ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความX
บทความนี้ ร่วมเขียน โดย John Keegan. จอห์น คีแกนเป็นโค้ชด้านดารเดทและเป็นนักพูดสร้างแรงบันดาลใจในนิวยอร์ก เขาเปิด The Awakened Lifestyle ซึ่งเขาใช้ความเชี่ยวชาญด้านการเดท การทำตัวให้มีเสน่ห์ และแรงขับเคลื่อนทางโซเชียลมาช่วยผู้คนได้พบรัก เขาสอนและเปิดเวิร์คช็อปด้านการเดทไปทั่วโลก ตั้งแต่ลอสแองเจลิสไปลอนดอน และจากริโอเดอจาเนโรไปถึงปราก งานของเขาถูกเอ่ยถึงใน New York Times, Humans of New York, และ Men's Health
บทความนี้ถูกเข้าชม 1,950 ครั้ง
การพูดกับสาวอาจจะเป็นเรื่องที่น่ากลัวหากคุณไม่ค่อยได้ฝึกฝน หากมีสาวคนหนึ่งในชั้นเรียนที่คุณชอบมากหรือแม้แต่คนที่คุณคิดว่าน่าสนใจที่คุณอยากเป็นเพื่อนด้วย คุณก็ไม่ควรประหม่าเกินไปที่จะพูดกับเธอ บทความนี้จะสอนวิธีให้คุณทำลายกำแพงกั้นระหว่างคุณกับสาวโดยการพูดเกี่ยวกับชั้นเรียนของคุณ จากนั้นจึงทำความรู้จักเธอให้ดีขึ้นและพัฒนาความสัมพันธ์ที่ดีกับเธอ ไม่ว่าคุณต้องการเป็นแค่เพื่อนหรือมากกว่านั้นก็ตาม
ขั้นตอน
ขอความช่วยเหลือเล็กน้อย.[1] วิธีที่ง่ายที่สุดในการเริ่มบทสนทนากับใครบางคนที่คุณต้องการพูดด้วยคือการขอความช่วยเหลือ คุณยังไม่รู้จักบุคคลนี้ เพราะฉะนั้นคุณไม่รู้ว่าคุณมีอะไรที่คล้ายคลึงกัน การขอความช่วยเหลือเป็นวิธีที่เป็นกลางในการเข้าสู่บทสนทนาโดยไม่ทำให้พวกเขาเบื่อกับบางสิ่งที่พวกเขาไม่สนใจ- ทำให้มั่นใจว่าเป็นความช่วยเหลือที่เล็กน้อยซึ่งจะไม่ทำให้เธอเบื่อหน่าย
- เช่น ขอยืมปากกาหรืออ่านสมุดจดโน้ตของวิชาที่คุณเรียนไม่ทัน
- หากคุณไม่มีหนังสือเรียน คุณสามารถขอดูหนังสือร่วมกับเธอ คุณจะสามารถนั่งใกล้กับเธอมากขึ้นด้วยวิธีนี้
ถามคำถามเกี่ยวกับสิ่งที่คุณครูเพิ่งพูด. คุณอาจจะไม่รู้ว่าเธอชอบอะไรเพราะคุณยังรู้จักเธอไม่ดีพอ สิ่งเดียวที่คุณรู้แน่ชัดว่าคุณมีคล้ายคลึงกันคือคุณอยู่ร่วมชั้นเรียนกับเธอ ขอให้เธออธิบายบางอย่างที่คุณครูเพิ่งพูดถึงแม้ว่าคุณจะเข้าใจบทเรียนนี้อย่างกระจ่างชัดแล้วก็ตาม- การขอให้ใครบางคนอธิบายบางอย่างให้คุณฟังสามารถนำไปสู่บทสนทนาที่ยาวขึ้น ซึ่งตรงกันข้ามกับการขอความช่วยเหลือที่อาจจะนำไปสู่การมีปฏิสัมพันธ์อย่างรวดเร็ว
- ทำให้บทสนทนาไหลลื่นโดยการถามคำถามติดตาม
- หากเธอไม่เข้าใจบทเรียนเช่นกัน คุณสามารถแสดงความเด็ดเดี่ยวได้ ทำให้เธอรู้ว่าคุณอยู่เรือลำเดียวกันและคุณมีสิ่งที่คล้ายคลึงกัน
