ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความ

การอ่านหนังสือนั้นเป็นอะไรที่มากกว่าแค่การอ่านออกเขียนได้เสียอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าต้องอ่านแล้ววิเคราะห์เนื้อหาด้วยแล้ว แค่อ่านออกเขียนได้คล่องไม่เพียงพอ ฉะนั้นในบทความนี้จะเสนอกลวิธีในการอ่านหนังสือเพื่อให้ผู้เริ่มต้นลองทำตามดู

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 3:

เตรียมความพร้อมและลงมืออ่าน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 เลือกหนังสือที่ต้องการอ่าน.
    ถ้าอยากอ่านหนังสือเพื่อความบันเทิง ก็อาจเลือกอ่านนวนิยายทั่วไปหรือหนังสือสารคดีก็ได้ มีหนังสือทั้งสองแบบนี้อยู่เยอะมากมายทีเดียว การเลือกหนังสือที่เหมาะกับตนเองจึงเป็นเรื่องท้าทาย วิธีเลือกหนังสืออย่างแรกเลยคือรู้ว่าตนเองชอบอะไรและไม่ชอบอะไร อย่าลืมว่าหนังสือนั้นมีมากมายหลายประเภท ตัวอย่างเช่น The Hunger Games (ชื่อภาษาไทยคือเกมล่าชีวิต) ซึ่งเขียนโดย Suzanne Collins เป็นนวนิยายแนวดีสโทเปีย Perfect ซึ่งเขียนโดย Natasha Friend เป็นนวนิยายจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง The Land of Stories (ชื่อภาษาไทยคือผจญภัยดินแดนเทพนิยาย) ซึ่งเขียนโดย Chris Colfer เป็นนวนิยายแนวแฟนตาซี Dragonwings ซึ่งเขียนโดย Laurence Yep เป็นนวนิยายอิงประวัติศาสตร์ เป็นต้น
    • การรู้จักรสนิยมส่วนตัวของตนเองก็ช่วยให้สามารถหาหนังสือที่ตนชื่นชอบได้ ถึงแม้จะมีใครมาพูดว่าหนังสือเล่มนี้สนุก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะอ่านหนังสือเล่มนั้นแล้วรู้สึกสนุกตามที่คนอื่นบอก บางคนชอบอ่านนวนิยายแฟนตาซี บางคนก็อาจไม่ชอบอ่านเลย ลองคิดสิว่าเราอยากได้ประสบการณ์แบบไหนตอนที่อ่านหนังสือ เราอยากได้เรื่องราวการผจญภัยที่ตื่นเต้นเร้าใจไหม ต้องการสำรวจความคิดต่างๆ ในสมองหรือเปล่า ต้องการเห็นการเดินทางชีวิตอันน่าประทับใจของตัวละครที่สมจริงไหม เราอยากอ่านหนังสือสักกี่หน้า อยากให้หนังสือเล่มนั้นมีความท้าทายอย่างไรบ้าง อยากให้หนังสือเล่มนั้นมีแนวคิดบางอย่างหรือไม่อยากให้เสนอแนวคิดบางอย่างไหม ตอบคำถามเหล่านี้ จะช่วยให้เราจำกัดขอบเขตของหนังสือลงได้
