วิธีการ รู้ว่าคน ๆ นั้นโกหกหรือไม่

ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความ

เป็นเรื่องยากท่ีจะรู้ว่าใครกำลังโกหกอยู่หรือไม่โดยเฉพาะเมื่อคน ๆ นั้นโกหกเก่งเสียเหลือเกิน แต่ก็พอจะมีหนทางที่จะรู้ได้อยู่ว่าอีกฝ่ายกำลังหลอกคุณอยู่ การรู้จักสังเกตภาษากาย คำพูด และปฏิกิริยาของอีกฝ่ายต่อสถานการณ์ต่างๆ นั้นอาจช่วยให้คุณรู้ได้ว่าคน ๆ นั้นกำลังโกหกคุณอยู่หรือไม่

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

สังเกตภาษากาย

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 สังเกตว่าคนๆ นั้นจัดผมจัดเผ้าหรือมืออยู่ไม่สุขหือเปล่า....
    สังเกตว่าคนๆ นั้นจัดผมจัดเผ้าหรือมืออยู่ไม่สุขหือเปล่า. คนโกหกส่วนใหญ่มักจะจู่ๆ ก็นึกอยากจะลูบผมให้เรียบ จัดปากกาบนโต๊ะ หรือสอดเก้าอี้เข้าใต้โต๊ะซะอย่างนั้น ภาษากายเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าคนๆ นั้นกำลังโกหกอยู่ก็ได้[1]
  2. How.com.vn ไท: Step 2 คอยฟังเสียงกระแอมหรือเสียงกลืนน้ำลาย.
    คนที่กำลังโกหกมักจู่ๆ ก็กระแอมในคอไม่ก็กลืนน้ำลายอึกใหญ่ก่อนที่จะตอบคำถาม[2]
  3. How.com.vn ไท: Step 3 สังเกตว่าจู่ๆ อีกฝ่ายก็ยกมือมาแตะหน้าหรือไม่....
    สังเกตว่าจู่ๆ อีกฝ่ายก็ยกมือมาแตะหน้าหรือไม่. แม้ว่าคนโกหกหลายๆ คนอาจจะเก็บอาการอยู่ไม่สุขไว้ได้ แต่อีกหลายคนก็ยังเผลอยกมือขึ้นมาจับหน้าอยู่ดี การสร้างเรื่องก่อความเครียดจนทำให้คนโกหกรู้สึกกระวนกระวายซึ่งทำให้เลือดไม่ไปเลี้ยงแขนขาและใบหู ผลก็คือจะทำให้รู้สึกจั๊กจี้หรือรู้สึกอย่างอื่น ผลก็คือทำให้คนๆ นั้นยกมือขึ้นไปจับหูนั่นเอง[3]
  4. How.com.vn ไท: Step 4 สังเกตว่าอีกฝ่ายเม้มริมฝีปากหรือไม่.
    คนโกหกมักเม้มปากแน่นและบ่อยครั้งเมื่อไม่ยอมพูดความจริง[4] บ่อยครั้ง อาจแสดงให้เห็นว่าอีกฝ่ายกำลังใช้สมาธิซึ่งเป็นสิ่งที่คนโกหกต้องใช้เพื่อสร้างเรื่องโกหกไงล่ะ
  5. How.com.vn ไท: Step 5 ดูว่าอีกฝ่ายกระพริบตาน้อยลงไหม.
    การโกหกนั้นทำให้ร่างกายต้องผลาญพลังงานสมองเพราะคนโกหกต้องใช้สมาธิหนักขึ้นในขณะที่ใช้จิตช่วยสร้างเรื่อง คนเรามักจะกระพริบตาถี่น้อยลงเมื่อต้องใช้พลังงานสมอง ดังนั้นสังเกตดูว่าอีกฝ่ายกระพริบตาถี่น้อยลงไหมหากคุณสงสัยว่าเขากำลังโกหกอยู่
    • กรณีอยู่ไม่สุขก็เช่นกัน คนเรามักอยู่ไม่สุขเมื่อร่างกายต้องใช้สมอง เช่นเวลาต้องโกหกไงล่ะ[5]
  6. How.com.vn ไท: Step 6 สังเกตการเคลื่อนไหวร่างกาย.
    บางคนมักจะยืนนิ่งเป็นเสาหินเวลาต้องโกหก บางคนอ้างว่าการยืนนิ่งเป็นปฏิกิริยาของร่างกายที่ส่งผลต่อเหตุการณ์คุกคาม เช่นเดียวกับเวลาที่ต้องตัดสินใจว่าจะหนีหรือจะสู้ ร่างกายก็จะหยุดนิ่งพร้อมสู้เหมือนกัน[6]
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

