รับมือเมื่อถูกผู้อื่นบล็อก

X

บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Supatra Tovar, PsyD, RD. ดร. สุพัตรา โทวาร์เป็นนักจิตวิทยาคลินิกที่มีใบอนุญาต (PSY #31949) นักกำหนดอาหารที่ได้รับการขึ้นทะเบียน ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกกำลังกายและเจ้าของ Dr. Supatra Tovar and Associates ดร. โทวาร์ทำงานด้านสุขศึกษา การกำหนดอาหาร และจิตวิทยาคลินิก เธอใช้การบำบัดจิตแบบสุขภาพองค์รวม โดยมีประสบการณ์การบำบัดตามหลักสุขภาพที่ดีแบบองค์รวมมากกว่า 25 ปี เธอนำจิตวิทยา การกำหนดอาหาร และความรู้ด้านการออกกำลังกายมาผสมผสานกันเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ประสบปัญหามีภาวะซึมเศร้า ภาวะน้ำหนักตัวเพิ่ม การกินผิดปกติ เผชิญกับการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการดำเนินชีวิต และความสัมพันธ์มีปัญหา ดร.โทวาร์ได้รับปริญญาศิลปศาสตร์บัณฑิต สาขาชีววิทยาสภาวะแวดล้อม จากมหาวิทยาลัยโคโลราโด โบลเดอร์ ได้รับปริญญาวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาโภชนศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยรัฐแคลิฟอร์เนีย วิทยาเขตลอสแอนเจลิส และจบปริญญาเอกด้านจิตวิทยาสุขภาพทางคลินิกจากมหาวิทยาลัยนานาชาติอไลอันต์ วิทยาเขตลอสแอนเจลิส

มีการอ้างอิง 12 ข้อที่อ้างอิงอยู่ในบทความ ซึ่งสามารถพบได้ทางด้านล่างของบทความ

ถ้าคนที่เราห่วงใยบล็อกเบอร์ของเรา เลิกเป็นเพื่อนเราในสื่อสังคม หรือหายไปเสียเฉยๆ ใน Whatsapp เราก็ย่อมคับข้องใจและเจ็บช้ำน้ำใจเป็นธรรมดา อย่าตำหนิตัวเองมากเกินไป หากโกรธหรือเศร้า เพราะการที่ใครสักคนซึ่งเราใส่ใจห่วงใยตัดเราออกไปเสียเฉยๆ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ บทความนี้จะแสดงวิธีการรับมือเมื่อถูกบล็อกและทำให้อีกฝ่ายกลับมาติดต่ออีกครั้ง ในกรณีที่อีกฝ่ายไม่ยอมเปลี่ยนใจ บทความนี้ก็มีวิธีการที่ทำให้ตัวเราสามารถเดินหน้าต่อไปได้ การที่อีกฝ่ายบล็อกเราเป็นเรื่องของเขามากกว่าเรื่องของเรา ฉะนั้นอย่าตำหนิตัวเองมากเกินไป

1

ตรวจสอบให้แน่ใจว่าอีกฝ่ายบล็อกเราจริงๆ

ดาวน์โหลดบทความ

อีกฝ่ายอาจทำโทรศัพท์มือถือหายหรือหยุดเข้าสื่อสังคมสักพักหนึ่งก็ได้. ถ้าเป็นสื่อสังคม ลองส่งข้อความหาอีกฝ่ายทางออนไลน์ ถ้าสื่อสังคมบอกว่าข้อความของเราไม่สามารถส่งได้ แสดงว่าอีกฝ่ายบล็อกเรา ในบางเว็บไซต์เราจะได้รับข้อความบอกว่าเราถูกบล็อกเมื่อไปที่โพรไฟล์ของเขาอีกด้วย ถ้าเป็นโทรศัพท์มือถือ ลองโทรและส่งข้อความหาเขา ถ้าได้รับข้อความบอกว่าข้อความของเราไม่สามารถส่งได้และมีเสียงโทรศัพท์บอกว่าสาย “ไม่ว่าง” แสดงว่าอีกฝ่ายบล็อกเรา^{[1]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- เบอร์โทรศัพท์อาจถูกบล็อก ถ้าเราโทรและเสียงรอสายดังครั้งเดียว มีเสียงตู๊ดดังต่อเนื่อง หรือสายไม่ว่าง จะพบสัญญาณแบบไหนนั้นขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการโทรคมนาคม
- ในเว็บไซต์สื่อสังคมบางเว็บไซต์ไม่มีการแจ้งว่าผู้อื่นบล็อกเราหรือแค่ลบโพรไฟล์ของตน ลองค้นหาอีกฝ่ายทางออนไลน์เมื่อล็อกเอาท์ออกจากบัญชีของตน ถ้าไม่ปรากฏให้เห็น แสดงว่าอีกฝ่ายลบโพรไฟล์แล้ว
โฆษณา

