วิธีการ สร้างเสริม IQ

IQ (Intelligence Quotient) หรือก็คือ "ระดับเชาวน์ปัญญา" ของคุณนั้น ถือเป็นการประเมินความรู้ของคุณด้วยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ ด้วยบททดสอบวัดมาตรฐานต่างๆ ที่จะดูทักษะการแก้ไขปัญหา การจินตนาการภาพเชิงพื้นที่ การจดจำ ความรู้ทั่วไป และด้านอื่นๆ ของคุณ ถึง IQ ของแต่ละคนจะจำกัด มากน้อยต่างกันไปตามระดับสติปัญญาแต่กำเนิด แต่พบว่างานวิจัยสมัยใหม่ชี้ว่าไม่ใช่เรื่องเกินเอื้อม ที่คุณจะยกระดับสติปัญญาของคุณได้ มาดูกันดีกว่าว่าจะทำได้ยังไง

วิธีการ 1

วิธีการ 1 ของ 4:

เป็นส่วนหนึ่งของสังคมและวัฒนธรรม

ดาวน์โหลดบทความ

เข้าร่วมกิจกรรมทางสังคมบ้าง ไม่ว่าจะใน social media หรือโลกแห่งความเป็นจริงรอบตัวของคุณก็ตาม ยิ่งคุณมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นๆ รอบตัวมากเท่าไหร่ รวมถึงการแชร์ไอเดียและความคิดเห็นต่างๆ คุณก็จะยิ่งมีโอกาสเรียนรู้มากขึ้นเท่านั้น แน่นอนว่าคุณไม่ต้องเชื่อหรือเห็นด้วยไปซะทุกอย่างกับสิ่งที่ได้พบหรือเรียนรู้ แต่การท้าทายความรู้และความเชื่อเดิมๆ ของตัวเอง จะทำให้คุณยิ่งมั่นใจในความเชื่อของคุณ ไม่ก็ทำให้คุณโตขึ้น นำความรู้ใหม่ๆ มาปรับใช้กลายเป็นความเชื่อที่แตกต่างออกไป
2
ต้องช่างสังเกต. ที่คนเขาบอกกันว่า "คนฉลาด" ก็คือคนที่รู้จักสนใจสิ่งต่างๆ รอบตัวอย่างลึกซึ้ง เข้าใจ (หรือศึกษาหาความรู้จนเข้าใจ) ถึงความสัมพันธ์เชื่อมโยงกันของเหตุการณ์ต่างๆ ที่เหมือนจะไร้คำอธิบายหรือดูไม่น่าจะเกี่ยวข้องกัน
- ตัวอย่างเช่น คุณเห็นรถ 2 คัน ต่างคนต่างมุ่งหน้ากันไปคนละทาง แต่ก็ดันชนประสานงากันซะงั้น ถ้าคนที่ไม่คิดอะไรมาก ก็คงพูดว่า "โห รถชนกัน แย่เลยเนอะ แต่ก็แบบนี้แหละ อุบัติเหตุ" แล้วก็จบแค่นั้น แต่ถ้าลองสังเกตดีๆ คุณอาจมองลึกไปเห็นสาเหตุแท้จริงที่ก่อให้เกิดเหตุการณ์นั้น เป็นไปได้ว่าถนนลื่นจนทำให้รถคันนึงเสียการควบคุม รถทั้ง 2 คันคงแล่นสวนกันในทางแบบ one-way หรือหมาในรถคันนึงเกิดตื่นเพราะเห็นหมาอีกตัวที่ข้างทาง เลยกระโดดใส่ตักเจ้าของจนเขาขับรถเสียหลักไปชนกับรถอีกคัน
- ถ้ารู้จักสนใจลงรายละเอียดมากขึ้น คุณจะเรียนรู้อะไรได้อีกเยอะ อย่างด้านสถาปัตยกรรม ศิลปะ หรือดาราศาสตร์ เป็นต้น นี่แค่ตัวอย่างเล็กน้อยนะ!
ไม่ใช่แค่เพลงคลาสสิคนะ แนวไหนก็ได้ที่คุณชอบ มีการวิจัยแล้วว่าการฟังเพลงที่คุณชอบ ช่วยเพิ่ม I.Q. ให้คุณไม่มากก็น้อยทีเดียว จะฟังตอนทำงานก็ได้ ขอแค่อย่าทำให้คุณเสียสมาธิก็แล้วกัน
4
อ่าน อ่าน อ่าน แล้วก็อ่าน. การอ่านหนังสือช่วยเสริมสร้างทักษะการทำความเข้าใจในสิ่งต่างๆ แถมทำให้คุณรู้จักคิดวิเคราะห์อีกต่างหาก การอ่านหนังสือที่คุณไม่เคยอ่านมาก่อนจะช่วยขยายขีดจำกัดความรู้ของคุณ อันเป็นที่มาของ IQ ที่เพิ่มขึ้นไงล่ะ
- ยิ่งอ่านหลายแนวก็ยิ่งดี อ่านมันให้หมดทั้งหนังสือพิมพ์ แมกกาซีนอินเทรนด์ และแมกกาซีนเน้นสาระต่างๆ (อย่าง "สารคดี" หรือ "National Geographic") กระทั่งคู่มืออุดมศัพท์เทคนิคทั้งหลาย
- แต่ดูก่อนนะว่าหนังสือที่เลือกนั้นไม่เกินความสามารถในการอ่านของคุณ แต่ก็อย่าง่ายเกินไป เพราะการอ่านอะไรง่ายๆ บ่อยๆ ไม่ทำให้คุณได้อะไรนอกจากความบันเทิง ส่วนการอ่านนิยายที่ใช้ "ศัพท์สูง" เกินจะเข้าใจ ถึงจะช่วยเพิ่ม IQ ให้คุณได้ ถ้าต้องมานั่งเปิดดิกตลอดแล้วมันจะไปสนุกอะไร
โฆษณา