    • เราอาจจำกัดขอบเขตการเลือกหนังสือสารคดีได้ง่ายกว่านวนิยาย หนังสือสารคดีที่ได้รับความนิยมมากจะเป็นประวัติศาสตร์หรือชีวประวัติของบุคคลที่มีชื่อเสียง เราอยากรู้จักบุคคลที่มีชื่อเสียงท่านใดมากกว่านี้หรือเปล่า อยากรู้จักประเทศไหน สถานที่ใด เรื่องราวช่วงสงคราม หรือเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์มากยิ่งขึ้นหรือเปล่า อยากจะรู้เรื่องเกี่ยวกับมหาสมุทร ไดโนเสาร์ โจรสลัด หรือการเล่นมายากลมากว่านี้หรือเปล่า ไม่ว่าเราอยากรู้เรื่องอะไร หนังสือสารคดีมีให้เราอ่านทั้งนั้น
      • ถึงแม้เราจะเห็นหนังสือสารคดีเล่มหนึ่งน่าสนใจ แต่ก็ไม่จำเป็นต้องหมายความว่าเราชอบหนังสือเล่มนั้น หนังสือบางเล่มเขียนออกมาได้ดีและน่าสนใจ แต่หนังสือบางเล่มก็เขียนออกมาได้ไม่ดีนักและน่าเบื่อ ฉะนั้นถ้าเห็นว่าหนังสือสารคดีเล่มนั้นเป็นเรื่องที่ชอบ ให้ทดลองอ่านสองหน้าแรกก่อนเพื่อที่จะรู้ว่าตนเองชอบลีลาการเขียนของผู้เขียนไหม ถ้าเห็นว่าหนังสือเล่มนั้นอ่านยากหรือน่าเบื่อ เราก็ไม่ควรซื้อมาอ่าน
    • ไปห้องสมุด เราอาจไปค้นหาหนังสือที่ต้องการในห้องสมุดก็ได้ เพราะถ้าเราเจอเล่มที่ต้องการอ่าน เราก็จะไม่ต้องเสียเงินซื้อหนังสือเล่มนั้นมาอ่าน ลองสอบถามบรรณารักษ์ดูว่าเรื่องที่เราสนใจอยากอ่านนั้นอยู่ตรงไหน บรรณารักษ์จะได้แนะนำและนำทางให้เราไปหาหนังสือที่เราสนใจได้อย่างถูกต้อง
    • อย่าตัดสินหนังสือจากหน้าปก ชื่อเรื่องและภาพปกอาจดูไม่น่าสนใจหรือไม่ตรงกับรสนิยมของเรา แต่เนื้อหาที่อยู่ข้างในอาจสนุกสนานถูกใจเราเสียจนอยากติดตามอ่านจนจบ อย่างไรก็ตามหนังสืออาจไม่เป็นเช่นเดียวกับกรณีที่กล่าวมาเสมอไป ฉะนั้นเราจึงต้องเลือกให้ดี! อีกทั้งยังต้องดูความหนาของหนังสือด้วย ถ้าเรากำลังหาหนังสือที่อ่านจบได้อย่างรวดเร็ว หนังสือเล่มใหญ่ที่หนาและหนักก็ไม่น่าจะเหมาะสม ฉะนั้นเลือกหนังสือให้ตรงกับความต้องการของตน ถ้าเรากำลังเลือกซื้อหนังสือฝากใครสักคน คำนึงถึงอายุและความสนใจของผู้รับด้วย ถ้าเรากำลังเลือกซื้อหนังสือฝากเด็ก ก็ไม่ควรเลือกซื้อฟิฟตีเชดส์ออฟเกรย์ (Fifty Shades of Grey) หนังสือนวนิยายประเภทอีโรติกโรมานซ์ให้เด็กอ่าน
    • ขอให้บุคคลรอบข้างแนะนำหนังสือที่น่าสนใจ เพื่อนที่ดีและญาติสนิทอาจสามารถแนะนำหนังสือที่ตนเองเคยอ่านแล้วสนุกหรือคิดว่าเราอ่านแล้วจะรู้สึกสนุกให้แก่เราได้ ให้เลือกขอคำแนะนำจากบุคคลที่ชอบอ่านหนังสือประเภทเดียวกัน ตัวอย่างเช่น ถ้าเราชอบอ่านหนังสือเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ ก็ควรขอให้เพื่อนหรือญาติที่ชอบหนังสือแบบเดียวกันแนะนำหนังสือที่น่าสนใจให้
