วิธีการ ทำอาหารด้วยไก่

ดาวน์โหลดบทความ

ดาวน์โหลดบทความ

ภายในบทความนี้:

การเตรียมไก่

ไก่ย่าง

ไก่อบ

ไก่ผัด

แสดงเพิ่มอีก 1...

แสดงน้อยลง...

บทความที่เกี่ยวข้อง

ข้ออ้างอิง

เนื้อไก่นั้นได้รับความนิยมมากและยังเป็นเนื้อที่มีประโยชน์หลายด้าน ทำให้รสชาติของไก่มีหลายรสชาติ มีราคาถูกกว่าเนื้ออื่นๆ และมีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย หากว่าคุณรู้วิธีเตรียมไก่อย่างถูกต้อง คุณก็จะประสบความสำเร็จในการนำไก่มาประกอบอาหาร ไม่ว่าจะ อบ, ผัด หรือปิ้งย่าง

ส่วนประกอบ

ไก่อบ

• ครีมเปรี้ยว 1 ถ้วยตวง
• ดีจองมัสตาร์ด 2 ช้อนโต๊ะ
• กระเทียมสับ 2 กลีบ
• พริกไทยดำ ½ ช้อนชา
• อกไก่ผ่าครึ่ง ไม่มีหนัง ไม่มีกระดูก 4 ชิ้น
• คอร์นเฟล็ค 1 ถ้วยตวง
• ซุปหัวหอมสำเร็จรูปแบบแห้ง 28.4 กรัม
• เนยละลาย 3 ช้อนโต๊ะ

ไก่ผัด

• สเปรย์น้ำมันกระป๋อง
• แป้งอเนกประสงค์ ¼ ถ้วยตวง
• พริกไทยดำ ¼ ช้อนโต๊ะ
• น่องไก่ที่ยังไม่ปรุงรส ไม่มีหนัง ไม่มีกระดูก 5.6 ขีด (ประมาณ 8 ชิ้น)
• น้ำสต๊อกไก่กระป๋อง 1 ถ้วยตวง
• น้ำมะนาวสด 2 ช้อนโต๊ะ
• คาเปอร์ (เครื่องเทศ) 1½ ช้อนโต๊ะ

ไก่ย่าง

• ขาไก่ 12 ชิ้น
• น้ำมันมะกอก ½ ถ้วยตวง
• เกลือทะเล 1 ช้อนชา
• พริกไทยดำป่น ½ ช้อนชา
• ผงพริกปาปริก้า ½ ช้อนชา
• ยี่หร่า ½ ช้อนชา
• พริกป่น ¼ ช้อนชา
• กระเทียมสับ 2 กลีบ
• หัวหอมสับ 3 ช้อนโต๊ะ
• ผักชีฝรั่งสับละเอียด ½ ถ้วยตวง

ขั้นตอน

วิธีการ 1

วิธีการ 1 ของ 4:

การเตรียมไก่

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   นำไก่แช่แข็งทันทีหากยังไม่ได้นำมาประกอบอาหาร. ไก่สามารถเก็บไว้ในช่องแช่แข็งได้ 2 วัน หากคุณวางแผนจะทำอาหารในไม่กี่วันต่อมา หรืออีกหลายวัน คุณควรที่แช่ไก่ไว้ในช่องแช่แข็ง อย่านำเพียงบางส่วนมาทำอาหารแล้วนำไปแช่แข็งอีก เพราะจะทำให้แบคทีเรียเจริญเติบโต
2. 
   2
   ล้างไก่. เมื่อคุณจะนำไก่ทั้งตัว ขาไก่ น่องไก่ หรือส่วนอื่นๆ ของไก่มาทำอาหารก็ตาม คุณควรล้างไก่ด้วยน้ำเย็นเป็นอันดับแรก ไก่ที่หมักเสร็จแล้ว และผ่านการเตรียมมาเรียบร้อยแล้วย่อมต้องล้างแล้วเช่นกัน แน่ใจว่าคุณใส่ถุงมือล้างไก่ทุกครั้งเพื่อไม่ให้มือต้องเปื้อนไก่หรือให้แบคทีเรียมาอยู่บนมือคุณ ทางที่ดีคุณควรล้างมือทั้งก่อนและหลังล้างไก่

