วิกิฮาวเป็น "wiki" ซึ่งหมายความว่าบทความหลายๆ บทความของเรานั้นเป็นการร่วมมือกันเขียนของผู้เขียนหลายคน ในการเขียนบทความชิ้นนี้ ผู้คน 27 คน ซึ่งบางคนไม่ขอเปิดเผยตัว ได้ร่วมกันเขียนและปรับปรุงเนื้อหาของบทความอย่างต่อเนื่อง
มีการอ้างอิง 9 ข้อที่อ้างอิงอยู่ในบทความ ซึ่งสามารถพบได้ทางด้านล่างของบทความ
บทความนี้ถูกเข้าชม 5,736 ครั้ง
คุณเคยประสบปัญหาผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าที่วางขายตามท้องตลาดไม่เหมาะกับสภาพผิวของคุณหรือไม่? ถ้าอย่างนั้นมาลองทำคลีนเซอร์สูตรธรรมชาติใช้เองกันดีกว่า คลีนเซอร์สูตรโฮมเมดนี้วิธีทำที่แสนง่ายดาย ทั้งยังดีต่อผิวหน้าของคุณอีกด้วย!
ขั้นตอน
- ลองใช้น้ำผึ้งทำความสะอาดผิวหน้า. น้ำผึ้งมีคุณสมบัติเป็นสารเร่งการผลัดเซลล์ผิวตามธรรมชาติ จึงช่วยในการขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วโดยไม่จำเป็นต้องพึ่งสครับเกลือหรือน้ำตาลที่แข็งและอาจบาดผิว ทั้งยังเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวได้อย่างดีเยี่ยม ทำให้ผิวหน้าของคุณรู้สึกนุ่มและเรียบเนียนยิ่งขึ้น นอกจากนี้ น้ำผึ้งยังมีสรรพคุณเป็นยาฆ่าเชื้อโรคตามธรรมชาติอีกด้วย น้ำผึ้งจึงไม่เพียงช่วยขจัดสารพิษที่ตกค้างบนผิวหน้าเท่านั้น แต่ยังมีส่วนช่วยในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิวได้อีกด้วย
- น้ำผึ้งสามารถใช้ได้กับผิวทุกประเภท
- น้ำผึ้งไม่เหมาะสำหรับใช้เช็ดล้างเครื่องสำอาง[1] คุณจึงอาจจำเป็นต้องเลือกใช้คลีนเซอร์สูตรน้ำมันในการเช็ดทำความสะอาดผิวหน้าของคุณแทน หากต้องการเรียนรู้วิธีการทำคลีนเซอร์สูตรน้ำมัน ลองดูในส่วนของขั้นตอนการทำความสะอาดผิวหน้าด้วยน้ำมันในบทความนี้
- ป้องกันเส้นผมและเสื้อผ้าของคุณ. เนื่องจากน้ำผึ้งมีความเหลว เหนียว และเลอะเทอะ คุณจึงควรใช้ผ้าขนหนูคลุมไว้ตรงบริเวณหน้าอกและรวบผมไปข้างหลังเป็นหางม้า หรือหากคุณไว้ผมสั้น เพียงแค่ใช้กิ๊บติดผมไปทางด้านหลังหรือสวมหมวกคลุมอาบน้ำเท่านี้ก็เรียบร้อย
- พรมน้ำบนใบหน้าให้เปียก. ชะโงกหน้าเหนืออ่างล้างมือและชโลมน้ำอุ่นบนใบหน้าให้เปียกเพื่อให้น้ำผึ้งเจือจางลงและทาทั่วใบหน้าได้ง่ายยิ่งขึ้น
- เทน้ำผึ้งลงบนฝ่ามือ. เทน้ำผึ้งแท้ประมาณ ½ ช้อนชาลงบนฝ่ามือ จากนั้นใช้นิ้วมือค่อยๆ กวนให้น้ำผึ้งเหลวและอุ่นขึ้น หากน้ำผึ้งข้นเหนียวเกินไป คุณสามารถหยดน้ำอุ่นเล็กน้อยเพื่อให้น้ำผึ้งเจือจางลงและนำไปใช้ได้ง่ายยิ่งขึ้น[2]
