วิธีการ สั่งเครื่องดื่มที่สตาร์บัคส์

ดาวน์โหลดบทความ

ดาวน์โหลดบทความ

ภายในบทความนี้:

ออกแบบเครื่องดื่ม

เลือกเครื่องดื่ม

บทความที่เกี่ยวข้อง

ข้ออ้างอิง

การสั่งเครื่องดื่มที่ร้านกาแฟสตาร์บัคส์อาจดูเป็นเรื่องน่ากลัวสำหรับคนที่ไม่ใช่คอกาแฟหรือขาประจำร้าน แต่ถ้าเข้าใจพื้นฐานการทำกาแฟแล้วล่ะก็ การสั่งเครื่องดื่มที่สตาร์บัคส์จะกลายเป็นเรื่องง่ายนิดเดียว

ขั้นตอน

ส่วน 1

ส่วน 1 ของ 2:

ออกแบบเครื่องดื่ม

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   พิจารณาสิ่งที่ชอบ. หากต้องสั่งเครื่องดื่มที่ช่วยให้คุณรู้สึกเพลิดเพลินแล้วล่ะก็ การสั่งตามความชอบจึงเป็นสิ่งสำคัญ การสั่งเครื่องดื่มที่สตาร์บัคส์ไม่ได้หมายความว่าจะต้องสั่งแต่กาแฟเท่านั้น ความจริงแล้วที่สตาร์บัคส์มีเครื่องดื่มมากมายให้คุณเลือก ทั้งชา สมูทตี้ และช็อกโกแลตร้อน ลองพิจารณาสภาพอากาศและอุณหภูมิเพื่อช่วยตัดสินใจว่าเครื่องดื่มแบบไหนเหมาะกับคุณ

   • ถ้าไม่แน่ใจว่าเครื่องดื่มใดเหมาะกับคุณ อย่ากลัวที่จะขอคำแนะนำหรือความช่วยเหลือจากบาริสต้า เพราะพวกเขาสามารถช่วยเลือกเครื่องดื่มตามความชอบของคุณได้
   • อย่าลืมคำนึงว่าคุณชอบเครื่องดื่มร้อน เย็น หรือผสม รวมถึงความหวานและปริมาณคาเฟอีน
2. 
   2
   เลือกขนาด. เป็นที่รู้กันว่าสตาร์บัคส์มีวิธีการเรียกขนาดแบบเฉพาะของตัวเอง แต่อย่าเพิ่งกังวลไป การเลือกขนาดเครื่องดื่มนั้นง่ายนิดเดียว “ทอลล์” มีปริมาณเท่ากับ 12 ออนซ์ (355 มิลลิลิตร) “แกรนเด” เท่ากับ 16 ออนซ์ (473 มิลลิลิตร) “เวนติ” เท่ากับ 20 ออนซ์ (591 มิลลิลิตร) เมื่อเป็นเครื่องดื่มร้อน และเท่ากับ 26 ออนซ์ (769 มิลลิลิตร) เมื่อเป็นเครื่องดื่มเย็น ร้านสตาร์บัคส์บางแห่งมีขนาดเล็ก “ช็อร์ต” ซึ่งเท่ากับ 8 ออนซ์ (237 มิลลิลิตร) หรือขนาดใหญ่ “เทรนตา” ซึ่งเท่ากับ 31 ออนซ์ (917 มิลลิลิตร)

   • ขนาด “ทอลล์” มักหมายถึงการใส่กาแฟเอสเปรสโซ่ 1 ช็อต ส่วน “แกรนเด” ใส่ 2 ช็อต และ “เวนติ” ใส่ 2 ช็อตเช่นกัน เว้นแต่ว่าเป็นเครื่องดื่มเย็นซึ่งใส่ 3 ช็อต
   • ถ้าต้องการเพิ่มจำนวนช็อตของเอสเปรสโซ่ที่มากับขนาดเครื่องดื่มอยู่แล้ว ให้บอกบาริสต้าเพื่อขอเพิ่มช็อต ซึ่งคุณจะถูกคิดเงินเพิ่มแต่คุณจะได้ปริมาณเอสเปรสโซ่ตามที่คุณต้องการโดยไม่ต้องเพิ่มขนาดเครื่องดื่ม
3. 
   3
   เพิ่มรสชาติ. ไม่ว่าคุณจะสั่งชา กาแฟ หรือเครื่องดื่มแบบไหน คุณสามารถเติมน้ำตาลหรือไซรัปได้เสมอ โดยปกติจะเพิ่มรสชาติโดยการกดไซรัป 2 ครั้ง ดังนั้นถ้าคุณต้องการให้เครื่องดื่มของคุณหวานมากขึ้นสามารถบอกกับบาริสต้าและเตรียมสตางค์ได้เลย แม้การเติมไซรัปนั้นไม่ฟรีแต่น้ำตาลสามารถเติมได้ฟรีตลอด