2

ให้เวลาอีกฝ่ายก่อนที่จะติดต่อไปอีกครั้ง

ดาวน์โหลดบทความ

ถึงแม้อยากจะติดต่ออีกฝ่ายสักแค่ไหน แต่ควรอดใจรอไปก่อน. เราย่อมต้องสงสัยอยู่แล้วว่าเกิดอะไรผิดพลาดขึ้นหรือเปล่า อย่างไรก็ตามเราอาจไม่ได้รับคำตอบตอนนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเราและอีกฝ่ายต่างก็อารมณ์ไม่ดีด้วยกันทั้งคู่ ฉะนั้นต้องรอให้ตนเองอารมณ์เย็นลงก่อน รออย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนที่จะทำอะไรต่อไป^{[2]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- เราย่อมต้องการคำตอบอยู่แล้ว แต่การเผชิญหน้ากับอีกฝ่ายหรือเรียกร้องให้มาพูดคุยกันไม่น่าจะทำให้เราได้สิ่งที่ต้องการ
- ตรวจสอบการออนไลน์ของเราเมื่อไม่นานมานี้หรือพฤติกรรมของบุคคลที่บล็อกเรา เราเขียนหรือแสดงความเห็นที่ไปขัดแย้งกับความเชื่อ มุมมอง หรือปรัชญาของอีกฝ่ายหรือเปล่า ตรวจสอบพฤติกรรมออนไลน์ของตนเองโดยปราศจากอคติเพื่อจะได้รู้ว่าเราทำอีกฝ่ายไม่พอใจหรือเปล่า

3

ปล่อยให้อีกฝ่ายบล็อกไป หากเพิ่งยุติความสัมพันธ์กัน

ดาวน์โหลดบทความ

เดินหน้าต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากยุติความสัมพันธ์กันแล้ว. การถูกบล็อกอาจทำให้รู้สึกเจ็บปวด แต่ก็ทำให้ได้มีโอกาสที่ดีอย่างยิ่งในการหาทางออกที่เหมาะสมที่สุด นั่นคือดำเนินชีวิตของตนเองต่อไปและลืมเรื่องเกี่ยวกับอีกฝ่าย (อย่างน้อยที่สุดก็ในตอนนี้) โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่เราเพิ่งยุติความสัมพันธ์กัน ผู้คนมักจะไม่ติดต่อกับอีกฝ่ายหลังจากยุติความสัมพันธ์เพื่อให้เวลาอีกฝ่ายเยียวยาตนเอง^{[3]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ถ้าอีกฝ่ายเป็นเพื่อนที่คบหากันมานานหรือคู่สมรสที่อยู่ด้วยกันมานาน เราก็มีเหตุผลสมควรที่อยากจะรู้สาเหตุของการถูกบล็อก ในสถานการณ์เช่นนี้ควรที่จะตรวจสอบเพื่อจะได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
- อาจมีโอกาสไปเป็นได้ว่าอีกฝ่ายกำลังหยอกเราเล่นและการบล็อกเราก็จะเกิดขึ้นแค่ชั่วคราวเท่านั้น ฉะนั้นอยู่เฉยๆ จะดีกว่า
โฆษณา

4

ปล่อยให้อีกฝ่ายบล็อกไป ถ้าไม่เคยพบปะกันเลยในชีวิตจริง

ดาวน์โหลดบทความ

เลิกคิดมากเรื่องถูกบล็อก หากเราพบบุคคลนี้ทางออนไลน์เท่านั้น. อย่าคิดว่าเราทำอะไรผิด แย่หน่อยที่ผู้คนทุกวันนี้บล็อกผู้อื่นเมื่อเขาไม่รู้สึกว่าจะเข้ากันได้ แทนที่จะส่งข้อความบอกอย่างสุภาพว่าเขาไม่คิดว่าเราและเขาจะเข้ากันได้ดี กลับบล็อกเราไปเสียเฉยๆ เรื่องนี้เป็นเรื่องของเขามากกว่าเรื่องของเรา ฉะนั้นอย่ากังวล^{[4]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- อย่าทุกข์ใจเวลาคนรู้จักทางออนไลน์บล็อกเรา บางคนก็แค่ไม่มีความใส่ใจที่จะบอกออกมาตามตรง