- นวดให้น้ำผึ้งซึมเข้าสู่ผิว. ใช้นิ้วมือทาน้ำผึ้งให้ทั่วใบหน้า จากนั้นนวดเป็นวงกลมเบาๆ ให้น้ำผึ้งซึมเข้าสู่ผิวโดยหลีกเลี่ยงบริเวณที่บอบบางตรงรอบดวงตา
- ล้างน้ำผึ้งออกให้สะอาดด้วยน้ำอุ่น. ล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นและใช้นิ้วมือนวดบนใบหน้าเบาๆ จนกระทั่งน้ำผึ้งถูกชะล้างออกจนหมด
- หากคุณมีปัญหาสิวเสี้ยนและต้องการการทำความสะอาดอย่างล้ำลึกถึงรูขุมขน ให้ทิ้งน้ำผึ้งบนใบหน้าไว้ประมาณ 5-10 นาทีก่อนล้างออก[3]
- เช็ดหน้าให้แห้ง. ใช้ผ้าขนหนูสะอาดซับบนใบหน้าเบาๆ ให้แห้ง ห้ามถูแรงโดยเด็ดขาดเพราะอาจทำให้เกิดการระคายเคืองบนผิวหน้าได้
- บำรุงผิวด้วยมอยเจอร์ไรเซอร์และโทนเนอร์. มอยเจอร์ไรเซอร์มีส่วนช่วยในการกักเก็บความชุ่มชื้นบนใบหน้า ส่วนโทนเนอร์จะช่วยปรับค่า pH ในผิวหนังให้สมดุลรวมถึงกระชับรูขุมขนให้มีขนาดเล็กลงโฆษณา
- เตรียมชามใบเล็กและขวด. เตรียมอุปกรณ์เหล่านี้สำหรับผสมน้ำมันทั้งสองชนิดเข้าด้วยกัน
- เทน้ำมันแคสเตอร์. ปริมาณน้ำมันแคสเตอร์ที่ใช้ขึ้นอยู่กับประเภทผิวของคุณ โดยปริมาณที่ใช้ตามสภาพผิวแต่ละชนิดมีดังนี้[5]
- หากคุณมีผิวมัน ให้ใช้น้ำมันแคสเตอร์ 2 ช้อนชา
- หากคุณมีผิวธรรมดา ให้ใช้น้ำมันแคสเตอร์ 1½ ช้อนชา
- หากคุณมีผิวแห้งหรือผิวมีอายุ ให้ใช้น้ำมันแคสเตอร์ 1 ช้อนชา
- เลือกน้ำมันตัวพาและเทลงไป. น้ำมันแคสเตอร์ค่อนข้างแห้งมากเป็นพิเศษแม้ใช้กับผิวที่มัน จึงจำเป็นต้องทำให้เจือจางลงด้วยน้ำมันตัวพา คุณสามารถเลือกใช้น้ำมันตัวพาตามสภาพผิวของคุณได้ดังนี้[6]
- หากคุณมีผิวมัน ให้เลือกใช้น้ำมันต่อไปนี้ 1 ช้อนชา: อาร์แกน เกรปซีด โจโจบา เมล็ดดอกทานตะวัน สวีทอัลมอนด์ และทามานู
- หากคุณมีผิวธรรมดา ให้เลือกใช้น้ำมันต่อไปนี้ 1½ ช้อนชา: อาร์แกน เมล็ดแอปริคอท เกรปซีด โจโจบา เมล็ดดอกทานตะวัน สวีทอัลมอนด์ และทามานู
- หากคุณมีผิวแห้ง ให้เลือกใช้น้ำมันต่อไปนี้ 2 ช้อนชา: อาร์แกน เมล็ดแอปริคอท อะโวคาโด เกรปซีด โจโจบา เมล็ดดอกทานตะวัน สวีทอัลมอนด์ และทามานู
- ทำความสะอาดผิวหน้าด้วยน้ำมัน. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการใช้คลีนเซอร์ประเภทนี้มีเพียงช่วงเวลาก่อนเข้านอนเท่านั้น นวดเบาๆ ให้น้ำมันซึมเข้าสู่ผิวหน้าและใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่นคลุมบนใบหน้าไว้ รอประมาณ 1 นาทีแล้วจึงนำผ้าขนหนูออก ใช้ผ้าขนหนูเช็ดทำความสะอาดจนทั่วใบหน้า จากนั้นซักผ้าขนหนูให้สะอาดและนำมาคลุมบนใบหน้าอีก 1 นาที ทำซ้ำเรื่อยๆ จนกระทั่งน้ำมันถูกเช็ดออกจนเกือบหมด