    • สืบค้นทางอินเตอร์เน็ต อินเตอร์เน็ตก็ถือเป็นแหล่งรวมคนรักหนังสือ คนกลุ่มนี้ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะแบ่งปันความคิดเห็นเกี่ยวกับหนังสือต่างๆ หาเว็บไซต์ที่สามารถพูดคุยเรื่องเกี่ยวกับหนังสือและค้นหาหัวข้อที่เราชอบหรือเพียงแค่เข้าไปเยี่ยมชมเว็บไซต์ขายหนังสือและค้นหาสิว่าผู้อ่านได้มารีวิวหนังสือแต่ละเล่มที่เราสนใจอย่างไรบ้าง การสืบค้นทางอินเตอร์เน็ตจะทำให้เรารู้ได้เร็วว่าหนังสือเล่มใดเป็นที่นิยมและชื่นชอบอ่านมากที่สุดในแต่ละประเภท
    • เข้ากลุ่มคนรักหนังสือและการอ่าน กลุ่มคนรักหนังสือและการอ่านอาจช่วยแนะนำหนังสือและแจ้งข่าวสารหนังสือใหม่ให้เราทราบได้
      • คนรักหนังสือและการอ่านอาจมีกลุ่มเฉพาะไปตามประเภทหนังสือที่คนกลุ่มนั้นสนใจ เช่น กลุ่มคนรักนิยายวิทยาศาสตร์หรือกลุ่มคนรักนิยายรัก แต่บางกลุ่มก็จะเป็นกลุ่มที่ไม่เน้นอ่านประเภทใดประเภทหนึ่งเป็นพิเศษ
      • จะลองไปค้นหาหนังสือที่สนใจที่งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติก็ได้
      • นักเขียนหนังสือสารคดีบางท่านอาจมาบรรยายหรือเป็นแขกรับเชิญในการบรรยายตามมหาวิทยาลัยต่างๆ ลองเข้าไปฟังดูเพื่อที่จะได้รู้ว่าหนังสือที่นักเขียนเหล่านั้นเขียนเป็นหนังสือที่เราอยากอ่านหรือเปล่า รวมทั้งจะได้ใช้โอกาสนี้เรียนรู้อะไรที่น่าสนใจด้วย หนังสือบางเล่มจะมีการอธิบายโดยย่อ ฉะนั้นอย่าเพิ่งเบื่อหลังจากอ่านไปสองสามหน้าแรก พึงระลึกไว้ว่าความรู้ที่ได้จากการอ่านมีประโยชน์เสมอ
  2. How.com.vn ไท: Step 2 ได้หนังสือที่อยากอ่าน.
    วิธีการได้หนังสือที่ต้องการมีดังต้อไปนี้
    • ยืมจากห้องสมุด การยืมหนังสือจากห้องสมุดนั้นง่ายและทำให้เราได้อ่านหนังสือโดยไม่ต้องเสียเงินซื้อ ถ้าเรายังไม่ได้เป็นสมาชิกของห้องสมุด ก็ให้ไปสมัครสมาชิกเสีย
      • ห้องสมุดหลายแห่งมีระบบจองหนังสือล่วงหน้าผ่านทางอินเตอร์เน็ตได้ ถ้าหนังสือที่เราต้องการมีอยู่ในห้องสมุด ระบบก็จะแจ้งให้เราทราบ เราก็จะยืมหนังสือเล่มนั้นได้
      • ถ้าหนังสือที่เราต้องการนั้นเป็นที่นิยมมาก ก็อาจไม่มีให้ยืมอ่านในตอนนั้นและต้องรอไปหลายสัปดาห์หรือหลายเดือนกว่าจะได้หนังสือเล่มนั้นมาอ่าน
    • ซื้อหนังสือ ไปที่ร้านหนังสือหรือแผงขายหนังสือแล้วเลือกซื้อหนังสือที่ตนต้องการเพื่อจะได้นำมาเก็บไว้และอ่านเมื่อไรก็ตามที่ต้องการ การซื้อหนังสือเป็นของตนเองนั้นมีข้อดีคือเราจะได้หนังสือที่ต้องการตอนนั้นเลยและสามารถอ่านเมื่อไรก็ได้ ข้อเสียคือเราต้องเสียเงินซื้อ
