ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความX
บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Laura Marusinec, MD. ดร.มารูซิเน็กเป็นกุมารแพทย์ที่มีใบรับรองในวิสคอนซิน เธอสำเร็จปริญญาโทจากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยวิสคอนซินในปี 1995
มีการอ้างอิง 7 ข้อที่อ้างอิงอยู่ในบทความ ซึ่งสามารถพบได้ทางด้านล่างของบทความ
บทความนี้ถูกเข้าชม 25,760 ครั้ง
ถ้าลำคอของคุณอุดตันไปด้วยเมือกน้ำมูกและเสมหะ มีหลายวิธีที่คุณสามารถทำความสะอาดภายในลำคอของคุณเพื่อให้หายใจ ทานอาหาร หรือดื่มเครื่องดื่มได้ง่ายขึ้น วิธีต่างๆ เช่น การใช้ยา การรักษาเองที่บ้าน การทานอาหารและดื่มเครื่องดื่มบางชนิด ก็จะช่วยให้อาการดีขึ้นได้
ขั้นตอน
ใช้น้ำยาบ้วนปาก. การใช้น้ำยาบ้วนปากทุกวันเป็นประจำจะช่วยทำความสะอาดภายในลำคอของคุณและป้องกันแบคทีเรียที่จะทำให้ลมหายใจมีกลิ่นและป้องกันโรคภายในช่องปาก- น้ำยาบ้วนปากมีสารฆ่าเชื้อโรคที่จะป้องกันโรคบางชนิดได้ และยังมีฟลูออไรด์ที่จะช่วยลดการเกิดฟันผุ อีกทั้งยังมีสารระงับกลิ่นที่จะช่วยจัดการกับกลิ่นปาก[1]
- น้ำยาบ้วนปากบางอย่างอาจจะถูกจัดเป็นแค่ผลิตภัณฑ์เพื่อความสวยความงามเท่านั้น นั่นหมายความว่ามันจะแค่ขจัดกลิ่นปากเพียงชั่วคราวแต่ไม่สามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้เหมือนน้ำยาบ้วนปากจริงๆ ที่มีประสิทธิภาพมากกว่า ขอให้แน่ใจว่าคุณได้ซื้อน้ำยาบ้วนปากที่มีคุณสมบัติเป็นยาและถูกผลิตมาเพื่อทำความสะอาดช่องปากและคอ นอกเหนือจากช่วยขจัดกลิ่นเพียงอย่างเดียว[2]
- น้ำยาบ้วนปากจะมีวิธีการใช้มาด้วย ส่วนใหญ่แล้วก็จะแนะนำให้คุณกลั้วน้ำยาสักพักก่อนที่จะบ้วนทิ้งไปในอ่าง จากนั้นก็ใช้น้ำเปล่าบ้วนปากอีกที[3]
ดูแลต่อมทอนซิลของคุณ. ต่อมทอนซิลนั้นคือต่อมน้ำเหลืองเล็กๆ ที่อยู่ในช่องคอ ซึ่งมันมักจะติดเชื้อและเป็นสาเหตุของลมหายใจมีกลิ่นได้บ่อยๆ บางคนผ่าตัดเอาต่อมทอลซิลออกเพื่อไม่ให้มีปัญหาเช่นนั้นเกิดขึ้น แต่ถ้าคุณยังมีต่อมทอนซิลอยู่ คุณก็ต้องดูแลมันเพื่อป้องกันการก่อตัวของแบคทีเรีย บางครั้งอาจจะเกิดนิ่วที่ต่อมทอนซิล (Tonsil Stones) ซึ่งเกิดจากเมือกและเศษอาหารเกาะกันแน่นและก่อตัวที่ต่อมทอนซิล โดยมันจะทำให้คุณมีกลิ่นปาก มันจะทำให้คุณรู้สึกอยากสำรอกหรือทำให้คุณอยากทำความสะอาดคอตลอดเวลา- ถ้าคุณมีปัญหาเรื่องนิ่วที่ต่อมทอลซิล คุณอาจจะต้องล้างต่อมทอนซิลอย่างเป็นประจำโดยใช้อุปกรณ์ล้างที่คุณสามารถซื้อได้ตามร้านขายยา อุปกรณ์ล้างต่อมทอลซิลนั้นมีการใช้งานที่เหมือนกับอุปกรณ์ที่ใช้ล้างจมูกและหู โดยจะมีลูกยางสูบที่ไว้ใช้พ่นน้ำและยาบางชนิดไปในลำคอเพื่อขจัดเศษซากต่างๆ ที่ไม่พึงประสงค์ ขอให้แน่ใจว่าคุณไม่ใช้แรงหรือกดมันมากเกินไป มิฉะนั้นแล้วคุณจะทำให้ต่อมทอนซิลระคายเคืองและทำให้เลือดออกได้[4]
