ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความ

ชีวิตไม่ใช่เกมการแข่งขันที่คุณสามารถมีชัยหรือพ่ายแพ้ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าคุณไม่สามารถเติมเต็มตัวตนและมีความสุขกับการใช้ชีวิตมากขึ้นได้ เพราะคุณสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตให้ดีขึ้นและปรับเปลี่ยนทัศนคติที่คุณมีต่อชีวิต เพื่อประโยชน์ต่อตัวคุณเองในระยะยาวได้ โดยไม่ต้องไปหวังพึ่งพาสิ่งที่ชีวิตจะถาโถมมาให้คุณ เพราะความจริงแล้ว การเอาชนะชีวิตนั้นก็แค่การเรียนรู้วิธีการที่จะทำให้คุณพึงพอใจกับชีวิตโดยไม่รู้สึกว่ามีส่วนใดขาดหาย ซึ่งโชคดีที่เราพอมีหนทางทำให้มันเป็นจริงได้!

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

สร้างความสัมพันธ์ที่สมบูรณ์

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 เลือกคนที่คุณยอมให้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต....
    เลือกคนที่คุณยอมให้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต. คนที่คุณยอมให้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตอาจช่วยพยุงในยามที่คุณยากลำบาก หรืออาจลากคุณลงสู่หุบเหวไม่ว่าจะทางกายหรือใจ นักวิทยาศาสตร์ค้นพบว่าบุคคลที่รายล้อมไปด้วยเพื่อนที่เข้มแข็งและสุขภาพดีมีโอกาสที่จะมีความสุขและมีช่วงชีวิตที่ยืนยาวกว่า[1] ความสัมพันธ์ทางสังคมที่ไม่เกี่ยวข้องกับเงินตราและชื่อเสียงคือสิ่งเดียวที่จีรังยั่งยืน เพราะฉะนั้น จงให้คนที่เข้ามาในชีวิตมีแค่คนที่จะทำให้คุณเป็น "คุณที่ดีที่สุด" ได้เท่านั้น
    • ตัวอย่างของสถานที่พบเจอเพื่อนใหม่ๆ ได้แก่ กิจกรรมหรืองานต่างๆ ที่มีความสำคัญกับคุณ เช่น การรวมกลุ่มเพื่อความยุติธรรมทางสังคม ชุมชนทางศาสนา โอกาสในการทำงานอาสา ชั้นเรียนทักษะใหม่ๆ ฯลฯ อินเตอร์เน็ตเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ดีๆ ในการพบปะผู้คนที่เชื่อหรือมีความสนใจคล้ายๆ กัน และในปัจจุบัน โซเชียลมีเดียก็ทำให้การติดต่อกับผู้คนจากทั่วโลกง่ายขึ้นมากทีเดียว
    • อย่าหลงลืมผองเพื่อน เรื่องนี้เกิดขึ้นได้จริง โดยเฉพาะในยามที่คุณเพิ่งมีความสัมพันธ์สุดโรแมนติกครั้งใหม่ หรือทำงานจนยุ่งตัวเป็นเกลียว แต่ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม คุณต้องไม่ลืมแบ่งเวลาให้กับการรักษาความสัมพันธ์ที่มีความสำคัญต่อคุณ (อาจจะออกไปดื่มกาแฟกันสักครู่ หรือเพียงส่งจดหมายหรืออีเมลไถ่ถามสารทุกข์สุขดิบและแวะไปหาเขาสักหน่อย)
    • "ตัดความสัมพันธ์" กับเพื่อนที่ทำร้ายชีวิตคุณ คนที่ไม่ฟังคุณ หรือสนใจแต่ชีวิตของตัวเอง หรือคนที่ปฏิบัติไม่ดีกับคุณ (พูดจาไม่ดีลับหลัง ดูถูก หรือไม่สนับสนุนคุณ) ไม่ควรค่าที่คุณจะไปเสียเวลาด้วย แต่ก็ไม่ต้องถึงขั้นทำให้เป็นเรื่องใหญ่ตัดเยื่อใยแบบฉับพลันหรอกนะ เพียงปล่อยให้ความสัมพันธ์ค่อยๆ จางหายไป แต่ถ้าเพื่อนตัวดีเกิดจมูกไวสัมผัสได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ คุณอาจจะเรียกเขามานั่งคุย และอธิบายให้ฟังถึงสาเหตุที่คุณถอยห่างออกมาจากความสัมพันธ์นั้น
    • เห็นคุณค่าของคนที่คอยช่วยเหลือคุณเสมอ ซึ่งอาจเป็นเพื่อน ครอบครัว คนที่ทำงาน หรือใครก็ตามที่คอยประคับประคองในช่วงเวลาที่ยากลำบาก จงใช้เวลาดีๆ ร่วมกับพวกเขา และอย่าลืมทำให้คนที่คุณรักและไว้ใจรับรู้ว่าคุณรู้สึกอย่างไรกับพวกเขา
  2. How.com.vn ไท: Step 2 จดจำกฎ 30/30/30 ให้ขึ้นใจ.
    มีแนวคิดที่ว่า ไม่ว่าคุณจะทำอะไรก็ตาม 1/3 ของคนที่คุณพบเจอในชีวิตจะรักคุณอย่างไม่มีเงื่อนไข ในขณะที่ 1/3 จะเกลียดคุณอย่างไม่มีวันให้อภัย และอีก 1/3 ไม่ได้สนใจเรื่องราวของคุณเลยแม้แต่นิดเดียว[2]
    • คนจำนวนมากที่เชื่อในแนวคิดนี้คิดว่า มันไม่คุ้มค่าที่คุณจะเสียเวลาไปกังวลกับคน 2/3 ที่ไม่สนใจไยดีหรือไม่แม้แต่จะสนใจเรื่องราวของคุณ แต่ควรหันมากระชับความสัมพันธ์กับคน 1/3 ที่ชอบคุณในแบบที่คุณเป็นจริงๆ จะดีกว่า
