วิธีการ ใช้ชีวิตที่สงบสุข

ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความ

การมีชีวิตที่สงบสุขเป็นความท้าทายอย่างหนึ่งของสังคมสมัยใหม่ เมืองที่แออัด เทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบาทมากขึ้น รวมถึงความกดดันจากการทำงานและชีวิตประจำวันอาจทำให้เรารู้สึกว่า ชีวิตที่รื่นรมย์นั้นไม่มีอยู่จริง แต่ความสงบนั้นแท้จริงแล้วหาง่ายกว่าที่คุณคิด

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

สร้างสภาพแวดล้อมที่สงบสุข

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 จัดบ้านให้เอื้อกับความสงบ.
    มีหลายสิ่งที่คุณสามารถทำได้เพื่อให้บ้านของคุณเป็นแหล่งรวมความสงบ แม้ว่าชีวิตครอบครัวของคุณจะวุ่นวายแค่ไหนก็ตาม ใช้การออกแบบภายในและการจัดระเบียบข้าวของให้เป็นประโยชน์ เพื่อให้คุณมีพื้นที่หายใจหายคอสักเล็กน้อยในบ้าน
    • จัดระเบียบทางเดินเข้าบ้านไม่ให้ระเกะระกะ การเดินเข้าบ้านมาแล้วต้องเจอกับของที่วางอยู่เรี่ยราดกระตุ้นความเครียดของคุณอย่างแน่นอน มีพื้นสำหรับวางรองเท้า ร่ม และของใช้ประจำวันใกล้ๆ กับประตู ถ้าพ้นหูพ้นตาไปแล้ว คุณก็จะไม่นึกถึงมันอีก
    • กำหนดพื้นที่ที่สามารถวางของระเกะระกะได้และจำกัดให้อยู่แค่ในบริเวณนั้น การทำให้บ้านทั้งหลังสะอาดและเป็นระเบียบตลอดเวลานั้นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าในบ้านมีเด็ก เพราะฉะนั้นให้กำหนดพื้นที่ในบ้านสัก 1-2 ที่ที่ทุกคนสามารถวางกระเป๋า วางจดหมาย และอื่นๆ เอาไว้ได้
    • เปิดเพลงสักหน่อย เพลงคลาสสิกหรือดนตรีสไตล์อื่นๆ เช่น แจ๊ซ ช่วยทำให้ใจสงบและอารมณ์ดีขึ้น เพลงที่เปิดควรเป็นเพลงช้าและเงียบเพื่อให้คุณรู้สึกผ่อนคลาย[1] การเปิดดนตรีแอมเบียนต์สักเล็กน้อยคลอไปด้วยก็เป็นวิธีที่ช่วยสร้างบรรยากาศที่สงบได้มากเลยทีเดียว
    • ตกแต่งห้องนอนให้สวยงาม คุณใช้เวลา 1 ใน 3 ของชีวิตบนเตียง เพราะฉะนั้นห้องนอนจึงต้องเป็นเสมือนที่หลบภัยของคุณ ห้องนอนเป็นสถานที่สุดท้ายที่คุณเห็นในตอนกลางคืน และเป็นสถานที่แรกที่คุณตื่นขึ้นมาตอนเช้า ใช้เครื่องนอนที่นุ่มสบาย ผ้าปูที่นอนนุ่มๆ จำนวนเส้นด้ายในการทอสูงเพื่อให้คุณนอนหลับพักผ่อนได้สบาย และซื้อโคมไฟแจ้งเตือนแทนการใช้นาฬิกาปลุกแบบเดิมเพื่อตื่นเช้ารับวันใหม่อย่างสดใส[2]
