วิธีการ กำจัดเห็บแมว

ดาวน์โหลดบทความ

ดาวน์โหลดบทความ

ภายในบทความนี้:

เตรียมอุปกรณ์ให้เหมาะสม

กำจัดเห็บอย่างปลอดภัย

กำจัดเห็บแล้วทำอะไรต่อไป

บทความที่เกี่ยวข้อง

ข้ออ้างอิง

เห็บ (ticks) เป็นปรสิตตัวเล็กๆ ที่ไม่เพียงก่อความรำคาญแต่ยังแพร่เชื้อให้แมวเจ็บป่วยได้ด้วย ถึงขั้นรุนแรงก็มี ถ้าคุณรู้ว่าแมวมีเห็บเมื่อไหร่ก็ต้องรู้ด้วยว่าต้องกำจัดเห็บยังไงให้ปลอดภัย ถ้าคุณทำถูกวิธีจะช่วยป้องกันไม่ให้เป็นโรคกันทั้งแมวและคน การกำจัดเห็บจะว่าง่ายก็ง่าย แต่จะว่ายากก็ยาก โดยเฉพาะถ้าแมวคุณเป็นพวกอยู่ไม่สุข เป็นอะไรที่ต้องศึกษาและพยายามทำให้ถูกตั้งแต่ครั้งแรกที่ลอง

ขั้นตอน

ส่วน 1

ส่วน 1 ของ 3:

เตรียมอุปกรณ์ให้เหมาะสม

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   เตรียมอุปกรณ์กำจัดเห็บ. จะเป็นแหนบปากแหลมหรืออุปกรณ์คีบเห็บโดยเฉพาะก็ได้ ถ้าคุณไม่แน่ใจว่าต้องใช้อุปกรณ์ชนิดไหน ให้ปรึกษาคุณหมอหรือร้านขายของสัตว์เลี้ยงก็ได้ เพราะทั้ง 2 ที่มีอุปกรณ์กำจัดเห็บขายแน่นอน
2. 
   2
   หาถุงมือยางมาด้วยถ้าไม่มี. เพราะถ้าแตะต้องเห็บด้วยมือเปล่าอาจทำให้คุณติดโรคได้ เพราะงั้นต้องปกป้องโดยสวมถุงมือไว้ก่อนแล้วค่อยเด็ดเห็บ แต่ถ้าคุณแพ้ลาเท็กซ์ในถุงมือยาง ก็ให้เปลี่ยนไปใช้ถุงมือไนไตร (nitrile) แทน

   • ถุงมือยางหรือถุงมือไนไตรมีขายตามร้านขายยาทั่วไปหรือในซูเปอร์ก็มี
3. 
   3
   เทแอลกอฮอล์ล้างแผลลงในขวดโหลหรือถุงซิปล็อค. พอเด็ดเห็บจากตัวแมวแล้วให้คุณเอาใส่ขวดโหลหรืออะไรที่เทแอลกอฮอล์ใส่เอาไว้ จะได้ตายแบบไม่มีฟื้น นอกจากนี้แอลกอฮอล์ล้างแผลยังใช้ทำความสะอาดผิวหนังของแมวตรงที่คุณเพิ่งเด็ดเห็บออกมาได้ด้วย

   • ถ้าใช้สำลีก้อนชุบแอลกอฮอล์ไปทาแผลหลังเด็ดเห็บจะสะดวกที่สุด
4. 
   4
   ต้องใช้ขี้ผึ้งทาแผล triple antibiotic ointment กับ hydrocortisone ointment สำหรับแมวโดยเฉพาะด้วย. ผิวตรงที่เด็ดเห็บออกไปอาจระคายเคืองนานหลายอาทิตย์ ขี้ผึ้งยาปฏิชีวนะจะช่วยป้องกันการติดเชื้อ ส่วนขี้ผึ้งยาไฮโดรคอร์ติโซนจะช่วยบรรเทาอาการระคายเคือง

   • ขี้ผึ้งยาปฏิชีวนะกับไฮโดรคอร์ติโซนของคนอาจแรงไปถ้าใช้กับแมว ให้ปรึกษาคุณหมอเรื่องตัวยาที่ใช้กับแมวได้จะดีที่สุด
   • ซื้อคอตตอนบัดด้วยถ้าคุณไม่ได้มีติดบ้านไว้ จะได้ใช้ป้ายยาที่แผลแมวแทนนิ้ว
   • พอเตรียมทุกอุปกรณ์ที่จำเป็นเรียบร้อยแล้ว ก็หาที่สว่างๆ สำหรับปฏิบัติการเด็ดเห็บ แล้ววางอุปกรณ์ไว้ใกล้ๆ มือ พอคุณเตรียมทุกอย่างไว้ครบมือ ขั้นตอนการกำจัดเห็บของคุณก็จะเป็นไปอย่างลื่นไหลรวดเร็ว
   โฆษณา