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ขอความช่วยเหลือ.
    การเปิดเผยให้คนอื่นล่วงรู้ว่าคุณกำลังมีปัญหาและอาจกำลังต้องการความช่วยเหลืออาจเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก แต่คุณก็ไม่จำเป็นต้องฟันฝ่าปัญหาต่างๆ ด้วยตัวคนเดียว ความเชื่อผิดๆ เรื่องการพึ่งตนเองแบบสุดขั้วนี้พบได้มากโดยเฉพาะในวัฒนธรรมตะวันตก
    • ถ้าคุณกำลังมีช่วงเวลาที่ยากลำบาก หรือแค่อยากได้ใครสักคนมาช่วยย้ายโซฟา เพียงเอ่ยปากขอความช่วยเหลือจากเพื่อนที่คุณไว้ใจ ถ้าพวกเขาเป็นเพื่อนที่ดีจริงๆ ล่ะก็ พวกเขาจะเต็มใจยื่นมือเข้าช่วยอย่างไม่อิดออดเลยล่ะ (แต่ถ้าพวกเขาเกิดไม่ยอมช่วยขึ้นมา คุณก็ได้รู้ว่าพวกเขาอาจไม่ใช่เพื่อนที่ดีสักเท่าไร)
    • อย่าลืมแบ่งเวลาไว้ช่วยเหลือคนอื่นบ้าง ยิ่งคุณทำให้ความสัมพันธ์เป็นแบบช่วยเหลือเกื้อกูลกันมากเท่าไร ก็มีโอกาสที่เพื่อนจะให้ความช่วยเหลือคุณมากเท่านั้น
  4. How.com.vn ไท: Step 4 อย่าเผาสะพานตัดความสัมพันธ์.
    นี่ไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องจมอยู่กับคนแย่ๆ ที่ทำให้คุณภาพชีวิตของคุณตกต่ำลงหรอกนะ เพียงแต่บางครั้ง การเตะโด่งใครบางคนออกไปจากชีวิต อาจทำให้ชีวิตของคุณยุ่งยากกว่าการคงมิตรภาพกับพวกเขาไว้บ้าง แม้จะแค่ห่างๆ ก็ตาม[3]
    • อย่ายึดติดกับความเกลียดชัง เพราะการเฝ้าจงเกลียดจงชังกับเรื่องราวแย่ๆ ที่คนอื่นทำกับคุณ จะทำให้คุณไร้ซึ่งความสุขและหงุดหงิดเสียเอง ดังนั้น ถ้าใครทำให้คุณหงุดหงิดรำคาญใจ ถ้าทำได้ จงทำให้พวกเขารับรู้ ด้วยวิธีการที่จะไม่ทำให้เกิดการทะเลาะเบาะแว้ง โดยอาจจะบอกว่า "นี่ ฉันรู้สึกเจ็บ/หงุดหงิดจริงๆ ตอนที่เธอ..."
    • จงจำไว้ด้วยว่า คุณมีสิทธิ์ที่จะปกป้องตัวเองจากการถูกทำร้าย ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณมีเพื่อนร่วมงานที่เหยียดเชื้อชาติหรือเหยียดเพศ คุณมีสิทธิ์อย่างเต็มที่ที่จะทำให้พวกเขารู้ตัวถึงพฤติกรรมแย่ๆ ของตัวเอง และมีสิทธิ์เลือกที่จะเข้าไปข้องแวะกับพวกเขาให้น้อยที่สุด หรืออาจจะแจ้งพฤติกรรมของพวกเขาให้หัวหน้ารับทราบเลยก็ได้ ถ้านั่นจะช่วยได้บ้าง
  5. How.com.vn ไท: Step 5 แสวงหาคนรักที่ช่วยเติมเต็มความสุข.
    สำหรับใครหลายๆ คน ความสัมพันธ์กับคนรักอาจสำคัญกับการเติมเต็มส่วนที่ขาดหายเป็นอย่างมาก แต่คุณก็ต้องแน่ใจด้วยว่า เขาคนนั้นเป็นคนที่คอยสนับสนุนคุณ และทำให้คุณรู้สึกรักตัวเองมากที่สุดเท่าที่คุณจะทำได้ แต่ถ้าเขาไม่ใช่คนๆ นั้นล่ะก็ หยุดความสัมพันธ์กับเขาซะเถอะ
    • อย่าหลงเชื่อว่าคุณสามารถเปลี่ยนใครสักคนได้ ถ้าคุณกำลังคบกับคนๆ หนึ่ง แต่คุณกลับเฝ้าคิดถึงแต่วิธีการที่จะทำให้เขาเปลี่ยนตัวเองเพื่อให้เข้ากับคุณได้ล่ะก็ เลิกกับเขาซะเถอะ เขาคงไม่ใช่คนที่ใช่สำหรับคุณแล้วล่ะ ในเชิงเดียวกัน ถ้ามีคนปฏิบัติไม่ดีกับคุณ (หรือเหยียดหยามน้ำใจคุณ) และบอกว่าพวกเขาจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง จงรู้ไว้เลยว่า พวกเขาไม่มีวันเปลี่ยน เพราะฉะนั้น จงรีบเดินออกมาจากความสัมพันธ์นั้นซะ
    • กล้าที่จะเสี่ยงกับความรัก ลองชวนสาวน่ารักๆ ในชั้นเรียนแคลคูลัสไปเที่ยวดูหน่อยเป็นไง ถ้าสาวเจ้าเกิดตอบปฏิเสธ ก็ไม่เห็นเป็นไร อย่างน้อย คุณก็กล้าที่จะเดินเข้าไปชวน และท้ายที่สุดคุณจะเจอคนที่ตอบตกลงอย่างแน่นอน! ที่สำคัญ ยิ่งคุณกล้าที่จะเสี่ยงกับความรักมากเท่าไร คุณก็มีโอกาสได้เจอคนที่ใช่มากเท่านั้น
    • จงกำจัดคนที่ฉุดคุณลงต่ำออกไปจากชีวิต คนรักควรเป็นคนที่คุณไว้ใจได้ เป็นคนที่ทำให้คุณรู้สึกดีกับตัวเอง และทำให้คุณรู้สึกเหมือนเป็นคนสำคัญ (เพราะคุณเป็นอย่างนั้นจริงๆ) ที่สำคัญคือ ควรมีการเคารพซึ่งกันและกันระหว่างเขากับคุณ คุณควรเคารพในตัวเขา และเขาก็ควรเคารพในตัวคุณด้วยเช่นกัน
    • มีความสุขกับชีวิตโสด คนเราใช้เวลาจำนวนมากหมดไปกับการตามหารัก มีคนรัก และวกกลับมาเยียวยาหัวใจหลังเลิกรา จนมักเผลอลืมไปว่าความโสดก็มีข้อดีกับเขาเหมือนกัน คุณสามารถคิดถึงแต่ความต้องการของตัวเองได้ โฟกัสกับชีวิตของตัวเองได้เต็มที่ แถมยังได้ใช้เวลากับเพื่อนมากขึ้นอีกต่างหาก