- อาจมีสิวเกิดขึ้นเล็กน้อยบนใบหน้าหลังใช้คลีนเซอร์ประเภทนี้ ซึ่งเป็นเพียงปฏิกิริยาตอบสนองต่อวิธีการทำความสะอาดผิวหน้าแบบใหม่ที่จะหายดีในภายหลัง[7]
- ใช้น้ำมันเช็ดล้างเครื่องสำอาง. เมื่อต้องการเช็ดล้างเครื่องสำอาง ให้หยดน้ำมันเล็กน้อยลงบนสำลีแบบก้อนหรือแบบแผ่นแล้วนำไปเช็ดจนทั่วใบหน้า จากนั้นล้างหน้าให้สะอาดโดยใช้น้ำอุ่นและบำรุงผิวด้วยมอยเจอร์ไรเซอร์และโทนเนอร์โฆษณา
- เตรียมส่วนผสม. คลีนเซอร์สูตรนี้จะใช้โอ๊ตมีลและอัลมอนด์มีลเป็นส่วนประกอบ อัลมอนด์มีลมีส่วนช่วยในการขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดออกในขณะที่โอ๊ตมีลจะมีคุณสมบัติเป็นคลีนเซอร์ตามธรรมชาติ ส่วนผสมที่ต้องเตรียมสำหรับคลีนเซอร์สูตรโอ๊ตมีลมีดังนี้[8]
- โอ๊ตมีลบดละเอียด 40 กรัม
- อัลมอนด์มีล 60 กรัม
- ของเหลวประเภทใดก็ได้ (เช่น น้ำเปล่า นม น้ำเลมอน วิชฮาเซล เป็นต้น)
- ขวดโหล
- เลือกใช้ภาชนะบรรจุที่เหมาะสม. คุณไม่จำเป็นต้องผสมโอ๊ตมีลและอัลมอนด์ทั้งหมดในครั้งเดียว แต่ใช้ในปริมาณเพียงเล็กน้อยผสมเข้ากับของเหลวในแต่ละครั้งที่ต้องการล้างหน้า คุณจึงต้องเตรียมภาชนะบรรจุที่เหมาะสม เช่น ขวดโหล สำหรับเก็บโอ๊ตมีลและอัลมอนด์มีลที่ยังไม่ได้ใช้
- อาจตกแต่งขวดโหลโดยการติดฉลากหรือพันเชือกรอบๆ ปากขวด
- ผสมโอ๊ตมีลและอัลมอนด์มีลเข้าด้วยกัน. ตวงโอ๊ตมีล 40 กรัมและอัลมอนด์มีล 60 กรัมและเทลงในขวดโหล ปิดฝาให้สนิทและเขย่าเพื่อให้ส่วนผสมทั้งสองเข้ากัน
- หากไม่สามารถหาโอ๊ตหรืออัลมอนด์บดละเอียดได้ คุณสามารถบดได้เองโดยใช้เครื่องปั่น เครื่องบดกาแฟ หรือเครื่องผสมอาหาร ปั่นส่วนผสมทั้งสองชนิดแยกกัน
- อาจเติมสครับขัดผิวหรือน้ำมันหอมระเหย. ส่วนผสมเหล่านี้อาจไม่จำเป็นมากนัก แต่ก็ทำให้คลีนเซอร์ของคุณดูน่าใช้และทำความสะอาดผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ สมุนไพรและน้ำมันหอมระเหยยังช่วยเพิ่มกลิ่นหอมให้กับคลีนเซอร์ของคุณอีกด้วย คุณสามารถเลือกเติมส่วนผสมต่างๆ ตามสภาพผิวของคุณได้ดังนี้[9]
- หากคุณมีผิวมัน ให้ใช้เกลือสมุทรบดละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ ใบเปปเปอร์มินต์บดละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ และน้ำมันโรสแมรี่ 5 หยด (หรือไม่ใส่ก็ได้)
- หากคุณมีผิวแห้ง ให้ใช้นมผง 2 ช้อนโต๊ะ ดอกดาวเรืองแห้งบดละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ และน้ำมันโรมันคาโมมายล์ 5 หยด (หรือไม่ใส่ก็ได้)
