วิธีการ กำจัดสิวใต้ผิวหนัง

ดาวน์โหลดบทความ

ดาวน์โหลดบทความ

ภายในบทความนี้:

รักษาบริเวณนั้นให้สะอาด

ใช้เวชภัณฑ์ที่มีขายทั่วไป

ใช้การฟื้นฟูจากธรรมชาติและการเปลี่ยนสิ่งที่ทำเป็นปกติในชีวิตประจำวัน

บทความที่เกี่ยวข้อง

ข้ออ้างอิง

สิวก็คือรูขุมขนที่อุดอยู่กับน้ำมัน เซลล์ผิวที่ตายแล้ว และแบคทีเรีย บางครั้งเกิดขึ้นเป็นสิวหนองหรือสิวหัวดำ แต่บางครั้งก็ไม่เป็นเช่นนั้น อาจจะเกิดเป็นเม็ดเล็กๆ แดงๆ แข็งๆ ใต้ผิวหนังของคุณ ด้วยการดูแลอย่างถูกต้อง คุณจะสามารถป้องกันไม่ให้มันแย่ลงได้

ขั้นตอน

วิธีการ 1

วิธีการ 1 ของ 3:

รักษาบริเวณนั้นให้สะอาด

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   ล้างตรงบริเวณที่เป็นสิวใต้ผิวหนัง. วิธีการนี้จะกำจัดน้ำมันที่มากเกินและผิวที่ตายแล้วที่จะรบกวนให้สิวกระจายไปสู่การเติบโตของแบคทีเรีย สิวอาจจะเจ็บสักหน่อย ดังนั้นใช้ผ้าขนหนูที่นุ่มเช็ดเบาๆ ด้วยน้ำอุ่น

   • ล้างหน้าอย่างน้อยวันละสองครั้ง อย่าถูแรง ขนที่คุดอยู่ก็ขยายมาจากการติดเชื้ออยู่แล้วและคุณคงไม่อยากให้มันอักเสบ
   • ถ้าใช้สบู่ก็ควรใช้แบบอ่อนโยน ไร้น้ำมัน และมีน้ำเป็นส่วนประกอบหลัก สบู่ที่มีน้ำมันจะทิ้งเคลือบเอาไว้ซึ่งจะสามารถไปอุดตันรูขุมขนของคุณได้
   • ถ้าสิวอยู่ในส่วนที่ผมจะไปโดยได้ให้ใช้กิ๊บติดผม รัดผมเป็นหางม้า หรือถักเปียเพื่อไม่ให้มันไปโดน ผมของคุณจะเป็นตัวนำน้ำมันไปสู่ผิวและทำให้มันแย่มากขึ้น ถ้าคุณไม่อาจจะป้องกันผมจากบริเวณนั้นได้ก็ให้สระผมซะจะได้มีน้ำมันที่จะไปโดนผิวคุณน้อยหน่อย
2. 
   2
   อย่าจับหรือบีบสิวใต้ผิวหนัง. เพราะมันไม่ได้ออกมาให้เห็นมันจึงถูกป้องกันอยู่ ถ้าคุณจับหรือแกะมัน คุณจะทำให้ผิวที่อยู่เหนือสิวเปิดขึ้นมา

   • สิ่งนี้จะทำให้เกิดแผลเปิดซึ่งจะอ่อนแอ ติดเชื้อและเป็นแผลเป็นง่ายกว่า
3. 
   3
   อย่ารบกวนสิวเหล่านี้ด้วยแสงแดดที่มากเกิน. แสงแดดจะไปทำให้สิวเห่อในบางคน ถ้าคุณเป็นคนที่เป็นสิวหลังจากออกแดดบ่อยก็ให้ป้องกันผิวหน้าด้วนครีมกันแดดชนิดไม่มีน้ำมันหรือครีมให้ความชุ่มชื้นที่มีสารกันแดดอยู่ในนั้นด้วย

   • นอกจากนี้ แสงแดดยังก่อให้เกิดผิวไหม้แดด ผิวเหี่ยว และเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งผิวหนัง
   • สิ่งนี้จะช่วยได้เมื่อเจอแดดจัด นี่รวมไปถึงพื้นที่ใกล้เส้นศูนย์สูตร ที่ชายหาด ที่แดดสามารถสะท้อนจากผืนน้ำ หรือในช่วงหน้าร้อน แม้ว่ามันจะมีเมฆมากแต่รังสียูวีก็ยังทะลุผ่านเมฆมาได้ คุณยังจำเป็นต้องปกป้องผิวของคุณ
   • ถ้าคิดว่าครีมกันแดดจะทำให้สิวอักเสบขึ้นอีกก็ให้ใส่หมวกแทน แต่จำไว้ด้วยว่าลำคอกับบางส่วนของใบหน้ายังอาจถูกแดดได้
4. 
   4
   ไม่แต่งหน้าหรือไม่ก็ใช้เครื่องสำอางที่ไม่มีน้ำมัน. เครื่องสำอางจะไปผสมกับน้ำมันบนผิวและจะอุดตันรูขุมขน วิธีที่ปลอดภัยที่สุดคืออย่าใช้เครื่องสำอางในบริเวณที่เป็นสิว แต่ถ้าไม่มีทางเลือกก็ให้ใช้เครื่องสำอางที่บอกว่า “ไม่อุดตันรูขุมขน” บนฉลาก นั่นหมายถึงว่าจะไม่มีอะไรไปอุดตันรูขุมขนของคุณ.