ทำให้เธอหัวเราะ.[2] ผู้หญิงชอบผู้ชายที่มีอารมณ์ขัน เพราะฉะนั้นคุณต้องพยายามทำให้เธอหัวเราะ สบตาเธอเวลาที่ใครบางคนพูดบางอย่างที่งี่เง่าหรือเกลือกตาเวลาที่คุณครูสั่งการบ้าน ทำให้มั่นใจว่าคุณไม่ได้กำลังรบกวนชั้นเรียนหรือดึงดูดความสนใจของคุณครู การถูกทำโทษจะไม่ทำให้เธอประทับใจ
ถามความคิดเห็นของเธอเกี่ยวกับชั้นเรียน.[3] คุณกำลังมองหาอะไรก็ได้เพื่อเริ่มพูดคุยกับเธอ เพราะฉะนั้นทำให้เธอรู้สึกเหมือนกับว่าคุณอยากรู้ว่าเธอจะพูดอะไร ถามเธอเกี่ยวกับชั้นเรียน เช่น เธอคิดว่าข้อสอบครั้งต่อไปจะเกี่ยวกับอะไรหรือเธอวางแผนที่จะเตรียมงานนำเสนอหน้าชั้นกี่ชั่วโมง- อย่าพูดขัดจังหวะเวลาที่เธอกำลังออกความเห็น ปล่อยให้เธอพูดตามที่เธอต้องการและแสดงความสนใจในสิ่งที่เธอพูด
ชมเชยเธอ. การให้คำชมเชยทำได้ยากกว่าที่คิด คุณอาจจะคิดว่า “ใครไม่ชอบถูกชมเชยบ้าง?” แต่คุณต้องให้ความเคารพผู้หญิงเวลาที่คุณกล่าวคำชมเชยพวกเธอ การกล่าวคำชมเชยผู้หญิงว่าพวกเธอสวยอาจจะสื่อว่าคุณชอบพวกเธอเพียงเพราะรูปร่างหน้าตาและผู้หญิงส่วนใหญ่ไม่ชอบที่จะรู้สึกแบบนั้น[4] กล่าวคำชมเชยเกี่ยวกับผลงานของเธอดีกว่าเกี่ยวกับสิ่งที่เธอมีมาอยู่แล้วตั้งแต่เกิด ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างหน้าตาของเธอหรือไม่ก็ตาม- ชมเชยทรงผมของเธอเป็นบางโอกาสแทนที่จะชมเชยดวงตาของเธอ
- ชมเชยชุดที่เธอสวมใส่
- บอกเธอว่าคุณชอบคำตอบที่เธอให้ในชั้นเรียน
- ยินดีที่เธอทำข้อสอบได้ดีหากคุณเห็นว่าเธอได้คะแนนดี
เลือกเวลาที่เหมาะสมในการทำลายกำแพง. อย่ารบกวนเธอด้วยคำถามหรือคำขอความช่วยเหลือหากคุณเห็นว่าเธอกำลังตั้งใจทำบางอย่างหรือเธอกำลังรีบไปเรียนวิชาต่อไปเพื่อไม่ให้สาย ถ้าหากคุณเรียนร่วมชั้นเดียวกับเธอ คุณจะเจอเธอทุกวัน เพราะฉะนั้นรอจนถึงเวลาที่เธอดูผ่อนคลายและอารมณ์ดีเพื่อเริ่มคุยกับเธอโฆษณา
พูดถึงเรื่องอื่นที่ไม่เกี่ยวกับชั้นเรียน. เพราะว่าคุณรู้อยู่แล้วว่าอย่างน้อยคุณก็เรียนชั้นเดียวกันซึ่งเป็นวิธีที่ดีในการทำความรู้จักกันให้ดีมากขึ้นโดยการพูดเกี่ยวกับการบ้าน คุณครู เพื่อนร่วมชั้นและอื่นๆ แต่เมื่อเวลาผ่านไปคุณต้องการรู้เรื่องอื่นด้วย เพราะฉะนั้นคุณต้องพูดถึงเรื่องอื่นที่ไม่เกี่ยวกับชั้นเรียนหรือแม้แต่โรงเรียน
มีท่าทางที่เป็นมิตรและน่าเข้าหา. อย่าพยายามเล่นตัวเพื่อทำเท่ สิ่งที่คุณคิดว่ามันดูเท่อาจจะดูไกลห่างหรือไม่พึงประสงค์ ผู้หญิงจะพูดคุยกับผู้ชายที่เป็นตัวของตัวเอง เปิดเผยและจริงใจได้ง่ายกว่า- ยิ้มและหัวเราะอย่างง่ายดาย ผู้หญิงชอบผู้ชายที่มีความสุขกับตัวเอง