- หากคุณมีผิวผสม ให้ใช้คอร์นมีล 2 ช้อนโต๊ะ ดอกดาวเรืองแห้งบดละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ และน้ำมันลาเวนเดอร์ 5 หยด (หรือไม่ใส่ก็ได้)
- เลือกของเหลวตามต้องการ. คุณต้องเติมส่วนผสมที่เป็นของเหลวเล็กน้อยเมื่อต้องการใช้คลีนเซอร์สูตรนี้ คุณสามารถเลือกใช้ส่วนผสมที่เป็นของเหลวต่างๆ ตามสภาพผิวของคุณได้ดังนี้[10]
- หากคุณมีผิวมัน ให้ใช้น้ำเลมอน น้ำกุหลาบ น้ำเปล่า หรือวิชฮาเซล
- หากคุณมีผิวธรรมดา ให้ใช้กลีเซอรีน น้ำผึ้ง น้ำกุหลาบ ชาเปปเปอร์มินต์ หรือน้ำเปล่า
- หากคุณมีผิวแห้ง ให้ใช้นม ครีม หรือโยเกิร์ต
- นำคลีนเซอร์ไปใช้. ชโลมน้ำอุ่นบนใบหน้าให้เปียก จากนั้นตวงส่วนผสมคลีนเซอร์ทั้งสองชนิด 2 ช้อนชาและผสมเข้ากับวัตถุดิบที่เป็นของเหลวในปริมาณที่พอเหมาะจนมีเนื้อข้น คุณสามารถใช้นิ้วมือผสมคลีนเซอร์ให้เข้ากันบนฝ่ามือ หรือจะผสมในชามใบเล็กโดยใช้ช้อนคนก็ได้เช่นกัน
- นวดให้คลีนเซอร์ซึมเข้าสู่ผิว. นวดเป็นวงกลมเบาๆ ทั่วใบหน้าโดยหลีกเลี่ยงบริเวณที่บอบบางตรงรอบดวงตา การนวดเป็นวงกลมจะช่วยให้เมล็ดอัลมอนด์บดขัดถูไปตามผิวหน้าและทำให้เซลล์ผิวที่ตายแล้วหลุดออก
- ล้างหน้าให้สะอาดด้วยน้ำเย็น. นวดบนใบหน้าเบาๆ เพื่อขจัดคลีนเซอร์ที่ยังคงตกค้าง การล้างหน้าด้วยเย็นจะช่วยกระชับรูขุมขนให้หดเล็กลงได้
- เช็ดหน้าให้แห้ง. ใช้ผ้าขนหนูสะอาดซับบนใบหน้าเบาๆ ให้แห้ง ห้ามถูแรงโดยเด็ดขาดเพราะอาจทำให้เกิดการระคายเคืองบนผิวหน้าได้
- บำรุงผิวด้วยมอยเจอร์ไรเซอร์และโทนเนอร์. มอยเจอร์ไรเซอร์มีส่วนช่วยในการฟื้นฟูผิวหน้าให้กลับมาสดใส ส่วนโทนเนอร์จะช่วยกระชับรูขุมขนให้มีขนาดเล็กลงรวมถึงปรับค่า pH ในผิวหนังให้สมดุล
- เก็บคลีนเซอร์ให้เรียบร้อย. เมื่อทำคลีนเซอร์จนมีปริมาณที่เพียงพอสำหรับล้างทำความสะอาดผิวหน้าตามต้องการแล้ว อย่าลืมปิดฝาให้สนิทเมื่อไม่ได้ใช้และเก็บไว้ในที่ที่แห้งและเย็นโฆษณา
- ทำคลีนเซอร์สูตรแอปเปิ้ลสำหรับผู้ที่มีผิวแห้ง. นำส่วนผสมทั้งหมดใส่ลงไปในเครื่องปั่นหรือเครื่องเตรียมอาหารและปั่นจนเข้ากันเป็นเนื้อเดียว ทาคลีนเซอร์ให้ทั่วใบหน้าที่เปียกน้ำและทิ้งไว้ประมาณ 5 นาทีก่อนล้างออกให้สะอาดด้วยน้ำอุ่น ส่วนผสมที่ต้องใช้มีดังนี้[11]
- แอปเปิ้ลหั่นแล้ว 2 ชิ้น ปอกเปลือกให้เรียบร้อย
- โยเกิร์ตรสธรรมชาติ ½ ถ้วย (125 กรัม)
- น้ำมันมะกอก ½ ช้อนโต๊ะ
- น้ำผึ้ง ½ ช้อนโต๊ะ
- ทำคลีนเซอร์สูตรน้ำผึ้งเลมอนสำหรับผู้ที่มีผิวมัน. นำส่วนผสมทั้งหมดใส่ลงไปในชามและใช้ช้อนหรือส้อมคนให้เข้ากัน ทาคลีนเซอร์ให้ทั่วใบหน้าที่เปียกน้ำและทิ้งไว้ประมาณ 30 วินาทีก่อนล้างออกให้สะอาดด้วยน้ำอุ่น ส่วนผสมที่ต้องใช้มีดังนี้[12]