   • เมื่อจัดการทุกอย่างเรียบร้อย คุณควรล้างทุกพื้นที่ที่ใช้ในการเตรียมเนื้อไก่ รวมถึงมีด เขียง และอ่างล้างจานด้วย
3. 
   3
   ทำไก่ให้แห้ง. ทำเนื้อไก่ให้แห้งด้วยกระดาษเช็ดมือเพื่อกำจัดความชื้นออกจากเนื้อไก่
4. 
   4
   ปรุงเนื้อไก่. เมื่อคุณล้างและทำเนื้อไก่ให้แห้ง ตอนนี้เนื้อไก่ก็พร้อมสำหรับการทำอาหารแล้ว ไม่ว่าคุณจะอบ, ย่าง หรือผัด ต้องมั่นใจว่าอุณหภูมิในเนื้อถึงระดับที่เหมาะสมก่อนรับประทาน เนื้อไก่ควรมีอุณหภูมิถึง 74 องศาเซลเซียส Here are a number of tasty chicken recipes to tryนี่เป็นเมนูไก่แสนอร่อยที่ควรลองทำดู:

   • ไก่ป๊อปคอร์น
   • คัทซึ ไก่ (ไก่ชุบแป้งทอด)
   • สเต็กอกไก่ ไร้กระดูก
   • ไก่ราดซอสโมล
   • อกไก่ย่าง
   • อกไก่ดำ
   • ไก่เทอริยากิ
   • ไก่อบ (แบบใช้ความร้อนต่ำ)
   • ไก่ราดซอส โรยด้วยงา
   • ไก่อบ (แบบใช้ความร้อนสูง)
5. 
   5
   เก็บเนื้อไก่ส่วนเหลือทันที. เวลาแช่แข็งเนื้อไก่ แยกห่อเก็บเป็นส่วนๆ ห่อด้วยฟอยล์ หรือกระดาษห่อเนื้อสำหรับแช่แข็งก็ได้ จะทำให้ง่ายต่อการนำมาละลายน้ำแข็งใช้ตามปริมาณที่ต้องการ การห่อที่ถูกต้องจะป้องกัน “การสูญเสียความชื้นระหว่างการแช่แข็ง” (freezer burn) ซึ่งเป็นผลมาจากความแห้ง และการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่น เมื่อสัมผัสอากาศ

   • ไก่ทอด – อยู่ได้ 3-4 วันในตู้เย็น, 4 เดือนในช่องแช่แข็ง
   • สัตว์ปีกอบ – อยู่ได้ 3-4 วันในตู้เย็น, 4-6 เดือนในช่องแช่แข็ง
   • ชิ้นส่วนเนื้อธรรมดา – อยู่ได้ 3-4 วันในตู้เย็น, 4 เดือนในช่องแช่แข็ง
   • ชิ้นส่วนที่ราดน้ำซุป, น้ำเกรวี่ – อยู่ได้ 1-2 วันในตู้เย็น, 6 เดือนในช่องแช่แข็ง
   • นักเก็ตไก่, พายไก่ – อยู่ได้ 1-2 วันในตู้เย็น, 1-3 เดือนในช่องแช่แข็ง
   โฆษณา

วิธีการ 2

วิธีการ 2 ของ 4:

ไก่ย่าง

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   นำไก่ใส่ลงในถุงซิปล็อคที่กว้างพอ.
2. 
   2
   ทำซอสหมัก. ผสมน้ำมันมะกอก, เกลือ, พริกไทย, ปาปริก้า, ยี่หร่า และพริกป่นเข้าด้วยกัน นำส่วนผสมที่ได้ใส่ลงในถ้วยเล็กๆ คนให้เข้ากันดี
3. 
   3
   เทซอสหมักลงบนขาไก่. เทซอสหมักลงไปในถุงซิปล็อคที่มีไก่อยู่แล้วปิดปากถุงให้เรียบร้อย ไล่อากาศออกจากถุงให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ก่อนปิดปากถุง กลับถุงไปมาเพื่อให้แน่ใจว่าเนื้อไก่ทั้งหมดเข้ากันกับซอสหมักแล้ว จากนั้นวางถุงลงบนถาด และนำไปแช่เย็นประมาณหนึ่งชั่วโมง หรือแช่ข้ามคืนเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี กลับด้านถุงทุกชั่วโมงเพื่อให้ไก่ได้สัมผัสน้ำซอสใหม่ตลอดเวลา
4. 
   4
   เตรียมเตาสำหรับย่าง. ทาตะแกรงย่างด้วยน้ำมันมะกอก จากนั้นอบเตาที่อุณหหภูมิ 175 องศาเซลเซียส
5. 
   5
   นำไก่มาวางบนเตาย่าง. ย่างไก่จนกระทั่งไก่กรอบ และเป็นสีน้ำตาลทั้งสองด้าน พลิกไก่ไปมาทุกนาที เพื่อให้ไก่สุกทั้งสองด้าน