- คุณอาจจะซื้อยาพ่นต่อมทอนซิลที่ร้านขายยาส่วนใหญ่ คุณสามารถใช้ยาพ่นเหล่านี้พ่นไปที่ลำคอเพื่อทำความสะอาดต่อมทอนซิลและป้องกันฟันผุอีกด้วย[5]
- ถ้าต่อมทอนซิลมีขนาดใหญ่ขึ้นแบบผิดปกติ ให้ลองทานโพรไบโอติกส์ก็จะช่วยยับยั้งขนาดที่โตขึ้นของมันได้ อย่างไรก็ตาม พูดคุยกับแพทย์ก่อนลองใช้ยาใหม่ๆ [6]
- ถ้าคุณไม่สามารถกำจัดนิ่วที่ทอนซิลได้เองหรือมันทำให้เกิดปัญรุนแรงอื่นๆ ให้ไปพบแพทย์
แปรงลิ้น. ขณะที่คุณแปรงฟันในแต่ละวัน ขอให้แน่ใจว่าได้ใช้เวลา 2-3 นาทีในการแปรงโคนลิ้นด้วยแปรงสีฟัน นี่จะเป็นการทำความสะอาดช่องปากและลำคอนอกเหนือจากการทำความสะอาดฟันและป้องกันการก่อตัวของแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของโรคต่างๆ และลมหายใจที่มีกลิ่นโฆษณา
ลองใช้ยาที่ขายตามเคาน์เตอร์ยา. วิธีที่เร็วที่สุดที่จะขจัดเสมหะและสิ่งที่ไม่พึงประสงค์อื่นๆ จากลำคอก็คือการใช้ยาที่สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยา- ยาที่ขายตามร้านขายยาที่ระบุในฉลากว่าเป็น "ยาขับเสมหะ" นั้นถูกผลิตมาเพื่อขจัดเมือกน้ำมูกและเสมหะจากลำคอและหน้าอก ซึ่งได้แก่ยายี่ห้อ Mucinex หรือยาที่มีชื่อสามัญว่าไกวเฟนิซิน (Guaifenesin)[7]
- ให้ตรวจดูว่ายาที่คุณซื้อมาใหม่มีผลข้างเคียงอะไรบ้างก่อนที่คุณจะใช้ ยาขับเสมหะส่วนใหญ่จะทำให้ง่วงซึมและบางครั้งที่ฉลากยาอาจจะระบุไว้ว่าคุณไม่ควรที่จะขับพาหนะใดๆ ขณะที่ใช้ยานี้[8]
- คุณควรที่จะปรึกษาแพทย์ของคุณเสมอเมื่อคุณจะใช้ยาชนิดใหม่ แม้ว่ามันจะเป็นยาที่ซื้อมาจากร้านขายยาก็ตาม เพื่อให้แน่ใจว่ายาชนิดนั้นปลอดภัยเมื่อคุณใช้ ให้แพทย์ดูประวัติการใช้ยาของคุณและรายชื่อยาที่คุณใช้อยู่[9]
- ถ้ายาที่ซื้อตามร้านขายยาไม่สามารถช่วยได้ ให้ไปพบแพทย์ ถ้าแพทย์คิดว่าเป็นเรื่องจำเป็นจริงๆ แพทย์ก็อาจจะส่งตัวคุณให้ไปหาผู้เชี่ยวชาญด้านหู จมูก และลำคอ เพื่อช่วยสั่งยาที่จะทำทำความสะอาดลำคอของคุณได้
ใช้น้ำเกลือทำความสะอาดทางเดินหายใจ. น้ำเกลือสามารถทำความสะอาดลำคอได้อย่างมีประสิทธิภาพเป็นระยะเวลาสั้นๆ โดยมันจะป้องกันไม่ให้น้ำมูกไหลลงคอ ลดอาการแน่นจมูก และขจัดน้ำมูกออกจากจมูก[10] คุณสามารถซื้อน้ำเกลือที่ปราศจากเชื้อโรคได้จากร้านขายยาหรือสามารถทำเองได้ที่บ้าน- ผสมผงฟูครึ่งช้อนชาและเกลือครึ่งช้อนชาลงไปในน้ำกลั่นอุณหภูมิห้องปริมาณ 1 ถ้วย ถ้าคุณจะใช้น้ำก๊อก ให้ต้มน้ำก่อนเพื่อฆ่าเชื้อโรคและพักไว้ให้เย็น[11]
- ละลายผงฟูและเกลือลงไปในน้ำ[12]
- คุณอาจจะต้องใช้ลูกยางสูบ คุณสามารถใช้ลูกยางสูบสำหรับหูหรือจะใช้ไซริงค์ที่ไม่มีเข็มฉีดยา ใช้มันพ่นน้ำเกลือไปที่จมูกและให้มันไหลไปที่คอ จากนั้นบ้วนทิ้งไปที่อ่างล้างหน้า[13]
- อย่ารู้สึกกังวลถ้าคุณเผลอกลืนน้ำเกลือไป มันไม่มีอันตรายอะไร[14]
- นี่จะช่วยทำความสะอาดทางเดินหายใจ โดยจะช่วยลดการก่อตัวของเสมหะในลำคอ ให้ทำซ้ำถ้ายังมีอาการอยู่[15]