- ข้าวโอ๊ต ½ ถ้วย (50 กรัม)
- น้ำเลมอนคั้นสด ¼ ถ้วย (60 มิลลิลิตร)
- น้ำเปล่า ¼ ถ้วย (60 มิลลิลิตร)
- น้ำผึ้ง ½ ช้อนโต๊ะ
- ทำคลีนเซอร์สูตรแตงกวาสำหรับผู้ที่มีผิวธรรมดา. นำส่วนผสมทั้งหมดใส่ลงไปในเครื่องปั่นหรือเครื่องเตรียมอาหารและปั่นจนเข้ากันเป็นเนื้อเดียว ทาคลีนเซอร์ให้ทั่วใบหน้าที่เปียกน้ำและทิ้งไว้ประมาณ 5 นาทีก่อนล้างออกให้สะอาดด้วยน้ำอุ่น ส่วนผสมที่ต้องใช้มีดังนี้[13]
- โยเกิร์ตรสธรรมชาติ ½ ถ้วย (125 กรัม)
- แตงกวาขนาดกลาง ½ ลูก หั่นเต๋า
- ใบมินต์ขนาดกลาง 5 ใบ สับละเอียด
- ล้างหน้าด้วยโยเกิร์ตรสธรรมชาติ. คุณสามารถทำความสะอาดผิวหน้าโดยใช้โยเกิร์ตเพียงอย่างเดียวหรือจะผสมโยเกิร์ต 1 ช้อนโต๊ะเข้ากับน้ำเลมอน 1 ช้อนชาก็ได้เช่นกัน น้ำเลมอนไม่เพียงช่วยเพิ่มกลิ่นหอมให้กับโยเกิร์ต ทั้งยังมีส่วนช่วยในการกระชับผิวอีกด้วย น้ำเลมอนจึงเหมาะสมเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีผิวแห้ง[14] ทาโยเกิร์ตให้ทั่วใบหน้าที่เปียกน้ำโดยหลีกเลี่ยงบริเวณรอบดวงตาและล้างออกให้สะอาดด้วยน้ำอุ่น
- คุณยังสามารถหยดน้ำมันหอมระเหย 1-2 หยดลงไปเพื่อให้โยเกิร์ตมีกลิ่นหอมน่าใช้ยิ่งขึ้น อาจลองใช้น้ำมันหอมระเหยอย่างวานิลลาหรือลาเวนเดอร์
- หากคุณเลือกใช้เลมอน พยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้ผิวหน้าถูกแสงแดด เนื่องจากน้ำเลมอนนั้นทำให้ผิวของคุณไวต่อแสงแดดเป็นพิเศษ
- โยเกิร์ตอาจมีส่วนช่วยทำให้ผิวของคุณสว่างใสขึ้น ดังนั้นคุณอาจต้องนึกถึงข้อนี้หากต้องการคงผิวสีแทนของคุณ
- ทำคลีนเซอร์สูตรมะละกอที่ช่วยในการซ่อมแซมผิว. นำส่วนผสมทั้งหมดใส่ลงไปในเครื่องเตรียมอาหารและปั่นจนเข้ากันเป็นเนื้อเดียว ทาคลีนเซอร์ให้ทั่วใบหน้าที่เปียกน้ำและล้างออกให้สะอาดด้วยน้ำอุ่น ส่วนผสมที่ต้องใช้มีดังนี้[15]
- ว่านหางจระเข้ขนาดใหญ่ 1 ใบ ปอกเปลือกให้เรียบร้อย
- มะละกอลูกเล็กหั่นชิ้น 1 ลูก ปอกเปลือกให้เรียบร้อย
- น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ
- โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1 ช้อนชา
- ทำคลีนเซอร์ที่มีส่วนช่วยในการฟื้นฟูผิวให้กลับมามีสุขภาพดี. นำส่วนผสมทั้งหมดใส่ลงไปในเครื่องเตรียมอาหารและปั่นจนเข้ากันเป็นเนื้อเดียว ทาคลีนเซอร์ให้ทั่วใบหน้าที่เปียกน้ำและล้างออกให้สะอาดด้วยน้ำอุ่น หากใช้ไม่หมด คุณสามารถนำคลีนเซอร์ที่เหลือแช่ในช่องฟรีซได้นานถึง 1 เดือน ส่วนผสมที่ต้องใช้มีดังนี้[16]