- หันร่างกายเข้าหาเธอเวลาที่คุณพูดกับเธอ
- อย่ากลัวที่จะสบตาเธอเวลาที่คุณพูดกับเธอ
หาว่าเธอสนใจเกี่ยวกับอะไร.[5] เมื่อคุณได้พูดคุยกันแล้วคุณต้องทำความรู้จักกันให้ดีขึ้น ลองหาดูว่าเธอสนใจเกี่ยวกับอะไร ถามเธอว่าชอบวิชาไหนเป็นพิเศษ เธอทำกิจกรรมอะไรหลังจากโรงเรียนเลิกและเธอชอบทำอะไรในเวลาว่าง- พยายามเบี่ยงเบนบทสนทนาให้เกี่ยวกับสิ่งที่เธอสนใจ
- สิ่งนี้จะทำให้เธอตั้งตารอที่จะคุยกับคุณเพราะเธอรู้ว่าคุณจะตั้งใจฟังเวลาที่เธอพูดถึงสิ่งที่เธอรัก
แบ่งปันสิ่งที่คุณสนใจให้กับเธอ. คุณต้องการให้เธอรู้จักคุณมากขึ้นด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้นคุณต้องพูดถึงสิ่งที่สำคัญสำหรับคุณ หากคุณมัวแต่ปล่อยให้เธอพูดอยู่กับตัวเองตลอดเวลา อีกไม่นานคุณจะหยุดชอบเธอเพราะคุณจะรู้สึกว่ามิตรภาพนี้เกี่ยวกับเธอเพียงคนเดียว คุณจำเป็นต้องรักษาสมดุล เพราะฉะนั้นคุณทั้งคู่ต้องแบ่งปันเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตของแต่ละฝ่ายอย่างเท่าเทียมกัน- เปิดใจและจริงใจ อย่าเพียงพูดถึงสิ่งที่คุณคิดว่าเธอต้องการได้ยิน พูดเกี่ยวกับสิ่งที่สำคัญกับคุณเช่นกัน
- ใช้วิจารณญาณของคุณ มีบางเรื่องที่คุณไม่ควรพูดกับใครบางคนที่คุณยังรู้จักไม่ดีพอ เพราะฉะนั้นเริ่มด้วยหัวข้อที่ไม่มีพิษไม่มีภัยและเบาสบาย
- พยายามรักษาสมดุลระหว่างปริมาณการพูดของคุณทั้งสอง
ทำความรู้จักเพื่อนของเธอ.[6] วิธีที่ดีที่สุดในการใช้เวลากับใครบางคนคือการมีเพื่อนร่วมกัน การไปเที่ยวกับกลุ่มเพื่อนที่มีร่วมกันจะน่าประหม่าน้อยกว่าการพูดคุยกันสองต่อสองแล้วคุณจะรู้สึกผ่อนคลายและไร้กังวลซึ่งจะทำให้เธอชอบคุณมากขึ้น เพื่อนเป็นสิ่งที่สำคัญของแต่ละบุคคล เพราะฉะนั้นเธอจะชอบคุณมากขึ้นหากเธอเห็นว่าคุณเข้ากับเพื่อนของเธอได้ดี- พูดกับเพื่อนของเธอแม้แต่เวลาที่เธอไม่ได้อยู่ตรงนั้น คุณคงไม่อยากทำให้คนอื่นคิดว่าคุณกำลังใช้พวกเขาเพื่อเข้าหาสาว
- มิตรภาพที่แท้จริงกับพวกเขา ไม่ใช่มิตรภาพที่ฉาบฉวย หากคุณชอบสาวคนนี้จริงๆ คุณจะชอบคนที่เธอเลือกคบเป็นเพื่อนด้วยเช่นกัน
โฆษณา
วางแผนสำหรับบทสนทนาในอนาคต. วิธีที่ดีที่สุดในการทำให้มั่นใจว่าคุณจะได้คุยกับเธออีกครั้งคือการวางแผนว่าคุณจะทำอย่างไร หากคุณกำลังคุยระหว่างช่วงเวลาที่เฉพาะเจาะจง เช่น พักกลางวัน เป็นต้น คุณสามารถพูดได้ว่าคุณอยากบอกว่าคุณจะบอกอะไรกับเธอในครั้งต่อไปที่คุณจะคุยกัน- เช่น พูดว่า “เตือนให้ฉันบอกเธอเกี่ยวกับสิ่งที่คุณครูสมศรีพูดในห้องเรียนเมื่อสัปดาห์ก่อนด้วยนะ มันตลกมาก”
