วิธีการ บอกลาครั้งสุดท้าย

คุณอาจจะกำลังยุติความสัมพันธ์ที่ไม่มีความสุข สูญเสียคนที่คุณรัก ออกจากงาน ย้ายออกไปอยู่ไกลจากบ้าน หรือแม้กระทั่งบอกลาสัตว์เลี้ยงที่คุณรัก การบอกลาเป็นสิ่งที่เราทุกคนล้วนต้องเผชิญไม่ช้าก็เร็ว แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้มันง่ายขึ้น ไม่ว่าคุณจะกำลังเผชิญกับเรื่องอะไร ขอให้รู้ไว้ว่าคุณไม่ได้อยู่เพียงลำพัง พวกเราอยู่ตรงนี้เพื่อช่วยให้คุณข้ามผ่านการบอกลาและจัดการกับอารมณ์ของตัวเองได้

1

ทำความเข้าใจอารมณ์

ดาวน์โหลดบทความ

แต่ละคนตอบสนองต่อการจากลาไม่เหมือนกัน. คุณอาจจะรู้สึกเศร้า โกรธ หรือเหงา หรือแม้แต่โล่งใจว่าในที่สุดความสัมพันธ์ก็จบลงแล้ว โดยเฉพาะถ้าหากมันเป็นความสัมพันธ์ที่มีแต่ปัญหาหรือแก้ไขได้ยาก และนั่นอาจทำให้คุณรู้สึกผิดในภายหลัง ไม่ว่าคุณจะรู้สึกอะไร ไม่ต้องแบ่งประเภทอารมณ์ว่า "ดี" หรือ "ไม่ดี" ทั้งหมดล้วนเป็นเรื่องปกติของการจากลา เพราะฉะนั้นแค่รู้ว่าตัวเองรู้สึกอย่างไรและใจดีกับตัวเองระหว่างรับมือกับช่วงเวลานั้นก็พอ^{[1]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ปล่อยให้อารมณ์พรั่งพรูออกมาในรูปแบบใดก็ได้ขอแค่ให้มันดีกับตัวคุณ เช่น ถ้าคุณเศร้าและอยากร้องไห้ ก็ให้เวลาตัวเองได้ร้องไห้ ถ้าคุณโมโห ให้เขียนระบายความรู้สึกออกมาในจดหมายหรือปลดปล่อยความโกรธออกมาทางร่างกายด้วยการไปวิ่ง
โฆษณา

2

บอกเขาว่าเขามีความหมายกับคุณแค่ไหน

ดาวน์โหลดบทความ

บอกให้เขารู้ว่าเขาสำคัญแค่ไหน. เมื่อคุณเตรียมบอกลาใครสักคน ให้บอกเขาว่าเขามีผลต่อชีวิตของคุณมากแค่ไหน พูดให้เจาะจงมากที่สุดด้วยการเล่าความทรงจำและพูดถึงอิทธิพลที่เขามีต่อการตัดสินใจของคุณ
- เช่น คุณอาจจะพูดว่า "คุณจำตอนที่ผมยังเด็กได้ไหม เราทำคุกกี้กันสนุกมากเลย ตอนนั้นแหละที่ผมค้นพบว่าผมชอบอยู่ในครัวมากๆ และนั่นทำให้ผมกลายมาเป็นเชฟอย่างทุกวันนี้"^{[2]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- นอกจากนี้คุณก็อาจจะพูดทำนองว่า "คุณเป็นเพื่อนที่คอยให้กำลังใจและสนุกสนานอยู่เสมอ ฉันพยายามเป็นอย่างคุณให้ได้อยู่ทุกวัน!"

