วิธีการ ขนส่งแมวไปทางเครื่องบิน

ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความ

การเดินทางโดยเครื่องบินเป็นสิ่งที่ไม่แนะนำสำหรับสัตว์เลี้ยง เว้นเสียแต่ว่ามันจำเป็นอย่างเลี่ยงไม่ได้ จริงๆ แล้ว การเดินทางโดยเครื่องบินสามารถเป็นอันตรายต่อสัตว์ที่มีใบหน้าลักษณะ “ยุบเข้า” เช่น หมาบูลด๊อก หมาปั๊ก และแมวเปอร์เซีย เนื่องจากพวกมันอาจมีปัญหาทางการหายใจเวลาบินอันมีผลมาจากทางเดินอากาศที่จำกัดบวกกับความเครียด[1] แต่ถ้าคุณต้องย้ายไปอยู่ที่อื่นและจำเป็นต้องหอบหิ้วแมวไปด้วย คุณอาจไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากใช้บริการขนส่งมันไปทางเครื่องบิน มีเรื่องราวน่าสยดสยองมากมายที่เกี่ยวข้องกับการส่งแมวไปกับเครื่องบิน[2] แต่ถ้าคุณมีการเตรียมการที่ดี เพื่อนแมวของคุณจะไปถึงบ้านใหม่ของมันอย่างปลอดภัยและแข็งแรง

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 2:

ขนส่งแมวในห้องโดยสาร

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 สอบถามทางสายการบินถึงการขนส่งแมวในห้องโดยสาร....
    สอบถามทางสายการบินถึงการขนส่งแมวในห้องโดยสาร. ติดต่อสายการบินที่คุณวางแผนจะบินเพื่อตรวจดูว่าคุณสามารถพาแมวใส่กรงเอาขึ้นเครื่องไปด้วยโดยวางไว้ใต้ที่นั่งข้างหน้าคุณได้หรือไม่ หลีกเลี่ยงการขนส่งแมวไปในคาร์โกหรือตรงส่วนบรรทุกสัมภาระถ้าเป็นไปได้[3]
    • สายการบินส่วนใหญ่อนุญาตให้นำแมวขึ้นเครื่องไปด้วยได้โดยต้องจ่ายเงินเพิ่ม ให้ลองโทรศัพท์คุยกับสายการบินล่วงหน้าเพราะจะมีการอนุญาตเพียงจำนวนจำกัด
  2. How.com.vn ไท: Step 2 จองตั๋วล่วงหน้าแต่เนิ่นๆ.
    บางสายการบินจำกัดจำนวนสัตว์เลี้ยงที่จะสามารถขึ้นเครื่องไปพร้อมผู้โดยสารในแต่ละเที่ยวบิน การจองตั๋วตั้งแต่เนิ่นๆ จะได้มั่นใจว่ามีตำแหน่งเหลือสำหรับแมวคุณ เวลาเลือกที่นั่ง จำไว้ว่าคุณจะไม่สามารถนั่งตรงแถวประตูฉุกเฉินหรือตรงติดกับผนังกั้นแยกส่วน เพราะจำต้องมีเก้าอี้อยู่หน้าคุณให้วางกรง
  3. How.com.vn ไท: Step 3 สอบถามพื้นที่ใต้เก้าอี้นั่ง.
    สายการบินควรสามารถให้ข้อมูลพื้นที่ว่างใต้เก้าอี้โดยสาร ซึ่งจะเป็นการบังคับขนาดของกรงที่คุณใช้ใส่แมวขึ้นเครื่องด้วย[4]
  4. How.com.vn ไท: Step 4 ตรวจสอบว่ากรงแบบไหนที่อนุญาตให้นำขึ้นเครื่องได้....
    ตรวจสอบว่ากรงแบบไหนที่อนุญาตให้นำขึ้นเครื่องได้. สายการบินส่วนใหญ่จะอนุญาตทั้งกรงแบบแข็งและกรงแบบนิ่ม กรงแบบนิ่มจะง่ายต่อการดันเข้าพื้นที่ว่างใต้เก้าอี้โดยสารมากกว่า แต่จะมีบางยี่ห้อเท่านั้นที่ผ่านเกณฑ์ได้รับอนุญาต ฉะนั้นเช็คดูว่าแบบไหนยี่ห้อใดที่อนุญาตให้ขึ้นเครื่องก่อนคุณจะซื้อกรง
    • หนึ่งเดือนก่อนเดินทาง ให้อาหารแมวในกรงเพื่อที่มันจะคุ้นชินกับกิจกรรมเชิงบวก เล่นกับแมวตอนอยู่ในกรงและปล่อยให้มันนั่งแช่หรือพักในกรงได้ จะทำให้มันรู้สึกพอใจเท่าที่จะเป็นไปได้
  5. How.com.vn ไท: Step 5 ฝึกแมวให้เข้าออกกรง.
    นี่จะช่วยให้มันรู้สึกคุ้นเคยกรงและฝึกจนกลายเป็นกิจวัตร การฝึกให้มันเข้าออกกรงเป็นการเตรียมตัวที่ดีสำหรับตอนผ่านการตรวจด้านความปลอดภัย เมื่อแมวอาจต้องถูกสั่งให้นำออกจากกรง
  6. How.com.vn ไท: Step 6 นัดสัตวแพทย์ใกล้วันเดินทาง.
    คุณยังต้องนำแมวไปให้สัตวแพทย์ตรวจและออกใบรับรองสุขภาพและประวัติการฉีดวัคซีนสำหรับการเดินทาง สายการบินต้องการเอกสารเหล่านี้เพื่อจะอนุญาตให้นำแมวขึ้นเครื่อง[5]
    • สัตวแพทย์จะออกใบรับรองสุขภาพที่รับรองว่าแมวนั้นมีสุขภาพแข็งแรงไม่มีเชื้อโรค การฉีดวัคซีนควรจะต้องปรับให้ทันตามปัจจุบัน รวมไปถึงการฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อสุนัขบ้า[6]
    • สัตวแพทย์ยังอาจแนะนำการฝังไมโครชิพไว้ในตัวแมวเพื่อให้ตามตัวมันได้ง่ายขึ้นถ้าเผื่อมันเกิดหายไปในระหว่างการเดินทาง มันจะทำหน้าที่เสมือนบัตรประจำตัวของสัตว์เลี้ยงตราบสิ้นอายุขัย การฝังไมโครชิพในสัตว์เลี้ยงนั้นทำได้ง่ายมาก สัตวแพทย์จะฉีดไมโครชิพที่มีขนาดเท่าเมล็ดข้าว (12 มม.) ตรงระหว่างหัวไหล่ มันไม่ทำให้สัตว์รู้สึกเจ็บและไม่จำเป็นต้องใช้ยาสลบ[7]