   • รองพื้นที่เป็นมันและมีน้ำมันจะทำให้แบคทีเรียในฝุ่นมาติดกับสิวคุณ จากนั้นระหว่างที่แบคทีเรียกำลังแพร่กระจาย ความกดดันจะสูงขึ้นในสิวและมันจะออกมาในรูปของสิวหัวหนองหรือสิวหัวดำ
   • อย่าเข้านอนโดยที่ไม่ได้ล้างเครื่องสำอางออก ล้างผิวของคุณก่อนจะเข้านอนมันจะได้มีโอกาสพักผ่อนและหายใจได้ นี่จะช่วยไม่ให้แบคทีเรียก่อตัว
5. 
   5
   ป้องกันชุดออกกำลังกายไม่ให้สีกับบริเวณที่เป็นสิวเมื่อคุณออกกำลังกาย. สิ่งนี้สำคัญมากเพราะผิวจะยืดและจะพองใหญ่ การเสียดสีกันอย่างรุนแรงจะฉีกผิวและเสื้อที่มีเหงื่อก็จะถูกับน้ำมันที่ออกมาจากผิวและเข้าไปในรูขุมขน ซึ่งเป็นไปได้ว่าจะทำให้การติดเชื้อแย่ลงไปอีก

   • ใส่เสื้อผ้าหลวมๆ ซึ่งทำจากผ้าธรรมชาติที่ระบายอากาศได้ดีกว่า นี่จะช่วยป้องกันเหงื่อที่เปียกชื้นจากการถูกรัด ทางเลือกก็คือใส่เสื้อผ้าที่ทำจากวัตถุดิบที่ดูดของเหลวออกจากผิวของคุณและช่วยให้มันระเหยไปเร็วขึ้น ป้ายที่ติดมากับเสื้อผ้าจะบอกคุณได้ว่าเสื้อผ้าเหล่านั้นสร้างจากวัสดุที่ช่วยระบายความชื้นหรือไม่
   • อาบน้ำหลังจากออกกำลังเสร็จ นี่จะช่วยกำจัดน้ำมันที่ออกมามากและผิวที่ตายแล้ว
   โฆษณา

วิธีการ 2

วิธีการ 2 ของ 3:

ใช้เวชภัณฑ์ที่มีขายทั่วไป

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   ใช้เวชภัณฑ์ที่มีขายทั่วไป. ผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะช่วยผลัดเซลล์ผิว ลดความมัน และลดแบคทีเรียบนผิวของคุณ อ่านและทำตามข้อบ่งใช้จากที่ผลิตและอย่าใช้มากเกินกว่าที่แนะนำ ปรึกษาแพทย์ถ้าคุณกำลังตั้งครรภ์ ให้นม หรือดูแลเด็กอยู่ ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมต่อไปนี้จะใช้ได้ผลดี

   • กรดซาลิไซลิค
   • ซัลเฟอร์
   • เบนโซอิล เปอร์ออกไซด์
   • รีซอร์ซินอล
2. 
   2
   ทดลองยาชนิดอื่นและอาหารเสริม. ปรึกษาแพทย์และใช้เวชภัณฑ์ โดยเฉพาะถ้าคุณกำลังตั้งท้อง ให้นม หรือดูแลเด็กอยู่ แม้จะเป็นสินค้าที่วางขายทั่วไปโดยไม่ต้องใช้ใบสั่งยาแต่มันก็อาจจะทำปฏิกิริยากับยาอื่นๆ ที่คุณใช้อยู่ด้วย ดังนั้นแล้วปริมาณจะไม่เป็นไปตามปกติอย่างคนอื่นใช้ และทุกอย่างก็ยังไม่รับการศึกษาทดลองอย่างละเอียด

