วิธีการ ซ่อมผิวหนังรอบเล็บ

ดาวน์โหลดบทความ

ดาวน์โหลดบทความ

ภายในบทความนี้:

การซ่อมจมูกเล็บ

การป้องกันจมูกเล็บแห้ง

บทความที่เกี่ยวข้อง

ข้ออ้างอิง

หลายคนมีปัญหาผิวแห้งและแตกรอบเล็บของพวกเขาเนื่องจากหลายสาเหตุ เช่น อากาศเย็นและแห้ง และการกัดเล็บ นอกจากกัดเล็บแล้ว บางครั้งคนก็กัดหนังรอบเล็บด้วย สิ่งนี้สามารถทำให้เล็บฉีกและขาดซึ่งมีโอกาสติดเชื้อได้ โชคดีที่คุณสามารถแก้ไขผิวหนังที่แห้ง แตก และฉีกรอบๆ เล็บได้โดยทำตามขั้นตอนง่ายๆ สองสามขั้นตอนเพื่อให้แน่ใจว่ามือของคุณได้รับการดูแลเป็นอย่างดีและชุ่มชื้น

ขั้นตอน

ส่วน 1

ส่วน 1 ของ 2:

การซ่อมจมูกเล็บ

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   แช่มือ. นำชามขนาดกลางมาเติมน้ำอุ่นสูงประมาณ 10 เซนติเมตร จุ่มมือลงในน้ำ ให้แน่ใจว่าเล็บและจมูกเล็บจมใต้น้ำ แช่มือประมาณ 5 นาที

   • น้ำอุ่นช่วยทำให้ผิวรอบเล็บนุ่มขึ้นเพื่อให้ตัดแต่งง่ายและไม่เจ็บ
2. 
   2
   เช็ดมือให้แห้ง. ใช้ผ้าขนหนูซับมือให้แห้ง จมูกเล็บควรจะไม่มีหยดน้ำแต่ก็ยังชื้นอยู่ คุณต้องให้ผิวยังคงชุ่มชื้นและอ่อนนุ่มในขณะตัดแต่งจมูกเล็บ จะได้กำจัดผิวหนังที่ตายแล้วได้ง่ายขึ้นและเจ็บน้อยลง
3. 
   3
   ดันจมูกเล็บกลับ. การใช้ไม้ดันจมูกเล็บหรือไม้สีส้ม (แท่งแต่งเล็บที่มีปลายแหลมด้านหนึ่งและปลายแบนด้านหนึ่ง) สามารถช่วยไม่ให้จมูกเล็บงอกออกมาสู่เล็บได้ ใช้ปลายแบนของแท่งสีส้มเพื่อดันจมูกเล็บกลับลงไป และใช้ปลายแหลมเลาะไปตามด้านล่างของเล็บมือและกำจัดสิ่งสกปรกที่สะสมอยู่

   • ควรฆ่าเชื้อก่อนและหลังใช้ที่ดันจมูกเล็บที่ทำจากโลหะหรือพลาสติกทุกครั้ง และควรจะทิ้งแบบที่เป็นไม้สีส้มหลังการใช้ทุกครั้ง มิฉะนั้นมันจะเป็นแหล่งสะสมแบคทีเรีย
4. 
   4
   ตัดหนังส่วนเกินรอบเล็บ. ใช้ที่ตกแต่งเล็บและกรรไกรตัดเล็บตัดหนังที่ตายแล้วรอบเล็บออก สิ่งนี้อาจรวมถึงหนังที่อยู่ใกล้กับจมูกเล็บที่คุณดันกลับด้วยแท่งแต่งเล็บด้วย แต่ระวังดีๆ ให้ตัดเฉพาะหนังที่ร่อน นุ่ม และโปร่งแสง ไม่ใช่จมูกเล็บจริงๆ ของคุณ หนังที่คุณควรตัดคือส่วนที่งอกออกมาจากเล็บและตอนนี้หลุดร่อนออกมา