ใส่ใจภาษาพูด

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ฟังคำที่ทางนั้นเลือกใช้.
    ในขณะที่สร้างเรื่องโกหก คนเรามักจะผลักเรื่องออกจากตัวเอง คนๆ นั้นอาจจะลดคำสรรมนามบุรุษที่หนึ่ง เช่น “ฉัน” “ผม” และ “ของผม” และอาจจะหลีกเลี่ยงไม่พูดถึงชื่อของคนอื่นแต่เลือกใช้สรรพนามเช่น “เขา” หรือ “เธอ” บ่อยๆ แทน[7], [8]
  2. How.com.vn ไท: Step 2 จับตาดูการเบี่ยงเบนความสนใจ.
    เมื่อคุณถามคำถามกับคนโกหก คนๆ นั้นอาจจะเฉไฉออกนอกประเด็นให้คุณสับสน เขาอาจจะเปลี่ยนหัวข้อการสนทนาไปเฉยๆ หรืออาจจะถามกลับมาก็ได้[9]
  3. How.com.vn ไท: Step 3 รอฟังคำหรือประโยคซ้ำ ๆ.
    คนที่กำลังโกหกจะชอบพูดคำหรือประโยคเดิมซ้ำๆ อาจจะเรียกได้ว่าเขากำลังหลอกตัวเองให้เชื่อคำโกหกอยู่ก็ได้ หรือไม่ก็อาจจะเป็นไปได้ว่าคำหรือประโยคซ้ำๆ นั้นอาจจะเป็นส่วนหนึ่งของคำโกหกที่เขาซ้อมมาล่วงหน้า[10]
    • คนโกหกมักจะชอบทวนคำถามที่คุณเป็นฝ่ายถามเพื่อยื้อเวลาให้เขาหาคำตอบที่เหมาะสมได้[11]
  4. How.com.vn ไท: Step 4 รอฟังประโยคขาดๆ หาย ๆ.
    คนโกหกมักจะตอบคำถามแล้วจู่ๆ ก็หยุดไป แล้วก็จะเริ่มใหม่โดยพูดไม่จบประโยค[12] นี่เป็นสัญญาณบอกว่าคนๆ นั้นรู้สึกได้ว่าเรื่องที่ตัวเองเล่ามีช่องโหว่และพยายามหาทางปกปิดความผิดพลาดที่ได้พูดออกไปแล้วนั่นเอง
  5. How.com.vn ไท: Step 5 ดูว่าคนๆ นั้นแก้สิ่งที่ตัวเองพูดไหม.
    การแก้สิ่งที่ตัวเองพูดซ้ำๆ เกิดขึ้นเมื่อคนโกหกพยายามจะกลบเกลื่อนและแก้ไขเรื่องในขณะที่เล่าไปด้วยนั่นเอง หากคุณสังเกตว่าคนๆ นั้นแก้สิ่งที่ตัวเองพูดบ่อยๆ ก็เป็นไปได้ว่าเรื่องที่เล่านั้นแต่งขึ้นมา[13]
  6. How.com.vn ไท: Step 6 สังเกตรอฟังรายละเอียดๆ ของเรื่องราวที่ขาดหาย....
    สังเกตรอฟังรายละเอียดๆ ของเรื่องราวที่ขาดหาย. คนที่กำลังโกหกมักจะหลีกเลี่ยงรายละเอียดปลีกย่อยที่คนที่พูดจริงมักจะเล่า รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ มักจะปะติดปะต่อและจดจำได้ยากกว่า คนโกหกก็เลยคิดว่าข้ามๆ ไปดีกว่า[14]
    • คนที่กำลังเล่าเรื่องจริงอาจจะอธิบายถึงเพลงที่เล่นเป็นฉากหลังของเหตุการณ์บางอย่าง ในขณะที่คนที่โกหกจะข้ามรายละเอียดอย่างนี้ไป เรื่องที่เล่าเลยจะคลุมเครือเพื่อที่คนเล่าจะได้จำได้ว่าตัวเองเล่าอะไรไปบ้าง
    • คนโกหกอาจจะเล่ารายละเอียดที่ไม่ต่อเนื่องดังนั้นคุณต้องตั้งใจฟังรายละเอียดของเรื่องให้ดี[15]
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