   • โลชั่นซิงค์ (Zinc)
   • โลชั่นที่มีสารสกัดจากชาเขียว 2%
   • เจลว่านหางจระเข้ 50%
   • บริเวอร์ยีสต์, สเตรน CBS 5926 นี่คือยาใช้สำหรับทาน
3. 
   3
   บดยาแอสไพรินเพื่อทำการรักษาที่บ้าน. ส่วนผสมที่ออกฤทธิ์ในยาแอสไพรินคือกรดซาลิโซลิคเหมือนกับยารักษาสิวทั่วไป

   • บดยาแอสไพรินชนิดเม็ดให้ละเอียดแล้วผสมกับน้ำสักสองหยด ทาลงบนสิวและล้างส่วนที่ตกค้างและไม่ซึมเข้าไป
   โฆษณา

วิธีการ 3

วิธีการ 3 ของ 3:

ใช้การฟื้นฟูจากธรรมชาติและการเปลี่ยนสิ่งที่ทำเป็นปกติในชีวิตประจำวัน

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   เอาน้ำแข็งประคบบนสิว. ความเย็นจะช่วยลดบวมและทำให้ไม่อักเสบ และทำให้สิวเม็ดเล็กลง ไม่ค่อยแดง และเห็นไม่ชัด

   • คุณอาจจะใช้ถุงน้ำแข็งหรือถุงผักแช่แข็งห่อในผ้าขนหนู ใช้น้ำแข็งวางบนหน้าสักห้านาทีแล้วปล่อยให้ผิวอุ่นขึ้น คุณจะได้เห็นการพัฒนาขึ้นของผิวส่วนนั้น
2. 
   2
   ใช้น้ำมันต้นชาเพื่อลดแบคทีเรียบนผิว. สิ่งนี้จะเป็นประโยชน์ในการช่วยรักษาถ้าแบคทีเรียทำให้ผิวแตก

   • ควรเจือจางน้ำมันต้นชาก่อนที่จะทาลงบนผิว สำหรับสิว ให้เจือจางกับน้ำเพื่อที่มันจะได้มีส่วนผสมของน้ำมันต้นชา 5% และน้ำ 95% ล้างบริเวณที่จะทาด้วยผ้าที่ซักสะอาด ระวังอย่าให้เข้าตา จมูก หรือปาก ทาไว้ 15-20 นาทีก่อนล้างออก
   • น้ำมันต้นชาไม่ดีสำหรับคนที่มีผิวแพ้ง่าย อาจทำให้ผิวหนังอักเสบหรือเกิดโรคผิวหนังบนใบหน้า
3. 
   3
   ลองการฟื้นฟูจากกรดที่ทำได้ที่บ้าน. เหมือนกันกับน้ำมันต้นชา มันจะช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียในกรณีที่สิวเห่อขึ้นมาบนผิวหนัง มันจะทำให้ผิวของคุณแห้งเพื่อป้องกันการผลิตน้ำมันเพิ่ม มีทางเลือกมากมายและคุณจะเลือกทางใดทางหนึ่งดูจากสิ่งที่คุณมีอยู่ในบ้าน น้ำเลมอน น้ำมะนาว หรือน้ำส้มสายชูจากแอปเปิ้ลไซเดอร์

   • เจือจางเป็นสัดส่วน 1 ใน 3 และล้างบริเวณที่เป็นสิว อย่าให้เข้าจมูกหรือตา ถ้าเข้าตาจะแสบได้
4. 
   4
   อย่าขัดผิว. การขัดผิวโดยสารที่หยาบจะทำให้สิวดูแย่กว่าเดิมและอาการหนักกว่าเดิม สิ่งเหล่านี้ไม่เป็นที่แนะนำ

   • สครับขัดผิว
   • สารกระชับผิว
   • สารที่มีแอลกอฮอล์ประกอบซึ่งจะทำให้ผิวแห้ง
5. 
   5
   ช่วยผิวต่อสู้กับการติดเชื้อด้วยมาร์กแตงกวา. ผิวของคุณจะดูดซึมโพแทสเซียมและวิตามิน เอ, ซี, และ อี ยิ่งผิวมีสุขภาพดีมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งต่อสู้กับการติดเชื้อในรูขุมขนได้มากเท่านั้น

   • ปอกแล้วบดแตงกวาครึ่งลูก คุณอาจจะไม่ต้องทิ้งเม็ดมันก็ได้ แตะน้ำของมันลงบนสิวและทิ้งไว้อย่างน้อย 15 นาทีเพื่อให้ซึมเข้าไปจากนั้น ล้างออกด้วยน้ำสะอาด
   • มันอาจจะเหนียวเหนอะหนะดังนั้นอย่าพยายามไปรับฝุ่นหรือขี้ผงอะไรก็ตามเวลามาร์กยังอยู่บนผิวหน้า
6. 
   6
   จัดการกับความเครียด. ความเครียดสร้างความเปลี่ยนแปลงทั้งทางร่างกายและทางฮอร์โมน รวมถึงเหงื่อที่ออกมากด้วย การจัดการความเครียดจึงจะช่วยคุณป้องกันสิวที่ใต้ผิวหนังให้ผุดขึ้นมาเป็นสิวหัวหนองหรือสิวหัวดำ