- ขอให้แน่ใจว่าคุณได้ฆ่าเชื้ออุปกรณ์ที่ใช้โดยการล้างด้วยสบู่และน้ำหลังจากใช้เสร็จ เปลี่ยนน้ำเกลือใหม่ทุกๆ 2-3 วัน
ลองใช้น้ำผึ้งผสมมะนาว. น้ำผึ้งและมะนาวมีคุณสมบัติในการต้านแบคทีเรียซึ่งจะสามารถดูแลลำคอของคุณและขจัดเสมหะ เมือกน้ำมูก และแบคทีเรียอื่นๆ- ผสมน้ำผึ้งและน้ำมะนาวในสัดส่วนที่เท่ากันและคนให้เข้ากันดี[16]
- คุณจะใช้ช้อนตักส่วนผสมนี้ทานเปล่าๆ เลยก็ได้ แต่หลายคนรู้สึกว่ามันมีรสหวานเกินไป ถ้าเป็นเช่นนี้ ให้ใส่มันลงไปในกาแฟหรือใส่ในน้ำร้อนสักแก้วก็จะช่วยทานได้ง่ายขึ้น[17]
- อย่าให้ทารกที่มีอายุน้อยกว่า 1 ขวบทาน เพราะมันอาจจะมีสปอร์ที่ทำให้เกิดโรคโบทูลิซึม (Botulism) ที่ทารกอาจจะติดเชื้อรุนแรงได้[18]
ใช้น้ำมันยูคาลิปตัส. น้ำมันยูคาลิปตัสสามารถนำมาใช้ภายนอกเพื่อบรรเทาอาการแน่นในลำคอ ซึ่งก็จะเป็นการช่วยลำคอโล่งขึ้นด้วย- คุณสามารถซื้อน้ำมันยูคาลิปตัสได้จากร้านขายยาส่วนใหญ่ ซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านขายอาหารเพื่อสุขภาพ ขอให้ระลึกไว้ว่า มันสามารถใช้ได้กับผิวหนังเท่านั้นและไม่ควรที่จะทานมันเข้าไป ให้ละลายน้ำมันยูคาลิปตัวในน้ำมันตัวพาก่อนเสมอ ซึ่งได้แก่ น้ำมันมะพร้าว น้ำมันมะกอก น้ำมันคาโนล่า[19]
- คุณสามารถใช้น้ำมันยูคาลิปตัสนวดที่หน้าอกและคอเบาๆ และปล่อยทิ้งไว้ 2-3 ชั่วโมงเพื่อบรรเทาอาการแน่นในลำคอและหน้าอก นี่อาจจะช่วยให้คอของคุณโล่งขึ้นได้[20]
โฆษณา
ลองทานขิงและกระเทียม. ขิงและกระเทียมสดจะช่วยทำให้รู้สึกโล่งขึ้นมากเมื่อมีอาการแน่นในลำคอและจะช่วยทำความสะอาดลำคอด้วย- ทั้งขิงและกระเทียมมีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียซึ่งจะช่วยขจัดการติดเชื้อที่ทำให้เกิดเสมหะและน้ำมูกที่ลำคอ ในเสมหะนั้นมีแบคทีเรียหลายชนิดที่กระเทียมสามารถกำจัดได้[21]
- คุณควรบริโภคขิงและกระเทียมสดๆ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ถ้าการเคี้ยวขิงและกระเทียมสดๆ ทำให้คุณขยาด คุณสามารถสับหรือบดมันจากนั้นปั้นเป็นก้อนๆ แล้วทานมันกับน้ำเหมือนกับการทายาเม็ด
ทานอาหารรสเผ็ด. อาหารรสเผ็ดนั้นสามารถทำให้ระคายเคืองได้ถ้าคุณมีอาการเจ็บคออยู่แล้ว ดังนั้น ควรใช้วิธีนี้ด้วยความระมัดระวัง อาหารรสเผ็ดนั้นสามารถละลายเสมหะและทำให้มันระบายออกไปได้ง่ายขึ้น ซึ่งจะขจัดออกไปได้ง่ายเมื่อคุณไอหรือสั่งน้ำมูก ตัวเลือกที่ดีได้แก่ พริก พริกไทย วาซาบิ และฮอสแรดิช (Horseradish) อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณมีประวัติปัญหาสุขภาพอย่างกรดไหลย้อนเมื่อทานอาหารรสเผ็ด ทางที่ดีที่สุดคือให้ใช้วิธีอื่น[24]
หลีกเลี่ยงอาหารบางชนิด. ถ้าคุณมีอาการแน่นในลำคอหรือรู้สึกว่ามีอะไรมาอุดตันที่ลำคอ คุณควรที่จะหลีกเลี่ยงอาหารบางชนิดเพราะมันจะทำให้ปัญหายิ่งแย่ลง- ผลิตภัณฑ์จากนม เช่น ชีส โยเกิร์ต นม จะเพิ่มการผลิตน้ำมูกในร่างกาย อาหารที่มีเกลือและน้ำมันสูงก็ควรต้องหลีกเลี่ยงด้วย[25]