  7. How.com.vn ไท: Step 7 อย่าให้อาหารแก่แมวในวันเดินทาง.
    การเดินทางพร้อมกับแมวที่ท้องว่างจะจำกัดความเสี่ยงที่จะคลื่นไส้และอาเจียน คุณสามารถพกอาหารแมวติดตัวไปสักเล็กน้อย เผื่อในกรณีที่มันหิวจะทนไม่ไหวในระหว่างเดินทาง
    • อย่าลืมพกยาที่แมวอาจต้องใช้ไว้ในถุงพลาสติกใสด้วย
  8. How.com.vn ไท: Step 8 ปูพื้นกรงด้วย “แผ่นรองซึม” ที่มีคุณสมบัติกันซึม....
    ปูพื้นกรงด้วย “แผ่นรองซึม” ที่มีคุณสมบัติกันซึม. มันจะดูดซึมอุบัติเหตุใดๆ ที่แมวทำระหว่างเดินทาง ให้พกแผ่นสำรอง ถุงชนิดมีซิปล็อค กระดาษชำระ และถุงมือยางสำหรับเตรียมทำความสะอาดและใส่ขยะของการฉี่อึเหล่านี้
  9. How.com.vn ไท: Step 9 ติดป้ายสัมภาระติดตัวบนกรงแมว.
    มันจะช่วยหาตัวได้ง่ายในกรณีที่กรงเกิดสูญหายระหว่างต่อเครื่องหรือในสนามบิน ใส่ชื่อและที่อยู่ของคุณพร้อมเบอร์โทรศัพท์และจุดหมายปลายทางลงบนป้ายด้วย
  10. How.com.vn ไท: Step 10 ติดปลอกคอสำหรับการตรวจความปลอดภัยในสนามบิน....
    ติดปลอกคอสำหรับการตรวจความปลอดภัยในสนามบิน. กรงใส่แมวนั้นจะต้องนำผ่านอุปกรณ์เอกซเรย์สัมภาระในสนามบิน แต่แมวคุณห้ามอยู่ในนั้น ดังนั้นคุณจึงต้องหาปลอกคอพร้อมสายรั้งมาสวมคอแมวเพื่อป้องกันไม่ให้มันหนีไปไหน คุณควรอุ้มแมวไว้ในอ้อมแขนตอนเดินผ่านอุปกรณ์ตรวจผู้โดยสาร[8]
    • ก่อนจะนำแมวออกมาจากกรง ให้เตรียมตัวคุณเองพร้อมข้าวของสำหรับการผ่านกรรมวิธีตรวจ ถอดรองเท้า อุปกรณ์ทำความสะอาดกาย และอุปกรณ์ไฟฟ้าและวางไว้ในกระบะสำหรับผ่านเครื่องเอกซเรย์
    • ปล่อยแมวออกจากกรง รั้งมันไว้ด้วยสายรั้ง และส่งกรงผ่านเครื่อง
    • อุ้มแมวเดินผ่านอุปกรณ์ตรวจผู้โดยสาร จากนั้นนำแมวใส่กรงก่อนแล้วค่อยเก็บรวบรวมข้าวของต่างๆ
  11. How.com.vn ไท: Step 11 ให้ยากล่อมประสาทแก่แมวหากสัตวแพทย์สั่งจ่ายยามา....
    ให้ยากล่อมประสาทแก่แมวหากสัตวแพทย์สั่งจ่ายยามา. แมวส่วนใหญ่สามารถเดินทางได้โดยไม่ต้องพึ่งยา แต่แมวบางตัวอาจรู้สึกเครียดอย่างมากในระหว่างเดินทางทางอากาศ ให้ปรึกษาสัตวแพทย์ถ้าคุณห่วงในความกังวลของแมวตอนบิน[9]
    • สัตวแพทย์อาจสั่งจ่ายยาบูพรีนอร์ฟีน (Buprenorphine), กาบาเพนติน (Gabapentin), หรือ อัลปราซอแลม (Alprazolam) แก่แมวคุณ ให้แน่ใจว่าได้ให้ยาแมวที่บ้านก่อนเดินทางเป็นการ “ซ้อมใหญ่” ให้แน่ใจว่าแมวไม่เกิดปฏิกิริยาขัดขืนยา
  12. How.com.vn ไท: Step 12 ใช้ผ้าห่มตัวทารกหรือแผ่นเช็ดผสมฟีโรโมนเพื่อลดอาการกังวลของแมว....
    ใช้ผ้าห่มตัวทารกหรือแผ่นเช็ดผสมฟีโรโมนเพื่อลดอาการกังวลของแมว. ถ้าอยากจะหลีกเลี่ยงการใช้ยา คุณอาจลอง Thundershirt ซึ่งจะเป็นผ้าห่มรัดรอบตัวแมวคล้ายกับผ้าห่มตัวทารกเพื่อลดความกังวล[10]
    • คุณสามารถใช้แผ่นเช็ดหรือสเปรย์ผสมฟีโรโมนฉีดที่กรงก่อนเดินทางเพื่อลดระดับความกังวลของมันลงมา
    • นอกจากนี้ยังมีปลอกคอพ่นฟีโรโมนให้แมวสงบที่คุณจะซื้อมากล่อมแมวลงตอนขึ้นเครื่องได้
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 2:

ขนส่งแมวทางส่วนบรรทุกสัมภาระ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 สอบถามสายการบินถึงรายงานเหตุที่เกิดกับสัตว์ที่โดยสารไปด้วย....
    สอบถามสายการบินถึงรายงานเหตุที่เกิดกับสัตว์ที่โดยสารไปด้วย. แม้จะไม่ใช่ตัวเลือกในฝัน บางสายการบินอาจไม่อนุญาตให้นำสัตว์ขึ้นเครื่องไปด้วย และถ้าแมวแข็งแรงสุขภาพดี พวกมันจะรับมือกับการเดินทางบนเครื่องบินในส่วนบรรทุกสัมภาระได้ สายการบินในสหรัฐจะมีข้อบังคับให้ต้องรายงานเหตุที่เกิดกับสัตว์ที่ถูกขนส่งในส่วนบรรทุกสัมภาระ[11] ให้มองดูประวัติที่ผ่านมาของสายการบินที่วางแผนจะบิน ถ้าเป็นไปได้ก็เลือกสายการบินที่มีเหตุรายงานไว้น้อยที่สุด
    • ในแต่ละปีจะมีสัตว์ที่บินไปในส่วนบรรทุกสัมภาระเกิดการตาย การบาดเจ็บและสูญหายบนสายการบินพาณิชย์ ด้วยอุณหภูมิที่ร้อนหรือหนาวเกินไปในบริเวณนี้ บวกกับการระบายอากาศที่ย่ำแย่และการขนถ่ายแบบไม่ระมัดระวังมักจะถูกตำหนิว่าเป็นต้นเหตุ[12] อย่างไรก็ตาม ส่วนบรรทุกสัมภาระของเครื่องบินหลายลำปัจจุบันได้รับการปรับความดันอากาศและมีอุณหภูมิที่ควบคุมไว้ในระดับปกติ ให้สอบถามทางสายการบินถึงสิ่งอำนวยความปลอดภัยในส่วนบรรทุกสัมภาระที่จะทำให้การเดินทางของแมวสะดวกสบายขึ้น
  2. How.com.vn ไท: Step 2 พยายามหาเที่ยวบินตรง.
    มันจะช่วยตัดปริมาณการผ่านช่องตรวจความปลอดภัยที่คุณกับแมวต้องผ่านลง และยังลดเวลาที่ต้องล่วงยาวออกไปกับการนำแมวลงจากเครื่องบิน โดบเฉพาะเวลาที่แมวต้องเดินทางไปในส่วนบรรทุกสัมภาระ[13]
    • เดินทางเที่ยวเดียวกันกับแมวเสมอ คุณสามารถมั่นใจขึ้นโดยสอบถามสายการบินว่าคุณสามารถเห็นแมวถูกนำขึ้นไปยังส่วนบรรทุกสัมภาระก่อนเดินทางได้หรือไม่
    • มองหาเที่ยวบินในตอนเช้าตรู่หรือตอนดึกถ้าคุณเดินทางในช่วงหน้าร้อน เพราะมันเป็นช่วงที่อากาศเย็นลงของวันและทำให้ส่วนบรรทุกสัมภาระไม่ร้อนอบอ้าวสำหรับแมวจนเกินไป เลือกเที่ยวบินในตอนบ่ายถ้าเดินทางในฤดูหนาว เพราะส่วนบรรทุกสัมภาระจะไม่เย็นยะเยือก
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ติดปลอกคอที่มีรายละเอียดของคุณให้แมว.
    มองหาปลอกคอที่ไม่ติดรั้งกับประตูกรง ใส่ชื่อและที่อยู่ของคุณพร้อมเบอร์โทรศัพท์และจุดหมายปลายทางลงบนป้ายด้วย[14]
    • คุณควรติดป้ายเดินทางที่มีข้อมูลเดียวกันไว้ที่กรงด้วยเผื่อกรงหรือแมวเกิดสูญหายระหว่างเดินทาง
  4. How.com.vn ไท: Step 4 ตัดเล็บแมวก่อนเดินทาง.
    มันจะช่วยป้องกันเล็บแมวไม่ให้ไปติดอยู่กับประตูกรง รูหรือรอยแยกต่างๆ ในส่วนบรรทุกสัมภาระ[15]
  5. How.com.vn ไท: Step 5 นัดสัตวแพทย์ใกล้วันเดินทาง.
    คุณยังต้องนำแมวไปให้สัตวแพทย์ตรวจและออกใบรับรองสุขภาพและประวัติการฉีดวัคซีนสำหรับการเดินทาง สายการบินต้องการเอกสารเหล่านี้เพื่อจะอนุญาตให้นำแมวขึ้นเครื่อง[16]
    • สัตวแพทย์จะออกใบรับรองสุขภาพที่รับรองว่าแมวนั้นมีสุขภาพแข็งแรงไม่มีเชื้อโรค การฉีดวัคซีนควรจะต้องปรับให้ทันตามปัจจุบัน รวมไปถึงการฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อสุนัขบ้า[17]