  6. How.com.vn ไท: Step 6 แบ่งปันในสิ่งที่ให้ได้.
    การแบ่งปันและคืนสิ่งดีๆ ให้กับชุมชน ไม่ว่าจะเป็นเวลา เงินทอง หรือสิ่งของต่างๆ ล้วนแล้วแต่ช่วยเติมความสุขให้กับชีวิตคุณได้ ทำไมน่ะหรือ? ก็เพราะมันทำให้คุณได้เป็นส่วนหนึ่งของชุมชน เพราะการแบ่งปันให้ผู้ที่ขาดแคลนช่วยลดความเครียดได้ และเพราะการตอบแทนจะเพิ่มโอกาสที่คุณจะได้สัมผัสกับความปิติ ความคิดดีๆ และรู้สึกว่าคุณควบคุมชีวิตของตัวเองได้[4]
    • แม้จะมีเพียงน้อยนิด ก็จงให้ในสิ่งที่พอให้ได้ อาจเป็นเพียงอะไรง่ายๆ อย่างการบริจาคเงินแค่ 50 หรือ 100 บาทให้กับโครงการบนเว็บไซต์ Kickstarter ที่คิดว่ามีความสำคัญ หรืออาจลองหาวิธีช่วยโดยไม่จำเป็นต้องใช้เงินดูก็ได้นะ เช่น ให้เวลากับบางสิ่งที่คุณมองเห็นความสำคัญ
    • ทำสิ่งต่างๆ ให้คนที่เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ถ้าแม่หรือสามีของคุณรับหน้าที่ทำความสะอาดทั้งหมดภายในบ้าน ลองหาเวลาช่วยในทุกๆ สัปดาห์เพื่อแบ่งเบาภาระของพวกเขา หรืออาจเสนอตัวช่วยเลี้ยงลูกของพี่ชาย หรือขับรถพาคุณปู่ไปหาหมอ
  7. How.com.vn ไท: Step 7 หยุดเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น...
    หยุดเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น. เพราะอย่างไรเสีย มันก็ต้องมีใครสักคนที่ทำสิ่งต่างๆ ได้เก่งกว่าคุณ มีเสน่ห์กว่าคุณ ฉลาดกว่าคุณ หรือมีเพื่อนมากกว่าคุณ การเปรียบเทียบตัวคุณและชีวิตของคุณกับคนอื่นจึงรังแต่จะทำให้คุณรู้สึกแย่เสียเปล่าๆ[5]
    • จงชื่นชมกับความสำเร็จของผู้อื่น โดยไม่คิดถึงวิธีการที่เขาบอกคุณหรือว่ามันจะทำให้เขาดีเด่นกว่าคุณมากแค่ไหน ตัวอย่างเช่น ถ้าเพื่อนของคุณเพิ่งได้ทุนการศึกษาอันทรงเกียรติ เมื่อไรก็ตามที่จับได้ว่าตัวเองกำลังคิดว่า "ฉันมันโง่ ฉันคงไม่มีวันได้ทุนอย่างนั้นหรอก" หรือ "ฉันไม่เคยได้ทุนกับเขาบ้างเลย" จงรีบปรับโหมดความคิดเป็น "เพื่อนพยายามอย่างหนักจริงๆ กว่าจะได้ทุนนั้นมา" หรือ "มีเรื่องราวดีๆ มากมายเกิดขึ้นกับฉันเหมือนกัน และเพื่อนคนนั้นก็จำเป็นต้องใช้ทุนนั้นจริงๆ"
    • คอยเตือนตัวเองว่า การที่คนอื่นประสบความสำเร็จ ไม่ได้ทำให้คุณค่าหรือศักดิ์ศรีของคุณลดน้อยถอยลงแต่อย่างใด ความจริง มันกลับช่วยกระตุ้นให้คุณลงมือทำอะไรสักอย่างเสียอีก เช่น คุณอาจคิดขึ้นมาได้ว่า "ถ้าจูนชนะรางวัลศิลปะนั่นได้ แสดงว่าถ้าฉันพยายามให้มากๆ สักวันหนึ่ง ฉันก็อาจชนะรางวัลได้เหมือนกัน"
  8. How.com.vn ไท: Step 8 จงตั้งใจฟัง.
    การฟังอย่างตั้งใจเป็นอีกหนึ่งทักษะที่หลายๆ คนมักไม่เห็นคุณค่าและมองข้ามไป คนที่กำลังพูดคุยมักจะอยากพูดให้ได้มากกว่าคู่สนทนา ต่างฝ่ายต่างก็เอาแต่คิดถึงเรื่องถัดไปที่ตัวเองอยากจะพูด ประเด็นที่ตัวเองอยากหยิบยกขึ้นมา ซึ่งแสดงให้เห็นว่าพวกเขาไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์กับคนที่กำลังคุยด้วยอย่างแท้จริง
    • สิ่งที่คุณควรทำคือ "การฟังอย่างตั้งใจ" ซึ่งหมายถึงการที่คุณตั้งใจฟังอีกฝ่ายจริงๆ โดยไม่ปล่อยใจวอกแวกไปคิดถึงสิ่งที่คุณจะพูด อาหารที่คุณจะทำสำหรับมื้อเย็นวันนี้ หรือคิดว่าคุณจ่ายภาษีแล้วหรือยัง[6]
    • มองตาอีกฝ่าย (ไม่ต้องถึงกับจ้องถลึง เพียงแต่ให้สบตาไว้) เมื่อไรที่พบว่าความคิดของคุณเริ่มหลุดออกไปจากบทสนทนา ลองขอคำอธิบายเพิ่มเติมจากอีกฝ่าย หรืออาจจะพูดในทำนองว่า "เมื่อกี้ฉันกำลังคิดถึงเรื่องที่คุณพูดก่อนหน้านี้เลยไม่ทันฟัง ช่วยพูดสิ่งที่คุณเพิ่งพูดไปอีกทีได้ไหม" และอย่าลืมพูดอย่างสุภาพด้วยนะ
    • อย่า หยิบมือถือขึ้นมาเช็คโน่นนี่ในขณะที่อยู่ในวงสนทนา เว้นแต่คุณจะกำลังรอข้อความ/สายที่สำคัญจริงๆ (จากคนที่โรงพยาบาล แจ้งข้อเสนอรับเข้าทำงาน หรืออะไรทำนองนี้)
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