- มะเขือเทศสุก 1 ลูก
- นม 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำส้ม น้ำเลมอน หรือน้ำมะนาวคั้นสด 2 ช้อนโต๊ะ
โฆษณา
คำเตือน
- หากคุณใช้เลมอนเป็นส่วนผสมสำหรับคลีนเซอร์ของคุณ พยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้ผิวหน้าถูกแสงแดด เนื่องจากน้ำเลมอนนั้นทำให้ผิวของคุณไวต่อแสงแดดเป็นพิเศษและอาจก่อให้เกิดอาการผิวไหม้แดดได้
- หากคุณใช้โยเกิร์ตเป็นส่วนผสมสำหรับมาส์กของคุณ จำไว้ว่าโยเกิร์ตอาจมีส่วนช่วยทำให้ผิวของคุณสว่างใสขึ้น
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ Empowered Sustenance, How to Wash Your Face With Honey
- ↑ Empowered Sustenance, How to Wash Your Face With Honey
- ↑ Wellness Mama, Homemade Honey Face Wash
- ↑ Live Simply, How to Clean Your Face Naturally With Oil
- ↑ Crunchy Betty, The Nitty Gritty On the Oil Cleansing Method
- ↑ Crunchy Betty, The Nitty Gritty On the Oil Cleansing Method
- ↑ Live Simply, How to Clean Your Face Naturally With Oil
- ↑ Crunchy Betty, No-Nonsense Daily Scrub for Any Skin Type
- ↑ Crunchy Betty, No-Nonsense Daily Scrub for Any Skin Type
- ↑ Keeper of the Home, [http://www.keeperofthehome.org/2013/04/4-diy-all-natural-facial-cleansers.html 4 DIY All Natural Facial Cleansers
- ↑ Free People, Homemade Natural Facial Cleansers for Dry, Oily, & Normal Skin
- ↑ Free People, Homemade Natural Facial Cleansers for Dry, Oily, & Normal Skin
- ↑ Free People, Homemade Natural Facial Cleansers for Dry, Oily, & Normal Skin
- ↑ Keeper of the Home, [http://www.keeperofthehome.org/2013/04/4-diy-all-natural-facial-cleansers.html 4 DIY All Natural Facial Cleansers
- ↑ Skin Resource Center, Facial Cleansers
- ↑ Skin Resource Center, Facial Cleansers
- A Delightful Home, 20 DIY All-Natural Face Cleanser Recipes
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม
⚠️ Disclaimer:
Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.
- - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
- - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
- - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
- - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.