    • สัตวแพทย์ยังอาจแนะนำการฝังไมโครชิพไว้ในตัวแมวเพื่อให้ตามตัวมันได้ง่ายขึ้นถ้าเผื่อมันเกิดหายไปในระหว่างการเดินทาง มันจะทำหน้าที่เสมือนบัตรประจำตัวของสัตว์เลี้ยงตราบสิ้นอายุขัย การฝังไมโครชิพในสัตว์เลี้ยงนั้นทำได้ง่ายมาก สัตวแพทย์จะฉีดไมโครชิพที่มีขนาดเท่าเมล็ดข้าว (12 มม.) ตรงระหว่างหัวไหล่ มันไม่ทำให้สัตว์รู้สึกเจ็บและไม่จำเป็นต้องใช้ยาสลบ [18]
  6. How.com.vn ไท: Step 6 อย่าให้อาหารแก่แมว 4-6 ชั่วโมงก่อนการเดินทาง.
    การเดินทางพร้อมกับแมวที่ท้องว่างจะจำกัดความเสี่ยงที่จะคลื่นไส้และอาเจียน คุณสามารถให้น้ำแก่แมวในปริมาณเล็กน้อย หรือวางก้อนน้ำแข็งในถาดน้ำในกรงเพื่อให้แมวได้มีน้ำกินตลอด[19]
  7. How.com.vn ไท: Step 7 พกรูปถ่ายตอนปัจจุบันของแมว.
    ถ้าเกิดแมวหายหรือถูกสลับระหว่างตอนเดินทางหรือตอนลง รูปจะช่วยให้ฝ่ายรักษาความปลอดภัยของสนามบินหามันได้ง่ายขึ้น[20]
  8. How.com.vn ไท: Step 8 ติดปลอกคอสำหรับการตรวจความปลอดภัยในสนามบิน....
    ติดปลอกคอสำหรับการตรวจความปลอดภัยในสนามบิน. กรงใส่แมวนั้นจะต้องนำผ่านอุปกรณ์เอกซเรย์สัมภาระในสนามบิน แต่แมวคุณห้ามอยู่ในนั้น ดังนั้นคุณจึงต้องหาปลอกคอพร้อมสายรั้งมาสวมคอแมวเพื่อป้องกันไม่ให้มันหนีไปไหน คุณควรอุ้มแมวไว้ในอ้อมแขนตอนเดินผ่านอุปกรณ์ตรวจผู้โดยสาร[21]
    • ก่อนจะนำแมวออกมาจากกรง ให้เตรียมตัวคุณเองพร้อมข้าวของสำหรับการผ่านกรรมวิธีตรวจ ถอดรองเท้า อุปกรณ์ทำความสะอาดกาย และอุปกรณ์ไฟฟ้าและวางไว้ในกระบะสำหรับผ่านเครื่องเอกซเรย์
    • ปล่อยแมวออกจากกรง รั้งมันไว้ด้วยสายรั้ง และส่งกรงผ่านเครื่อง
    • อุ้มแมวเดินผ่านอุปกรณ์ตรวจผู้โดยสาร จากนั้นนำแมวใส่กรงก่อนแล้วค่อยเก็บรวบรวมข้าวของต่างๆ
  9. How.com.vn ไท: Step 9 แจ้งให้กัปตันหรือพนักงานบริการประจำเครื่องอย่างน้อยหนึ่งคนได้รับรู้ว่าคุณมีสัตว์เลี้ยงมาด้วยในส่วนบรรทุกสัมภาระ....
    แจ้งให้กัปตันหรือพนักงานบริการประจำเครื่องอย่างน้อยหนึ่งคนได้รับรู้ว่าคุณมีสัตว์เลี้ยงมาด้วยในส่วนบรรทุกสัมภาระ. ให้ทำตอนขึ้นเครื่อง กัปตันนักบินอาจเพิ่มความระมัดระวังขณะบินมากขึ้น เช่นหลีกเลี่ยงบริเวณที่อากาศแปรปรวน
  10. How.com.vn ไท: Step 10 ให้ยากล่อมประสาทแก่แมวหากสัตวแพทย์สั่งจ่ายยามา....
    ให้ยากล่อมประสาทแก่แมวหากสัตวแพทย์สั่งจ่ายยามา. สัตวแพทย์อาจสั่งจ่ายยาให้แมวเพื่อเดินทางโดยเฉพาะ เช่นยาบูพรีนอร์ฟีน, กาบาเพนติน หรืออัลปราซอแลม[22]
    • ให้แน่ใจว่าได้ให้ยาแมวที่บ้านก่อนเดินทางเป็นการ “ซ้อมใหญ่” ให้แน่ใจว่าแมวไม่เกิดปฏิกิริยาขัดขืนยา
  11. How.com.vn ไท: Step 11 เปิดกรงทันทีที่คุณลงจากเครื่องและตรวจดูแมวให้ละเอียด....
    เปิดกรงทันทีที่คุณลงจากเครื่องและตรวจดูแมวให้ละเอียด. หากมีอะไรดูผิดปกติ นำแมวไปพบสัตวแพทย์ในทันที ให้สัตวแพทย์เขียนผลตรวจเป็นลายลักษณ์อักษร รวมถึงวันที่และเวลาตรวจ เผื่อคุณต้องเขียนใบคอมเพลนสายการบินเรื่องการปฏิบัติต่อแมวในส่วนบรรทุกสัมภาระ[23]
    โฆษณา