การพัฒนาตนเพื่อเติมเต็มชีวิต

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 จงมั่นใจในตัวเอง....
    จงมั่นใจในตัวเอง. ความมั่นใจแสดงให้เห็นว่าคุณมีความมั่นคงในตัวเอง โชคดีที่ความมั่นใจเป็นทักษะที่เรียนรู้กันได้ไม่ต่างจากหลายๆ สิ่ง เพราะฉะนั้น แม้ในแรกเริ่มคุณจะไม่มีความมั่นใจเลยแม้แต่นิดเดียว แต่ถ้าได้ฝึกมากขึ้น คุณก็จะเก่งขึ้นและมีความสุขมากขึ้นเรื่อยๆ ได้[7][8]
    • ลองนำคำแนะที่ว่า "แสร้งทำจนกลายเป็นจริง" ไปใช้กันดู สิ่งนี้หมายถึงการที่คุณหลอกให้สมองคิดว่ามันมีความมั่นใจเปี่ยมล้น โดยการเสแสร้งแกล้งแสดงเป็นคนมั่นอกมั่นใจ โดยเริ่มจากสิ่งเล็กๆ (ใส่รองเท้าส้นสูงที่ไม่เคยกล้าใส่มาก่อน สุ่มเดินเข้าไปคุยกับคนที่คุณคิดว่าสวย/หล่อ ฯลฯ) จากนั้นจึงค่อยๆ ขยับขึ้นเป็นการขอขึ้นเงินเดือน หรือย้ายไปอยู่ต่างเมืองคนเดียว
    • ใช้ภาษาท่าทางอย่างคนมั่นใจ ยืนในท่าที่แสดงออกถึงอำนาจอย่างน้อย 5 นาทีต่อวัน ตัวอย่างของท่าที่แสดงออกถึงอำนาจ ได้แก่ การยืดอกหลังตรงในขณะที่เดินหรือนั่ง หรือนั่งโดยใช้พื้นที่ให้มากเข้าไว้ และหลีกเลี่ยงการยืนกอดอก เพราะเป็นท่าที่มักสื่อถึงการปกป้องตัวเอง โดยให้วางมือไว้ที่สะโพกแทน
    • หยุดคิดแต่แง่ลบ เรื่องนี้ถือเป็นประเด็นสำคัญ ระดับชาติ เลยทีเดียว ทุกครั้งที่คุณเริ่มมีความคิดแง่ลบเกี่ยวกับตัวเอง (หรือเกี่ยวกับคนอื่น) จงหยุดความคิดนั้นซะ จัดระเบียบความคิดเสียใหม่ และหันมามองด้านบวกหรือด้านที่เป็นกลางแทน ตัวอย่างเช่น เมื่อไรที่จับได้ว่าตัวเองกำลังคิดว่า "ฉันคงไม่มีทางได้มีความสุขกับความรัก" จงรีบปรับโหมดความคิดเป็น "ในอดีตฉันอาจไม่เคยเจอชีวิตรักที่ดี แต่อดีตจะบ่งบอกอนาคตก็ต่อเมื่อฉันยอมให้มันเป็นอย่างนั้นเท่านั้น เพราะฉะนั้น มันก็ไม่ได้หมายความว่าฉันจะมีชีวิตรักที่ดีบ้างไม่ได้"[9]
  2. How.com.vn ไท: Step 2 อย่าหยุดที่จะเรียนรู้.
    ตลอดช่วงชีวิต คุณจะต้องไม่หยุดที่จะศึกษาหาความรู้ เพราะความรู้ทำให้สมองของคุณเฉียบคมอยู่เสมอ ช่วยลดความเสี่ยงการเป็นโรคอัลไซเมอร์ อีกทั้งยังทำให้คุณมีเรื่องราวน่าสนใจไว้คุยกับคนอื่นอีกต่างหาก[10]
    • อย่าลืมเพิ่มพูนความรู้ให้กับตัวเองตลอดทั้งชีวิต นี่ไม่ได้หมายความว่าคุณ ต้อง เข้ามหาวิทยาลัยเท่านั้นนะ เพราะมหาวิทยาลัยอาจไม่ใช่ที่ที่เหมาะสำหรับทุกคน แต่คุณก็ควรหมั่นศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นบนโลก ซึ่งอาจจะเป็นความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ ยา การเมือง ศิลปะ หรือเรื่องราวอื่นๆ
    • การเรียนรู้ด้วยตัวเองเป็นอีกหนึ่งวิธีการดีๆ ในการเรียนรู้สิ่งใหม่ ซึ่งอาจเป็นอะไรก็ได้ ตั้งแต่การถักนิตติ้ง เรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ไปจนถึงศาสตร์ดาราฟิสิกส์ ห้องสมุดและอินเตอร์เน็ต (ตราบเท่าที่คุณแน่ใจว่าเป็นแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้) ล้วนแล้วแต่เป็นแหล่งความรู้ที่เหมาะสำหรับการศึกษาด้วยตัวเอง นอกจากนี้ ในชุมชนของคุณอาจมีชั้นเรียนหรือชั้นบรรยายวิชาต่างๆ ที่สามารถเข้าร่วมได้ฟรี
    • แต่ต้องไม่ลืมว่าในโลกนี้มีการเรียนรู้อยู่หลายรูปแบบ นั่นหมายความว่า การเรียนรู้ด้านธุรกิจในโรงเรียนสอนธุรกิจหรือในการฝึกงาน ล้วนมีความสำคัญพอๆ กับการเข้าเรียนที่ไอวีลีก (ความจริง บางครั้งอาจสำคัญกว่าเสียด้วยซ้ำ) ในขณะที่ความรู้เกี่ยวกับวิธีการทำสิ่งต่างๆ อย่างการจ่ายภาษี การกู้เงิน และการค้นหาเส้นทางขนส่งมวลชนก็เป็นความรู้อีกประเภทที่สำคัญไม่แพ้กัน
  3. How.com.vn ไท: Step 3 เรียนรู้จากช่วงเวลาที่ย่ำแย่.
    ไม่ว่าคุณจะประสบความสำเร็จมากเพียงใด สุขภาพดีแค่ไหน และไม่ว่าคุณจะทำหรือไม่ทำสิ่งใด คุณก็ต้องมีบางช่วงเวลาที่ยากลำบากอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ บางครั้งสิ่งเหล่านี้อาจเกิดจากความผิดพลาดของคุณเอง แต่บางครั้งก็ไม่ใช่ สิ่งที่จะเป็นตัวตัดสินได้ว่าคุณมีความสามารถพอที่จะประสบความสำเร็จในชีวิตได้รึเปล่า คือวิธีการที่คุณใช้ในการรับมือกับปัญหาที่เกิดขึ้น
    • จงอย่ากลัวที่จะผิดพลาด เพราะความกลัวจะทำให้คุณยิ่งเป็นกังวลกับการใช้ชีวิต ความผิดพลาดของคุณอาจดูเหมือนความล้มเหลวครั้งยิ่งใหญ่ มากกว่าจะเป็นโอกาสให้คุณได้เรียนรู้ แต่เมื่อคุณทำสิ่งผิดพลาดลงไปแล้ว ลองถามตัวเองดูสิว่าคุณได้เรียนรู้อะไรจากสิ่งนั้นบ้าง ในครั้งหน้าคุณจะทำอะไรที่ต่างออกไปได้บ้าง และสิ่งต่างๆ มันผิดร่องผิดรอยได้อย่างไร
    • ให้ความสนใจกับงานที่คุณทำได้แย่ที่สุด เพราะงานเหล่านี้มักช่วยสอนเรื่องราวบางอย่างให้คุณได้ อาจจะเป็นวิธีการจัดสรรเวลาเพื่อทำหลายสิ่งในเวลาเดียวกัน วิธีรับมือกับคน (รวมถึงเจ้านาย) เจ้าปัญหา หรือวิธีการสร้างความมั่นใจให้กับความต้องการและขอบเขตของตัวเอง
    • การจบชีวิตรักอย่างไม่สวยเท่าไรก็ยังเป็นโอกาสดีๆ ให้คุณได้เรียนรู้ เพราะมันสอนให้เห็นถึงสิ่งที่คุณควรทำ ซึ่งนับเป็นทักษะที่คุณจำเป็นต้องใช้ไปตลอดชีวิต