      • เมื่อเราต้องเสียเงินซื้อหนังสือ เราก็ต้องเลือกหนังสืออย่างพิถีพิถันและทดลองอ่านสักสองสามหน้าก่อน จะได้รู้ว่าตนเองชอบลีลาการเขียนของผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ไหม แล้วค่อยตัดสินใจซื้อไปอ่านต่อที่บ้าน
    • ขอยืมหนังสือของผู้อื่นอ่าน เพื่อนและญาติที่แนะนำหนังสือให้เรามักจะมีหนังสือเล่มนั้นเป็นของตนเองและยินดีที่จะให้เรายืมอ่านจนกว่าจะอ่านจบแล้วค่อยนำมาคืนพวกเขา
      • ดูแลหนังสือทุกเล่มที่ยืมเป็นอย่างดีและอ่านให้จบตามสมควรแก่เวลา เราจะได้ไม่ลืมคืนหนังสือเหล่านั้นและปล่อยให้ฝุ่นจับอยู่บนชั้นหนังสือ
    • สั่งซื้อหนังสือทางอินเตอร์เน็ต เมื่อมีเครื่องสำหรับอ่านหนังสือแบบพกพาและสมาร์ตโฟนวางขายตลอดหลายปีมานี้ หนังสือก็เริ่มมีการตีพิมพ์ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น ฉะนั้นการมีโทรศัพท์มือถือ คินเดิล แท็บเล็ต หรือไอพอดจึงทำให้เราสามารถพกหนังสือไปอ่านได้ทุกที่
      • ราคาหนังสือแบบอิเล็กทรอนิกส์โดยปกติมักจะถูกกว่าราคาหนังสือแบบเล่ม ฉะนั้นถ้าเรามีเครื่องอ่านหนังสือแล้ว การซื้อหนังสือแบบแรกจะประหยัดเงินมากกว่า อย่าซื้อหนังสือมาเยอะเกินไป ถ้าหากรู้ว่าตนเองจะอ่านได้ไม่หมด ยังมีแอปพลิเคชั่นที่ใช้อ่านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ได้ เช่น Kindle และ iBooks ซึ่งเป็นวอร์ชั่นใหม่ของ iProduct
      • หลังจากซื้อแล้วหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ก็จะเป็นของเราเหมือนกับการซื้อหนังสือเล่ม ข้อเสียของหนังสืออิเล็กทรอนิกส์คือเราไม่สามารถเอาไปบริจาคให้ผู้อื่นได้เพราะหนังสือนั้นถูกติดตั้งไว้ในอุปกรณ์ของเราแล้ว
      • พึงระลึกไว้ว่าหนังสืออิเล็กทรอนิกส์นั้นนำติดตัวไปท่องเที่ยวระยะยาวหรือตั้งแคมป์ได้ลำบากกว่าหนังสือเล่ม
  3. How.com.vn ไท: Step 3 อ่านหนังสือ.
    หาที่ซึ่งสามารถนั่งได้สบาย มีแสงสว่างเพียงพอ และพลิกเปิดหน้าปก เริ่มอ่านตั้งแต่ต้นซึ่งโดยปกติจะเป็นบทแรกหรือส่วนประกอบตอนต้น ค่อยๆ อ่านไปแต่ละหน้าจนกระทั่งอ่านจบ ถ้ามีส่วนประกอบตอนท้าย รออ่านเนื้อหาให้จบทั้งหมดก่อน จึงค่อยไปอ่านส่วนประกอบตอนท้าย
    • ใคร่ครวญว่าจะอ่านหรือไม่อ่านส่วนประกอบตอนต้น ส่วนประกอบตอนต้นจะอยู่ส่วนแรกของหนังสือแต่ยังไม่ใช่บทแรก ส่วนนี้จะมีสี่แบบและแต่ละแบบจะมีจุดประสงค์ในการเขียนต่างกัน เราจะอ่านส่วนประกอบตอนต้นนี้หรือไม่ก็ได้ โดยสี่แบบดังกล่าวมีดังนี้