- น้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์และสารสังเคราะห์ให้ความหวานอื่นๆ อาจจะทำให้คอระคายเคืองได้และทำให้ปัญหาแย่ลง คุณควรจะหลีกเลี่ยงขณะที่คุณกำลังทำให้คอของคุณสะอาด[26]
- ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง เช่น เต้าหู้และนมถั่วเหลือง สามารถทำให้มีการผลิตเสมหะเพิ่มขึ้น ดังนั้น คุณไม่ควรใช้นมถั่วเหลืองแทนนมวัวหรือชีสขณะที่คุณกำลังรักษาให้คอของคุณสะอาด[27]
โฆษณา
ดื่มน้ำเยอะๆ. การทำให้ร่างกายชุ่มชื้นจะทำให้น้ำมูกละลายและไม่ติดอยู่ที่คอได้ง่ายขึ้น- ตั้งเป้าว่าจะดื่มน้ำประมาณ 8 แก้วต่อวัน ถ้าคุณเป็นหวัดคุณควรที่จะดื่มน้ำให้มากกว่านี้เล็กน้อยเพราะว่าร่างกายได้ผลิตน้ำมูกออกมามากกว่าปกติ[28]
- น้ำจะทำให้ลำคอของคุณลื่น ซึ่งจะลดการเกิดเสมหะ ควรดื่มน้ำทันทีหลังจากทานอาหารเสร็จแทนเครื่องดื่มชนิดอื่นและพกขวดน้ำไว้ใกล้ๆ เมื่อคุณอยู่ที่ที่ทำงานหรือพักผ่อนอยู่ที่บ้าน จิบน้ำเป็นพักๆ[29]
- 2อย่าสูบบุหรี่. การสูบบุหรี่นั้นส่งผลให้เกิดปัญหาสุขภาพที่คุณอาจจะเคยได้ยินหรือและเป็นสาเหตุของปัญหาอื่นๆ นอกจากนี้มันยังไม่ดีกับลำคอของคุณด้วย การสูบบุหรี่จะทำให้เส้นเสียงระคายเคือง ยาสูบนั้นจะทำให้คุณเสี่ยงที่จะติดเชื้อมากขึ้นส่งผลให้คุณเป็นโรคหวัดและไข้หวัดใหญ่ ดังนั้นจึงทำให้มีน้ำมูกมากขึ้น ให้ดับบุหรี่ไปซะถ้าคุณกำลังรักษาภายในลำคอให้สะอาดและมองหาแผนที่จะเลิกสูบบุหรี่ในระยะยาว[30]
ดื่มแอลกอฮอล์และน้ำอัดลมอย่างพอดี. ถ้าคุณมีเสมหะติดอยู่ในคอ คุณควรหลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์และเครื่องดื่มที่อัดแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ (น้ำอัดลม)โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ http://www.ada.org/en/science-research/ada-seal-of-acceptance/product-category-information/mouthrinses
- ↑ http://www.ada.org/en/science-research/ada-seal-of-acceptance/product-category-information/mouthrinses
- ↑ http://www.ada.org/en/science-research/ada-seal-of-acceptance/product-category-information/mouthrinses
- ↑ http://www.breathmd.com/tonsil-stones.php
- ↑ http://www.breathmd.com/tonsil-stones.php
- ↑ http://www.breathmd.com/tonsil-stones.php
- ↑ http://www.newhealthguide.org/How-To-Get-Phlegm-Out-Of-Your-Throat.html
- ↑ http://www.newhealthguide.org/How-To-Get-Phlegm-Out-Of-Your-Throat.html
- ↑ http://www.newhealthguide.org/How-To-Get-Phlegm-Out-Of-Your-Throat.html
- ↑ http://www.phcentral.org/features/sinus-problems-here-s-one-solution-no-pun-intended-
- ↑ http://www.phcentral.org/features/sinus-problems-here-s-one-solution-no-pun-intended-