   • คุณไม่ควรตัดหนังที่อยู่รอบและปกป้องเล็บซึ่งเป็นจมูกเล็บส่วนบน
   • หนังที่หลุดร่อนส่วนเกินจะมีสีขาวเมื่อเทียบกับผิวหนังจริงๆ ที่อยู่ติดกับเล็บ คุณแค่ต้องเล็มหนังที่อาจจะเกี่ยวโดนสิ่งอื่นๆ และทำให้หนังฉีก
5. 
   5
   ทามอยส์เจอไรเซอร์. ใช้โลชั่น น้ำมันมอยส์เจอไรเซอร์ หรือมอยส์เจอไรเซอร์สำหรับจมูกเล็บเป็นพิเศษที่ซื้อได้ตามร้านค้า เพื่อให้ความชุ่มชื้นบริเวณที่แห้งรอบเล็บ ทามอยส์เจอไรเซอร์ในปริมาณที่พอเหมาะบนเล็บ และใส่ใจเป็นพิเศษกับจมูกเล็บ ควรจะทามอยส์เจอไรเซอร์ให้ทั่วบริเวณรอบเล็บ

   • คุณยังสามารถลองทามอยส์เจอไรเซอร์ใต้เล็บได้เช่นกัน
   • มอยส์เจอไรเซอร์ที่ปราศจากแอลกอฮอล์และน้ำหอมมักจะให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวได้ดีกว่า
6. 
   6
   ใส่ถุงมือล็อคความชุ่มชื้น. ใส่ถุงมือผ้าฝ้ายและใส่ไว้ข้ามคืน ถุงมือจะปิดผนึกมอยส์เจอไรเซอร์ไว้และช่วยรักษาเล็บและจมูกเล็บ ถอดถุงมือในตอนเช้า

   • ถ้าคุณอยากทำให้มอยเจอร์ไรเซอร์ดูดซึมได้ดีขึ้น ให้ทาทับด้วยปิโตรเลียมเจลลี่หรือแว็กซ์พาราฟินเพื่อปิดผนึกความชุ่มชื้น จากนั้นใส่ถุงมือไว้
   • เพื่อผลลัพธ์ที่ดีขึ้นและยาวนานขึ้น ให้ทำขั้นตอนนี้ซ้ำทุกคืน
   โฆษณา

ส่วน 2

ส่วน 2 ของ 2:

การป้องกันจมูกเล็บแห้ง

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   ทามอยส์เจอไรเซอร์บ่อยๆ . ทามอยส์เจอไรเซอร์ทุกวัน วันละหลายๆ ครั้งเพื่อให้ผิวรอบเล็บนุ่มนวลขึ้นและชุ่มชื้น คุณต้องให้จมูกเล็บและเล็บชุ่มชื้นอยู่เสมอ เพราะว่าขอบเล็บลอก ฉีก และแตกนั้นจะเกิดขึ้นเมื่อเล็บและจมูกเล็บแห้ง

   • การรักษามือให้ชุ่มชื้นนั้นสำคัญอย่างยิ่งในฤดูหนาวที่อากาศแห้ง
2. 
   2
   หลีกเลี่ยงสารที่ทำให้แห้ง. มือที่แห้งมีแนวโน้มที่จะแตกและลอก ดังนั้นให้ปกป้องมือจากกิจกรรมที่สามารถทำให้ผิวแห้งโดยไม่จำเป็น ให้หลีกเลี่ยงสิ่งต่างๆ อย่างเช่น:

   • ล้างจานในน้ำร้อนโดยไม่ใส่ถุงมือ น้ำร้อนและสบู่จะดึงความชื้นออกจากมือ ใส่ถุงมือขณะที่คุณล้างจานเพื่อปกป้องเล็บและมือ หลังจากล้างจานเสร็จแล้ว ให้แน่ใจว่ามือของคุณแห้งสนิท
   • หลีกเลี่ยงน้ำยาล้างเล็บที่มีส่วนผสมของอะซิโตน (Acetone) อะซิโตนจะขจัดน้ำมันตามธรรมชาติที่สำคัญออกจากผิวและเล็บ
   • ไม่ใส่ถุงมือในฤดูหนาว อากาศเย็นและแห้งในช่วงฤดูหนาวจะทำให้ผิวแห้ง ดังนั้นควรปกป้องมือด้วยการใส่ถุงมือ
3. 
   3
   หลีกเลี่ยงการแกะผิว. ให้แช่มือและทามอยส์เจอไรเซอร์แทนที่จะแกะผิวที่หลุดร่อนรอบเล็บ การแกะสามารถทำให้เกิดบาดแผลเปิดซึ่งสามารถทำให้เกิดการติดเชื้อได้