5

รออีกฝ่ายติดต่อมา

ดาวน์โหลดบทความ

ถ้าอีกฝ่ายบล็อกเราหลังจากทะเลาะกัน รอเขาใจเย็นลงก่อน. ถ้าการถูกบล็อกเกิดขึ้นทันทีหลังจากการโต้เถียงกันอย่างรุนแรง ให้เวลาอีกฝ่ายสักสองสามวัน (หรือหลายสัปดาห์ ขึ้นอยู่กับความรุนแรง) บุคคลที่บล็อกเราอาจแค่ต้องการเวลาเพื่อให้อารมณ์เย็นลงก่อนแล้วจะเลิกบล็อกเราทันทีที่พร้อมจะพูดคุย ฉะนั้นให้เวลาอีกฝ่ายเสียหน่อย^{[5]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- รอให้อีกฝ่ายติดต่อมาเอง ถ้าเขาเคยบล็อกและเลิกบล็อกเรามาก่อน
- ถ้าเราและอีกฝ่ายไม่ทะเลาะเบาะแว้งกัน ก็อาจเป็นไปได้ว่าเขาไม่พอใจคำพูดหรือการกระทำบางอย่างของเรา ควรรอให้อีกฝ่ายอารมณ์เย็นลงก่อน
- หาทางยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้น หากไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ เมื่อเราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ ก็อาจทำให้รู้สึกหงุดหงิด การฝึกยอมรับแต่โดยดีว่าเราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้อาจทำให้เราสามารถปล่อยวางและก้าวต่อไปได้
โฆษณา

6

อย่าแก้แค้นอีกฝ่าย

ดาวน์โหลดบทความ

เข้าใจอยู่ว่าโกรธ แต่การแก้แค้นไม่ก่อให้เกิดผลดี. อย่าบุกไปถึงที่ทำงานของอีกฝ่ายเพื่อสร้างความอับอายให้แก่เขา หรือเคาะประตูห้องของอีกฝ่ายกลางดึกเพื่อต่อว่าเขา การทำแบบนี้นอกจากจะไม่ทำให้รู้สึกดีขึ้นแล้ว ยังปิดโอกาสที่จะกลับมาติดต่อกันอีกโดยสิ้นเชิง จงจำไว้ว่าการตัดสินใจบล็อกเราเป็นเรื่องของเขามากกว่าเรื่องของเรา อย่าให้อีกฝ่ายมีเหตุผลที่จะคิดเป็นอย่างอื่น^{[6]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- บางครั้งถ้าคนที่เคยคบบล็อกเรา แสดงว่าเราเป็นฝ่ายชนะ การถูกคนที่เคยคบบล็อกหมายความว่าหากเราต้องการ “แก้แค้น” เราก็แก้แค้นได้สำเร็จแล้ว เราชนะเพราะเราเดินหน้าต่อไป เราชนะเพราะเราเป็นคนที่มีอิทธิพลต่อชีวิตของอีกฝ่ายมากเสียจนเขาไม่สามารถทนเห็นเราออนไลน์ได้เลย

7

ขอให้คนที่เป็นทั้งเพื่อนของเราและเพื่อนของอีกฝ่ายช่วยเหลือ

ดาวน์โหลดบทความ

ถ้าเราต้องการเข้าใจสาเหตุของการถูกอีกฝ่ายบล็อก ขอให้ผู้อื่นช่วยเหลือ. ถ้าเราต้องการรู้ว่าทำไมอีกฝ่ายบล็อกเรา เราก็น่าจะได้ข้อมูลที่ถูกต้องแม่นยำมากขึ้น หากขอความช่วยเหลือจากบุคคลภายนอกที่เป็นกลาง คนที่บล็อกเราอาจมีความรู้สึกในแง่ลบกับเราตอนนี้ แต่อีกฝ่ายน่าจะเปิดใจพูดตรงๆ กับผู้อื่น
- ขอให้เพื่อนช่วยสอบถามแบบอ้อมๆ เพื่อให้อีกฝ่ายไม่รู้ตัวและเราจะได้รู้สาเหตุที่แท้จริง ตัวอย่างเช่น “มาริสาบล็อกฉันและฉันไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรผิดไป เวลาเจอมาริสาคราวหน้าช่วยถามให้หน่อยได้ไหม แค่ทำเหมือนว่าเธอสนใจอยากรู้”
โฆษณา