- บอกเธอว่าคุณจะเจอเธอในช่วงเวลาที่แตกต่างออกไป เช่น “เดี๋ยวเจอกันในวิชาภาษาอังกฤษ” หรือ “วันนี้จะกินมื้อกลางวันบนสนามหญ้าไหม?”
- ถามเธอว่าเธอจะไปงานที่คุณทั้งคู่รู้จักหรือไม่ “เธอจะไปงานวันเกิดของเบลสุดสัปดาห์นี้หรือเปล่า? ฉันจะได้เอาสมุดจดไปคืนเธอด้วย”
พูดกับเธอนอกชั้นเรียน. นั่งกับเธอตอนพักกลางวันหรือพูดกับเธอระหว่างเปลี่ยนวิชาหากคุณเจอเธอที่ตู้ล็อคเกอร์ ยิ่งเธอเจอคุณและพูดกับคุณโดยที่ไม่เกี่ยวกับวิชาเรียนบ่อยเท่าไหร่ เธอก็จะเห็นว่าคุณเป็นเพื่อนที่ไม่ใช่แค่เพื่อนร่วมชั้นเรียนมากเท่านั้น
อย่าทำเยอะเกินไป. คุณสนใจในตัวเธอแต่คุณคงไม่อยากให้เธอคิดว่าคุณกำลังสะกดรอยตามเธอ วางตัวบ้าง อย่าอยู่ใกล้เธอตลอดเวลา พยายามทำให้เป็นกิจวัตรที่จะพูดกับเธอเวลาเดิมทุกวัน เช่น ระหว่างเปลี่ยนวิชาที่เฉพาะเจาะจงหรือพักกลางวันหรือก่อนหรือหลังโรงเรียนเลิก ด้วยวิธีนี้คุณจะสามารถมั่นใจได้ว่าคุณจะเจอเธอทุกวันและไม่รู้สึกเหมือนกับว่าคุณกำลังวิ่งไล่ตามเธอ- คุณอาจจะงดพูดกับเธอสักวันสองวันเป็นบางครั้งบางคราว ให้เวลากับเธอเล็กน้อยเพื่อได้คิดถึงการที่ได้พูดกับคุณและเธอจะตั้งตารอที่จะเจอคุณมากขึ้น
ขอเบอร์โทรศัพท์ของเธอ. เมื่อคุณได้พูดกับใครบางคนโดยไม่เกี่ยวกับเรื่องเรียนแล้ว คุณกำลังเป็นเพื่อนที่ไม่ใช่แค่เพื่อนร่วมชั้น อย่างไรก็ตาม วิธีที่ดีและเป็นกลางในการขอเบอร์โทรศัพท์ใครบางคนคือการบอกว่าคุณต้องการถามคำถามเกี่ยวกับเรื่องเรียน- ใช้เบอร์โทรศัพท์เพื่อถามคำถามเกี่ยวกับเรื่องเรียนในตอนแรกเพื่อที่เธอจะได้ไม่รู้สึกว่าคุณหลอกขอเบอร์โทรศัพท์ของเธอ
- ส่งข้อความแทนที่จะโทรหาเธอ คุณจะไม่รู้สึกตื่นเต้นและเธอจะไม่รู้สึกกดดันมากเกินไป
- หลังจากที่คุณส่งข้อความเกี่ยวกับการบ้านหรือวันส่งงานแล้ว คุณสามารถเริ่มส่งข้อความหาเธอเป็นบางครั้งบางคราวเกี่ยวกับสิ่งที่น่ารำคาญที่พ่อแม่ของคุณพูดหรือบางอย่างที่ตลกที่คุณเห็นในห้างสรรพสินค้า
ชวนเธอไปเที่ยวกับคุณนอกเหนือจากที่โรงเรียน. ขึ้นอยู่กับว่าคุณอายุเท่าไหร่ พ่อแม่ของคุณอาจจะไม่อนุญาตให้คุณไปเที่ยวกับสาวตามลำพังแต่คุณสามารถไปเที่ยวเป็นกลุ่มกับเพื่อนที่มีร่วมกันได้ หากเธอไม่สนิทกับกลุ่มเพื่อนของคุณ คุณสามารถชวนเพื่อนของเธอมาด้วยเช่นกัน ทำให้เธอรู้สึกสบายใจที่จะยอมรับคำเชิญและไปเที่ยวกับคุณ- เลือกสถานที่สาธารณะ เช่น ห้างสรรพสินค้าหรือโรงภาพยนตร์