  4. How.com.vn ไท: Step 4 ลองทำสิ่งใหม่ๆ.
    คุณควรหาอะไรใหม่ๆ ทำอยู่เรื่อยๆ เหมือนอย่างที่คุณศึกษาหาความรู้อยู่เสมอ โดยอาจเป็นเรื่องราวสุดเหวี่ยงอย่างการกระโดดร่มหรือปีนหน้าผา หรือจะเป็นเรื่องธรรมดาอย่างการฝึกทำสวนหรือถักโครเชต์ ก็ล้วนแล้วแต่ช่วยลับสมองให้เฉียบแหลมอยู่เสมอได้ และยังช่วยให้คุณไม่กลายเป็นคนเฉื่อยชาอีกด้วย
    • จงก้าวออกมาจากพื้นที่ปลอดภัย ตลอดช่วงชีวิตนี้ คงต้องมีบางสถานการณ์ที่ทำให้คุณรู้สึกอึดอัดใจเป็นที่สุด ซึ่งมักเป็นสิ่งที่คุณไม่ได้เต็มใจพาตัวเองเข้าไปข้องเกี่ยวเสียด้วยสิ แต่คุณก็ควรเรียนรู้ที่จะสร้างโอกาสจากประสบการณ์เหล่านี้ด้วยเช่นกัน เพราะมันจะมอบทั้งความมั่นใจและความรู้ที่คุณสามารถนำไปใช้รับมือกับความไม่แน่นอนต่างๆ ในชีวิตคนเราได้[11]
    • จำไว้เลยว่า คนเราสนใจเรื่องราวของตัวเองมากกว่าเรื่องของคนอื่น แม้คุณคิดว่าทุกสายตากำลังจับจ้องมาที่คุณก็เถอะ มั่นใจได้เลยว่า พวกเขามักจะกำลังคิดถึงเรื่องราวเกี่ยวกับตัวเอง มากกว่าที่จะวิพากษ์วิจารณ์คุณอยู่
    • ใช้ก้าวเล็กๆ นำทางไปสู่จุดที่ดีกว่า เช่น ถ้าคุณเป็นโรคกลัวการเข้าสังคม ก้าวเล็กๆ ของคุณอาจเป็นการหาโอกาสพูดคุยกับคนแปลกหน้าสักสัปดาห์ละคน หรือโทรหาคนที่ทำให้คุณรู้สึกประหม่าสัปดาห์ละสาย และในท้ายที่สุด คุณอาจจะขยับขึ้นเป็นการไปร่วมงานต่างๆ คนเดียว หรือหาโอกาสรับมือกับผู้คนอยู่เสมอ
    • พยายามทำสิ่งที่ช่วยผลักดันตัวเองในทุกๆ วัน แม้จะเป็นเพียงสิ่งเล็กๆ แต่มันจะทำให้คุณค่อยๆ เก่งขึ้นและเก่งขึ้นเรื่อยๆ ในการเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่ไม่คุ้นเคยหรือชวนเขย่าประสาท และในที่สุด คุณจะพร้อมรับมือกับสิ่งเหล่านี้ได้มากขึ้น
  5. How.com.vn ไท: Step 5 เผชิญหน้ากับปัญหา.
    อีกหนึ่งวิธีการเอาชนะชีวิตเพื่อให้คุณพอใจและมีความสุขกับชีวิตของตัวเอง นั่นคือการเผชิญหน้ากับความท้าทายสุดทรหดต่างๆ นานาที่ชีวิตโยนเข้าใส่ เพราะการยอมแพ้หรือเพิกเฉยต่อปัญหารังแต่จะทำร้ายตัวคุณเองในระยะราว และทำให้คุณรู้สึกแย่กับตัวเองและชีวิตมากยิ่งขึ้น
    • ใช้คำที่กระตุ้นการกระทำ ลองปรับโหมดความคิดเกี่ยวกับปัญหาที่อาจเกิดขึ้นเสียใหม่ จาก "ฉันไม่รู้วิธีการทำสิ่งนั้น" หรือ "ฉันกลัวเกินกว่าจะทำสิ่งนั้น" เป็น ฉันจะเรียนรู้วิธีการทำสิ่งนั้น" และ "แม้ว่าฉันจะรู้สึกประหม่า แต่ฉันรู้ว่าฉันทำได้" เพราะมันจะช่วยปรับกระแสความคิดในสมองจากการเอาแต่มองแง่ลบเป็นการคิดบวกได้นั่นเอง
    • หมั่นย้ำเตือนกับตัวเองว่า คุณสามารถเอาชนะทุกอุปสรรคได้ ลองนึกถึงช่วงเวลาทั้งหมดที่ปัญหาใหญ่ๆ ถาโถมเข้ามา จำได้รึเปล่าว่าสุดท้ายแล้วมันสามารถคลี่คลายได้อย่างไร แม้จะเป็นในรูปแบบที่คุณไม่คาดคิดก็ตาม เมื่อไรก็ตามที่รู้สึกหัวหมุนกับเรื่องราวอะไรสักอย่าง จงเตือนตัวเองว่า คุณจะก้าวผ่านมันไปได้ในที่สุด
    • ไตร่ตรองดูสิว่า ปัญหานั้นๆ ควรค่ากับพลังงานที่คุณต้องสูญเสียรึเปล่า เพราะบ่อยครั้ง สิ่งที่ทำให้คุณเป็นกังวลมักเป็นแค่เรื่องขี้ปะติ๋วเมื่อมองชีวิตทั้งหมด เช่น สมมุติว่าคุณรู้สึกประหม่าเมื่อต้องโทรหาคนอื่น ลองถามตัวเองดูสิว่า ทำไมคุณจึงรู้สึกประหม่า เมื่อตระหนักได้แล้วว่าความกลัวของคุณไม่มีเหตุผลดีๆ มารองรับ จงย้ำเตือนกับตัวเองถึงเรื่องนี้ทุกครั้งที่คุณรู้สึกประหม่าเมื่อต้องยกหูโทรศัพท์
  6. How.com.vn ไท: Step 6 ค้นหางานที่ช่วยเติมเต็มชีวิต.
    วิธีการที่ดีที่สุด คือการตามล่าหางานที่คุณรัก แม้มันจะเผยตัวออกมาในแบบแปลกๆ ก็ตาม (เช่น คุณอยากเป็นนักแสดง แต่สุดท้ายกลับมาจบที่การจัดค่ายละครเวทีให้กับเด็กที่อยู่ในภาวะเสี่ยง) บางครั้ง การทำงานที่รักอาจเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ แต่มันก็ยังมีหนทางให้คุณมีความสุขกับงานได้โดยไม่จำเป็นต้องชอบมันจริงๆ[12]
    • ปรับเปลี่ยนวิธีคิดที่คุณมองงานของตัวเอง ลองเขียนข้อดีทั้งหมดเกี่ยวกับงานของคุณลงไป (เพื่อนร่วมงานที่คุณชอบ ได้ช่วยเปลี่ยนแปลงชีวิตของคนอื่น ได้เงินไปซื้อบ้านที่คุณเฝ้าฝันอยากเป็นเจ้าของมานาน)
    • ปรับเปลี่ยนรูปแบบงานเมื่อมันเริ่มซ้ำซากจำเจ อาจจะลองปรับตารางงานในแต่ละวัน โดยทำงานที่สำคัญที่สุดให้เสร็จในช่วงเช้า และเลื่อนงานที่สำคัญรองลงมาไปไว้ช่วงบ่าย
    • ลาพักเมื่อมีโอกาส อย่ามัวแต่คิดว่าคุณไม่ควรลางาน เพราะการได้พักผ่อนคลายสมองสามารถช่วยเติมพลัง และทำให้คุณรู้สึกดีกับงานมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้คุณจัดการกับปัญหากวนใจเล็กๆ น้อยๆ ได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
    • เดินหรือปั่นจักรยานไปทำงาน หรือออกไปเดินเล่นช่วงพักกลางวัน เพราะกิจกรรมที่ได้ออกแรงจะช่วยผ่อนคลายอาการสมองล้า และช่วยให้คุณรู้สึกดีกับงานมากขึ้น
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