8

ส่งจดหมายถึงอีกฝ่าย

ดาวน์โหลดบทความ

ถ้ามีความรู้สึกมากมายที่อยากบอกให้อีกฝ่ายรับรู้ เขียนลงบนกระดาษ. การติดต่อทางจดหมายเป็นส่วนตัวและเหมาะสมมากกว่าการลองโทรหาอีกฝ่ายโดยใช้เบอร์โทรศัพท์หมายเลขอื่นหรือเพิ่มเขาลงในบัญชีสื่อสังคมปลอม ยิ่งไปกว่านั้นการเขียนจดหมายยังทำได้ง่าย เนื่องจากสามารถทำได้ตามความสะดวกของตนเอง ใช้เวลาเขียนความรู้สึกของตนเองลงในจดหมายแล้วส่งไปหาอีกฝ่ายหรือขอให้เพื่อนช่วยส่งให้ก็ได้^{[7]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- การเขียนจดหมายหาอีกฝ่ายเป็นวิธีที่เหมาะสมอย่างยิ่ง หากเราและบุคคลนั้นคบหากันมาอย่างยาวนานแต่ความสัมพันธ์กลับจบลงอย่างกะทันหัน
- เราอาจเขียนจดหมายขอโทษ ถามว่าเราทำอะไรผิดไป ขอให้อีกฝ่ายกลับมาคืนดีกับเรา หรือสะท้อนถึงช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกัน ไม่มีคำตอบที่ถูกหรือผิด ความสำคัญอยู่ตรงที่เราต้องการบอกอะไรอีกฝ่าย
- ถามตัวเองว่าเราสามารถทำหรือพูดอะไรแตกต่างออกไปได้หรือไม่และตัดสินใจว่าจำเป็นต้องขอโทษหรือไม่ มีวิธีที่เราจะสามารถถ่ายทอดมุมมองของตนแตกต่างออกไปหรือไม่ ลองหาวิธีที่สามารถกล่าวออกมาได้ดีขึ้น
- อย่าส่งจดหมายหลายฉบับ เพราะจะทำให้เกิดความเข้าใจผิดและพอมาถึงจุดใดจุดหนึ่งอีกฝ่ายคงไม่อยากรับจดหมายจากเราอีก

9

เอาสิ่งใดก็ตามที่ทำให้นึกถึงอีกฝ่ายออกไปไว้ที่อื่น

ดาวน์โหลดบทความ

เราจะเดินหน้าต่อไปได้ง่ายขึ้นเยอะ ถ้าสามารถนำสิ่งของที่ทำให้นึกถึงอีกฝ่ายออกไปจากพื้นที่ของเรา. ถ้าหากได้ของขวัญใดๆ จากอีกฝ่ายหรือมีรูปถ่ายของเขาแขวนอยู่ในห้อง ให้นำของเหล่านั้นมาเก็บไว้ในกล่องทั้งหมดและดันกล่องเข้าไปลึกๆ ใต้เตียง เราสามารถเอาออกมาดูในภายหลังได้เสมอ แต่ตอนนี้การนำสิ่งของที่ทำให้นึกถึงความหลังออกไปไว้ที่อื่นจะช่วยให้เราเลิกนึกถึงอีกฝ่ายและสามารถเดินหน้าต่อไปได้^{[8]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- หากพบว่าตนเองเครียด นึกถึงรูปถ่ายและของกระจุกกระจิกอยู่ตลอด นำของเหล่านี้ไปฝากไว้ที่เพื่อนก่อนและบอกให้เขาเก็บรักษาไว้ให้เรา อย่างน้อยที่สุดก็สักพักหนึ่ง
โฆษณา

10

เลิกเล่นสื่อสังคมชั่วคราว

ดาวน์โหลดบทความ

ถ้าพบว่าตนเองเช็กสื่อสังคมอยู่ตลอดเวลา ให้เว้นวรรคการใช้สื่อสังคมชั่วคราว. การออกจากความรู้สึกด้านลบที่กำลังประสบอยู่จะยากขึ้น หากเราเอาแต่เช็กอยู่เรื่อยว่าอีกฝ่ายเลิกบล็อกเราหรือยัง ออกจากการใช้สื่อสังคมสักพัก ลบบัญชีของเราชั่วคราวและไม่ใช้สื่อสังคมสักสองสามวัน เราจะรู้สึกดีขึ้นในไม่ช้า^{[9]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- หยุดเล่นสื่อสังคมหนึ่งเดือน ถ้าทำได้ โดยปกติ 30 วันก็เพียงพอแล้วที่จะจัดการความรู้สึกของตนเองและกลับมาเป็นเราคนเก่า