ส่วน 2

ส่วน 2 ของ 3:

กำจัดเห็บอย่างปลอดภัย

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   สังเกตว่าแมวคุณแสดงอาการเป็นพิษจากเห็บหรือเปล่า. ถ้าแมวมีเห็บมานานก็อาจทำให้เกิดอาการเจ็บป่วยได้ โดยอาการจะหนักขึ้นตามระยะเวลาที่เห็บเกาะ ถ้าแมวของคุณแสดงอาการเป็นพิษจากเห็บ ให้รีบพาไปตรวจรักษากับคุณหมอทันที

   • Haemobartonellosis นั้นเป็นโรคจากเห็บที่มักพบบ่อยในแมว โดยแมวจะมีอาการเซื่องซึม ไม่อยากอาหาร และหายใจผิดปกติ เป็นโรคที่อันตรายถึงชีวิตได้เลยทีเดียว เพราะฉะนั้นถ้าแมวมีอาการแบบที่ว่าเมื่อไหร่ให้รีบพาไปหาคุณหมอทันที
   • โรคอื่นที่เกิดจากเห็บ อย่าง Tularemia หรือ Cytauxzoonosis นั้นพบได้น้อยกว่า แต่ก็อันตรายไม่แพ้กัน
2. 
   2
   สวมถุงมือก่อน. ห้ามแตะต้องสัมผัสเห็บด้วยมือเปล่าเด็ดขาด ถุงมือนี่แหละที่จะช่วยป้องกันไม่ให้คุณติดโรคต่างๆ มาจากเห็บ แถมมือยังสะอาดระหว่างขั้นตอนกำจัดเห็บอีกด้วย
3. 
   3
   มองหาเห็บบนตัวแมว. ต้องทำขั้นตอนนี้ในที่ที่สว่างพอ เพราะเห็บที่ซ่อนอยู่ในขนแมวนี่หายากอยู่เหมือนกัน เอามือแหวกขนแมวให้มองเห็นผิวหนังชัดเจนที่สุด จำไว้ให้แม่นว่าเห็บชอบซ่อนอยู่ตามมุมอับของผิวหนัง เพราะงั้นต้องดูให้ดีเป็นพิเศษตามง่ามนิ้ว หู รักแร้ แล้วก็ขาหนีบ

   • คุณจะมองเห็นเห็บเป็นสีดำๆ เกาะอยู่ที่ผิวหนังแมว พอเห็บเกาะแล้วจะไม่ค่อยขยับไปไหน ไม่ต้องกลัวว่าเห็บจะวิ่งหนีเวลาเอามือเข้าไปใกล้ แถมยิ่งเกาะนานก็ยิ่งตัวเป่ง รับรองว่าเห็นง่ายแน่นอน
   • หมั่นสำรวจแมวหาเห็บบ่อยๆ โดยเฉพาะช่วงหน้าร้อน และกรณีที่เลี้ยงผสมทั้งแบบปิดแบบเปิด ยิ่งถ้าแถวบ้านคุณเห็บเยอะหรือระบาดยิ่งต้องหมั่นตรวจร่างกายแมวมากเป็น 2 เท่า
4. 
   4
   จับให้มั่น. แหวกขนให้เห็นส่วนที่เห็บเกาะชัดๆ แล้วใช้อุปกรณ์คีบเห็บให้มั่น แต่ระวังว่าต้องคีบให้ถูกที่ คือตรงจุดที่หัวกับคอต่อกัน และคีบใกล้ผิวหนังมากที่สุดเท่าที่จะทำได้

   • จะง่ายกว่าถ้ามีคนคอยช่วยจับแมวไว้ตอนคุณเด็ดเห็บ ถ้าไม่มีคนคอยช่วย จะสะดวกกว่าให้คุณหมอช่วยกำจัดเห็บให้แทน
   • เรารู้ว่ามันยั่วใจ แต่ห้ามบีบเห็บให้แตกโพล๊ะเด็ดขาด ถ้าเวลาคีบคุณบีบแรงไปละก็ เห็บอาจจะปล่อยสารพิษหรือโรคออกมาใส่ตัวแมวได้
5. 
   5
   เด็ดเห็บจากตัวแมว. คีบให้มั่นแล้วดึงขึ้นมาจากตัวแมวช้าๆ ตรงๆ ห้ามบิดแหนบเด็ดขาด เพราะตัวเห็บจะขาดแต่หัวติดแน่นอยู่กับผิวหนังแมว ทีนี้ล่ะเป็นเรื่อง

   • ถ้าคุณเผลอบิดแหนบจนเห็บตัวขาดหัวติดอยู่กับผิวหนังแมวแล้วเอาออกไม่ได้ ให้พาแมวไปหาหมอดีกว่า ห้ามปล่อยทิ้งไว้แบบนั้นเด็ดขาด
   โฆษณา