  2. How.com.vn ไท: Step 2 สร้างพื้นที่การทำงานที่สงบ.
    คุณอาจจะใช้เวลาตื่นนอนส่วนใหญ่ในที่ทำงาน เพราะฉะนั้นคุณจึงควรสร้างพื้นที่ผ่อนคลายในจุดที่ทำได้ด้วย พื้นที่ทำงานแต่ละที่ก็ไม่เหมือนกัน มีตั้งแต่ออฟฟิศไปจนถึงที่ทำงานกลางแจ้ง เพราะฉะนั้นลองปรับเปลี่ยนสิ่งต่างๆ ให้สอดคล้องกับความต้องการของคุณ
    • ลดข้าวของที่วางสุมกันและกำจัดสิ่งของที่ไม่จำเป็นออกไป วิธีนี้ช่วยลดสิ่งรบกวนและทำให้คุณจดจ่ออยู่กับงานตรงหน้าได้มากขึ้น
    • รักษาความสะอาด เอาขยะไปทิ้ง เช็ดคราบ รอยเลอะ และกำจัดกลิ่นเพื่อลดปัจจัยที่ทำให้หงุดหงิด แต่การรักษาความสะอาดก็เป็นสิ่งที่ต้องทำเรื่อยๆ เช่นเดียวกับการจัดข้าวของให้เป็นระเบียบ เพราะฉะนั้นอย่าให้การทำความสะอาดกลายเป็นสิ่งที่สร้างความรำคาญหรือความเครียด การรักษาความสะอาดอย่างสม่ำเสมอต่างหากที่เป็นกุญแจสำคัญ
    • ติดภาพสิ่งที่เห็นแล้วมีความสุข ภาพถ่ายของคนในครอบครัว ทิวทัศน์ที่เงียบสงบ หรือสถานที่ที่คุณอยากไปสามารถทำให้วันทำงานของคุณมีความสุขขึ้นได้ด้วยการย้ำเตือนถึงสิ่งดีๆ ในชีวิต และเหตุผลที่ทำให้คุณมาทำงานตั้งแต่แรก
    • ถ้าคุณมีห้องทำงานของตัวเอง ให้ปิดประตู เพราะมันช่วยให้คนไม่เข้ามา ป้องกันเสียงรบกวน และทำให้คุณมีพื้นที่ส่วนตัวหรือพื้นที่สันโดษเลยก็ว่าได้ แต่ถ้าคุณต้องร่วมงานกับคนอื่นบ่อยๆ ให้กำหนดเวลาที่คุณจะปิดประตูเป็นเวลาสั้นๆ ในแต่ละวันก่อนที่จะเปิดประตูไปเจอโลกข้างนอกอีกครั้ง
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ใช้ประโยชน์จากสีและแสง.
    การจัดเรียงสีและแสงมีผลกระทบต่ออารมณ์และประสิทธิภาพในการทำงานเป็นอย่างมาก[3] การปรับเฉด โทน และความเข้มของสีรอบตัวเป็นวิธีรักษาสภาพแวดล้อมที่สงบสุขที่หลายคนมักมองข้ามไป