      • ประกาศคุณูปการหรือกิตติกรรมประกาศ คือส่วนที่ให้รายชื่อบุคคลซึ่งช่วยเหลือผู้เขียนในช่วงที่กำลังเขียนหนังสือเล่มนั้นอยู่ จะอ่านประกาศคุณูปการหรือกิตติกรรมประกาศก็ได้ ถ้าอยากอ่าน แต่คนส่วนใหญ่จะข้ามอ่านเนื้อหาตรงนี้ บางครั้งประกาศคุณูปการหรือกิตติกรรมประกาศก็ไปปรากฏอยู่ส่วนประกอบตอนท้ายของหนังสือ
      • คำนิยม คำนิยมจะถูกเขียนขึ้นมาโดยนักเขียนท่านอื่นมากกว่าผู้เขียนหนังสือเล่มนั้น ฉะนั้นคำนิยมจึงมักปรากฏในหนังสือที่ทรงอิทธิพลในอดีต เช่น หนังสือชนะรางวัล หรืองานเขียนทางวิทยาศาสตร์ที่สำคัญแต่เป็นฉบับที่ตีพิมพ์ครั้งหลังๆ คำนิยมจะบอกว่าเราจะได้อะไรจากหนังสือเล่มนี้และทำไมหนังสือเล่มนี้ถึงคุ้มค่าต่อการอ่าน
      • คำนำ คำนำจะเขียนขึ้นมาโดยผู้เขียนหนังสือเล่มนั้น มักจะมีเนื้อหาสั้นกว่าคำนิยม (ไม่เสมอไป) และโดยทั่วไปจะกล่าวถึงว่าตนเองนั้นเขียนหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาอย่างไรและทำไม ถ้าเราสนใจชีวิตส่วนตัวของผู้เขียนหรือขั้นตอนการสร้างสรรค์ผลงาน คำนำอาจช่วยให้เรารู้จักนักเขียนหนังสือเล่มนี้ได้มากขึ้น
      • บทนำ บทนำคือส่วนที่ผู้เขียนกล่าวต่อผู้อ่านโดยตรงและแนะนำให้รู้จักหนังสือเล่มดังกล่าว บอกจุดมุ่งหมายของหนังสือเล่มนี้และกระตุ้นให้ผู้อ่านมีความกระตือรือร้นอยากอ่าน เราจะพบบทนำในหนังสือสารคดีมากกว่าหนังสือนวนิยาย ถ้าเราแทบจะไม่รู้จักอะไรในหนังสือเล่มนั้นเลย ลองอ่านบทนำของผู้เขียนดู อาจรู้อะไรเกี่ยวกับหนังสือเล่มนั้นมากขึ้น
    • ตัดสินใจว่าจะอ่านส่วนประกอบตอนท้ายหรือไม่ ส่วนประกอบตอนท้ายจะเป็นส่วนที่เขียนโดยนักเขียนท่านอื่น อยู่หลังจากเนื้อหาหลัก
      • ส่วนประกอบตอนท้ายมักจะประกอบด้วยความเรียงหรือบทบรรณาธิการ แต่มักจะไม่พบส่วนประกอบนี้นอกจากในหนังสือที่มีชื่อเสียงบางเล่มซึ่งทำออกมาในรูปแบบ “study editions” เช่น The Grapes of Wrath (ชื่อภาษาไทยคือผลพวงแห่งความคับแค้น) เขียนโดย John Steinbeck
      • ส่วนประกอบตอนท้ายเหมือนกับส่วนประกอบต้อนต้นคือจะอ่านหรือไม่อ่านก็ได้
      • ถ้าเราอ่านหนังสือเล่มหนึ่งแล้วรู้สึกสนุกมาก การอ่านส่วนประกอบตอนท้ายอาจช่วยให้เราได้ทบทวนเนื้อต่างๆ ที่ผ่านมาอีกครั้ง ถ้าเรายังไม่เข้าใจความสำคัญของหนังสือเล่มนี้ ส่วนประกอบตอนท้ายจะให้บริบททางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม แต่คนส่วนใหญ่จะไม่อ่าน