  1. http://www.vcahospitals.com/main/pet-health-information/article/animal-health/flying-with-your-cat/48
  2. http://www.transportation.gov/airconsumer/air-travel-consumer-reports
  3. http://www.humanesociety.org/animals/resources/tips/traveling_tips_pets_ships_planes_trains.html?credit=web_id110483989#airplane
  4. http://www.humanesociety.org/animals/resources/tips/traveling_tips_pets_ships_planes_trains.html?credit=web_id110483989#airplane
  5. http://www.humanesociety.org/animals/resources/tips/traveling_tips_pets_ships_planes_trains.html?credit=web_id110483989#airplane
  6. http://www.wikihow.com/Trim-Your-Cat%27s-Nails
  7. http://www.vcahospitals.com/main/pet-health-information/article/animal-health/flying-with-your-cat/48
  8. http://www.transitionsabroad.com/tazine/0810/moving-overseas-with-pets.shtml
  9. http://public.homeagain.com/how-pet-microchipping-works.html
  10. http://www.humanesociety.org/animals/resources/tips/traveling_tips_pets_ships_planes_trains.html?credit=web_id110483989#airplane
  11. http://www.humanesociety.org/animals/resources/tips/traveling_tips_pets_ships_planes_trains.html?credit=web_id110483989#airplane
  12. http://www.vcahospitals.com/main/pet-health-information/article/animal-health/flying-with-your-cat/48
  13. http://www.humanesociety.org/animals/resources/tips/traveling_tips_pets_ships_planes_trains.html?credit=web_id110483989#airplane
  14. http://www.humanesociety.org/animals/resources/tips/traveling_tips_pets_ships_planes_trains.html?credit=web_id110483989#airplane

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

How.com.vn ไท: Pippa Elliott, MRCVS
ร่วมเขียน โดย:
สัตวแพทย์ ราชวิทยาลัยสัตวแพทยศาสตร์
บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Pippa Elliott, MRCVS. ดร.เอลเลียตเป็นสัตวแพทย์ที่มีประสบการณ์กว่าสามสิบปี เธอสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยกลาสโกว์ในปี 1987 และทำงานเป็นศัลยสัตวแพทย์นาน 7 ปี หลังจากนั้น ดร.เอลเลียตทำงานเป็นสัตวแพทย์ในคลินิกสัตว์มานานนับสิบปี บทความนี้ถูกเข้าชม 13,544 ครั้ง
หมวดหมู่: แมว
มีการเข้าถึงหน้านี้ 13,544 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

⚠️ Disclaimer:

Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.

Notices:
  • - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
  • - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
  • - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
  • - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.

โฆษณา