    • เลือกสีแนวธรรมชาติแทนการใช้สีฉูดฉาด โทนสีฉูดฉาดจะทำให้เกิดความวิตกกังวล เพราะฉะนั้นเฉดสีอ่อนจึงเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า ในทางเดียวกันก็ให้เลือกสีเนื้อแมตต์ (ไม่สะท้อนแสง) แทนเนื้อมันวาวเพื่อลดการสะท้อนและการดึงสมาธิ[4]
    • สีน้ำเงินและสีม่วงลาเวนเดอร์เป็นสีที่เหมาะกับห้องนอนและพื้นที่ที่ต้องการความสงบและรื่นรมย์[5]
    • ใช้ดาวน์ไลต์และโคมไฟตั้งพื้นหรือตั้งโต๊ะเพื่อสร้างความรู้สึกปิดกั้น ซึ่งยังช่วยลดความจ้าของแสงจากหลอดไฟเปลือยเปล่าที่ส่องมาโดยตรงด้วย ติดตั้งหลอดไฟวอร์มไลต์ (ตอนซื้อให้ดูที่บรรจุภัณฑ์) เพื่อให้ได้โทนแสงอ่อนๆ หลอดไฟสีขาวสว่างจ้าจะให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในอุตสาหกรรมและแสบตา
  4. How.com.vn ไท: Step 4 หลีกหนีจากทุกสิ่งทุกอย่าง.
    ใช้เวลาท่ามกลางธรรมชาติเพื่อให้จิตใจสงบและเติมพลังกลับมาอีกครั้ง จะเป็นกิจกรรมอะไรก็ได้ตั้งแต่การเดินเร็วในสวนสาธารณะ การเดินป่าทางไกลก็เป็นกิจกรรมที่ผ่อนคลายและได้ฟื้นฟูตัวเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณใช้ชีวิตในเมืองเสียเป็นส่วนใหญ่
    • ใช้ชีวิตช้าๆ ออกไปข้างนอกให้สิ่งแวดล้อมชะโลมจิตใจ มองดูก้อนเมฆสักหน่อย หรือจะถอดรองเท้าออกแล้วสัมผัสกับใบหญ้าตรงซอกนิ้วเท้าก็ได้
    • ถ้าคุณออกไปข้างนอกให้ถ่ายภาพเก็บไว้สักหน่อย ถ้าคุณไปเจอภูมิประเทศที่ทำให้เกิดแรงบันดาลใจ ให้บันทึกช่วงเวลานี้ไว้เพื่อที่คุณจะได้กลับมาย้อนดูเพื่อฟื้นฟูตัวเองสักหน่อยในภายหลัง
    • ทำกิจกรรมร่วมกับธรรมชาติ ถ้าคุณชอบธรรมชาติ ให้หางานอดิเรกที่ต้องทำกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับธรรมชาติ เช่น การตกปลาด้วยเหยื่อปลอมต้องอาศัยการเคลื่อนไหวที่เงียบสงบและผ่อนคลาย รวมถึงความพยายามที่จะทำความเข้าใจกลไกของแม่น้ำ ทะเลสาบ และสิ่งมีชีวิตในน้ำรูปแบบต่างๆ ด้วย การปีนผาก็ทำให้คุณได้สัมผัสวิวที่สวยจนลืมหายใจและความรู้ส่วนตัวเกี่ยวกับธรณีวิทยา ไม่ว่าจะเป็นอะไรการได้ใกล้ชิดกับโลกธรรมชาติมากขึ้นล้วนเป็นวิธีที่ช่วยผ่อนคลายและสร้างพื้นที่สงบสุขในชีวิตของคุณ[6]
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