ดูแลสุขภาพอยู่เสมอ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 เรียนรู้ที่จะขอบคุณกับสิ่งต่างๆ.
    นี่ถือเป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับที่สำคัญที่สุดที่คุณสามารถทำได้เพื่อให้มีชัยเหนือชีวิต และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขโดยไม่รู้สึกขาดสิ่งใด แม้ตอนนี้สิ่งต่างๆ จะไม่เป็นไปดังหวัง จงจำไว้ว่า ในก่อนหน้านี้ก็มีหลายสิ่งที่เป็นไปดังหวัง และตอนนี้ก็มีบางสิ่งที่เป็นไปดังหวัง และจะต้องมีสิ่งที่เป็นไปดังหวังอีกในอนาคตอย่างแน่นอน[13][14]
    • ความรู้สึกขอบคุณช่วยยืนยันได้ว่ายังมีเรื่องราวดีๆ มากมายเกิดขึ้นในชีวิตของคุณ แม้ไม่ใช่ทุกสิ่งจะดีได้ดังที่คุณหวัง เพราะชีวิตคนเราไม่อาจสมบูรณ์แบบได้ แต่ก็ไม่มีมนุษย์คนใดที่ไม่มีอะไรเป็นไปดังหวังเลยแม้แต่อย่างเดียว (เพราะฉะนั้น อย่าเผลอพูดประโยคชวนฉงนข้างต้นกับตัวเองซ้ำเชียว) ตัวอย่างเช่น สมมุติว่าคุณพ่อของคุณเพิ่งเสียไป ใช่! คุณมีสิทธิ์ที่จะเศร้าได้เต็มที่ แต่แทนที่จะจมอยู่กับการจากไปของท่าน ลองหันมาคิดถึงสิ่งที่คุณรู้สึกขอบคุณ (เช่น โอกาสที่คุณได้อยู่กับท่านตอนที่ท่านจากไป หรือการที่คุณยังมีโอกาสได้ใช้เวลากับท่านก่อนที่ท่านจะจากไป ฯลฯ)
    • จดไดอารี่บันทึกสิ่งที่คุณรู้สึกขอบคุณ จดเรื่องราวเล็กๆ ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในแต่ละวันที่ทำให้คุณรู้สึกขอบคุณ อาจเป็นแค่เรื่องง่ายๆ อย่างการที่ใครสักคนช่วยคุณจ่ายตลาด หรือข้อความดีๆ ที่เพื่อนส่งมา เพราะสิ่งเหล่านี้ช่วยย้ำเตือนได้ว่าคุณมีสิ่งที่ควรรู้สึกขอบคุณอยู่มากมาย
    • นอกจากนี้ยังแสดงให้เห็นว่า คุณสามารถละทิ้ง "ความคิดเข้าข้างตัวเอง" ได้ การคิดเข้าข้างตัวเอง คือการที่คุณคิดว่าหลายสิ่งเป็นไปด้วยดีเพราะคุณทำได้ดี ในขณะที่หลายสิ่งกลับไม่เป็นไปดังหวังเพราะปัจจัยภายนอก ไม่เกี่ยวกับตัวคุณ ในขณะที่การเรียนรู้ที่จะขอบคุณกับสิ่งต่างๆ หมายถึงการรับรู้ถึงโอกาสและความช่วยเหลือที่คนอื่นหยิบยื่นให้ (เช่น ฉันเข้ามหาวิทยาลัยได้เพราะตั้งใจอ่านหนังสืออย่างหนัก แต่ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะคุณครูช่วยเขียนจดหมายแนะนำดีๆ ให้ และพ่อแม่ก็มอบโอกาสให้ฉันด้วยเช่นกัน)
  2. How.com.vn ไท: Step 2 ฝึกการมีสติ.
    การมีสติสามารถช่วยได้หลายเรื่องทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นช่วยแก้อาการซึมเศร้าวิตกกังวล ช่วยลดความเครียด เสริมความจำ ช่วยให้คุณจดจ่อกับสิ่งต่างๆ ได้มากขึ้น รวมถึงช่วยเพิ่มความมั่นคงทางอารมณ์ การฝึกสติ โดยพื้นฐานแล้ว หมายถึงการเผชิญหน้ากับสถานการณ์ต่างๆ โดยไม่ไปตัดสินว่ามันดีหรือไม่ดี[15]
    • การนั่งสมาธิเป็นหนึ่งวิธีการดีๆ ในการเริ่มฝึกการมีสติ ลองใช้เวลาสักวันละ 15 นาที หาที่นั่งเงียบๆ (เมื่อเริ่มเก่งขึ้น คุณจะสามารถนั่งสมาธิได้ทั้งบนรถเมล์ ในห้องทำงานของคุณหมอ หรือแม้แต่ขณะที่กำลังล้างจาน) สูดลมหายใจเข้าออกให้สุด พร้อมพูดว่า "หายใจเข้า หายใจออก" เมื่อไรที่มีความคิดแล่นเข้ามาในหัว เพียงปล่อยให้มันล่องลอยไปบนพื้นผิวของจิตใจ โดยไม่ต้องตอบสนองใดๆ ต่อความคิดนั้น และถ้าคุณเกิดวอกแวก ให้ดึงความสนใจกลับมาที่ลมหายใจของคุณ
    • ฝึกในขณะที่ออกไปเดินเล่น แทนที่จะใช้เวลาหมกมุ่นอยู่กับทุกอย่างในชีวิต ลองหันไปสนใจต้นไม้ สีของท้องฟ้า สายลม หรืออุณหภูมิรอบตัว เพียงแต่อย่าไปตัดสินหรือให้คุณค่ากับสิ่งเหล่านั้น (เช่น "ท้องฟ้าสวยดี", "ลมหนาวจัง", "หมาตัวนั้นน่ารำคาญ")
    • คุณสามารถฝึกสติในระหว่างที่ทานอาหารได้เช่นเดียวกัน โดยการสังเกตสิ่งที่คุณกำลังทาน ไม่ว่าจะเป็นเนื้อสัมผัส (นุ่ม, กรอบ, หนึบหนับ) หรือรสชาติ (เค็ม? หวาน? เผ็ด?) หรืออุณหภูมิของอาหาร (ร้อน, เย็น) และขอย้ำอีกครั้งว่า จงหลีกเลี่ยงการให้คุณค่ากับสิ่งนั้นๆ (ดี, ไม่ดี ฯลฯ) รวมถึงพยายามหลีกเลี่ยงสิ่งรบกวน เช่น การดูทีวีหรืออ่านหนังสือในขณะที่ทานอาหาร
  3. How.com.vn ไท: Step 3 เป็นเจ้าของตัวคุณและการกระทำของคุณ.
    เราควรจดจำให้ขึ้นใจว่า ชีวิตคือเส้นทางที่เต็มไปด้วยการเลือก คุณมีสิทธิ์ที่จะเลือกวิธีการปฏิบัติและตอบสนองต่อสิ่งต่างๆ แต่ก็ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่เลือกด้วยเช่นกัน ไม่ใช่ใช้ชีวิตราวกับทุกสิ่งเกิดขึ้นกับคุณเอง[16]
    • เลือกที่จะตอบสนองต่อสิ่งต่างๆ ด้วยแนวทางในแง่บวก นั่นหมายความว่า ถ้ามีเพื่อนพูดจาร้ายๆ ลับหลังคุณ คุณจะไม่ทำตัวดื้อเงียบใส่เพื่อน (หรือเริ่มนินทาเพื่อนกลับ) แต่คุณจะเข้าไปพูดคุยแบบเปิดอกเกี่ยวกับสิ่งที่เขาพูด (อาจพูดในทำนองว่า "มีคนบอกฉันว่าเธอพูด ก, ข และ ค เกี่ยวกับฉัน และฉันอยากรู้ว่าทำไมเธอถึงพูดอย่างนั้น) จงนำความรู้สึกเจ็บและโกรธแค้นไปใช้ในทางที่ดี
    • และจงตระหนักด้วยว่า คุณมีสิทธิ์ที่จะโมโหกับไพ่เจ้าปัญหาที่คุณหยิบได้ในชีวิต มีสิทธิ์ที่จะจัดการอะไรสักอย่างกับไพ่ใบนั้น รวมถึงมีสิทธิ์ที่จะขอไพ่ใบใหม่ ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณต้องเข้ารับการรักษาโรคมะเร็ง แทนที่จะพูดพร่ำว่า "ทำไมต้องเป็นฉัน" คุณจะหันมาหาวิธีการใช้ปัญหานี้ในเชิงสร้างสรรค์ เช่น ใช้มันเป็นตัวกระตุ้นให้คุณใช้ชีวิตอย่างที่เฝ้าฝันมานาน หรือทำให้คุณกล้าพูดในสิ่งที่กลัวมาตลอด ฯลฯ
  4. How.com.vn ไท: Step 4 ทานอาหารที่ดีต่อตัวเอง.