3

ขอโทษหรือให้อภัยเขาหากต้องทำ

ดาวน์โหลดบทความ

เยียวยาแผลเก่าก่อนบอกลา. ถ้ามีอะไรที่จำเป็นต้องพูดเพื่อให้หายคาใจ ตอนนี้ก็ถึงเวลาที่ต้องพูดกันแล้ว ถ้าคุณว่าที่ผ่านคุณเคยทำให้เขาเสียใจ หรือมีอะไรที่คุณไม่ได้ทำและเสียดายที่ไม่ได้ทำ ให้กล่าวขอโทษเขาจากใจ และถ้าคุณยังคงกอดความรู้สึกไม่พอใจเอาไว้ ให้ปล่อยมันไปและบอกให้อีกคนรู้ว่าคุณให้อภัยเขาในเรื่องนั้น^{[3]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- เช่น คุณอาจจะพูดว่า "ผมขอโทษนะครับที่ช่วงปีที่แล้วผมไม่ค่อยได้อยู่กับคุณ ผมมัวแต่มุ่งมั่นกับงาน แต่ผมควรหาเวลาอยู่กับคุณให้มากกว่านี้"
- หรือคุณอาจจะพูดว่า "พ่อครับ ผมรู้ว่าพ่อทำดีที่สุดแล้ว ผมให้อภัยที่พ่อไม่ได้อยู่กับผมตอนผมเป็นเด็ก และผมขอบคุณที่ตอนนี้เราได้ใช้เวลาร่วมกัน"
- ระมัดระวังก่อนจะเล่าอะไรที่อาจทำร้ายจิตใจอีกฝ่าย คิดดูว่าอีกฝ่ายจำเป็นต้องรู้จริงๆ ไหม หรือว่าคุณแค่พยายามจะพูดเพื่อให้ตัวเองหายรู้สึกผิด เช่น ถ้าเพื่อนรักของคุณกำลังจะย้ายบ้านถาวร คุณจำเป็นต้องเล่าเรื่องที่คุณแอบจูบพี่ชายของเธอให้เธอฟังจริงๆ หรือเปล่า
โฆษณา

4

จัดพิธีอำลา

ดาวน์โหลดบทความ

วิธีนี้ใช้ได้หากคุณไม่สามารถบอกลาแบบต่อหน้า. ถ้าความสัมพันธ์จบลงกะทันหันหรือคนที่คุณรักเสียชีวิตอย่างไม่คาดคิด คุณก็อาจจะไม่มีเวลาได้บอกลามากเท่าที่คุณต้องการ การไม่ได้ปิดฉากความสัมพันธ์อาจทำให้คุณไปต่อได้ยาก งานศพ งานทำบุญครบรอบวันตาย และพิธีรำลึกถึงผู้ตายล้วนเป็นวิธีการสำคัญที่จะทำให้คุณได้ปิดฉากความสัมพันธ์เมื่อคนที่คุณรักจากไป แต่นอกจากนี้คุณจะจัดพิธีส่วนตัวเพื่อบอกลาในรูปแบบของตัวเองก็ได้^{[4]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ลองเขียนจดหมายถึงคนที่จากไปและอ่านออกเสียงตรงที่ที่คุณรู้สึกเหมือนได้อยู่ใกล้เขา จากนั้นคุณก็อาจจะฉีกจดหมาย เผา หรือนำไปใส่ไว้ในลิ้นชักก็ได้^{[5]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ถ้าความสัมพันธ์จบลง คุณอาจจะอยากจัดพิธีที่คุณนำภาพถ่ายเก่าๆ และของที่ระลึกมาเก็บใส่กล่องแล้วนำไปเผาหรือทิ้งไป

5

นึกถึงความแต่ความทรงจำที่มีความสุข

ดาวน์โหลดบทความ

ขอบคุณช่วงเวลาที่คุณได้อยู่กับเขา. การบอกลาเป็นเรื่องที่ยากมาก เพราะฉะนั้นหากคุณจะเศร้ามันก็ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่พยายามอย่าให้มันมาบดบังความสัมพันธ์ที่เคยมี พยายามคิดถึงช่วงเวลาสนุกๆ ที่คุณมีร่วมกัน และนึกถึงอิทธิพลทางบวกที่เขามีต่อชีวิตของคุณ^{[6]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ลองพูดทำนองว่า "ความรู้สึกที่มีต่อเรื่องนี้มันประดังประเดเข้ามาหลายอย่างและผมก็กำลังพยายามจัดการอยู่ แต่ผมแค่อยากให้คุณรู้ว่าผมเห็นคุณค่าของความทรงจำดีๆ ที่เรามีร่วมกันเสมอ"
- นอกจากนี้คุณก็อาจจะมองหาข้อดีที่มาพร้อมกับการกล่าวลาก็ได้ เช่น การดูแลพ่อแม่ในระยะสุดท้ายของชีวิตอาจทำให้คุณสองคนได้มีโอกาสเยียวยาแผลในอดีตก่อนที่เขาจะจากไป ในทำนองเดียวกันจุดจบของการแต่งงานก็อาจเป็นการเปิดประตูให้คุณได้เจอความรักครั้งใหม่ที่ดีกว่าเดิม
- ถ้าเป็นไปได้ พยายามใช้เวลาสร้างความทรงจำดีๆ กับเขาขึ้นมาใหม่ก่อนที่จะต้องกล่าวลา^{[7]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
โฆษณา