ทำให้จิตใจสงบ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 กำหนดกิจวัตรในช่วงเช้า.
    วิธีที่ช่วยลดความตึงเครียดและความวุ่นวายได้ก็คือ การสร้างระบบที่พึ่งพาและทำซ้ำได้ในชีวิตประจำวันที่ทำให้คุณมีสมาธิจดจ่อและคลายความตึงเครียด ถ้าเช้าวันใหม่เริ่มต้นขึ้นด้วยการรีบทำสิ่งต่างๆ ให้เสร็จ พยายามตั้งสติแล้วทำแต่ละสิ่งช้าๆ ในตอนเช้า[7]
    • ตื่นเช้าขึ้นอีกหน่อย ชงกาแฟ และทำกิจกรรมที่ทำให้ใจสงบ เช่น ฝึกโยคะ นั่งสมาธิ หรืออะไรก็ได้ที่คุณรู้สึกผ่อนคลาย และกำหนดให้มันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตในทุกๆ วัน[8]
    • ระบุว่าตอนเช้าคุณอยากทำอะไรบ้าง จากนั้นก็ปรับเปลี่ยนกิจวัตรเพื่อให้ตัวเองมีเวลาทำสิ่งเหล่านั้นโดยที่ไม่ต้องรีบหรือเพิ่มความเครียดไปกันใหญ่
    • ควบคุมเวลาและพลังงานของตัวเอง เวลาที่ตารางเวลาของเราแน่นมากๆ เราอาจจะรู้สึกว่าเราไม่สามารถควบคุมสิ่งที่เราจะทำได้ แต่ให้ลองจินตนาการว่าทุกสิ่งที่คุณทำล้วนเป็นทางเลือก แม้แต่สิ่งที่ดูเหมือนจะจำเป็นสุดๆ เช่น การไปทำงานหรือการไปส่งลูกที่โรงเรียนก็เช่นกัน วิธีนี้ช่วยให้คุณรู้สึกว่าตัวเองสามารถควบคุมการใช้เวลาของตัวเองได้มากขึ้น และยังทำให้คุณรู้สึกมีอำนาจในการจัดสรรเวลาพักผ่อนแต่ละวันเพื่อดูแลร่างกายและจิตใจของตัวเองได้มากขึ้นด้วย
  2. How.com.vn ไท: Step 2 มีสติรู้ตัวเมื่อตอบสนองต่อสิ่งต่างๆ.
    ถ้าคุณรู้สึกว่าตัวเองมักจะเกิดความไม่พอใจระหว่างที่มีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นในแต่ละวัน พยายามวิเคราะห์การตอบสนองของคุณจนเป็นนิสัย
    • ถ้ามีใครขับรถตัดหน้า ให้หยุดสักครู่แทนที่จะบีบแตร และคิดว่าการตอบโต้ของคุณจะทำให้สถานการณ์ดีขึ้นหรือแค่ทำให้คุณยิ่งเครียดกว่าเดิมกันแน่
  3. How.com.vn ไท: Step 3 อย่าทำงานหลายอย่างพร้อมกัน.
    งานวิจัยชิ้นแล้วชิ้นเล่าต่างพิสูจน์แล้วว่า การทำงานหลายอย่างพร้อมกันเป็นวิธีทำงานที่มีประสิทธิภาพน้อยกว่าการทำงานให้เสร็จไปเป็นอย่างๆ และการที่ต้องจดจ่อกับสิ่งต่างๆ กลับไปกลับมาจะทำให้คุณวิตกกังวลเหมือนเดิมแทนที่จะใจเย็นลง[9]
    • การปรับเปลี่ยนง่ายๆ เช่น การวางโทรศัพท์มือถือไว้อีกห้องหรือการปิดแจ้งเตือนอีเมลก็สามารถกำจัดความต้องการที่จะเบี่ยงเบนความสนใจได้แล้ว[10]
    • การจัดลำดับงานสำคัญที่ต้องทำสามารถช่วยได้ ทำงานที่สำคัญให้เสร็จก่อนแล้วค่อยไปทำอย่างอื่นต่อ และจำไว้ว่าการพักผ่อนหย่อนใจ การออกกำลังกาย หรือการใช้เวลากับครอบครัวก็เป็น “งาน” เช่นเดียวกัน ไม่ใช่สิ่งที่สร้างรายได้เพียงอย่างเดียว[11]
  4. How.com.vn ไท: Step 4 ออกกำลังกายเป็นประจำ.
    วิธีนี้นอกจากจะทำให้สุขภาพดีแล้ว ยังได้รับการพิสูจน์แล้วว่าช่วยลดระดับความเครียดได้เป็นอย่างดีอีกด้วย[12]
    • กำหนดเวลาออกกำลังกายไว้ในตารางเวลาถ้าทำได้ แม้แต่การทำกิจกรรมที่ต้องออกแรงปานกลาง 20 นาทีก็ช่วยได้มากแล้ว
    • ถึงไม่มีเวลาไปฟิตเนสก็หาเวลาออกกำลังกายได้ไม่ยาก ลุกออกจากโต๊ะไปเดินเล่น ขึ้นบันไดแทนการใช้ลิฟต์