    รู้หรือไม่ว่า การฝึกนิสัยให้ทานอาหารเพื่อสุขภาพช่วยปรับอารมณ์ของคุณ และทำให้คุณรู้สึกดีๆ กับตัวเองและชีวิตมากขึ้นได้ ลองค้นหาความสมดุลระหว่างการกินเพื่อสุขภาพกับการกินเพื่อความสนุกดูหน่อยเป็นไง (เช่น อาหารสำเร็จรูปที่มีน้ำตาล) แล้วคุณจะพบพัฒนาการทั้งในด้านสุขภาพและชีวิตของคุณเอง
    • ทานผักและผลไม้ให้มากๆ โดยอย่างน้อยควรทานให้ได้ 5 จานต่อวัน (เน้นผักมากกว่าผลไม้) ตัวอย่างผักผลไม้ชั้นเลิศได้แก่ แตงโม อะโวคาโด ราสเบอร์รี บล็อคโคลี หอมใหญ่ บลูเบอร์รี เคล ผักกาดเขียวปลี และมันเทศ ผักใบเขียวเข้มและผักหลากสี (เช่น พริกแดง สวิสชาร์ด ฯลฯ) ซึ่งล้วนเป็นผักที่อุดมไปด้วยสารอาหารมากเป็นพิเศษ จึงควรขะมักเขม้นทานให้มากๆ![17]
    • ทานโปรตีนให้เพียงพอ เพราะโปรตีนช่วยเรื่องระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยให้มีพลังงานเหลือใช้นานขึ้น อีกทั้งยังช่วยตอบสนองต่อความหิวของคุณได้ดีกว่า โดยควรเลือกเนื้อแดงมากกว่าเนื้อติดมัน และต้องไม่ลืมทานปลา (โดยเฉพาะแซลมอน) สัตว์ปีก ไข่ ถั่วเหลือง ถั่วฝัก และถั่วเปลือกแข็ง คุณคงต้องตกเป็นผู้แพ้อย่างไม่ต้องสงสัยถ้าไม่ทานปลาแซลมอน
    • ทานคาร์โบไฮเดรตให้ถูกชนิด เพราะคาร์โบไฮเดรตช่วยเติมเชื้อเพลิงที่คุณจำเป็นต้องใช้ตลอดทั้งวัน แต่ต้องเลือกทานคาร์โบไฮเดรตที่อุดมไปด้วยสารอาหาร เช่น ควินัว ข้าวโอ๊ต ข้าวกล้อง โฮลวีท ถ้าคุณต้องการมีชัยเหนือชีวิตตัวเอง
    • หลีกเลี่ยงการทานอาหารรสหวาน เค็ม หรืออาหารสำเร็จรูป โดยเฉพาะน้ำตาลนี่ล่ะตัวการสำคัญที่ทำให้ความดันโลหิตเพิ่มขึ้น/ลดลง อีกทั้งยังมีความเชื่อมโยงกับปัญหาสุขภาพและน้ำหนักตัวอีกด้วย[18]
  5. How.com.vn ไท: Step 5 ฝึกนิสัยฟิตร่างกายให้แข็งแรง.
    มีวิธีการมากมายที่คุณสามารถทำได้เพื่อสร้างสุขภาพดี ซึ่งจะช่วยให้คุณมีความสุขและพึงพอใจกับชีวิตมากขึ้นได้ในที่สุด นิสัยที่ทำร้ายสุขภาพอาจทำให้ปัญหาสุขภาพกัดกินเวลาในชีวิต สร้างความกังวล และมักทำให้ปัญหาแย่ยิ่งขึ้น
    • ดื่มน้ำอย่างเพียงพอ น้ำนับเป็นองค์ประกอบใหญ่ในร่างกายคนเรา เมื่อร่างกายขาดน้ำ อาจจะทำให้คุณปวดศีรษะ ทำงานต่างๆ ได้ยากขึ้น อีกทั้งยังทำให้คุณง่วงซึมได้แบบสุดๆ จึงควรดื่มน้ำให้ได้อย่างน้อย 8 แก้วต่อวัน[19]
    • นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ การพักผ่อนไม่เพียงพออาจทำให้ปัญหาสุขภาพแย่ลงได้ไม่ว่าจะทางกายหรือใจ อีกทั้งยังทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานถดถอย และทำให้สุขภาพแย่ลง เพราะฉะนั้น จงเข้านอนก่อนเที่ยงคืน ปิดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิดอย่างน้อย 30 นาทีก่อนเข้านอน และตื่นในเวลาเดิมทุกวัน ถ้าทำได้ล่ะก็ รับรองว่าร่างกายจะขอบคุณคุณอย่างแน่นอน
    • ออกกำลังกายทุกวัน การออกกำลังกายทำให้ร่างกายหลั่งสารเคมีในสมองที่ทำให้คุณมีความสุขมากขึ้น ทำให้อารมณ์ดีขึ้น ร่างกายรู้สึกดีขึ้น อีกทั้งยังทำให้คุณรู้สึกมั่นใจในตัวเองมากยิ่งขึ้น การออกกำลังกายไม่จำเป็นต้องไปฟิตเนสเสมอไป คุณสามารถค้นหาสิ่งที่คุณชอบทำ อาจเป็นการเดินเล่นวันละ 30 นาที เปิดเพลงเต้น หรือเล่นโยคะผ่อนคลายก็ได้ทั้งสิ้น[20]
  6. How.com.vn ไท: Step 6 ดูแลตัวเอง.
    เพราะความสุขและความสำเร็จในชีวิตขึ้นอยู่กับสิ่งเดียวเท่านั้น นั่นคือตัวคุณเอง คุณจึงต้องดูแลตัวเองเพื่อให้คุณรู้สึกดีกับตัวคุณและชีวิตของคุณ
    • ซึ่งทำได้โดยการเอาอกเอาใจตัวเอง ซื้อหนังสือที่อยากได้มาตั้งนาน แช่น้ำสบู่ฟองฟูฟ่องให้นานหนำใจ ทานเค้กช็อกโกแลตสักชิ้น (หรือจะเบิ้ลสอง!) หรือใช้เวลาช่วงสุดสัปดาห์ออกไปผจญภัยในจังหวัดข้างๆ เพราะคุณติดค้างหนี้ที่จะต้องตามใจตัวเองบ้าง
    • จงจำไว้ว่า อย่าจัดความสำคัญของตัวเองไว้หางแถว การไม่เห็นแก่ตัวนับเป็นเรื่องที่ดี แต่ก็ไม่จำเป็นต้องสุดโต่งจนถึงจุดที่ทำให้ความสุขของคุณไม่เหลือชิ้นดี เพราะการตามใจตัวเองก่อนบ้างไม่ใช่เรื่องผิดแต่อย่างใด (คุณไม่จำเป็นต้องทำมื้อเย็นเองทุกวัน และไม่จำเป็นต้องตกปากรับผิดชอบทุกโครงการในที่ทำงาน)
    • เรียนรู้ที่จะตอบ "ไม่" ถ้าคุณไม่อยากทำสิ่งนั้น คุณก็ไม่จำเป็นต้องทำทุกครั้งไป เช่น ถ้าเพื่อนชวนคุณไปงานปาร์ตี้ด้วยกัน แต่คุณไม่อยากไป ก็ตอบ "ไม่" ไปเลย หรืออาจจะบอกว่า "ไว้คราวหน้านะ" หรือถ้าพี่สาวอยากให้คุณช่วยดูแลลูกของเธอที่ชอบเอะอะโวยวายตลอดเวลา คุณก็ไม่จำเป็นต้องทำ แม้ว่า (และโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้า) พวกเขาพยายามทำให้คุณรู้สึกผิด
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • จงรักในทุกสิ่งที่คุณทำ เมื่อคุณแสดงออกและส่งมอบความรักผ่านการกระทำ การกระทำของคุณจะกลายเป็นเครื่องมือสอนและสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้อื่น และทำให้คุณเป็นผู้นำที่ดีได้ แทนที่จะเป็น "ตัวอย่างที่ไม่ดีให้กับผู้อื่น"
  • อย่าหวาดกลัวตัวเอง จงมีความมั่นใจและอย่าหมกหมุ่นกับตัวเองมากเกินไป
  • จำไว้ว่า เรื่องราวเมื่อวานผ่านพ้นไปแล้ว และถูกลืมไปแล้ว จงโฟกัสไปที่วันพรุ่งนี้ ด้วยการสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งในวันนี้ เพราะชีวิตก็เหมือนหน้าหนึ่งในหนังสือ คุณไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ขีดเขียนลงไปแล้วได้ แต่คุณสามารถทำให้ทุกหน้า "ดีขึ้น" ได้เสมอ
  • เป็นไปไม่ได้ที่ทุกคนจะชอบคุณ คุณต้องเรียนรู้ที่จะยอมรับสิ่งนี้ และอยู่กับคนที่ไม่สนใจคุณให้ได้ เพราะยังไงก็ต้องมีคนที่สนใจรอคุณอยู่
โฆษณา