6

ขอความช่วยเหลือจากเครือข่ายสนับสนุน

ดาวน์โหลดบทความ

บอกคนรอบข้างว่าคุณต้องการอะไร. อย่าพยายามดิ้นรนผ่านมันไปให้ได้ด้วยตัวเอง ขอความช่วยเหลือจากคนรอบข้างในชีวิตที่สนับสนุนและห่วงใยคุณ บอกให้พวกเขารู้ว่าคุณกำลังเผชิญกับอะไร และพูดออกไปตรงๆ ว่าพวกเขาจะช่วยเหลือคุณได้อย่างไรด้วยเช่นกัน^{[8]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- เช่น คุณอาจจะพูดประมาณว่า "ตั้งแต่เบ็นไม่อยู่ ฉันก็ไม่รู้จะทำอะไรดี สัปดาห์นี้เรานัดเจอกันตอนบ่ายสักวันได้ไหม"
- ถ้าคุณแค่ต้องการใครสักคนอยู่ตรงนั้นเพื่อรับฟัง ให้บอกว่า "ขอฉันเล่าให้คุณฟังว่าตอนนี้ฉันรู้สึกยังไงสักครู่ได้ไหม"
- ถ้าคนรอบข้างไม่มีใครที่คุณคุยด้วยแล้วรู้สึกสบายใจเลย ลองค้นหากลุ่มสนับสนุนสำหรับคนที่กำลังผ่านช่วงเวลาโศกเศร้าในละแวกบ้านหรือทางออนไลน์^{[9]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}

7

เศร้าได้นานเท่าที่คุณต้องการ

ดาวน์โหลดบทความ

ความเศร้าโศกจากการสูญเสียเป็นกระบวนการที่ยาวนาน. และมันไม่ได้เป็นเส้นตรงด้วยเช่นเดียวกัน คุณอาจจะรู้สึกดีในช่วงเวลานึง จากนั้นก็รู้สึกเหมือนจะแบกรับไม่ไหว จำไว้ว่ามันเป็นเรื่องปกติมากๆ และไม่มีตารางเวลากำหนดตายตัวว่าเมื่อไหร่คุณควรจะเริ่มรู้สึกดีขึ้น อันที่จริงมันอาจจะมีส่วนหนึ่งในใจที่รู้สึกเศร้าต่อการสูญเสียครั้งนี้อยู่ตลอดเวลาก็ได้ ซึ่งก็ไม่เป็นไร แค่ดูแลตัวเองต่อไปและอย่าให้ความเจ็บปวดหยุดยั้งคุณจากการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีครั้งใหม่ในอนาคต^{[10]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
โฆษณา

8

ง่วนอยู่กับกิจกรรมอื่น

ดาวน์โหลดบทความ

ทำงานอดิเรกและกิจกรรมที่คุณชอบ. การรู้สึกเศร้าอยู่สักพักนั้นไม่เป็นไร แต่สุดท้ายคุณต้องกลับมาดำเนินชีวิตของตัวเอง ถ้าคุณสูญเสียความสัมพันธ์ที่เป็นส่วนสำคัญในชีวิต คุณก็อาจจะต้องค้นหาว่าความสัมพันธ์นั้นเป็นอย่างไรจากมุมมองใหม่ โชคดีที่การง่วนอยู่กับสิ่งที่ทำให้คุณมีความสุขนั้นสามารถช่วยให้ชีวิตของคุณรู้สึกเติมเต็มและมีความหมายอีกครั้ง^{[11]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
- ลองอ่านหนังสือ นัดดื่มกาแฟกับเพื่อนเก่า ลงเรียน หรือทำธุรกิจเล็กๆ นอกเวลางาน

9

พูดคุยกับนักจิตบำบัด

ดาวน์โหลดบทความ

ผู้เชี่ยวชาญสามารถช่วยคุณจัดการกับอารมณ์ที่ซับซ้อนได้. ถ้าคุณกำลังต่อสู้กับความรู้สึกโศกเศร้า การสูญเสีย หรือความโกรธหลังจากบอกลาคนที่คุณรัก ให้เข้าใจว่าคุณไม่จำเป็นต้องผ่านเรื่องนี้ตามลำพัง การพบนักจิตบำบัดโดยเฉพาะผู้ที่ผ่านการฝึกอบรมเรื่องความโศกเศร้าเป็นวิธีที่ช่วยจัดการอารมณ์และทำให้เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นในมุมมองใหม่ นอกจากนี้เขายังช่วยให้คุณได้เรียนรู้เทคนิคเพื่อเริ่มกระบวนการเยียวยาและก้าวต่อไปได้ด้วย^{[12]Xแหล่งข้อมูลอ้างอิง}
โฆษณา