    • เปิดเพลงผ่อนคลายหรือภาพสบายตาให้เป็นส่วนหนึ่งของการคูลดาวน์หลังออกกำลังกาย ซึ่งจะช่วยรักษาความรู้สึกสงบขณะที่คุณกลับไปทำงานที่ค้างอยู่[13]
  5. How.com.vn ไท: Step 5 ใช้ความคิดสร้างสรรค์.
    กิจกรรมที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานที่ต้องใช้มือ เป็นวิธีที่ช่วยให้ความคิดและวันของคุณสงบสุขได้เป็นอย่างมาก คุณจะทำงานจนเพลินและรู้สึกถึงความสำเร็จในวันนั้น[14]
    • งานช่างไม้ งานปั้นดินเผา และการถักนิตติ้งเป็นกิจกรรมที่ต้องบังคับมือและจิตใจให้จดจ่อและสงบนิ่ง
    • บางคนก็อาจจะพบความสงบแบบเดียวกันนี้ในงานศิลปะ ไม่ว่าจะเป็นการวาดภาพ งานประติมากรรม หรือแม้แต่การเขียน
    • ครัวก็เป็นสถานที่อวดฝีมือที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์เช่นเดียวกัน การอบขนม ทำอาหาร และงานที่ต้องใช้ความสามารถพิเศษอื่นๆ เช่น การชงชาหรือชงกาแฟก็เป็นการระบายความเครียดและแสดงความคิดสร้างสรรค์ได้เช่นเดียวกัน[15]
  6. How.com.vn ไท: Step 6 ฝึกโยคะหรือสมาธิ....
    ฝึกโยคะหรือสมาธิ. ประโยชน์ของโยคะและการนั่งสมาธิที่มีต่อสุขภาพนั้นมีบันทึกไว้เป็นหลักฐานมากมาย ทั้งสองกิจกรรมนี้ส่งเสริมความสงบภายในจิตใจและลดความเครียด แถมโยคะยังช่วยเพิ่มความแข็งแรงและความยืดหยุ่นอีกด้วย[16][17]
    • โยคะกระตุ้นระบบประสาทพาราซิมพาเทติกที่ช่วยทำให้เกิด “ความรู้สึกผ่อนคลาย”[18]
    • ทั้งโยคะและการนั่งสมาธิมีประโยชน์เพิ่มเติมในแง่ของความสะดวกที่สามารถทำที่ไหนก็ได้ ลองทำท่าง่ายๆ สัก 2-3 ท่าเวลาว่างระหว่างทำงาน หรือในห้องนอนหลังตื่นนอนตอนเช้าเพื่อสร้างเช้าวันใหม่ที่สดใส[19]
  7. How.com.vn ไท: Step 7 ขัดจังหวะการตอบสนองแบบสู้หรือหนี.
    ปฏิกิริยาโดยสัญชาตญาณของร่างกายที่มีต่อความเครียดและอันตรายที่เรียกว่า ปฏิกิริยา “สู้หรือหนี” นั้นเป็นการปรับตัวตามวิวัฒนาการที่มีประโยชน์ แต่อาจจะไม่ค่อยเหมาะกับชีวิตสมัยใหม่ที่สงบสุข ปราศจากอันตรายจากสัตว์ป่า และคนเก็บของป่าล่าสัตว์ที่เป็นศัตรูเท่าไหร่นัก แต่โชคดีที่เราสามารถลดปฏิกิริยาไม่พึงประสงค์ที่เกิดขึ้นเป็นครั้งคราวนี้ได้
    • พิจารณาความรู้สึก วิธีนี้อาจจะเคยได้ยินกันบ่อย แต่การระบุอารมณ์ตื่นตระหนก เครียด กลัว หรือวิตกกังวลเพียงอย่างเดียวก็สามารถขัดจังหวะกระบวนการของระบบประสาทที่ทำให้เกิดปฏิกิริยาสู้หรือหนี และช่วยให้คุณเปลี่ยนไปใช้พลังงานได้อย่างมีประโยชน์มากขึ้น[20]
    • กำหนดจิตไปที่ลมหายใจ เวลาที่เรารู้สึกถึงความเครียดหรือแม้แต่ภาวะตื่นตระหนัก พยายามหายใจลึกๆ วิธีนี้จะไปลดแนวโน้มสัญชาตญาณที่ทำให้เราหายใจตื้นและถี่และกระตุ้นระบบประสาทอัตโนมัติ ซึ่งมักจะควบคุมการตอบสนองทางสรีระโดยปราศจากการรับรู้อย่างมีสติ
    • สุดท้ายให้เปลี่ยนคำเรียกความรู้สึกที่คุณระบุก่อนหน้าให้เป็นบวกมากขึ้น เปลี่ยนจากความตื่นตระหนกเป็นความตื่นเต้น หรือความกระวนกระวายเป็นความทะเยอะทะยาน แล้วคุณจะสามารถกลับมาควบคุมการตอบสนองต่อความเครียดของร่างกายได้อีกครั้ง ซึ่งจะทำให้การเต้นของหัวใจ การหายใจ และเหงื่อที่ไหลออกมาลดลง
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