   • ลองออกกำลังกายหลายๆ ครั้งต่อสัปดาห์ เมื่อคุณออกกำลังการร่างกายของคุณจะปล่อยสารเอนโดรฟินซึ่งเป็นสารระงับความเจ็บปวดโดยธรรมชาติ มันจะช่วยลดความกังวล และทำให้อารมณ์ดีขึ้น และช่วยให้คุณผ่อนคลาย คลินิกมาโยแนะนำว่าควรออกกำลังกาย 75 นาทีต่อสัปดาห์ ไม่ว่าจะเป็นการเดิน ปั่นจักรยาน ปีนเขา เล่นกีฬา หรือทำงานที่ใช้กำลังอย่างเช่นการตัดแต่งกิ่งไม้หรือกวาดหิมะ
   • ลองเทคนิคการผ่อนคลาย กระบวนการที่แตกต่างกันจะใช้ได้ผลกับผู้คนแตกต่างกัน อย่างไรก็ตาม วิธียอดนิยมก็คือ การทำสมาธิ การเล่นโยคะ การรำไทเก๊ก นั่งดูภาพที่ทำให้อารมณ์สงบ ผ่อนคลายกล้ามเนื้อกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ในร่างกายคุณ หรือฟังเพลงที่ปลอบประโลม
   • นอนให้เพียงพอ. ปริมาณการพักผ่อนหลากหลายไปตามแต่ละคน แต่ส่วนใหญ่ก็ต้องการนอนประมาณ 8 ชั่วโมงต่อคืน วัยรุ่นอาจจะต้องการมากกว่านั้น
7. 
   7
   หลีกเลี่ยงอาหารที่จะกระตุ้นให้เกิดสิว. สิ่งที่จะกระตุ้นสิวก็จะขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลแต่อาหารที่เป็นปัญหาโดยทั่วไปคืออาหารที่มีส่วนผสมของนม น้ำตาล และมีคาโบไฮเดรตมาก

   • สวนทางกับความเชื่อส่วนใหญ่ งานวิจัยชี้ว่าสิวไม่เกี่ยวข้องกับอาหารมันๆ
   • ถ้าจะให้ปลอดภัย คุณอาจจะต้องเลี่ยงทานช็อกโกแลต หลักฐานยังไม่ชัดเจนแต่ว่าผลิตภัณฑ์ช็อกโกแลตมีน้ำตาลมากและอาจกระตุ้นให้เกิดสิว
8. 
   8
   ไปพบแพทย์หากการรักษาที่ทำเองที่บ้านไม่ได้ผล. ยาที่หมอสั่งจะแรงกว่าและให้ผลได้ดีกว่า อาจจะต้องการเวลาสักสองเดือนก่อนที่คุณจะเห็นความแตกต่าง ทางเลือกที่มีเช่น...

   • สารเรตินอยด์ทั่วไป (Avita, Retin-A, Differin, และอื่นๆ) จะช่วยแก้ปัญหาการอุดตันรูขุมขน หรือเป็นยาปฏิชีวนะสำหรับป้องกันการติดเชื้อที่ผิว ทำตามการแนะนำของหมดและข้อบ่งใช้ของผู้ผลิตเมื่อใช้ของพวกนี้
   • ยาปฏิชีวนะชนิดทานเพื่อฆ่าเชื่อแบคทีเรียและเร่งการรักษา
   • ยาคุมกำเนิดชนิดทาน (Ortho Tri-Cyclen, Estrostep, Yaz) ซึ่งมีสารเอสโตรเจนและฮอร์โมนเพศหญิง อาจจะมีการจ่ายให้ผู้หญิงหรือเด็กผู้หญิง นี่จะช่วยป้องกันสิวรุนแรงที่เกิดจากการต่อต้านการดื้อยา
   • แพทย์อาจแนะนำการรักษาวิธีอื่นๆ เช่น การฉีดหัวสิว การลอกผิว การใช้แปรงขัดไฟฟ้าแบบไมโคร หรือการใช้แสงกับเลเซอร์จี้สิวเพื่อช่วยรักษาและป้องกันการเกิดสิว
   โฆษณา

คำเตือน

• สำหรับเด็กและหญิงตั้งครรภ์ ให้ปรึกษาแพทย์เสมอก่อนจะใช้เวชสำอางทุกตัว แม้แต่ตัวที่มีขายตามร้านทั่วไป

โฆษณา