11

ใช้เวลาอยู่กับเพื่อนและครอบครัว

ดาวน์โหลดบทความ

การรายล้อมไปด้วยผู้คนที่ห่วงใยเราจะช่วยทำให้รู้สึกดีขึ้น. การถูกคนที่ชอบมากบล็อกจะทำให้เรารู้สึกทุกข์ใจได้ง่าย หากไม่ใช้เวลาอยู่ร่วมกับผู้คนซึ่งมีความสุขเป็นอย่างยิ่งที่มีเราอยู่ในชีวิตของเขา ตอบรับทุกคำชวนจากเพื่อนเพื่อจะได้ออกไปข้างนอก และติดต่อพบปะผู้คนที่ไม่ได้พบเจอกันมาสักพัก เราจะลืมว่าตนเองถูกบล็อกในไม่ช้า!^{[10]Xแหล่งข้อมูลที่เชื่อใจได้HelpGuideไปที่แหล่งข้อมูล}
- ออกไปข้างนอกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เราอาจต้องการติดต่ออีกฝ่ายหรือเช็กบัญชีสื่อสังคมของเขามากขึ้น หากอยู่ที่บ้านเพียงลำพัง ฉะนั้นถ้าเราหากิจกรรมให้ตัวเองทำอยู่ตลอด เราก็จะรู้สึกดีขึ้นมากทีเดียว
โฆษณา

12

กลับมามองเป้าหมายในชีวิตอีกครั้ง

ดาวน์โหลดบทความ

หยุดและถามตัวเองว่าทำไมการถูกบล็อกถึงรบกวนจิตใจเรามากขนาดนี้. ถ้าเราเพียงแค่ไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้ นี่อาจเป็นสัญญาณว่าได้เวลาประเมินใหม่แล้ว อาจเป็นสัญญาณว่าเราควรจะพักกการออกเดตเอาไว้ก่อนและทุ่มเทพลังงานให้แก่การเรียนหรือการทำงาน เราอาจใช้เวลาว่างที่เพิ่งเพิ่มเข้ามากลับไปทำสิ่งที่ใฝ่ฝันเอาไว้ให้สำเร็จ^{[11]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- อะไรทำให้เรารู้สึกเติมเต็มและเราสนใจสิ่งใดในชีวิต ให้ทำสิ่งนั้นเสีย
- ยอมรับว่าเราย่อมรู้สึกเจ็บปวดเป็นธรรมดา โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเราเคยออกเดตกับอีกฝ่ายมาสักพักแล้ว
- ถือเสียว่าเหตุการณ์นี้เป็นโอกาสที่จะได้เรียนรู้ ใช้สิ่งที่ได้เรียนรู้จากความสัมพันธ์หรือการปฏิสัมพันธ์นี้ให้เกิดประโยชน์ จากนั้นเดินหน้าต่อไป
- ถ้าเราทำอะไรผิดไป เราสามารถหาทางไถ่โทษได้โดยไปเป็นอาสาสมัครให้องค์กรการกุศลที่ส่งน้ำใจและสิ่งดีๆ ให้แก่ผู้อื่นด้วยความรัก เลือกทางที่ดีและก่อให้เกิดประโยชน์เพื่อเดินหน้าต่อไป

13

รอเวลาที่จะติดต่ออีกฝ่ายอีกครั้ง

ดาวน์โหลดบทความ

ถ้าอีกฝ่ายยังไม่ตอบกลับ เราอาจต้องรอเวลาที่จะติดต่อเขาอีกครั้ง. ถ้าเราได้ขอให้เพื่อนคนหนึ่งช่วยติดต่อให้แล้ว เขียนจดหมายถึงอีกฝ่ายแล้ว รอมาสองสามสัปดาห์แล้ว แต่อีกฝ่ายก็ยังไม่ตอบกลับมา แสดงว่าอาจต้องใช้เวลารอนานกว่านั้น รอสักสองสามเดือน หากยังต้องการติดต่อ ลองโทรหรือส่งข้อความหาอีกฝ่ายสักครั้ง ถ้าเขายังไม่ตอบกลับมา อาจลองติดต่ออีกครั้งในหนึ่งปีโดยประมาณ^{[12]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- การรอเวลาที่จะติดต่ออีกฝ่ายอีกครั้งดูเหมือนเป็นอะไรที่ยากลำบากเหลือเกิน แต่ถ้าเราและเขาถูกกำหนดมาให้เป็นเพื่อนกัน การรอสองสามเดือนไปจนถึงหนึ่งปีก็น่าจะคุ้มค่า
โฆษณา