   • บางคนแกะหนังรอบเล็บเป็นนิสัยตอนประหม่า การหาวิธีที่ดีกว่าในการควบคุมนิสัยตอนประหม่า และการฝึกฝนการควบคุมตนเองจะสามารถทำลายนิสัยนี้ได้
4. 
   4
   เอามือออกจากปาก. พยายามเลิกกัดเล็บหรือกัดหนังที่หลุดร่อนรอบเล็บ ถ้าคุณตัดหนังบริเวณเล็บหรือกัดเล็บจนกุด แบคทีเรียในปากอาจจะทำให้เกิดการติดเชื้อได้

   • ลองใช้ครีมขี้ผึ้งพิเศษที่มีกลิ่นเหม็นเพื่อไม่ให้คุณเอานิ้วเข้าใกล้ปาก
5. 5
   ดื่มน้ำให้เพียงพอแก่ความต้องการของร่างกายโดยดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว. การมีน้ำอย่างเพียงพอต่อความต้องการของร่างกายจะช่วยให้ผิวรวมถึงจมูกเล็บนุ่มและชุ่มชื้น น้ำเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด และคุณสามารถเพิ่มรสชาติให้น้ำได้โดยเติมส้ม เลมอน มะนาว หรือแตงกวาหั่นเป็นแว่นลงไป คุณสามารถเพิ่มความชุ่มชื้นโดยการดื่มของเหลวอื่นๆ ได้อีกด้วย เช่น ชาหรือน้ำผลไม้ การกินอาหารที่มีส่วนประกอบของน้ำ เช่น ซุปและผลไม้ที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบนั้นยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นอีกด้วย

   • ถ้าคุณเหงื่อออกมาก ให้ดื่มน้ำเพิ่มมากขึ้น
6. 6
   กินอาหารที่ดีต่อสุขภาพและสมดุล. ถ้าร่างกายขาดสารอาหาร ผิวหนัง ผม และเล็บของคุณก็จะได้รับผลกระทบทั้งหมด ให้กินโปรตีนลีน ผัก และผลไม้เยอะๆ กินไขมันดีเพื่อให้แน่ใจว่าร่างกายดูดซึมสารอาหารอย่างเหมาะสม

   • คุณสามารถกินอาหารเสริมวิตามินเพื่อสนับสนุนให้เล็บแข็งแรงอีกด้วย แต่ควรปรึกษาแพทย์ก่อนกินอาหารเสริมใดๆ ก็ตาม
7. 
   7
   ตะไบเล็บ. รักษาเล็บให้ยาวพอที่จะป้องกันไม่ให้เกี่ยวและติดกับสิ่งต่างๆ ให้ความสนใจเป็นพิเศษที่มุมเล็บและทำให้มันเรียบ ขอบเล็บจะได้ไม่ทำร้ายผิวหนังรอบๆ เล็บ

   • ตอนคุณตะไบเล็บ ให้ถูตะไบบนเล็บอย่างมั่นคงไปในทิศทางเดียว สิ่งนี้จะช่วยป้องกันไม่ให้เล็บ"ที่ฝน" (การถูตะไบบนเล็บไปบมา) แยกและฉีกขาด
   โฆษณา

คำเตือน

• อย่าลอกจมูกเล็บรอบเล็บออกจนหมด คุณสามารถตัดเล็มผิวหนังใดๆ ที่หลุดร่อน ตาย (ที่เป็นสีขาว) ได้ แต่ไม่ควรกำจัดจมูกเล็บทั้งหมดออกไปเลย

โฆษณา