วิธีการ ดูว่าคุณมีกลิ่นปากหรือไม่

ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความ

กลิ่นปากอาจเป็นเรื่องที่น่าอาย คุณอาจจะเดินไปทั่วพร้อมกับอาการปากเหม็นจนกว่าเพื่อนผู้กล้าหาญของคุณหรือยิ่งไปกว่านั้นคนที่คุณชอบหรือคนรักของคุณบอกว่าคุณมีกลิ่นปาก โชคดีที่มีวิธีทดสอบลมหายใจที่คุณสามารถใช้เพื่อดูว่ากลิ่นปากของคุณเป็นอย่างไร วิธีเหล่านี้อาจจะไม่สามารถบอกคุณได้ว่าคนอื่นได้กลิ่นอะไรแต่น่าจะสามารถบอกแนวโน้มให้กับคุณได้

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 4:

การดมน้ำลายของตัวเอง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 เลียด้านในของข้อมือ.
    รอ 5-10 วินาทีเพื่อให้น้ำลายแห้ง พยายามทำสิ่งนี้อย่างแนบเนียนเมื่อคุณอยู่คนเดียวและไม่ได้อยู่ในที่สาธารณะเพราะคนจะมองคุณแปลกๆ อย่าทำสิ่งนี้หลังจากที่คุณเพิ่งแปรงฟัน ใช้น้ำยาบ้วนปากหรือทานบางอย่างที่เป็นรสมิ้นท์เพราะกลิ่นปากที่สดชื่นอาจจะทำให้คุณได้ผลลัพธ์ที่ไม่แม่นยำ
  2. How.com.vn ไท: Step 2 ดมด้านในของข้อมือในจุดที่น้ำลายแห้ง.
    กลิ่นนี้เทียบเท่ากับกลิ่นปากของคุณ ถ้าหากคุณได้กลิ่นเค็มก็ควรปรับปรุงสุขลักษณะในช่องปากและสุขภาพโดยรวม ถ้าหากคุณไม่ได้กลิ่นอะไร ลมหายใจของคุณก็อาจจะไม่แย่นักแต่คุณสามารถลองทำวิธีทดสอบแบบอื่นเพื่อให้แน่ใจ
    • จำไว้ว่าวิธีนี้ใช้เพียงน้ำลายจากบริเวณปลายลิ้น (ส่วนที่อยู่ด้านหน้า) ซึ่งสามารถทำความสะอาดตัวเองได้ ดังนั้นการดมข้อมือที่คุณเลียจะสามารถบอกได้ว่ากลิ่นของส่วนที่เหม็นน้อยที่สุดของลิ้นเป็นอย่างไรและกลิ่นปากส่วนใหญ่มักจะมีต้นกำเนิดจากด้านในปากซึ่งติดกับลำคอ [1]
    • คุณสามารถล้างน้ำลายออกจากข้อมือแต่อย่ากังวลถ้าหากคุณไม่สามารถล้างหรือทำความสะอาดได้เพราะกลิ่นจะจางหายไปอย่างรวดเร็วเมื่อผิวแห้ง
    • ถ้าหากปัญหากลิ่นปากของคุณเล็กน้อยคุณก็อาจจะไม่ได้เป็นอะไร ถ้าหากคุณยังคงกังวลก็สามารถลองทดสอบแบบอื่นเพื่อให้ “ ความคิดเห็นที่ 2”
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ลองกวาดด้านในของลิ้น.
    ใช้นิ้วหรือผ้าก๊อตเพื่อล้วงด้านในปากแต่อย่าลึกเกินไปจนคุณรู้สึกอยากอาเจียนและกวาดผิวบนของลิ้นด้านในปาก แบคทีเรียที่ทำให้เกิดกลิ่นปากจะติดออกมากับอุปกรณ์ที่คุณใช้กวาดลิ้น ดมอุปกรณ์ (นิ้วหรือผ้าก๊อต) เพื่อดมว่ากลิ่นปากด้านในของคุณเป็นอย่างไร
    • วิธีนี้จะทำให้คุณได้กลิ่นปากที่ชัดเจนกว่าการเลียข้อมือ อาการปากเหม็นอย่างต่อเนื่องเกิดจากแบคทีเรียซึ่งเจริญเติบโตบนลิ้นและในซอกฟันและแบคทีเรียส่วนใหญ่อยู่ด้านในปาก บริเวณปลายลิ้นสามารถทำความสะอาดตัวเองได้และคุณอาจจะทำความสะอาดด้านหน้าของปากบ่อยกว่าด้านใน [2]
    • ลองใช้น้ำยาบ้วนปากสูตรฆ่าเชื้อแบคทีเรียทั้งด้านหน้าและด้านในของปากเพื่อกำจัดแบคทีเรียที่หลบซ่อนอยู่ด้านในลิ้น กลั้วปากด้วยน้ำยาบ้วนปากเพื่อกำจัดแบคทีเรียต้นเหตุของกลิ่นปากจากการสะสมบริเวณบนของลำคอ เมื่อคุณแปรงฟันก็ควรแปรงให้ถึงด้านในสุดและอย่าลืมแปรงลิ้นและเหงือกด้วย
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 4:

การดมกลิ่นปากโดยตรง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ปิดปากและจมูกด้วยสองมือ.
    กักเก็บอากาศที่คุณหายใจผ่านทางปากไม่ให้เล็ดลอดออกนอกจากสูดดมทางจมูก หายใจออกช้าๆ จากปากและค่อยๆ สูดลมหายใจอุ่นด้วยจมูก ถ้าหากคุณมีกลิ่นปากก็อาจจะสามารถบอกได้แต่อากาศอาจจะเล็ดลอดผ่านทางช่องนิ้วอย่างรวดเร็วและวิธีนี้ยากต่อการวิเคราะห์เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำ [3]อย่างไรก็ตาม มันคือวิธีหนึ่งที่แนบเนียนที่สุดเพื่อดูว่าคุณมีกลิ่นปากหรือไม่ในที่สาธารณะ
  2. How.com.vn ไท: Step 2 พ่นลมหายใจเข้าไปในแก้วหรือภาชนะพลาสติก.
    หายใจเข้าลึกๆ และถือแก้วเพื่อปิดทั้งจมูกและปากโดยปล่อยให้อากาศถ่ายเทน้อยที่สุดเพื่อที่คุณจะได้ผลลัพธ์ที่ค่อนข้างแม่นยำ หายใจออกทางปากช้าๆ เพื่อให้แก้วนั้นเต็มไปด้วยลมหายใจอุ่นๆ สูดหายใจเข้าลึกๆ อย่างรวดเร็วด้วยจมูก คุณน่าจะสามารถดมกลิ่นลมหายใจของคุณได้
    • ขั้นตอนนี้อาจจะแม่นยำกว่าการใช้มือป้องปากและจมูกแต่ความแม่นยำขึ้นอยู่กับว่าคุณถือแก้วแนบใบหน้าอย่างแนบแน่นแค่ไหนเพื่อกักเก็บลมหายใจ
    • คุณสามารถใช้วิธีนี้กับภาชนะที่สามารถกักเก็บลมหายใจเป็นวงจรระหว่างจมูกและปากได้ เช่น ถุงกระดาษหรือถุงพลาสติกใบเล็ก หน้ากากปิดจมูกสำหรับแพทย์หรือหน้ากากที่สามารถกักเก็บอากาศได้
    • อย่าลืมทำความสะอาดแก้วก่อนที่จะพ่นลมหายใจอีกครั้ง ล้างด้วยสบู่และน้ำก่อนเก็บหรือใช้เพื่อจุดประสงค์อื่น
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำ.
    หลีกเลี่ยงการทำวิธีเหล่านี้ทันทีหลังจากที่คุณเพิ่งแปรงฟัน กลั้วปากด้วยน้ำยาบ้วนปากหรือทานอาหารที่มีรสมิ้นท์ สิ่งเหล่านี้อาจทำให้ลมหายใจของคุณมีกลิ่นดีขึ้นแต่กลิ่นลมหายใจของคุณหลังจากการแปรงฟันทันทีไม่เหมือนกับกลิ่นลมหายใจปกติ ลองสูดดมกลิ่นลมหายใจในเวลาที่แตกต่างกัน เช่น หลังจากที่แปรงฟันเสร็จ ระหว่างวันและเมื่อคุณพบเจอผู้คนเพื่อเข้าใจความแตกต่างได้ดีขึ้น จำไว้ว่าลมหายใจของคุณอาจจะมีกลิ่นเหม็นหลังจากทานอาหารที่มีเครื่องเทศ
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 4:

การถามใครบางคน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ลองถามเพื่อนหรือสมาชิกในครอบครัวที่ไว้ใจได้ว่าคุณมีกลิ่นปากหรือไม่....
    ลองถามเพื่อนหรือสมาชิกในครอบครัวที่ไว้ใจได้ว่าคุณมีกลิ่นปากหรือไม่. คุณสามารถลองดมกลิ่นลมหายใจของตัวเองแต่คุณสามารถทำได้แค่ประมาณการกลิ่นที่คนอื่นสูดดมเท่านั้น วิธีที่ดีที่สุดเพื่อดูให้แน่ชัดคือลดศักดิ์ศรีของตัวเองและถามว่า “เอาจริงๆ นะ ฉันปากเหม็นหรือเปล่า?” [4]
    • เลือกคนที่คุณไว้ใจ คนที่จะไม่ไปบอกคนอื่นและคนที่จะจริงใจกับคุณเกี่ยวกับกลิ่นปาก ถามเพื่อนสนิทที่จะไม่ตัดสินคุณ หลีกเลี่ยงการถามคนที่คุณชอบหรือคนรักเพราะการมีกลิ่นปากอาจเป็นเรื่องที่น่ารังเกียจ อย่าถามคนแปลกหน้านอกเสียจากว่าคุณจะรู้สึกกล้าหาญมากพอ
    • มันอาจเป็นเรื่องน่าอายในตอนแรกแต่คุณจะรู้สึกเหมือนยกภูเขาออกจากอกเมื่อได้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ที่สามารถไว้ใจได้ มันจะดีกว่าถ้าคุณได้ยินคำตอบจากเพื่อนสนิทแทนที่จะได้ยินจากคนที่คุณต้องการจูบ
  2. How.com.vn ไท: Step 2 ไตร่ตรองให้ถี่ถ้วน.
    อย่าพ่นลมหายใจใส่หน้าใครบางคนแล้วพูดว่า “กลิ่นปากฉันเป็นยังไง?” ค่อยๆ พูดเข้าประเด็นและขออนุญาตก่อนจะทำการทดสอบเสมอ ถ้าหากคุณอยู่ใกล้ใครบางคนเป็นเวลานาน เขาก็อาจจะสังเกตว่าคุณมีกลิ่นปากแต่เขาไม่กล้าพูดขึ้นมา
    • ลองพูดว่า “ฉันกังวลว่าฉันอาจจะมีกลิ่นปากแต่ฉันไม่อาจรู้ได้ มันน่าอายที่ต้องถามแต่เธอได้กลิ่นบ้างหรือเปล่า?"
    • ลองพูดว่า “มันอาจจะฟังดูแปลกๆ แต่ว่าฉันมีกลิ่นปากหรือเปล่า? ฉันจะพาเจนไปดูหนังคืนนี้และอยากจะจัดการปัญหาตอนนี้ดีกว่ารอให้เธอได้กลิ่น”
    โฆษณา
วิธีการ 4
วิธีการ 4 ของ 4:

การจัดการกับกลิ่นปาก

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ดูว่าคุณมีกลิ่นปากแค่ในตอนเช้าหรือมีอาการปากเหม็นต่อเนื่อง....
    ดูว่าคุณมีกลิ่นปากแค่ในตอนเช้าหรือมีอาการปากเหม็นต่อเนื่อง. สูดดมกลิ่นในตอนเช้า ตอนกลางวันและตอนเย็นก่อนและหลังการแปรงฟันและดูว่าคุณมีกลิ่นปากบ่อยแค่ไหน ถ้าหากคุณรู้ว่าทำไมคุณถึงมีกลิ่นปากก็ควรทำขั้นตอนเหล่านี้เพื่อจัดการกับปัญหา
    • กลิ่นปากในตอนเช้าเป็นเรื่องปกติ คุณสามารถแก้ปัญหาได้ด้วยการแปรงฟัน ใช้ไหมขัดฟันและบ้วนปากด้วยน้ำยาบ้วนปากทันทีหลังจากตื่นนอน
    • อาการปากเหม็นเป็นอาการติดเชื้อแบคทีเรียที่รุนแรงกว่าแต่พบได้มากและสามารถรักษาได้ ในการรักษาอาการปากเหม็นคุณจะต้องทำช่องปากให้สะอาดและจัดการกับแบคทีเรียที่ทำให้คุณมีกลิ่นปาก
    • สาเหตุของกลิ่นปากที่พบได้มากคืออาการฟันผุ โรคเหงือก สุขลักษณะในช่องปากที่ไม่ดี โรคในระบบทางเดินอาหารและลิ้นขาว (ลิ้นมีสีขาวหรือสีเหลืองจากการอักเสบ) ถ้าหากคุณไม่สามารถหาสาเหตุได้จากการตรวจสอบช่องปากก็ควรพบทันตแพทย์เพื่อหาสาเหตุของกลิ่นปาก
    • ถ้าหากใครบางคนบอกว่าคุณมีกลิ่นปากก็อย่ารู้สึกอาย คิดเอาไว้ว่าเป็นการติเพื่อก่อ
  2. How.com.vn ไท: Step 2 รักษาสุขลักษณะในช่องปาก.
    แปรงฟันให้ทั่วทุกซอกทุกมุม กลั้วปากด้วยน้ํายาบ้วนปากที่ฆ่าเชื้อแบคทีเรียและใช้ไหมขัดฟันตามซี่ฟันเพื่อกำจัดคราบและแบคทีเรียที่ซ่อนอยู่ ดื่มน้ำมากๆ และกลั้วปากด้วยน้ำเย็นเพื่อทำให้ลมหายใจในตอนเช้าสดชื่น
    • คุณต้องแปรงฟันก่อนเข้านอน คุณสามารถลองแปรงฟันเพิ่มอีก 1 รอบด้วยเบกกิ้งโซดาเพื่อลดความเป็นกรดในปากและทำให้แบคทีเรียเจริญเติบโตได้ยากขึ้น
    • ใช้ที่ขูดลิ้น (มีจำหน่ายตามร้านขายยา) เพื่อกำจัดสิ่งตกค้างที่อาจสะสมระหว่างปุ่มรับรสของลิ้น ถ้าหากคุณไม่มีที่ขูดลิ้นก็สามารถใช้แปรงสีฟันเพื่อแปรงลิ้นได้ [5]
    • เปลี่ยนเเปรงสีฟันทุกๆ 2-3 เดือน ซี่ของแปรงสีฟันจะมีประสิทธิภาพลดลงตามกาลเวลาและแปรงสีฟันของคุณอาจเป็นที่สะสมแบคทีเรีย เปลี่ยนแปรงสีฟันหลังจากที่คุณไม่สบายหนักๆ เพื่อไม่ให้แบคทีเรียสะสม [6]
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ทานอาหารที่ช่วยให้ลมหายใจสดชื่นและหลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้มีกลิ่นปาก....
    ทานอาหารที่ช่วยให้ลมหายใจสดชื่นและหลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้มีกลิ่นปาก. อาหารประเภทแอปเปิ้ล ขิง เมล็ดเทียนข้าวเปลือก ผลไม้ตระกูลเบอรี่ ผักใบเขียว เมล่อน ซินนามอนและชาเขียวช่วยให้ลมหายใจสดชื่น ลองใส่อาหารเหล่านี้ลงในอาหารที่คุณรับประทานในแต่ละวัน ในขณะเดียวกันก็ควรหลีกเลี่ยงหรือลดปริมาณอาหารที่ทำให้มีกลิ่นปาก อาหารเหล่านี้ ได้แก่ หัวหอม กระเทียม กาแฟ เบียร์ น้ำตาลและชีส [7]
  4. How.com.vn ไท: Step 4 ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับสุขภาพของระบบทางเดินอาหาร....
    ปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับสุขภาพของระบบทางเดินอาหาร. สุขภาพของระบบทางเดินอาหารที่ไม่ดีอาจเป็นสาเหตุของกลิ่นปาก คุณอาจจะมีแผลในกระเพาะอาหาร ติดเชื้อเฮลิโคแบคเตอร์ไพโลไรหรือมีอาการกรดไหลย้อน แพทย์จะสามารถรักษาอาการเหล่านี้และบอกวิธีทำสุขภาพของระบบทางเดินอาหารให้ดีขึ้น
  5. How.com.vn ไท: Step 5 ทำทางเดินจมูกให้สะอาด.
