วิธีการ ปฏิบัติตัวต่อผู้ที่มีอาการหลายบุคลิก

ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความ

โรคหลายบุคลิกหรือเรียกสั้นๆว่า DID (Dissociative Identity Disorder) ซึ่งแต่ก่อนรู้จักกันในชื่อว่าโรคบุคลิกภาพหลากหลาย (Multiple Personality Disorder) เป็นอาการป่วยที่ร้ายแรงและน่ากลัวต่อทั้งผู้ที่มีอาการและคนอื่นๆ ที่เป็นปกติ โรคหลายบุคลิกจะเกิดขึ้นการพัฒนาทางจิตใจและอัตลักษณ์ที่แยกออกมาจากตัวเอง ปัจจุบันโรคนี้ยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ ดังนั้น ผู้ที่มีอาการหลายบุคลิกอาจจะกำลังทุกข์ทรมานจากบาดแผลทางจิตใจที่เจ็บปวดมากๆ อยู่ [1] การปฏิบัติตัวต่อคนที่มีอาการแบบนี้จำเป็นต้องใช้ความเห็นอกเห็นใจเพื่อส่งเสริมให้เขามีชีวิตที่ดี

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 3:

ทำความเข้าใจกับโรคหลายบุคลิก

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 รู้ถึงอาการของโรค.
    โรคหลายบุคลิกมีลักษณะเป็นการปรากฏขึ้นของบุคลิกอื่นในจิตใจ มักจะเรียกว่าบุคลิกใหม่ (Alter) บุคลิกเหล่านี้มักมีลักษณะซับซ้อน กล่าวคือ มีลักษณะเด่น ประวัติ อุปนิสัยและพฤติกรรมเป็นของตัวเอง ยกตัวอย่างเช่น ผู้ใหญ่อาจจะมีบุคลิกใหม่ที่เป็นเด็ก คุณอาจจะสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงของเสียง การเคลื่อนไหวร่างกาย นอกจากนี้ยังพบการเปลี่ยนแปลงทางทัศนคติหรือแม้แต่ความชอบส่วนบุคคล เนื่องจากการปรากฏตัวของบุคลิกใหม่ที่มีลักษณะแตกต่างจากคนเดิม คนที่เป็นโรคอาจจะสูญเสียความทรงจำหรือประสาทสัมผัสในช่วงเวลาที่บุคลิกเปลี่ยนไป พวกเขาจะไม่รู้ตัวว่ามีบุคลิกใหม่เกิดขึ้น การเปลี่ยนแปลงจากคนเดิมไปเป็นบุคลิกใหม่นั้นถูกเรียกว่า "การสับเปลี่ยนบุคลิก" หรือ "Switching" [2]
    • ผู้ที่เป็นโรคหลายบุคลิกนั้นอาจจะเคยประสบกับภาวะเครียด ซึมเศร้า หรือเคยมีอาการทำร้ายตนเอง นอนไม่หลับ เสพติดยาและแอลกอฮอล์
    • ความรุนแรงของอาการนั้นจะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล
  2. How.com.vn ไท: Step 2 ตั้งข้อสงสัยกับการตัดสินใจของคุณ.
    คนที่พบเจอกับอาการผิดปกติทางจิตมักจะไม่ไปหาวิธีรักษาเพราะมีบาดแผลในจิตใจเป็นส่วนเกี่ยวข้องกับการป่วยของพวกเขา [3] โรคหลายบุคลิกก็เกิดจากบาดแผลในจิตใจเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม โรคหลายบุคลิกยังไม่ได้รับการยอมรับในฐานะเป็นอาการผิดปกติทางจิตแม้ว่าจะอยู่ในเกณฑ์การวินิจฉัยโรคทางจิตเวชที่เรียกว่า DSM-5 (Diagnostic and Statistical Manual of Mental Disorders) ที่เป็นตัวชี้วัดการเป็นโรคทางจิตแล้วก็ตาม ดังนั้น หลีกเลี่ยงการทำให้ผู้ที่มีอาการผิดปกติรู้สึกผิดและอับอาย
    • เรียนรู้ถึงความยากลำบากในการจัดการกับปฏิกิริยาของผู้อื่น ซึ่งจะช่วยให้คุณเข้าใจความซับซ้อนในการใช้ชีวิตร่วมกับคนที่มีอาการผิดปกติทางจิต
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ถามคำถาม ถ้าคุณคุ้นเคยกับเขา.
    คนๆ นั้นเป็นเพื่อนหรือคนในครอบครัวหรือไม่ ลองถามเรื่องราวของเขาดูเพื่อแสดงให้เห็นว่าคุณห่วงเขา [4] หากคุณไม่รู้จักหรือสนิทกับเขา การถามคำถามเหล่านี้จะพวกเขาอาจจะรู้สึกอึดอัด ดังนั้น อย่าไปพยายามที่จะรู้เรื่องของเขาถ้าคุณยังไม่สนิทกับเขาเพียงพอ
    • ถามความรู้สึกทั้งช่วงก่อนและหลัง “การสับเปลี่ยนบุคลิก” เพื่อให้เข้าใจเรื่องราวในตัวเขามากยิ่งขึ้น
    • แสดงถึงความเห็นอกเห็นใจโดยการเรียนรู้ว่า ความกลัว ความสับสน และความท้อแท้ที่เขาได้รับจากประสบการณ์นั้นๆ เป็นอย่างไร
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 3:

ให้การสนับสนุนกับคนที่มีอาการหลายบุคลิก

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 อยู่กับเขา.
    ความรู้สึกผิดและบาดแผลในจิตใจมักจะทำให้คนที่มีความผิดปกติทางจิตนั้นรู้สึกว่าตัวเองแปลกแยกจากสังคม คุณสามารถช่วยคนเหล่านี้ให้มีความสัมพันธ์ที่ดีได้โดยการอยู่กับเขา คุณไม่จำเป็นต้องปรึกษาหรือพูดคุยเกี่ยวกับโรคหลายบุคลิก จริงๆ แล้วนั้น การไม่ต้องพูดถึงเรื่องอาการผิดปกติเลยจะเป็นสิ่งที่ดีกว่า การเข้าหาเขาอย่างคนปกติจะช่วยให้พวกเขารู้สึก “ปกติ”
    • ลองจัดทำตารางเวลาเพื่อพบกันทุกๆ สัปดาห์เพื่อให้แน่ใจว่าคุณยังคงติดต่อกับเขาอยู่อย่างสม่ำเสมอ
    • หากิจกรรมที่คุณสามารถทำร่วมกับเขาเพื่อให้การพูดคุยนั้นมุ่งไปที่เรื่องอื่นมากกว่าเรื่องโรคหลายบุคลิก
  2. How.com.vn ไท: Step 2 เข้าร่วมการรักษาแบบกลุ่ม.
    การรักษาแบบกลุ่ม (Support group) เป็นวิธีที่ดีมากที่จะหาเพื่อนที่มีประสบการณ์คล้ายๆ กัน [5] แนะนำให้คุณไปเข้าร่วมการรักษาแบบกลุ่มกับเขาด้วยเพื่อแสดงการสนับสนุน
    • โรคหลายบุคลิกนั้นเป็นโรคที่หาได้ยาก ดังนั้นการหาการรักษาแบบกลุ่มที่เฉพาะกับโรคนั้นอาจเป็นไปได้ยากในแถบชุมชนของคุณ ตามเมืองใหญ่ๆ อาจจะมีกลุ่มที่สร้างมาเฉพาะสำหรับคนที่เป็นโรคหลายบุคลิก แต่ในเมืองเล็กๆ นั้น คุณอาจจะต้องหาการรักษาแบบกลุ่มที่สร้างมาเพื่อคนที่มีอาการจิตผิดปกติโดยรวม
    • ถ้าคุณไม่สามารถหาการรักษาแบบกลุ่มในแถบชุมชนของคุณได้ ลองพิจารณาการเข้าร่วมการรักษาแบบกลุ่มทางอินเทอร์เน็ต
  3. How.com.vn ไท: Step 3 เป็นผู้สนับสนุน.
    แสดงให้เขาเห็นว่าคุณดูแลและต้องการที่จะสนับสนุนเขาโดยการเข้าร่วมการรักษาแบบกลุ่มกับเขา ซึ่งเป็นกลุ่มที่จะคอยให้ความรู้และโอกาสให้คุณรู้สึกว่าสามารถช่วยเหลือพวกเขาได้ [6]
    • ส่งเสริมให้เขาเข้ารับการรักษาแบบกลุ่ม การเข้าร่วมการรักษาอาจจะช่วยให้เขาเข้าใจประสบการณ์ทางสังคมได้ดีขึ้นและอาจจะช่วยให้เอาชนะบาดแผลในจิตใจก็เป็นได้
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 3:

จัดการกับการสับเปลี่ยนบุคลิก

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ช่วยเหลือคนที่มีอาการหลายบุคลิกในการหลีกเลี่ยงตัวกระตุ้น....
    ช่วยเหลือคนที่มีอาการหลายบุคลิกในการหลีกเลี่ยงตัวกระตุ้น. การบาดเจ็บเป็นตัวสั่งงานในกลุ่มคนที่เป็นโรคหลายบุคลิก และการแยกตัวออกนั้นมักจะเกี่ยวข้องกับอารมณ์เครียดที่รุนแรง หรือก็คือ อารมณ์เครียดเป็นตัวกระตุ้นให้เกิด “การสับเปลี่ยนบุคลิก” [7] ดังนั้น วิธีที่จะช่วยเหลือคนที่มีอาการหลายบุคลิกในการหลีกเลี่ยงการสับเปลี่ยนก็คือการช่วยให้พวกเขารับรู้และจัดการกับความเครียดให้ได้ ถ้าคุณพบเจอเหตุการณ์ที่กำลังจะทำให้อารมณ์ครุกครุ่น ให้กลบเกลื่อนโดยการเปลี่ยนหัวข้อสนทนาหรือขอให้เขาทำกิจกรรมที่ไม่เกี่ยวข้องกับสิ่งนั้น
    • ยาเสพติดและแอลกอฮอล์อาจจะเป็นตัวกระตุ้น “การสับเปลี่ยนบุคลิก” ดังนั้น อย่าแนะนำให้เขาใช้เด็ดขาด
  2. How.com.vn ไท: Step 2 แนะนำตัวเอง.
    ถ้าคุณพบเจอกับบุคลิกใหม่ที่สับเปลี่ยน เขาอาจจะไม่รู้จักคุณ ถ้าเขาไม่รู้จักคุณ เขาอาจจะสับสนและหวาดกลัว ดังนั้น ช่วยให้เขารู้สึกดีขึ้นโดยการแนะนำตัวเองและอธิบายว่าคุณรู้จักเขาได้อย่างไร [8]
    • ถ้าคนที่มีอาการหลายบุคลิกนั้นเป็นคู่สมรสของคุณ คุณอาจจะต้องหลีกเลี่ยงการแนะนำตัวว่าเป็นสามีหรือภรรยากับบุคลิกใหม่ ยกตัวอย่างเช่น บุคลิกใหม่ที่เป็นเด็กอาจจะตอบรับแบบสับสน และบุคลิกใหม่ที่เป็นเพศตรงข้ามจากคนเดิมอาจจะอารมณ์เสียโดยการอนุมานถึงอัตลักษณ์ทางเพศของคุณ
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ส่งเสริมให้เขาปฏิบัติตามการรักษา.
    การรักษาอาการหลายบุคลิกนั้นโดยทั่วไปจะเป็นการให้คำปรึกษาและเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิต คนที่เจอกับภาวะซึมเศร้า และ/หรือ ความวิตกอาจจะต้องรักษาโดยการสั่งยา [9] การรักษาจะต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดี ดังนั้น สนับสนุนเขาให้พยายามปฏิบัติตาม
    • ให้กำลังใจเขาในการเข้ารับการปรึกษาด้วยการไปรับคำปรึกษาพร้อมกับเขา
    • การเปลี่ยนแปลงรูปแบบการใช้ชีวิตนั้นก็จะมีการทานอาหารที่มีประโยชน์ การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และการงดใช้ยาเสพติดและแอลกอฮอล์ คุณอาจจะกระตุ้นเขาให้มีความแน่วแน่ในการเปลี่ยนแปลงโดยการนำมาใช้กับตัวเอง อย่างน้อยก็ตอนที่อยู่กับคนที่เราอยากให้ทำตาม
    • แนะนำให้ตั้งเวลาเพื่อเตือนเขาให้ทานยาตามที่สั่งไว้
    • ถ้าเขาไม่ยอมปฏิบัติตามหรือกำลังคิดว่าจะไม่ปฏิบัติตาม แนะนำให้เขาไปปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับทางเลือกในการรักษาอื่นๆ
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • สุขภาพทางกายนั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับสุขภาพทางจิต ดังนั้น แนะนำให้เขาทานอาหารที่มีประโยชน์และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
โฆษณา

คำเตือน

  • การหยุดทานยาทันทีนั้นอาจจะเป็นอันตรายได้ แนะนำให้คนที่คิดจะหยุดทานยาให้ไปปรึกษาแพทย์ก่อน
  • ถ้าคุณกังวลว่าเขาจะทำร้ายตัวเองหรือผู้อื่น ให้ขอความช่วยเหลือทันที
  • ยาเสพติดและแอลกอฮอล์จะไปเพิ่มความถี่และความรุนแรงของอาการหลายบุคลิก ดังนั้น หลีกเลี่ยงของเหล่านี้
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

How.com.vn ไท: Noel Hunter, Psy.D
ร่วมเขียน โดย:
นักจิตวิทยาคลินิก
บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Noel Hunter, Psy.D. ดร.โนล ฮันเตอร์เป็นนักจิตวิทยาคลินิกในนิวยอร์กซิตี้ เธอเป็นผู้อำนวยการและผู้ก่อตั้ง MindClear Integrative Psychotherapy เธอเชี่ยวชาญด้านการใช้แนวคิดมนุษยนิยมและการดูแลบาดแผลทางใจในการรักษาและช่วยเหลือคนที่ได้รับการวินิจฉัยว่ามีความผิดปกติทางจิต เธอได้รับปริญญาศิลปศาสตรบัณฑิตสาขาจิตวิทยาจากมหาวิทยาลัยเซาท์ฟลอริดา ศิลปศาสตรมหาบัณฑิตสาขาจิตวิทยาจากมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก และปริญญาดุษฎีบัณฑิตสาขาจิตวิทยา (Psy.D) จากมหาวิทยาลัยลองไอแลนด์ เธอเคยปรากฏตัวใน National Geographic, BBC News, CNN, TalkSpace และนิตยสาร Parents นอกจากนี้เธอยังเป็นนักเขียนเจ้าของหนังสือ Trauma and Madness in Mental Health Services อีกด้วย บทความนี้ถูกเข้าชม 9,918 ครั้ง
มีการเข้าถึงหน้านี้ 9,918 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

⚠️ Disclaimer:

Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.

Notices:
  • - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
  • - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
  • - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
  • - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.

โฆษณา