   • หากคุณต้องการไก่ที่ไม่กรอบมาก และฉ่ำน้ำ แนะนำให้ใช้อกไก่วางทแยงไว้ รอจนกว่าด้านขอบเป็นสีขาว ให้หมุนไก่ 180 องศา ทำซ้ำแบบนี้ทุกๆ ด้าน ก็จะได้ผลลัพธ์เป็นไก่ย่างหน้าตาน่ากินไม่ต่างจากที่เห็นในร้านอาหารทั่วไปเลย
   • อุณหภูมิภายในควรอยู่ที่ 74 องศา ไก่ถึงจะสุกพอดี เมื่อไก่ย่างเสร็จแล้ว วางไก่ลงบนจานแบนพร้อมเสิร์ฟ และควรพักไว้ 3-5 นาทีก่อนรับประทาน
6. 
   6
   เสิร์ฟ. เพลิดเพลินกับไก่ย่างแสนอร่อย ขณะเสิร์ฟร้อนๆ
   โฆษณา

วิธีการ 3

วิธีการ 3 ของ 4:

ไก่อบ

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   วอร์มเตาอบที่อุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียส.
2. 
   2
   ทาเนยที่จานอบ. ทาเนยลงบนจากในทั่วทั้งด้านข้าง และก้นจาน
3. 
   3
   ตีครีมเปรี้ยว, ดีจอง มัสตาร์ด, กระเทียม และพริกไทย เข้าด้วยกันในชามที่กว้างพอ
4. 
   4
   คลุกส่วนผสมให้ทั่วไก่. นำอกไก่ที่ไม่มีกระดูก และหนัง 4 ชิ้นมาวางลงบนส่วนผสม คลุกส่วนผสมให้ทั่วเนื้อไก่ดูให้ดีว่าผสมกันเข้าที่แล้ว จากนั้นนำไก่ไปแช่เย็นประมาณ 20-30 นาที ไก่จะดูดซึมส่วนผสมเข้าสู่เนื้อมากขึ้น
5. 
   5
   นำไก่ไปคลุกกับคอร์นเฟล็ค และซุป. ผสมคอร์นเฟล็คและซุปหัวหอมให้เข้ากันในชามผสม และนำไก่ลงไปผสมในชาวด้วย คลุกส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน เอาส่วนผสมส่วนเกินที่ติดเนื้อไก่ออก
6. 
   6
   นำอกไก่ลงจานอบ. พรมเนยละลาย 3 ช้อนโต๊ะลงบนอกไก่
7. 
   7
   อบไก่ 20-25 นาทีจนกว่าไก่จะมีสีออกเหลืองทอง. เมื่อไก่สุกได้ที่แล้ว อุณหภูมิจะมีค่าอย่างน้อย 74 องศาเซลเซียส
   โฆษณา

วิธีการ 4

วิธีการ 4 ของ 4:

ไก่ผัด

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   ฉีดสเปรย์น้ำมันลงบนกระทะขนาด 12 นิ้ว ใช้แบบที่เคลือบสารกันติด (nonstick) และใช้ไฟกลาง
2. 
   2
   ผสมแป้งและพริกไทยลงถ้วยเล็กๆ . หลังส่วนผสมเข้ากันดีแล้ว พรมส่วนผสมลงบนเนื้อไก่
3. 
   3
   ผัดไก่ด้านเดียวก่อนจนด้านล่างมีสีเหลืองทอง. ใช้เวลาประมาณ 6-7 นาที หากเนื้อไก่ทั้งหมดมีขนาดไม่พอดีกับกระทะ สามารถผัดไก่สองครั้งได้
4. 
   4
   กลับด้านไก่ และผัดอีกด้านหนึ่ง. รอบนี้ควรใช้เวลาเพิ่มขึ้นประมาณ 4-5 นาที
5. 
   5
   นำไก่ออกจากกระทำแล้วพักไว้.
6. 
   6
   เทน้ำสต๊อกไก่ลงในกระทะ. หลังจากนั้นใช้ช้อนไม้ขูดส่วนที่ไหม้เป็นสีน้ำตาลออกจากเนื้อไก่
7. 
   7
   นำไก่ลงกระทะอีกครั้ง. ปิดฝา ปล่อยเนื้อไก่ไว้ ลดไปใช้ไฟอ่อน. โดยใช้เวลาประมาณ 3 นาที
8. 
   8
   ผสมน้ำมะนาวและคาเปอร์. อุ่นเนื้อไก่ประมาณ 30 วินาที หันมาผสมน้ำมะนาวและคาเปอร์ เมื่อเรียบร้อยแล้ว ปิดไฟนำไก่มาพักไว้บนจานปล่อยให้เย็นประมาณ 5-10 นาที
9. 
   9
   เสิร์ฟ. เสิร์ฟน่องไก่แสนอร่อย ขณะที่มันยังร้อนๆ
   โฆษณา