    ภูมิแพ้ ไซนัสและเสมหะในลำคอทำให้มีกลิ่นปากเพราะฉะนั้นคุณควรพยายามป้องกันและรักษาอาการเหล่านี้ ทำทางเดินจมูกให้สะอาดและปลอดโปร่งและรักษาอาการแพ้ก่อนที่อาการจะแย่ลง
    • คุณสามารถใช้กาเนติเพื่อล้างเสมหะที่สะสมในจมูก
    • การดื่มน้ำร้อนกับมะนาว ใช้น้ำเกลือสวนล้างจมูกและทานวิตามินซีสามารถช่วยลดอาการคัดจมูกได้
    • เมื่อคุณทานวิตามินซีก็ควรทานตามปริมาณที่แนะนำบนผลิตภัณฑ์ ผู้ใหญ่ไม่ควรทานวิตามินซีเกิน 2,000 มิลลิกรัมต่อวัน[8]
  6. How.com.vn ไท: Step 6 ทานเพื่อสุขภาพ...
    ทานเพื่อสุขภาพ. นอกเหนือจากการทานอาหารที่ช่วยให้ลมหายใจสดชื่นแล้วการทานอาหารเพื่อสุขภาพโดยรวมสามารถลดปัญหากลิ่นปากจากต้นเหตุได้ ลดปริมาณอาหารแปรรูป เนื้อแดงและชีส หันมารับประทานอาหารที่มีกากใยสูง เช่น ข้าวโอ๊ต เมล็ดแฟลกซ์และคะน้า
    • คุณควรเพิ่มอาหารที่มีโปรไบโอติก เช่น นมเปรี้ยว กิมจิและโยเกิร์ตรสจืด
  7. How.com.vn ไท: Step 7 ทำกลิ่นปากให้เป็นกลาง.
    เคี้ยวหมากฝรั่ง อมลูกอมรสมิ้นท์หรือใช้แผ่นลดกลิ่นปากก่อนเข้าสังคม คุณต้องกำจัดต้นเหตุของปัญหาแลกลิ่นปากอย่างถาวรแต่ในระหว่างนี้คุณควรทำให้ลมหายใจสดชื่น พกหมากฝรั่งติดตัวเพื่อใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน
    • เคี้ยวกานพลู เมล็ดเทียนข้าวเปลือกหรือโป๊ยกั๊ก คุณสมบัติในการฆ่าเชื้อของอาหารเหล่านี้สามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดอาการปากเหม็นได้
    • เคี้ยวเนื้อมะนาวหรือส้มเพื่อให้ได้รสชาติที่ทำให้ปากสดชื่น (ล้างให้สะอาดก่อน) กรดเปรี้ยวจะกระตุ้นน้ำลายและกำจัดกลิ่นปาก
    • เคี้ยวใบผักชีฝรั่ง โหระพา สะระแหน่หรือผักชี สารคลอโรฟิลล์ในพืชเหล่านี้จะช่วยทำให้กลิ่นเป็นกลางได้
  8. How.com.vn ไท: Step 8 หลีกเลี่ยงยาสูบทุกชนิด.
    นี่คือเหตุผลที่ดีถ้าหากคุณกำลังมองหาเหตุผลเพื่อเลิกสูบ การสูบยาสูบจะทำให้มีกลิ่นปาก ยาสูบจะทำให้ปากแห้งและทิ้งกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์เอาไว้แม้แต่หลังการแปรงฟัน
  9. How.com.vn ไท: Step 9 ปรึกษาทันตแพทย์หรือแพทย์เกี่ยวกับปัญหานี้.
    พบทันตแพทย์เป็นประจำเพื่อช่วยรักษาสุขลักษณะในช่องปากที่ดี ถ้าหากคุณมีกลิ่นปากเป็นประจำทันตแพทย์สามารถตรวจหาสาเหตุของปัญหา เช่น อาการฟันผุ โรคเหงือกและลิ้นขาวได้
    • ถ้าหากทันตแพทย์เชื่อว่าปัญหาเกิดจากระบบภายในร่างกาย เช่น การติดเชื้อ ทันตแพทย์จะแนะนำให้คุณพบกับแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • พกลูกอมรสมิ้นท์ หมากฝรั่งหรือแผ่นลดกลิ่นปากติดตัวเพื่อสถานการณ์ฉุกเฉิน สิ่งเหล่านี้จะช่วยปกปิดกลิ่นปากแต่จะไม่กำจัดแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุเพราะฉะนั้นคุณสามารถใช้มันเป็นการชั่วคราวเท่านั้น
  • แปรงฟันให้ทั่วทุกซอกทุกมุม ใช้ไหมขัดฟันและน้ำยาบ้วนปากเพื่อให้ลมหายใจหอมสดชื่น ใช้แปรงสีฟันขัดผิวด้านบนของลิ้นและเพดานเบาๆ หลังการแปรงฟัน คุณต้องแปรงลิ้นด้วย
  • ถ้าหากคุณต้องการป้องกันกลิ่นปากในตอนเช้าก็ควรดื่มน้ำ 1 แก้วก่อนนอนและแปรงฟัน อย่าให้ร่างกายขาดน้ำเพราะกลิ่นปากในตอนเช้าเกิดจากลมหายใจแห้ง
  • น้ำผึ้งและซินนาม่อน 1 ช้อนโต๊ะต่อวันอาจจะช่วยกำจัดกลิ่นปากได้ การทานใบผักชีฝรั่งสามารถช่วยกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ในช่องท้องได้
  • แปรงฟันหลังการทานอาหารทุกมื้อเพื่อกำจัดเศษอาหารที่ติดอยู่บริเวณซอกฟัน
  • ดื่มน้ำใส่มะนาวตลอดวันเพื่อกำจัดกลิ่นปาก
โฆษณา