วิธีการ 2

วิธีการ 2 ของ 4:

สนุกแบบฝึกสมอง

ดาวน์โหลดบทความ

1
ท้าทายขีดจำกัดของสมอง. ถ้าตอนนี้คุณเชี่ยว Scrabble ซะจนสร้างคำยากระดับ 40 คะแนนได้โดยมีแค่ EEIOAUC เราขอแสดงความยินดี พร้อมคำแนะนำว่าให้เปลี่ยนไปฝึก Sudoku ต่อไป ทุกครั้งที่คุณเชี่ยวชาญด้านใดด้านหนึ่งแล้ว อย่าชะล่าใจ ไปต่อเร็ว ถัดจาก Sudoku ก็ไปเล่นโกะ แล้วต่อด้วยหมากรุกก็ยังได้
- เพราะพอคุณเก่งอะไรก็ตามจนถึงขั้นนึงแล้ว สมองของคุณจะเริ่มปล่อยตัว ไม่มีการเรียนรู้ใหม่ๆ แล้ว ไม่มีการหลั่งสารโดปามีนที่ทำให้คุณฉลาดขึ้น ถ้าอยากจะมุ่งแข่ง Scrabble ต่อไปก็ไม่ว่ากัน แต่ขอให้ขยันหา "เกมส์ลับสมอง" ใหม่ๆ มาเล่นควบคู่กันไปด้วยก็ดี
2
เล่นเกมส์ฝึกการใช้เหตุผล หรือเกมส์แนววางแผน. ในปีพ.ศ. 2551 มีนักวิทยาศาสตร์ชื่อ Susanne Jaeggi กับ Martin Buschkuehl ได้ค้นพบวิธีเพิ่ม "fluid intelligence" หรือ "เชาวน์ปัญญาเหลว" ซึ่งก็คือปัญญาที่เรามีกันมาแต่ดั้งเดิม ทั้งทักษะในการเชื่อมโยงสิ่งต่างๆ ทักษะในการแก้ปัญหา และการปรับตัวรับสถานการณ์ใหม่ๆ ด้วย เมื่อเขาทำการทดลองโดยให้คนมุ่งความสนใจไปที่ข้อมูลจากสองทางที่แตกต่างกันไป พวกเขาพบว่าทักษะด้านการใช้เหตุผลของผู้เข้ารับการทดลองนั้นเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดทีเดียว^{[1]Xแหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้Proceedings of the National Academy of Sciencesไปที่แหล่งข้อมูล}
- ไปลองเล่นเกมส์แบบ dual n-back (จดจำทั้งเสียงและภาพ) ที่อ้างอิงมาจากการทดลองนี้ได้ที่ http://www.soakyourhead.com/dual-n-back.aspx
3
เล่นวิดีโอเกมส์. การเล่นเกมส์นี่แหละวิธีกระตุ้นสมองได้เป็นอย่างดี ลองหาเล่นหลายๆ แนว อย่าจำกัดอยู่แค่แนวเกมส์ที่ถนัด เพราะจะเป็นการเปิดโลกทางความคิดให้คุณ โดยเฉพาะเกมส์ลับสมองที่ต้องไขปัญหา หรือบีบคุณให้ต้องรีบคิดรีบทำ
- มีงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ชี้ว่าการเล่นเกมดังอย่าง Tetris ทำให้สมองของคุณทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ยิ่งผู้เล่นเชี่ยวชาญขึ้นเท่าไหร่ สมองก็ต้องการกลูโคสน้อยลง (พลังงานหลักของร่างกายคุณไง) งานวิจัยชิ้นนี้สรุปว่ามีการดูดซึมกลูโคสน้อยลงเมื่อเราอยู่ระหว่างการเรียนรู้ เช่นเดียวกับการที่คุณเริ่มเชี่ยวชาญในอะไรสักอย่าง คุณก็จะใช้ความพยายามน้อยลง
- เวลาคุณเล่นเกมส์ยิงปืนแบบ first person พยายามอินให้เยอะๆ เก็บรายละเอียดต่างๆ จะขยับเขยื้อนทำอะไรทีให้รอบคอบเหมือนอยู่ในเหตุการณ์จริง คุณจะได้ไม่สักแต่ว่ายิงๆ ไปให้จบเกม และเป็นการกระตุ้นสมองให้ต้องคิด มากกว่าจะทำไปเพราะสัญชาตญาณ
4
หมั่นหาวิธีใหม่ๆ มาลับสมองประลองปัญญา. เช่น ลองเรียนรู้เรื่อง cryptology (วิทยาการเข้ารหัสลับ) ดู หรือก็คือการถอดข้อความธรรมดาสามัญออกมาจากรหัสลับ ตอนแรกอาจจะยากชวนปวดหัว แต่พอผ่านไปสักพักจะสนุกจนไม่อยากเลิกเลยทีเดียว พวกปริศนาลับสมองต่างๆ ก็ช่วยได้เยอะเหมือนกัน
- เลือกปริศนาที่เน้นการใช้เหตุผลและการคิดนอกกรอบ คุณจะได้สำรวจความรู้ใหม่ๆ ที่ไม่เคยเห็น และลองแก้ปัญหาด้วยวิธีอื่นๆ ที่ไม่เคยลอง
- การเล่น crosswords กับ sudoku ช่วยกระตุ้นสมองและกระบวนการขบคิด บางคนอาจจะคิดว่าก็แค่เกมส์หาคำ ไม่ได้ยากอะไร แต่ถ้าเราเอามาเสริมเกมส์ลับสมองอื่นๆ ก็ถือเป็นเกมส์ที่ง่ายแต่ได้ประโยชน์ทีเดียว
โฆษณา