เทคนิคการซื้อ

• อ่านฉลาก ก่อนนำไก่มาทำอาหาร ต้องแน่ใจว่าคุณซื้อไก่คุณภาพดีมา
  • หากฉลากระบุว่า “fresh” (สด) ในประเทศสหรัฐอเมริกา นั่นไม่ได้แปลว่าเนื้ออยู่ในอุณหภูมิที่ต่ำกว่า -3 องศาเซลเซียส ถ้าเนื้อเป็นเนื้อแช่แข็ง จะระบุบนฉลากว่า “frozen” หรือ “previously frozen”
  • ดู “วันที่ขาย” หรือ “ควรบริโภคก่อน” เพื่อเป็นตัวตัดสินใจ ในประเทศสหรัฐอเมริกา เนื้อไก่ไม่มีวันระบุ แต่ในร้านค้าและผู้ผลิตต่างก็จัดให้มีวันที่เพื่อบอกถึงคุณภาพสินค้า หลังจากวันที่สามารถบริโภคไก่ได้ คุณภาพของไก่ก็จะลดลง หากไก่อยู่ในภาวะแช่แข็งแม้จะผ่านวันที่บริโภคได้ไปแล้วแต่ก็ยังสามารถนำมาบริโภคได้อย่างปลอดภัย
• เลือกตัดเนื้อส่วนที่เหมาะสม หั่นเนื้อไก่ส่วนที่ต้องการออก หลีกเลี่ยงส่วนที่มีกลิ่นแปลกๆ หรือบริเวณหนังที่ช้ำ
  • ทั้งตัว สามารถนำมาทอด, ย่าง และอบ จากส่วนที่เล็กที่สุดไปจนใหญ่ที่สุด
  • ไก่มีสี่ส่วน ขา ประกอบด้วย ขา และน่อง อก ประกอบด้วย อก และปีก
  • หั่นไก่ทั้งตัว สัตว์ปีกทั้งตัวสามารถตัดแบ่งได้ 9 ส่วน หรือ 8 ส่วน โดยไม่นับส่วนหลัง
  • สำหรับน่อง และอก จะขายแบบ ไร้กระดูก และ/หรือ ไร้หนัง
  • ตับไก่ จะใส่บรรจุภัณฑ์แยกต่างหาก
  • คอ, เท้า, หงอน และอื่นๆ จะขายในบางพื้นที่ที่มีความต้องการเท่านั้น
• นำไก่มาปรุงอาหารภายในสองวันที่ซื้อมา หรือแช่แข็งเนื้อไก่ไว้ที่อุณหภูมิ -17 องศาเซลเซียส หรือต่ำกว่า หากเนื้อไก่ถูกแช่แข็งแล้วก็ปลอดภัยที่จะนำมารับประทานเสมอ ป้องกันการเกิดการสูญเสียความชื้นระหว่างการแช่แข็ง (freezer burn) จากการวางไก่ ในช่องแช่แข็งด้วยถุงเก็บอาหาร และการไล่อากาศออก