   • ถ้าไม่แน่ใจว่าคุณอยากเพิ่มรสไหน ลองขอเมนูและถามบาริสต้าเกี่ยวกับรสยอดนิยมดู คุณไม่จำเป็นต้องสั่งแต่ “น้ำตาล” หรือ “ไม่มีน้ำตาล” เท่านั้นเพราะสตาร์บัคส์มีตัวเลือกให้คุณมากมาย
   • ไซรัปที่เป็นที่นิยมมากที่สุดคือไซรัปรสวานิลลา คาราเมล และฮาเซลนัท ซึ่งสามารถสั่งแบบไม่มีน้ำตาลได้ ถ้าคุณอยากรักษาสุขภาพสักนิดให้สั่งน้ำเชื่อมแบบไม่มีน้ำตาล
   • ขณะสั่งเครื่องดื่มลองถามบาริสต้าเกี่ยวกับรสที่มีตามฤดูกาล เพราะไซรัปรสพิเศษมีให้คุณได้ลองตลอดช่วงต่างๆ ของปี ในฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวจะมีรสฟักทอง ส่วนในฤดูร้อนรสมะพร้าวมักจะมีขายในบางแห่ง
4. 
   4
   เลือกเบส. เครื่องดื่มบางชนิดมีเบสที่ทำจากนมและบางชนิดทำจากน้ำ ถ้าคุณชอบแบบไหนให้บอกกับบาริสต้าขณะสั่ง ปกติแล้วสำหรับนมจะมีตัวเลือกคือ น็อนแฟ็ท (ไม่มีไขมัน) นมไขมัน 2 เปอร์เซ็นต์ นมถั่วเหลือง และฮาล์ฟแอนด์ฮาล์ฟ ร้านสตาร์บัคส์บางแห่งมีนมแบบพิเศษ เช่น อัลมอนด์หรือกะทิ

   • คุณสามารถสั่งเครื่องดื่มร้อน เย็น หรือผสมได้ตามต้องการ แต่ถ้าคุณเปลี่ยนชนิดเครื่องดื่มก็ควรจะเปลี่ยนเบสด้วย เช่น กาแฟผสมควรเลือกเบสที่ทำจากนมมากกว่าน้ำเพื่อคงความเข้มข้น
   • นมที่เดือดจะฟูเป็นเนื้อโฟม ซึ่งก็คือฟองนมที่พบได้บนหน้าเครื่องดื่ม ถ้าคุณเป็นคนชอบฟองนม สามารถสั่งฟองนมเพิ่มได้แต่ถ้าไม่ คุณก็สามารถสั่งโดยไม่รับฟองนมได้เช่นกัน
5. 
   5
   พิจารณาปริมาณคาเฟอีน. เอสเปรสโซ่และกาแฟทั่วไปต่างก็มีกาเฟอีนเช่นเดียวกันกับชาเขียวและชาดำ ถ้าคุณต้องการคาเฟอีนน้อยให้สั่ง “ฮาล์ฟ-แคฟ” (คาเฟอีนครึ่งเดียวจากปริมาณปกติ) หรือ “ดีแคฟ” (ไม่มีคาเฟอีน) แต่ถ้าคุณกำลังต้องการพลังงานจากเครื่องดื่ม สามารถสั่งเพิ่มช็อตกาแฟได้
   โฆษณา

ส่วน 2

ส่วน 2 ของ 2:

เลือกเครื่องดื่ม

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   สั่งกาแฟชง. กาแฟชงจะเป็นเหมือนกาแฟดริป (การชงกาแฟด้วยเครื่องชงกาแฟโดยให้น้ำร้อนไหลผ่านกากกาแฟและตัวกรอง) ที่คุณชงเองที่บ้านแต่มีรสชาติหลากหลายมากกว่า สตาร์บัคส์หลายแห่งชงกาแฟหลายแบบในแต่ละวัน ดังนั้นคุณจะได้ลิ้มรสต่างๆ ของการคั่วและผสมกาแฟต่างชนิด กาแฟชงเป็นเมนูที่ราคาถูกและชงง่ายที่สุด
2. 
   2
   ลองลาเต้. ลาเต้เป็นเครื่องดื่มที่ทำจากเอสเปรสโซ่ผสมกับนมร้อน คุณสามารถเพิ่มรสชาติต่างๆ ให้กับกาแฟลาเต้ได้รวมถึงชนิดของนม นอกจากนี้คุณยังสามารถลาเต้สั่งได้ทั้งแบบร้อนและแบบเย็น
3. 
   3
   ลองอเมริกาโน่. อเมริกันโน่เป็นหนึ่งในเครื่องดื่มยอดนิยมของคอกาแฟด้วยรสเข้มของเอสเปรสโซ่ อเมริกาโน่ประกอบด้วยเอสเปรสโซ่และน้ำเท่านั้น และมีจำนวนช็อตกาแฟมากกว่าเครื่องดื่มอื่นๆ อยู่หนึ่งช็อต คุณสามารถเติมน้ำตาล ครีมและรสชาติอื่นๆ ได้เหมือนกับกาแฟทั่วไป
4. 
   4
   ลองคาปูชิโน่. คาปูชิโน่นั้นคล้ายกับกาแฟลาเต้เพราะประกอบด้วยนมร้อนและเอสเปรสโซ่เหมือนกัน แต่คาปูชิโน่จะประกอบด้วยฟองนมมากกว่าซึ่งหมายความว่าเครื่องดื่มของคุณจะมีเนื้อนุ่มฟูและเบามากกว่าเป็นน้ำเหลว เวลาสั่งคาปูชิโน่คุณสามารถสั่งแบบ “เว็ท” (ไม่มีฟองนมเยอะ) หรือ “ดราย” (มีแต่ฟองนม) คุณเติมรสชาติอื่นๆ หรือน้ำตาลได้ชอบ
5. 
   5
   สั่งคาราเมลมัคคิอาโต้. มัคคิอาโต้เป็นคำภาษาอิตาเลี่ยนแปลว่า “ทำเครื่องหมาย” ซึ่งในที่นี้หมายถึงการราดเอสเปรสโซ่ไว้ด้านบน (เป็นเครื่องหมาย) แทนการผสมไปกับส่วนผสมอื่นในเครื่องดื่ม คาราเมลมัคคิอาโต้ประกอบด้วยไซรัปวานิลลา นมร้อนและฟองนม เอสเปรสโซ่ และคาราเมลดริซเซิล (คาราเมลราดบนหน้าเครื่องดื่ม)
6. 
   6
   สั่งม็อคค่า. ม็อคค่าก็คือกาแฟลาเต้ (นมและเอสเปรสโซ่) ที่เติมช็อกโกแลต ม็อคค่ามีให้เลือกสองแบบคือมิลค์ช็อกโกแลต (ช็อกโกแลตนม) และไวท์ช็อกโกแลต (ช็อกโกแลตขาว) แบบแรกนั้นจะเข้มข้นกว่าในขณะที่แบบหลังจะหวานกว่า ม็อคค่ามักจะไม่ใส่ฟองนมแต่ถ้าคุณอยากลองสามารถสั่งแบบเติมฟองนมบนหน้าเครื่องดื่มได้
7. 
   7
   ลองเอสเปรสโซ่แบบพิเศษ. ถ้าคุณเป็นคอเอสเปรสโซ่ตัวจริง ลองสั่งแบบยังไม่ผสมดูสิ! สั่งเอสเปรสโซ่แบบหนึ่งหรือสองช็อตแล้วเติมอย่างด้วยตัวคุณเองอื่นตามชอบ โดยปกติช็อตเอสเปรสโซ่จะเสิร์ฟในรูปแบบมัคคิอาโต้ที่มาพร้อมกับฟองนมหรือแบบ “กอน ปานน่า” ที่มาพร้อมกับวิปครีม
8. 
   8
   สั่งชา. ถ้าคุณไม่ใช่คนรักกาแฟสามารถลองสั่งชาจากตัวเลือกมากมายที่มีให้บริการ ส่วนใหญ่แล้วชาจะชงด้วยน้ำร้อนแต่ก็มีชาลาเต้ที่ผสมนม เช่น ชาอินเดีย “ไช” (ชาใส่ซินนามอน) และ “ลอนดอน ฟอก” (ชาวานิลลาและชาดำเอิร์ลเกรย์ผสมกัน) เป็นต้น คุณสามารถสั่งชาชนิดใดก็ได้ไม่ว่าแบบผสมนมหรือน้ำ แบบร้อนหรือเย็น
9. 
   9
   สั่งแฟรปปูชิโน่. แฟรปปูชิโน่เป็นเครื่องดื่มแบบผสมซึ่งปกติจะเป็นกาแฟ สตาร์บัคส์มีเมนูแฟรปปูชิโน่ให้เลือกหลากหลาย คุณสามารถสอบถามบาริสต้าได้ว่ามีแฟรปปูชิโน่แบบใดบ้างหากไม่มีบนเมนู แฟรปปูชิโน่บางเมนู เช่น สตรอว์เบอร์รี่แอนด์ครีมจะไม่ผสมกาแฟ แต่จะมาพร้อมกับวิปครีมและช็อกโกแลตหรือคาราเมลดริซเซิล
10. 
    10
    ลองเครื่องดื่มอื่นๆ ที่ไม่ใช่กาแฟ. ถ้าคุณไม่ชอบชาหรือกาแฟล่ะก็อย่าเพิ่งกังวลไป ที่สตาร์บัคส์มีเครื่องดื่มให้เลือกอีกมากมายที่ไม่ใช่กาแฟ สำหรับเครื่องดื่มร้อน คุณสามารถสั่งช็อกโกแลตร้อน นมร้อน (พร้อมไซรัป) หรือ แอปเปิ้ลไซเดอร์ (น้ำแอปเปิ้ลหมัก) หรือคุณจะสั่งน้ำมะนาวหรือสมูทตี้ก็ได้เช่นกันถ้าต้องการดื่มอะไรเย็นๆ และไม่ใช่กาแฟ
11. 
    11
    สั่งเครื่องดื่ม. เมื่อคุณเลือกเครื่องดื่มของคุณได้แล้ว ทีนี้ก็ถึงเวลาสั่ง โดยเริ่มจากการบอกขนาดเครื่องดื่ม ชื่อของเครื่องดื่ม และการปรับเปลี่ยนตามที่คุณต้องการ เช่น “แกรนเด ชาไชลาเต้ เพิ่มฟองนม” อย่ากลัวที่จะสั่งให้ละเอียด!
    โฆษณา