- ทานอาหาร เช่น พิซซ่าหรือแฮมเบอร์เกอร์
- สนใจเธอและพูดกับเธอถึงแม้ว่ามีคนอื่นอยู่ด้วยก็ตาม
โฆษณา
เคล็ดลับ
- ยิ้มเสมอ
- หากเธอปฏิเสธ คุณสามารถถามว่าเธอต้องการเป็นเพื่อนกับคุณไหม
- หากเธอผลักไสหรือไม่สนใจคุณเท่าที่ควรก็อย่าเพิ่งด่วนตัดสินใจว่าเธอไม่สนใจในตัวคุณ เธออาจจะกลัวถูกทำโทษหากคุยในชั้นเรียน ลองพูดกับเธอเมื่อคุณครูกำลังแจกเอกสารหรือก่อนหรือหลังเลิกเรียน
- หากเธอไม่ต้องการพูดก็ปล่อยเธอไป
- อย่าพยายามทำเป็นเท่
โฆษณา
คำเตือน
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ http://www.psychologytoday.com/blog/the-attraction-doctor/201112/break-the-ice-how-talk-girls-and-guys-0
- ↑ http://datingtips.match.com/talk-girls-dont-13443163.html
- ↑ http://sibg.com/how-to-start-a-conversation-with-a-girl/
- ↑ http://everydayfeminism.com/2013/05/how-to-compliment-a-woman-without-objectifying-them/
- ↑ http://www.peopleskillsdecoded.com/how-to-keep-a-conversation-going-with-a-girl/
- ↑ http://www.askmen.com/dating/heidi_60/60_dating_girl.html
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
โค้ชด้านการเดท
บทความนี้ ร่วมเขียน โดย John Keegan. จอห์น คีแกนเป็นโค้ชด้านดารเดทและเป็นนักพูดสร้างแรงบันดาลใจในนิวยอร์ก เขาเปิด The Awakened Lifestyle ซึ่งเขาใช้ความเชี่ยวชาญด้านการเดท การทำตัวให้มีเสน่ห์ และแรงขับเคลื่อนทางโซเชียลมาช่วยผู้คนได้พบรัก เขาสอนและเปิดเวิร์คช็อปด้านการเดทไปทั่วโลก ตั้งแต่ลอสแองเจลิสไปลอนดอน และจากริโอเดอจาเนโรไปถึงปราก งานของเขาถูกเอ่ยถึงใน New York Times, Humans of New York, และ Men's Health บทความนี้ถูกเข้าชม 1,950 ครั้ง
หมวดหมู่: โรงเรียนและมหาวิทยาลัย
มีการเข้าถึงหน้านี้ 1,950 ครั้ง
บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม
⚠️ Disclaimer:
Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.
- - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
- - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
- - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
- - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.
โฆษณา