  4. How.com.vn ไท: Step 4 มีกำหนดเวลาในการอ่าน.
    การอ่านหนังสือดีๆ สักเล่มเป็นประสบการณ์ที่น่าเพลิดเพลินจนอาจทำให้เราลืมเวลา ฉะนั้นเมื่ออ่านจนถึงเวลาที่กำหนด คั่นหน้าที่อ่านค้างแล้วพักการอ่านไว้ก่อน อย่าใช้เวลาอ่านหนังสือนานเกินไปและอย่าอ่านรวดเดียวจบ (ใช้มือถือหรือนาฬิกาตั้งเวลาก็ได้) การพักบ้างจะทำให้เรามีเวลาสนุกกับหนังสือเล่มนั้นนานขึ้นและอ่านจบตามกำหนดเวลาอันเหมาะสมหรือไม่พลาดการทำหน้าที่อื่นๆ เพราะมัวอ่านหนังสือจนลืมเวลา
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 3:

อ่านหนังสือที่เป็นร้อยแก้วหรือบทกวี

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 อ่านสารบัญและดรรชนี.
    หนังสือโดยส่วนใหญ่ที่มีเนื้อหาย่อยมากมายจะมีสารบัญที่ชัดเจนเพื่อช่วยให้เราเข้าสู่หัวข้อที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว หนังสือบางเล่มยังมีดรรชนีท้ายเล่มด้วย เราจะสามารถค้นหาเนื้อหาที่ต้องการจากรายการคำสำคัญและคำศัพท์ที่สำคัญอื่นๆ พร้อมกับหมายเลขหน้าที่คำคำนั้นอยู่
    • วิธีเข้าถึงเนื้อหาที่ต้องการของบทกวีหรือร้อยแก้วอย่างรวดเร็วอีกวิธีคือเลือกดูเนื้อหาส่วนที่น่าสนใจก่อนและพลิกหน้าไปอ่านเนื้อหาส่วนนั้น แทนการเลือกอ่านตั้งแต่ต้น อ่านเนื้อหาตรงส่วนที่สนใจก่อนแล้วลองใคร่ครวญสิว่าตนเองรู้สึกอย่างไร จากนั้นปรับวิธีอ่านเนื้อหาให้เป็นอ่านตามความชอบและเก็บเนื้อหาส่วนที่น่าเบื่อและอ่านไม่สนุกเท่าไรไว้อ่านภายหลัง
  2. How.com.vn ไท: Step 2 ข้ามไปอ่านตรงส่วนที่สนใจก่อน.
    นอกจากหนังสือบทกวียาวๆ แล้ว (อย่างเช่น Paterson แต่งโดย William Carlos Williams หรือ Iliad แต่งโดย Homer) งานเขียนสั้นๆ ส่วนมากสามารถอ่านตามใจเราได้ ให้อ่านคร่าวๆ และพลิกหน้า พอพบเนื้อหาที่เราสนใจแล้วค่อยหยุดอ่าน
    • สร้างประสบการณ์การอ่านในแบบฉบับของตนเอง อ่านหนังสือโดยใช้วิธีการอ่านอันเป็นแบบฉบับของตนเองแทนการพยายามอ่านไปทีละหน้า เราจะประหลาดใจและรู้สึกสนุกทุกครั้งที่อ่าน ไม่ต้องฝืนอ่านเรื่องต่างๆ ที่ตนเองไม่สนใจและไม่ต้องอดทนรอให้อ่านถึงเนื้อหาส่วนที่ต้องการ
    • ตั้งใจอ่านไปเรื่อยๆ เมื่อเราเริ่มคุ้นเคยกับเนื้อหาของหนังสือแล้ว บางเรื่องที่เราไม่ค่อยเข้าใจ ก็จะเริ่มกระจ่างและเริ่มน่าสนใจ ฉะนั้นเราจึงมีอะไรใหม่ๆ ให้อ่านอยู่เสมอ