เคล็ดลับ

• กล้าที่จะถามเมื่อคุณไม่เข้าใจ
• พยายามอย่าใช้โทรศัพท์มือถือขณะสั่งเพราะเป็นการเสียมารยาท
• ถ้าคุณรับประทานที่ร้าน เครื่องดื่มจะเสิร์ฟด้วยแก้วกระเบื้องแทนแก้วกระดาษ เพียงบอกว่าคุณ “ทานที่นี่” ขณะสั่ง (เฉพาะที่สตาร์บัคส์บางสาขาเท่านั้น)
• ถ้าคุณอยากลองเครื่องดื่มที่คุณไม่รู้จัก สามารถลองถามเพื่อขอลองชิมได้
• ตรวจสอบเครื่องดื่มของคุณให้ดีว่าเป็นเครื่องดื่มที่คุณต้องการหรือไม่ “หลัง” จากที่เครื่องดื่มทำเสร็จแล้ว การยืนใกล้ๆ เคาน์เตอร์แล้วสั่งบาริสต้าให้ทำนู่นทำนี่จะอาจลดคุณภาพเครื่องดื่มของคุณ
• ตั้งใจฟัง เพราะคนอื่นอาจหยิบเครื่องดื่มที่ถูกเรียกชื่อไปผิด เก็บใบเสร็จของคุณไว้เผื่อเครื่องดื่มของคุณต้องทำใหม่อีกครั้ง ย้ำอีกครั้งว่าให้ตั้งใจฟัง เพราะบางครั้งมีคนสั่งเครื่องดื่มเหมือนคุณมากกว่าหนึ่งคน (เช่น “ผมสั่งแกรนเดลาเต้นะ!”) แกรนเดลาเต้เป็นเครื่องดื่มที่สั่งบ่อยที่สุดที่สตาร์บัคส์
• เมื่อสั่งเครื่องดื่มที่มาพร้อมกับวิปครีมอยู่แล้วเช่น ม็อคค่า แต่อยากใส่นมนอนแฟท อย่าลืมบอกบาริสต้าว่าคุณยังต้องการวิปครีมหรือไม่
• ถ้าบาริสต้าพูดภาษาเดียวกับคุณไม่ค่อยคล่อง ไม่ควรตวาดและแสดงอาการหงุดหงิดเพราะเป็นการเสียมารยาท ให้พูดอย่างช้าๆ ชัดเจนและสุขภาพ
• ปกติจะมีเครื่องดื่มบรรจุขวดและน้ำผลไม้ขายซึ่งจะอยู่ในชั้นแช่เย็นใต้ตู้ขนม
• อย่าลืมให้ทิปบาริสต้า!
• ลองดูรายการขนมและอาหารเพื่อรับประทานคู่กับเครื่องดื่มของคุณ
• มีน้ำใจ! สั่งกาแฟให้คนที่ต่อแถวข้างหลังคุณถ้าเขายินยอม

โฆษณา