จับตาดูปฏิกิริยาตอบสนอง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 สังเกตว่าใบหน้าคนๆ นั้นแสดงอารมณ์ที่แท้จริงหรือเปล่า....
    สังเกตว่าใบหน้าคนๆ นั้นแสดงอารมณ์ที่แท้จริงหรือเปล่า. เวลาคนแสร้งใส่อารมณ์ ใบหน้าของคนเล่าจะเผยความจริงออกมาเพราะคนๆ นั้นมักแสดงสีหน้าแค่ส่วนบนหรือส่วนล่างใบหน้าเท่านั้น ตัวอย่างเช่น หากคนๆ นั้นกำลังยิ้มก็ลองสังเกตว่าตาเขายิ้มด้วยไหม เวลาคนๆ นั้นร้องไห้ก็เช่นเดียวกัน ดูซิว่าสีหน้าส่วนล่างดูเหมือนร้องไห้ด้วยหรือเปล่า?[16]
  2. How.com.vn ไท: Step 2 ถามคำถามในขณะที่ฝ่ายนั้นตั้งตัวไม่ทัน.
    คนโกหกมักจะเตรียมคำตอบไว้ล่วงหน้าสำหรับคำถามที่คาดว่าจะโดนถาม เมื่อคุณทำให้อีกฝ่ายชะงักด้วยการถามคำถามที่ทางนั้นไม่คาดคิด เขาอาจจะไม่มีคำตอบดีๆ มาตอบคุณก็ได้[17]
    • ตัวอย่างเช่น ถ้าคนๆ นั้นบอกว่าไปกินอาหารที่ร้านอาหารร้านหนึ่งมา คนๆ นั้นอาจจะคาดว่าคุณจะถามคำถามเกี่ยวกับรสชาติอาหาร พนักงานเสิร์ฟ และถามว่าอาหารราคาเท่าไหร่ แต่อาจจะไม่ทันคิดว่าคุณจะถามว่าห้องน้ำอยู่ตรงไหนก็ได้
  3. How.com.vn ไท: Step 3 สังเกตการแสดงออกทางสีหน้าอย่างรวดเร็วที่ไม่ได้ตั้งใจ....
    สังเกตการแสดงออกทางสีหน้าอย่างรวดเร็วที่ไม่ได้ตั้งใจ. การแสดงออกทางสีหน้าที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและไม่ได้ตั้งใจนั้นคือการขยับใบหน้าเพียงนิดเดียวแต่สื่อความรู้สึกแท้จริงของบุคคลนั้นๆ ได้ การแสดงออกเหล่านี้เป็นการแสดงออกทางอารมณ์ชั่วพริบตาซึ่งอาจค้างอยู่แค่ 1/125 วินาทีก็ได้[18]
    • การแสดงออกอย่างรวดเร็วและไม่ได้ตั้งใจนี้จะเป็นตัวบอกอารมณ์แต่อาจจะบอกไม่ได้ว่าทำไมคนๆ นั้นถึงเกิดอารมณ์นั้นขึ้น ตัวอย่างเช่น การที่คนโกหกแสดงอารมณ์หวาดกลัวผ่านการแสดงออกทางสีหน้าอย่างรวดเร็วก็เพราะกลัวว่าจะถูกจับได้ ในขณะที่คนที่พูดความจริงอาจจะแสดงออกทางสีหน้าอย่างรวดเร็วว่ากำลังกลัวเพราะกลัวว่าคนจะไม่เชื่อตัวเองก็ได้
  4. How.com.vn ไท: Step 4 สังเกตหาความไม่สอดคล้องระหว่างภาษาพูดและภาษากาย....
    สังเกตหาความไม่สอดคล้องระหว่างภาษาพูดและภาษากาย. บางครั้งคนเราพูดอย่างแต่ร่างกายดันมีปฏิกิริยาอีกอย่างโดยไม่ได้ตั้งใจ ตัวอย่างเช่น คนๆ นั้นอาจจะตอบใช่กับคำถาม แต่อาจจะเผลอส่ายหัวเพื่อบอกว่าไม่ก็ได้[19]
    • จำได้ว่าภาษากายของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน สิ่งที่คุณสังเกตจากคนๆ หนึ่งอาจจะไม่ได้ช่วยบ่งบอกตัวตนของคนอีกคนก็ได้นะ[20]
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • การจับโกหกในขณะที่คนๆ นั้นส่งข้อความหรืออีเมล์มาหานั้นเป็นเรื่องยาก แต่มีผลการวิจัยที่บอกว่าคนที่โกหกจะใช้เวลานานกว่าคนอื่นเล็กน้อยในขณะที่ต้องตอบข้อความซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากการที่เขาต้องใช้เวลาแก้ไขข้อความเยอะกว่าหรือปรับแต่งโทนเสียงของข้อความให้น่าเชื่อถือนั่นเอง [21]
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

How.com.vn ไท: ทีมงานวิกิฮาว
ร่วมเขียน โดย:
นักเขียนในทีมวิกิฮาว
บทความนี้ร่วมเขียนโดยเหล่าบรรณาธิการและนักวิจัยที่ผ่านการฝึกฝนมาเพื่อความถูกต้องและครอบคลุมของเนื้อหา

ทีมผู้จัดการด้านเนื้อหาของวิกิฮาว จะตรวจตราผลงานจากทีมงานด้านเนื้อหาของเราเพื่อความมั่นใจว่าบทความทุกชิ้นได้มาตรฐานตามที่เราตั้งไว้ บทความนี้ถูกเข้าชม 2,483 ครั้ง
มีการเข้าถึงหน้านี้ 2,483 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

⚠️ Disclaimer:

Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.

Notices:
  • - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
  • - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
  • - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
  • - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.

โฆษณา