คำเตือน

  • หลายคนคิดว่า ถ้าพวกเขาพยายามทำอะไรสักอย่างแล้วไม่ได้ผลในทันที แสดงว่ามันไม่มีทางได้ผล แต่ขอบอกเลยว่า ถ้าคุณอยากเปลี่ยนแปลงชีวิตจริงๆ ล่ะก็ คุณจะต้องทุ่มทุกสิ่งทุกอย่าง "ที่คุณมี" ลงไป
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

How.com.vn ไท: ทีมงานวิกิฮาว
ร่วมเขียน โดย:
นักเขียนในทีมวิกิฮาว
บทความนี้ร่วมเขียนโดยเหล่าบรรณาธิการและนักวิจัยที่ผ่านการฝึกฝนมาเพื่อความถูกต้องและครอบคลุมของเนื้อหา

ทีมผู้จัดการด้านเนื้อหาของวิกิฮาว จะตรวจตราผลงานจากทีมงานด้านเนื้อหาของเราเพื่อความมั่นใจว่าบทความทุกชิ้นได้มาตรฐานตามที่เราตั้งไว้ บทความนี้ถูกเข้าชม 5,537 ครั้ง
มีการเข้าถึงหน้านี้ 5,537 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

⚠️ Disclaimer:

Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.

Notices:
  • - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
  • - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
  • - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
  • - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.

โฆษณา