คำเตือน

  • อย่าทำให้ตัวเองรู้สึกอยากอาเจียน อย่าล้วงคอลึกเกินไปจนคุณรู้สึกไม่สบายตัว
  • ระมัดระวังอย่าให้แบคทีเรียแปลกปลอมเข้าสู่ช่องปากของคุณ รักษาความสะอาดของนิ้ว ผ้าก๊อต แก้วและวัตถุอื่นถ้าหากคุณใช้วัตถุนี้กับช่องปาก แบคทีเรียที่สกปรกอาจทำให้ปัญหาแย่ลง
โฆษณา

บทความวิกิฮาวอื่น ๆ ที่่เกี่ยวข้อง

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

How.com.vn ไท: Luba Lee, FNP-BC, MS
ร่วมเขียน โดย:
กรรมการพิจารณายา
บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Luba Lee, FNP-BC, MS. ลูบา ลีเป็นผู้ปฏิบัติการพยาบาลครอบครัวที่มีประกาศนียบัตรในเทนเนสซี่ เธอได้รับปริญญาด้านพยาบาลศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเทนเนสซี่ในปี 2006 บทความนี้ถูกเข้าชม 10,967 ครั้ง
มีการเข้าถึงหน้านี้ 10,967 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

⚠️ Disclaimer:

Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.

Notices:
  • - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
  • - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
  • - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
  • - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.

โฆษณา