วิธีการ 3

วิธีการ 3 ของ 4:

การเรียนรู้ไม่มีวันสิ้นสุด

ดาวน์โหลดบทความ

1
ติดตามความคืบหน้าของตัวเอง. หมั่นทดสอบ IQ ทุกอาทิตย์ แล้วบันทึกผลการทดสอบไว้ ถ้าอยากเห็นพัฒนาการของตัวเองชัดๆ ให้ลองเอาแต่ละผลลัพธ์มาเทียบกันเป็นกราฟใน Excel หรือโปรแกรม spreadsheet อื่นๆ (คุณหาเว็บทดสอบ IQ ฟรีได้ทั่วไปในเน็ต)
- แบบทดสอบ IQ ออนไลน์หลายอันก็ไม่ค่อยแม่นเท่าไหร่ แถมหลายเว็บยังขอเบอร์โทรของคุณซะอีก ไม่งั้นไม่ให้ดูผลการทดสอบ พวกนี้ถือเป็น spam นะ แบบทดสอบ IQ ที่น่าเชื่อถือก็มีของ Stanford-Binet นี่แหละ จะว่าไปก็เป็นแหล่งเดียวด้วยซ้ำที่เมืองนอกเมืองนาเขายอมรับเวลายื่นเข้ามหาวิทยาลัยกัน

วิธีการ 4

วิธีการ 4 ของ 4:

ร่างกายต้องสตรอง สมองต้องเฉียบไว

ดาวน์โหลดบทความ

ร่างกายต้องแข็งแรงอยู่เสมอ ที่สำคัญมีการทดลองทางวิทยาศาสตร์พิสูจน์แล้วนะ ว่าการออกกำลังกายทั้งสมองและร่างกายควบคู่กันไป จะทำให้คุณคิดอะไรฉับไวน่าดู
2
เรียนรู้หลากหลายหน่อย. เวลาร่างกายของคุณตึงยึดเพราะเอาแต่นั่งที่โต๊ะทั้งวัน การงมอยู่กับเรื่องง่ายๆ เดิมๆ ก็ทำร้ายสมองของคุณได้เหมือนกัน จะเปลี่ยนแปลงได้ต้องหมั่นเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อยู่ตลอด ห้ามหยุดเด็ดขาด
- ลองศึกษาศิลปะกับสถาปัตยกรรมดู จะได้รู้ว่าจินตนาการเมื่อถ่ายทอดออกมาเป็นสิ่งที่จับต้องได้นั้นหน้าตาเป็นยังไง
- หาเส้นทางใหม่ใช้ขับรถไปทำงาน ฉีกแนวตัวเองไปโดดบันจีจัมพ์ ไม่ก็อุทิศชีวิตบางส่วนเพื่อฝึกฝนเป็นจิตรกรเอก ทำ "อะไร" ก็ได้ไม่สำคัญ ขอให้ลงมือทำเป็นพอ
- ประสบการณ์ใหม่ๆ จะกระตุ้นให้สาร โดปามีน หลั่งออกมา จะช่วยเพิ่มเซลล์ประสาท เกิดความเพลิดเพลินมีความสุข^{[2]Xแหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้PubMed Centralไปที่แหล่งข้อมูล}
- ยิ่งเรียนก็ยิ่งรู้ แล้วสติปัญญาจะหนีไปไหน
3
ทำเรื่องเดิมก็ได้ แต่ต้องด้วยวิธีใหม่. ถ้าปกติคุณขับรถไปทำงาน แถมใช้ถนนเส้นเดิม มันก็จะซ้ำซากกลายเป็นกิจวัตรประจำวัน ถึงจะนานเป็นชั่วโมงก็เถอะ คุณจำได้ขึ้นใจ ว่าเลี้ยวตรงไหน จุดไหนถนนเป็นหลุมเป็นบ่อ คอขวดนี้แหละติดบรม ไฟแดงนี้นานกว่า เนินนี้กระเด้งทีรถเกือบพัง คุณชินชากับทุกอย่างซะจนเลิกใส่ใจ หยุดใช้ความคิด อะไรที่คุณทำไปโดยอัตโนมัติด้วยความเคยชิน จะทำให้คุณใช้ความคิดน้อยลง อันตรายเลยแหละ
- ถ้าตามตัวอย่างก็คือคุณต้องไปทำงานด้วยวิธีหรือเส้นทางใหม่ๆ ในแต่ละวัน บางทีอาจจะทำให้เสียเวลาไปบ้าง 2 - 3 นาที แต่บางทีก็เร็วขึ้นซะงั้น จะเปลี่ยนแปลงกันตอนขากลับก็ได้ จะได้ไม่กังวลว่าจะไปทำงานสาย!
- ถ้าชอบขีดเขียน ลองเขียนร่างแรกด้วยมือก่อน เสร็จแล้วค่อยไปพิมพ์ลงคอม ทำแบบนี้ทุกๆ วัน คุณอาจพบอะไรใหม่ๆ ที่น่าสนใจเกี่ยวกับงานเขียนไม่ก็ตัวละครของคุณ ที่ปกติไม่ทันสนใจเพราะเอาแต่พิมพ์รวดเดียว
- อะไรก็ตามที่เคาะสนิมกิจวัตรซ้ำๆ ซากๆ ทำไปโดยอัตโนมัติให้คุณได้ นั่นล่ะดี
4
ท้าทายขีดจำกัดของคุณ. อย่าไปฟังพวกคำพูดตัดอนาคตอย่าง "ไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก" จะดีกว่าไหมถ้ามุ่งไปที่ความสำเร็จ อย่างการได้คะแนน IQ เพิ่มอีก 10 คะแนน! ก็เหมือนกับทุกอย่างในโลกนี้ ยิ่งใช้ สมองก็ยิ่งทำงานได้ลื่นไหลขึ้น ถ้าคุณหมั่นบริหารความคิด ก็จะห่างไกลโรคทางสมองอย่างอัลไซเมอร์ ^{[3]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
5
ขีดเขียนทุกที่ทุกเวลา. ส่งจดหมายหาคนอื่นแทนการส่งอีเมล หรือร่างรายงาน (หรือโครงเรื่อง) ด้วยมือแทนที่จะพิมพ์ใส่ในคอมเลยทีเดียว จะได้ช่วยพัฒนาเรื่องจินตภาพกับการรับรู้ทางกายและความรู้สึก
- ลองเขียนด้วยมือข้างที่ไม่ถนัดดู เพราะการเขียนด้วยมือข้างที่ไม่ถนัดจะช่วยกระตุ้นสมองฝั่งตรงข้ามกับมือที่เขียน เพราะงั้นถ้าคุณถนัดซ้ายก็ให้เปลี่ยนมาเขียนด้วยข้างขวา จะได้ฝึกใช้เหตุผลให้มากขึ้น ในขณะที่คนมือขวาก็เปลี่ยนมาเป็นคนมือซ้ายเพื่อฝึกสมองด้านสร้างสรรค์ อย่างไรก็ดีนี่เป็นเรื่องสมมติ แต่ลองดูก็ไม่เสียหายใช่ไหมล่ะ
6
ขยันเรียนเข้า แล้วอนาคตจะก้าวไกล. มีหลักฐานสนับสนุนเป็นกระบุง ว่าได้เกรดดีกับฉลาดกว่าเพื่อนนั้นมันเรื่องเดียวกัน พอได้เกรดดีแล้วก็หางานดีได้ไม่ยาก สุดท้ายชีวิตก็จะดี๊ดีตามมาเป็นลำดับ
- งานวิจัยทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับ encephalopathy หรือโรคทางสมองนั้น บ่งชี้ว่าสมองของคนประกอบอาชีพที่ซับซ้อนกว่านั้นจะมีขนาดใหญ่กว่า สุขภาพดีกว่า และมีรอยหยักชัดเจนกว่า ในขณะที่คนใช้แรงงานจะมี neocortex ที่บางกว่า แสดงถึงสติปัญญาที่ต่ำกว่าเกณฑ์ นั่นเพราะใช้ร่างกายบ่อยกว่าสมองนั่นเอง
- นอกจากนี้ การเรียนรู้ฝึกฝนเข้มข้นที่มักพบในอาชีพที่ท้าทายต่างๆ ยังเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดเซลล์ประสาทใหม่ๆ และยกระดับสติปัญญาอีกด้วย
โฆษณา