  3. How.com.vn ไท: Step 3 สร้างแรงจูงใจให้อยากกลับมาอ่านซ้ำอีก.
    ใช้ข้อความในหนังสือเล่มนั้นมาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตด้วยการเน้นข้อความส่วนที่เราชื่นชอบ เราจะชอบข้อความเหล่านั้นมากขึ้นถ้าพยายามตีความข้อความเหล่านั้นไปในทางเสียดสีเพื่อสร้างความตลกขบขัน หรือนำข้อความเหล่านั้นมาเรียงตามลำดับก่อนหลัง
    • ติดตามสิ่งที่เราอ่าน เขียนเลขหน้าหรือชื่อผู้เขียนที่เราชื่นชอบเป็นพิเศษ เราจะได้กลับมาอ่านทวนอีกครั้งได้ง่ายในคราวหน้า
    • ใช้ดินสอทำเครื่องหมาย ถ้าเราเป็นเจ้าของหนังสือ อาจใช้ดินสอขีดเส้นใต้บรรทัดหรือคำที่เราเห็นว่าน่าสนใจก็ได้
    โฆษณา
ส่วน 3
ส่วน 3 ของ 3:

อ่านตำราเรียน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 จดโน้ต.
    ตำราเรียนก็เป็นหนังสือที่อ่านเพื่อความเพลิดเพลินได้ แต่ในความเป็นจริงไม่มีใครอ่านหนังสือประเภทนนี้เพื่อความบันเทิงทำเท่าไรนัก ผู้คนส่วนใหญ่อ่านตำราเรียนเพราะต้องการข้อมูลและตำราเรียนก็เป็นแหล่งข้อมูลชั้นเยี่ยมในหลายหัวข้อ เพราะมีเนื้อหาที่เข้มข้นและมีการจัดเรียงเนื้อหาอย่างเป็นระบบระเบียบ ถ้าอยากได้ข้อมูลจากตำราเรียนให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เตรียมสมุดพกไว้จดตอนอ่านด้วย
    • อ่านทีละย่อหน้า. อ่านทีละหนึ่งย่อหน้า จากนั้นหยุดและจดลงไปว่าย่อหน้านั้นบอกเรื่องอะไรบ้าง พยายามเขียนเป็นวลีหนึ่งถึงสองวลีหรือเขียนเป็นประโยคหนึ่งถึงสองประโยค
    • อ่านทบทวนเนื้อหาที่จดไว้ พออ่านจบ เราก็จะมีสำเนาส่วนตัวที่มีข้อมูลทุกอย่างที่ตนเองต้องการอยู่ในนั้น อ่านเนื้อหาที่จดไว้อีกครั้งเพื่อให้มั่นใจว่าเราเข้าใจทุกอย่าง
  2. How.com.vn ไท: Step 2 อ่านให้จบเป็นบทๆ ไป.
    ส่วนใหญ่แล้วเราไม่จำเป็นต้องอ่านตำราตั้งแต่ต้นจนจบ แต่การอ่านข้ามจากเนื้อหาตอนหนึ่งไปอีกตอนหนึ่งก็ไม่มีประโยชน์มานักเช่นกัน ฉะนั้นทุกครั้งที่ต้องอ่านแม้แต่เนื้อหาตอนหนึ่งของบทนั้น ควรอ่านบทนั้นให้จบทั้งบทไปจะดีกว่า
    • ทำความเข้าใจเนื้อหาที่อ่าน การอ่านทั้งบทโดยเรียงตามลำดับเนื้อหาจะทำให้เราได้นำข้อมูลที่ต้องการมาเรียบเรียงใหม่ในแบบของตนเอง จึงทำให้สามารถเข้าใจเนื้อหาได้ง่ายขึ้นและจดจำได้ง่ายขึ้น
    • อ่านทวนอีกครั้ง ไม่จำเป็นต้องอ่านหมดทั้งบทใหม่อีกครั้งหลังจากอ่านจบรอบแรกไปแล้ว ให้เลือกอ่านเนื้อหาเฉพาะส่วนที่คิดว่าจำเป็น