- ↑ http://www.phcentral.org/features/sinus-problems-here-s-one-solution-no-pun-intended-
- ↑ http://www.phcentral.org/features/sinus-problems-here-s-one-solution-no-pun-intended-
- ↑ hhttp://www.phcentral.org/features/sinus-problems-here-s-one-solution-no-pun-intended-
- ↑ http://www.phcentral.org/features/sinus-problems-here-s-one-solution-no-pun-intended-
- ↑ http://www.newhealthguide.org/How-To-Get-Phlegm-Out-Of-Your-Throat.html
- ↑ http://www.newhealthguide.org/How-To-Get-Phlegm-Out-Of-Your-Throat.html
- ↑ http://kidshealth.org/parent/infections/bacterial_viral/botulism.html
- ↑ http://www.newhealthguide.org/How-To-Get-Phlegm-Out-Of-Your-Throat.html
- ↑ http://www.newhealthguide.org/How-To-Get-Phlegm-Out-Of-Your-Throat.html
- ↑ http://www.newhealthguide.org/How-To-Get-Phlegm-Out-Of-Your-Throat.html
- ↑ http://www.newhealthguide.org/How-To-Get-Phlegm-Out-Of-Your-Throat.html
- ↑ http://www.newhealthguide.org/How-To-Get-Phlegm-Out-Of-Your-Throat.html
- ↑ http://www.newhealthguide.org/How-To-Get-Phlegm-Out-Of-Your-Throat.html
- ↑ http://www.newhealthguide.org/How-To-Get-Phlegm-Out-Of-Your-Throat.html
- ↑ http://www.newhealthguide.org/How-To-Get-Phlegm-Out-Of-Your-Throat.html
- ↑ http://www.newhealthguide.org/How-To-Get-Phlegm-Out-Of-Your-Throat.html
- ↑ http://www.nidcd.nih.gov/health/voice/pages/takingcare.aspx
- ↑ http://www.newhealthguide.org/How-To-Get-Phlegm-Out-Of-Your-Throat.html
- ↑ http://www.nidcd.nih.gov/health/voice/pages/takingcare.aspx
- ↑ http://www.newhealthguide.org/How-To-Get-Phlegm-Out-Of-Your-Throat.html
- ↑ http://www.newhealthguide.org/How-To-Get-Phlegm-Out-Of-Your-Throat.html
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
แพทย์
บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Laura Marusinec, MD. ดร.มารูซิเน็กเป็นกุมารแพทย์ที่มีใบรับรองในวิสคอนซิน เธอสำเร็จปริญญาโทจากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยวิสคอนซินในปี 1995 บทความนี้ถูกเข้าชม 25,760 ครั้ง
หมวดหมู่: สุขลักษณะส่วนบุคคล
มีการเข้าถึงหน้านี้ 25,760 ครั้ง
บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม
⚠️ Disclaimer:
Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.
- - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
- - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
- - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
- - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.
โฆษณา