เคล็ดลับ

พยายามเล่นเกมส์พวกหมากรุกหรือ crossword เพราะต้องใช้ความคิดแต่ก็สนุกด้วยในเวลาเดียวกัน
อ่านหนังสือให้เยอะๆ และหาข้อมูลดีๆ ในอินเทอร์เน็ตเพิ่มเติม
หมั่นตั้งคำถามว่า "อะไร ทำไม และอย่างไร" ทุกครั้งที่เจออะไรใหม่ๆ!
เวลาใช้ความคิด พยายามหายใจเข้า-ออกลึกๆ
ลองเรียนรู้ภาษาใหม่ พอเชี่ยวชาญแล้วก็ให้ขยับขยายไปเรียนภาษาต่อไป อย่าลืมศึกษาวัฒนธรรมของประเทศนั้นๆ ด้วย จะได้เห็นวิธีคิดและมองโลกที่แตกต่างออกไป
ทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ เปี่ยมด้วยวิตามินและอนุมูลอิสระ ที่จะช่วยสร้างเสริมสมองของคุณ อย่าทาน "อาหารขยะ" มากไป
เลิกดื่มน้ำหวานน้ำอัดลมต่างๆ แล้วหันมาดื่มน้ำเปล่า อย่าลืมทานผักผลไม้เป็นประจำด้วย
ปิดทีวีให้เลิกฟุ้งซ่าน! ลองฝึกสมองด้วยการอ่านหนังสือแบบ mindless reading ดู หรือก็คืออ่านไปเลยไม่ต้องสนใจว่ามีสมาธิหรือไม่มี เลือกมาสักหัวข้อที่ชอบแล้วอ่านให้ถ้วนถี่จนเข้าใจ
เล่นเกมอย่าง Call of Duty สักชั่วโมงก็ท้าทายน่าดู
ฆ่าเวลาด้วยการเล่น Rubik's Cube (ลูกบิด) ไม่ก็ 15-puzzle (ปริศนา 15) หรืออะไรก็ได้ที่ไม่ใช่นั่งแช่อยู่หน้าทีวี
ออกกำลังกายแบบ cardio ควบคู่ไปกับการลดอาหารมันๆ เลือดจะได้สูบฉีดไหลเวียนไปถึงสมองง่ายๆ
หรือออกกำลังกายแบบอื่นๆ ที่ทำให้เลือดสูบฉีดถึงสมองนั่นแหละ จะได้มีสมาธิ จดจำอะไรได้มากขึ้น

โฆษณา