เคล็ดลับ

• อย่าลืมปรุงรสไก่ ไก่จะขาดรสชาติหากว่าคุณไม่ได้ปรุงรสพวกมัน จำไว้ว่าเครื่องปรุงต้องเข้ากัน เครื่องปรุงง่ายๆ ก็เช่น น้ำมัน, เกลือ และกระเทียมสับ ทาส่วนผสมนี้ลงบนหนังไก่ จะได้รสชาติของการอบแสนดั้งเดิม
  • สำหรับรสชาติของไก่แบบอินเดีย ให้ใส่ผงกะหรี่ลงไป ซึ่งสามารถหาซื้อได้ตาม ร้านขายของในท้องถิ่นต่างๆ ร้านขายของอินเดีย หรือร้านขายของนานาชาติ
  • หั่นมะเขือเทศ และหัวหอม ทอด (หรือต้ม) นำมาใส่ในไก่ที่ยังไม่ได้ปรุง นี่เป็นทางที่คุณสามารถเลือกทำ “สตูว์ไก่” หรือ “น้ำแกงไก่” ได้ ดูสิว่าเมนูไหนดีกว่ากัน
• เมนูอร่อยๆ สำหรับการ “ถนอมอาหาร” เพื่อเก็บไก่ให้นานยิ่งขึ้น และเสริมรสชาติใหม่ๆ เมื่อระยะเวลาการเก็บ “เริ่มหมดไป” ได้เวลานำไก่กลับมาปรุงใหม่แล้ว :
  • กับซอสบาร์บีคิว ต้มหัวหอม หรือเกรวี่ นี่จะทำให้กลับมาสด ครั้งต่อไปหากอยากทำให้มันสดอีก ก็ทำแบบนี้สิ
  • พิซซ่าไก่, สปาเกตตี้, ซุป หรือตุ๋น หรืออะไรก็ตามที่เป็นไปได้
• ทำไก่กะหรี่แบบอินเดีย คุณสามารถซื้อผงปรุงรสสไตล์อินเดียได้ที่ร้านขายของอินเดีย หรือร้านขายของนานาชาติ สับมะเขือเทศและหัวหอมกับผงกะหรี่แล้วทำตามวิธีการทำที่อาจบอกส่วนผสมมาด้วย
• ละลายน้ำแข็งไก่ด้วยตู้เย็น, น้ำเย็น หรือในเตาไมโครเวฟ ไก่ที่ละลายน้ำแข็งในตู้เย็นจะนำมาทำอาหารได้ในหนึ่ง หรือสองวัน หรือจนกว่าน้ำแข็งจะละลาย (นานตราบเท่าที่มันจะเก็บต่อได้ในตู้เย็น) ไก่ที่ละลายน้ำแข็งในน้ำเย็น หรือเตาไมโครเวฟ สามารถนำมาทำอาหารได้เลย อย่าละลายน้ำแข็งด้วยการปล่อยไว้บนเคาน์เตอร์เฉยๆ อย่านำไก่แช่แข็งใส่ในไมโครเวฟ หรือทำอาหารแบบช้าๆ ใช้ไฟอ่อนๆ สามารถนำไก่แช่แข็งทำอาหารในเตาหุงต้ม หรือเตาอบได้ แต่ต้องเพิ่มเวลาในการทำอาหารให้มากขึ้นอีก 50%
• คุณสามารถใช้เกล็ดขนมปังแทนคอร์นเฟล็คได้

โฆษณา

คำเตือน

• อย่าลืมว่าคุณต้องปลอดภัยจากของมีคมในห้องครัว
• ระวังละอองน้ำมัน หรือไขมันสัตว์ มันจะทำให้คุณเจ็บ “มาก” คุณจะเห็นได้ว่ามีอาการบาดเจ็บจากไขมันสัตว์ที่ร้อนมากพอหากมันโดนผิวหนังของคุณ (หรือตาของคุณ)
• When cooking chicken, always make sure that you have cooked it all the way. Wash all items used to cook the chicken (knives, cutting boards, etc.) to prevent bacterial illnesses. Chicken may taste good, but you should always keep basic safety precautions in mind.เมื่อนำไก่มาทำอาหาร ต้องแน่ใจเสมอว่าคุณทำมันสุกแล้ว ล้างอุปกรณ์ทุกอย่างที่ใช้ประกอบอาหาร (มีด, เขียง, อื่นๆ ) เพื่อป้องกันโรคที่เกิดจากแบคทีเรีย ไก่อาจมีรสชาติดี แต่คุณควรระมัดระวังตัวขั้นพื้นฐานด้วย
• หากคุณทำอาหารด้วยไมโครเวฟ เนื้ออาจยังสุกไม่สม่ำเสมอ เป็นการเพิ่มความเสี่ยงของสารพิษจากอาหาร วิธีการนี้ไม่แนะนำให้เด็ก หรือใครก็ตามที่รักษาสุขภาพรับประทานไก่จากวิธีนี้

โฆษณา