ทำให้คนรอบข้างรู้สึกสงบ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ฝึกทำให้คนที่กำลังรู้สึกแย่สงบลง.
    คนรอบข้างคุณไม่ว่าจะเป็นเพื่อน เพื่อนร่วมงาน หรือคนในครอบครัวล้วนต้องมีช่วงเวลาที่รู้สึกแย่ ซึ่งเป็นสิ่งที่หลีกไม่ได้ และมักจะทำให้ทุกคนที่อยู่รอบข้างรวนไปหมดด้วย
    • ใช้วิธีการ E.A.R. เพื่อให้สถานการณ์สงบลง[21]
    • Empathy (ความเห็นอกเห็นใจ) — ทำให้อีกฝ่ายรู้ว่า คุณเข้าใจว่าเขารู้สึกไม่ดีด้วยการพูดว่า “ผมรู้นะว่าคุณไม่พอใจมากแค่ไหน” หรือ “ฉันเข้าใจนะว่าคุณรู้สึกหงุดหงิด” และแสดงความเต็มใจที่จะช่วยเหลือเขา
    • Attention (ความสนใจ) — ขอให้เขาอธิบายปัญหาและตั้งใจฟัง “บอกฉันหน่อยได้ไหมว่าอะไรที่รบกวนจิตใจของคุณ ฉันอยากจะเข้าใจ” ภาษาท่าทางก็ช่วยคุณในสถานการณ์นี้ได้เช่นกัน สบตาเขาและนั่งหรือโน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อยเพื่อแสดงความสนใจ
    • Respect (เคารพ) — คนเราโดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่เผชิญความขัดแย้งบ่อยๆ มักจะต้องการความเคารพจากผู้อื่นเวลาที่เขารู้สึกแย่ แสดงความเคารพให้ได้มากที่สุดด้วยการพูดว่า “ผมเคารพความมุ่งมั่นของคุณในเรื่องนี้” หรือ “ผมรู้ว่าคุณเต็มที่กับมันมากและมันก็เห็นได้ชัดอยู่แล้ว” [22]
  2. How.com.vn ไท: Step 2 ลดความขุ่นเคืองของสถานการณ์ก่อนลุกลาม.
    คนที่โกรธจัดอาจจะไม่สามารถรับรู้ถึงสิ่งที่พูดคุยกันได้จนกว่าเธอจะสงบสติอารมณ์เสียก่อน ซึ่งคุณสามารถมีส่วนช่วยในกระบวนการนี้ได้ด้วยการเบี่ยงเบนความโกรธของเธอและแสดงออกอย่างเหมาะสมเพื่อลดระดับความตึงเครียด
    • ก่อนอื่นให้พยายามแสดงว่าคุณเคารพความต้องการหรือความกังวลของเธอ รับรู้ถึงความสำคัญและพยายามอย่าตัดสินเขาตรงๆ พยายามใช้วิธีนี้ด้วยภาษาท่าทางที่ไม่ก้าวร้าวด้วยการไม่เคลื่อนไหวเร็วๆ หรือแสดงท่าทางก้าวร้าวอกผายไหล่ผึ่ง[23]
    • ร่วมมือกับคนที่กำลังโกรธตราบใดที่เขาไม่ได้เป็นอันตรายต่อผู้อื่น จุดประสงค์คือเพื่อไม่ให้สถานการณ์ยิ่งลุกลาม การฟังอย่างมีประสิทธิภาพก็ช่วยได้เช่นกัน อย่าพูดแทรก แต่ให้ใช้โอกาสนี้ถามคำถามที่ช่วยอธิบาย เพื่อลดการเข้าใจผิดและให้สถานการณ์ค่อยๆ คลี่คลาย[24]
    • เบี่ยงเบนความก้าวร้าวของเธอด้วยการเรียบเรียงความกังวลของเธอเป็นคำพูดใหม่ในลักษณะที่เป็นการปะทะน้อยลง[25] พูดซ้ำคำที่เขาพูดว่า “ฉันอยากจะเอาท่อฟาดเจน” เป็น “ก็คือคุณโกรธเจนมากที่มาขูดสีรถคุณและอยากให้เธอซ่อมให้ใช่มั้ย” วิธีนี้ถ้าสำเร็จก็จะทำให้อีกฝ่ายใจเย็นลงและเปิดใจที่จะพูดคุยถึงปัญหาของเธอได้อย่างมีประโยชน์มากยิ่งขึ้น
    • เอาตัวเองออกมาจากเขาถ้าความพยายามของคุณไม่สัมฤทธิ์ผลหรือกลายเป็นว่าคุณเองก็เริ่มจะโกรธไปด้วย ความปลอดภัยของคุณสำคัญที่สุด คุณควรถอยห่างจากคนๆ นั้นและเรียกพนักงานรักษาความปลอดภัย ผู้ดูแล หรือตำรวจตามความเหมาะสม[26]
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ใช้เมตตาและความอ่อนน้อม.
    งานวิจัยพบว่า การเป็นคนอ่อนน้อมและมีเมตตาต่อผู้อื่นทำให้ความสัมพันธ์ที่บ้าน ที่ทำงาน และในสังคมดีขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม ดูเหมือนว่าการที่เราดีกับคนอื่นนั้นก็ดีกับตัวเราเองด้วยเช่นกัน
