่เกิน 180 องศาฟาเรนไฮต์ (ประมาณ 80 องศาเซลเซียส)[27]
- แง้มฝาเตาอบไว้ ถ้าใช้เตาไฟฟ้า. อากาศจะได้ถ่ายเทสะดวก ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญมากถ้าอยากให้ใบเสจแห้ง นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันไม่ให้อุณหภูมิในเตาอบสูงเกินพิกัดด้วย[28]
- ถ้าใช้เตาแก๊ส ระวังอย่าแง้มเตาอบไว้ เพราะเสี่ยงต่อการที่แก๊สจะรั่วออกมาคลุ้งในครัว ให้ใช้วิธีเปิดเตาอบทุก 5 นาทีให้อากาศถ่ายเทจะดีกว่า
- กลับด้านใบเสจหลังผ่านไป 30 นาที. เอาถาดอบคุกกี้ออกมาจากเตา แล้ววางบนพื้นผิวที่ทนความร้อน ให้สวมถุงมือจับของร้อน แล้วใช้ที่คีบหรือส้อมพลิกใบเสจ เสร็จแล้วเอาถาดใส่กลับไปในเตาอบตามเดิม[29]
- ทิ้งไว้ให้ใบเสจแห้ง 1 ชั่วโมง. ตั้งเวลาไว้ แล้วเช็คใบเสจทุก 15 นาที ว่าค่อยๆ แห้ง ไม่แห้งแบบทันทีทันใด[30]
- ถ้าสังหรณ์ใจว่าใบเสจจะแห้งเร็วกว่า 1 ชั่วโมง ให้รีบเอาออกมาก่อน เพราะใบเสจร้อนจนสุกหรือไหม้ง่ายมาก
- ทดสอบความแห้งของใบเสจ. ใบเสจต้องแห้งกรอบ ลองเอามือถูหรือบี้ดู ใบเสจต้องแตกร่วนง่าย[31]โฆษณา
- ใช้มือถูกันให้ใบเสจแตกร่วน. ถ้าจะใช้ใบเสจปรุงรสอาหารเมนูอื่น บดเป็นเศษกรอบๆ จะดีที่สุด โดยบี้ให้แตกทีละใย ทำไปเรื่อยๆ จนใบเสจทั้งหมดพร้อมจัดเก็บ[32]
- ถ้าจะใช้ใบเสจเป็นช่อ ก็ต้องเก็บไว้ทั้งใบ
- เก็บใบเสจที่อบแห้งหรือตากแห้งแล้วในภาชนะปิดสนิท อากาศเข้าไม่ได้. จะใช้ขวดโหล ทัพเพอร์แวร์ หรือถุงซิปล็อคก็ได้ ขอแค่ปิดหรือรูดปิดได้สนิท ไม่มีรูรั่ว เพราะถ้าความชื้นในอากาศเข้าไป ใบเสจจะเสียได้[33]
- เก็บภาชนะนั้นไว้ในที่แห้งและเย็น. คุณเก็บใบเสจไว้ในตู้ ตู้กับข้าว กระทั่งตู้เย็นก็ได้
- ถ้าจะใช้ขวดโหลใส ต้องเก็บไว้ในที่มืดๆ เพื่อให้ใบเสจสีสดอยู่เสมอ[34]
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ https://extension.psu.edu/drying-herbs
- ↑ https://www.tasteofhome.com/article/how-to-dry-herbs/
- ↑ https://extension.psu.edu/drying-herbs
- ↑ https://extension.psu.edu/drying-herbs
- ↑ https://extension.psu.edu/drying-herbs
- ↑ https://extension.psu.edu/drying-herbs
- ↑ https://www.tasteofhome.com/article/how-to-dry-herbs/
- ↑ https://extension.psu.edu/drying-herbs
- ↑ https://extension.psu.edu/drying-herbs
- ↑ https://www.tasteofhome.com/article/how-to-dry-herbs/
- ↑ https://www.tasteofhome.com/article/how-to-dry-herbs/
- ↑ http://nchfp.uga.edu/how/dry/herbs.html
- ↑ https://extension.psu.edu/drying-herbs
- ↑ https://extension.psu.edu/drying-herbs
- ↑ https://www.tasteofhome.com/article/how-to-dry-herbs/
- ↑ https://www.tasteofhome.com/article/how-to-dry-herbs/
- ↑ https://www.tasteofhome.com/article/how-to-dry-herbs/
- ↑ https://www.tasteofhome.com/article/how-to-dry-herbs/
- ↑ https://extension.psu.edu/drying-herbs
- ↑ https://extension.psu.edu/drying-herbs
- ↑ http://nchfp.uga.edu/how/dry/herbs.html
- ↑ https://extension.psu.edu/drying-herbs
- ↑ https://extension.psu.edu/drying-herbs
- ↑ http://nchfp.uga.edu/how/dry/herbs.html
- ↑ http://nchfp.uga.edu/how/dry/herbs.html
- ↑ https://extension.psu.edu/drying-herbs
- ↑ https://extension.psu.edu/drying-herbs
- ↑ https://extension.psu.edu/drying-herbs
- ↑ https://www.tasteofhome.com/article/how-to-dry-herbs/
- ↑ https://extension.psu.edu/drying-herbs
- ↑ https://extension.psu.edu/drying-herbs
- ↑ https://www.tasteofhome.com/article/how-to-dry-herbs/
- ↑ https://extension.psu.edu/drying-herbs
- ↑ https://www.tasteofhome.com/article/how-to-dry-herbs/
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
นักเขียนในทีมวิกิฮาว
บทความนี้ร่วมเขียนโดยเหล่าบรรณาธิการและนักวิจัยที่ผ่านการฝึกฝนมาเพื่อความถูกต้องและครอบคลุมของเนื้อหา
ทีมผู้จัดการด้านเนื้อหาของวิกิฮาว จะตรวจตราผลงานจากทีมงานด้านเนื้อหาของเราเพื่อความมั่นใจว่าบทความทุกชิ้นได้มาตรฐานตามที่เราตั้งไว้ บทความนี้ถูกเข้าชม 1,771 ครั้ง
ทีมผู้จัดการด้านเนื้อหาของวิกิฮาว จะตรวจตราผลงานจากทีมงานด้านเนื้อหาของเราเพื่อความมั่นใจว่าบทความทุกชิ้นได้มาตรฐานตามที่เราตั้งไว้ บทความนี้ถูกเข้าชม 1,771 ครั้ง
หมวดหมู่: สมุนไพรและเครื่องเทศ
มีการเข้าถึงหน้านี้ 1,771 ครั้ง
บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม
⚠️ Disclaimer:
Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.
- - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
- - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
- - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
- - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.
โฆษณา