  3. How.com.vn ไท: Step 3 อ่านทุกวัน.
    ถ้าต้องอ่านตำราเรียนเพื่อเตรียมตัวสอบวิชาใดวิชาหนึ่ง อย่าลืมว่าตำราเรียนนั้นมีเนื้อหาให้อ่านมากมายฉะนั้นวิธีอ่านที่ดีที่สุดคือต้องเริ่มอ่านตั้งแต่เนิ่นๆ และพยายามอ่านให้ได้ทุกวันเพื่อจะได้สามารถอ่านจบทันเวลา
    • กำหนดวันอ่านตำราเรียน กำหนดให้มีวันอ่านตำราเรียนอย่างน้อยสองสามวันต่อสัปดาห์และทำตามตารางการอ่านที่กำหนดไว้ เพราะจะง่ายกว่าการพยายามคร่ำเคร่งอ่านหนังสือก่อนสอบมาก
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • ถ้าอยากมีคนอ่านหนังสือให้ฟังมากกว่าอ่านหนังสือเอง หนังสือเสียงก็อาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมมากกว่า หนังสือเสียงคือเสียงอ่านหนังสือต่างๆ ที่บันทึกไว้เพื่อใช้ฟัง หนังสือเสียงก็อาจเป็นตัวเลือกหนึ่งของการอ่านหนังสือ ถ้าเราอยากสนุกกับเรื่องราวต่างๆ จากหนังสือในช่วงเดินทางอันยาวนานประจำวันหรือขณะอยู่ในการจราจรที่ติดขัด
  • ถ้าอ่านตำราเรียน ศึกษาแนวคิด หลัก กฎ และเรื่องอื่นๆ ให้เข้าใจด้วย
  • ถ้าหากซื้อหนังสือมาแล้วไม่แน่ใจว่าชอบหนังสือเล่มนั้นหรือเปล่า ให้โอกาสตนเองได้ลองอ่านดู เมื่ออ่านแล้ว อาจเริ่มชอบก็ได้ แต่ถ้าอ่านไปสามสิบหน้าหรือสองสามบทแล้วยังไม่ชอบอยู่ดี จะเลิกอ่านก็ได้
  • ถ้าเราชอบนวนิยายลึกลับ ระทึกขวัญ เวทมนตร์ พิศวง ไตรภาค หรือเขียนจากเรื่องจริง ลองผ่อนคลาย หลับตา และจินตนาการว่าตนเองอยู่ในเรื่องราวเหล่านั้น
  • ลองอ่านหนังสือหลากหลายประเภท เราอาจพบหนังสือประเภทที่ตนเองชอบจริงๆ ก็ได้
  • เมื่ออ่านหนังสือเล่มใดก็ตาม ควรพยายามอ่านให้เข้าใจ นึกภาพให้ออก และลองเอาตนเองเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์ของหนังสือเล่มนั้นดู
โฆษณา

คำเตือน

  • อ่านหนังสือเมื่อพร้อม ถ้าเรากำลังวุ่นวายใจ โกรธ หรือกังวลมากตอนนั้น เราจะไม่สามารถจดจ่อกับเนื้อหาและได้อะไรจากการอ่านมากนักและพอวันต่อมาอาจจำเนื้อหาในหนังสือไม่ได้เลย
  • อย่าลืมวันกำหนดยืมคืนหนังสือ คืนหรือยืมใหม่ตามกำหนดเวลาเพื่อจะได้ไม่ต้องเสียค่าปรับ (ถ้าต้องการอ่านหนังสือที่เขียนโดยนักเขียนในดวงใจ ให้จดไว้ในลำดับแรกของรายการหนังสือที่ต้องการยืม! )
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

วิกิฮาวเป็น "wiki" ซึ่งหมายความว่าบทความหลายๆ บทความของเรานั้นเป็นการร่วมมือกันเขียนของผู้เขียนหลายคน ในการเขียนบทความชิ้นนี้ ผู้คน 148 คน ซึ่งบางคนไม่ขอเปิดเผยตัว ได้ร่วมกันเขียนและปรับปรุงเนื้อหาของบทความอย่างต่อเนื่อง บทความนี้ถูกเข้าชม 15,386 ครั้ง
มีการเข้าถึงหน้านี้ 15,386 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

⚠️ Disclaimer:

Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.

Notices:
  • - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
  • - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
  • - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
  • - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.

โฆษณา