    • งานวิจัยของสถาบันสุขภาพแห่งชาติ (สหรัฐอเมริกา) พบว่า การมีเมตตาต่อผู้อื่นสามารถทำให้สุขภาพกายและใจของคุณแข็งแรงขึ้น
    • นอกจากนี้ความอ่อนน้อม ซึ่งก็คือความยินดีที่จะวิจารณ์ตนเองนั้นสามารถช่วยซ่อมแซมความสัมพันธ์ที่พังลงได้[27]
    • และความเมตตายังเชื่อมโยงกับความสุขด้วย การทำกุศลและการมีเมตตาทำให้ร่างกายหลั่งโดพามีนและเอ็นดอร์ฟินส์ในสมองที่เป็นองค์ประกอบทางเคมีของความสุข[28]
    โฆษณา
  1. http://zenhabits.net/calm/
  2. http://zenhabits.net/how-not-to-multitask-work-simpler-and/
  3. http://www.adaa.org/understanding-anxiety/related-illnesses/other-related-conditions/stress/physical-activity-reduces-st
  4. http://www.health.com/health/gallery/0,,20425626_4,00.html
  5. https://www.psychologytoday.com/blog/the-creativity-cure/201402/how-be-calm-person
  6. https://www.psychologytoday.com/blog/the-creativity-cure/201402/how-be-calm-person
  7. http://www.health.harvard.edu/staying-healthy/yoga-benefits-beyond-the-mat
  8. http://www.mayoclinic.org/tests-procedures/meditation/in-depth/meditation/art-20045858
  9. http://www.yogajournal.com/article/teach/the-scientific-basis-of-yoga-therapy/
  10. http://www.yogajournal.com/article/health/count-yoga-38-ways-yoga-keeps-fit/
  11. http://thescienceexplorer.com/brain-and-body/neuroscience-tips-remain-calm-under-pressure
  12. http://www.mediate.com/articles/EddyB8.cfm
  13. https://www.highconflictinstitute.com/free-articles/2018/3/11/calming-upset-people-with-ear
  14. https://inside.ewu.edu/caps/resources/faculty-staff/defusing-anger/
  15. https://inside.ewu.edu/caps/resources/faculty-staff/defusing-anger/
  16. https://inside.ewu.edu/caps/resources/faculty-staff/defusing-anger/
  17. https://inside.ewu.edu/caps/resources/faculty-staff/defusing-anger/
  18. http://www.spring.org.uk/2014/04/8-practical-ways-being-humble-improves-your-life.php
  19. http://www.independent.co.uk/life-style/health-and-families/healthy-living/cool-to-be-kind-the-advantages-of-being-altruistic-6259543.html

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

วิกิฮาวเป็น "wiki" ซึ่งหมายความว่าบทความหลายๆ บทความของเรานั้นเป็นการร่วมมือกันเขียนของผู้เขียนหลายคน ในการเขียนบทความชิ้นนี้ ผู้คน 21 คน ซึ่งบางคนไม่ขอเปิดเผยตัว ได้ร่วมกันเขียนและปรับปรุงเนื้อหาของบทความอย่างต่อเนื่อง บทความนี้ถูกเข้าชม 2,434 ครั้ง
หมวดหมู่: เยาวชน
มีการเข้าถึงหน้านี้ 2,434 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

⚠️ Disclaimer:

Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.

Notices:
  • - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
  • - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
  • - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
  • - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.

โฆษณา