ส่วน 3

ส่วน 3 ของ 3:

กำจัดเห็บแล้วทำอะไรต่อไป

ดาวน์โหลดบทความ

1. 
   1
   ทิ้งเห็บลงไปในขวดโหลหรือถุงซิปล็อคที่เทแอลกอฮอล์ใส่ไว้. รับรองว่าตายสนิทแหงแก๋ ห้ามเอาเห็บไปทิ้งแล้วกดชักโครกเด็ดขาด เพราะแบบนี้เห็บจะรอดกลับมาได้
2. 
   2
   ล้างทำความสะอาดแผลที่เห็บกัด. ค่อยๆ ทาแอลกอฮอล์ตรงผิวที่เพิ่งเด็ดเห็บ แล้วตามด้วยทาขี้ผึ้งยา triple antibiotic ointment สำหรับแมว จะได้ป้องกันแผลเห็บกัดไม่ให้ติดเชื้อ แอลกอฮอล์มักทำให้ผิวหนังแมวระคายเคือง เพราะฉะนั้นให้เอาสำลีก้อนไปชุบแล้วมาแตะๆ เบาๆ ที่แผลก็พอ

   • ห้ามใช้นิ้วของคุณทาขี้ผึ้งยาให้แมว ถึงจะใส่ถุงมืออยู่ก็ไม่ได้ ให้ใช้คอตตอนบัดแทน แต้มยานิดเดียวแล้วมาทาเบาๆ ตรงที่เห็บกัด
3. 
   3
   ถอดถุงมือแล้วล้างมือให้สะอาด. พอถอดถุงมือออกมาข้างหนึ่งแล้ว เวลาจะถอดอีกข้างให้จับตรงข้อมือ จะได้ไม่โดนส่วนที่แตะต้องผิวหนังแมวแล้ว ถึงมือจะไม่ได้สัมผัสเห็บโดยตรงก็ต้องล้างมือให้สะอาดอยู่ดี
4. 
   4
   สังเกตบริเวณที่เห็บกัด. ถึงผิวตรงที่เห็บกัดแมวจะไม่ติดเชื้อขึ้นมาก็เถอะ แต่ก็คงจะระคายเคืองนานเป็นหลายอาทิตย์หลังกำจัดเห็บ ถ้าผิวหนังดูแสบแดง ให้ใช้คอตตอนบัดทาขี้ผึ้งยา hydrocortisone ointment สำหรับแมวตรงบริเวณที่เป็นแค่นิดเดียวก็พอ

   • ถ้าผิวหนังตรงนั้นแดงจัดและระคายเคืองนานต่อไปอีกหลายวัน ให้พาแมวไปหาหมอจะดีกว่า เพราะอาจเป็นสัญญาณว่ามีการติดเชื้อรุนแรงได้
   • ถึงจะเด็ดเห็บออกไปแล้ว แต่ถ้าแมวยังแสดงอาการผิดปกติก็ต้องรีบพาไปหาหมอทันทีเหมือนกัน
   โฆษณา

เคล็ดลับ

• ถ้ากลัวหรือกังวล ไม่กล้าเด็ดเห็บออกด้วยตัวเอง ก็พาไปให้คุณหมอกำจัดให้จะดีที่สุด
• ห้าม ใช้วิธีกำจัดเห็บแบบ "เขาว่ากันว่า" เช่น การใช้ปิโตรเลียมเจลลี่ การแช่แข็งเห็บ เผาเห็บด้วยไม้ขีด หรือการใช้ยาทาเล็บทา เพราะวิธีพวกนี้ไม่ได้ผล ไม่ว่ากรณีไหนก็ห้ามใช้
• ป้องกันด้วยยากันเห็บทุกเดือนถึงแมวจะไม่ค่อยได้ออกไปนอกบ้านก็เถอะ สัตวแพทย์สามารถแนะนำได้ว่าการป้องกันแบบไหนถึงจะเหมาะสมกับแมวของคุณ
• ถ้าแมวออกไปวิ่งเล่นนอกบ้านประจำ ก็กันไว้อย่าให้ไปแถวป่าหรือที่รกชัฏเพราะเห็บมันชุม แต่ก็นะ ใครจะห้ามเจ้าตัวแสบได้
• โรคไลม์ (Lyme disease) เป็นโรคจากเห็บที่พบบ่อยที่สุด แต่ตลกดีว่าไม่ค่อยเกิดกับแมว เอาจริงๆ ถ้าแมวเกิดเป็นโรคไลม์ขึ้นมา บางทีก็ไม่ได้แสดงอาการเลยด้วยซ้ำ แต่ถ้าแมวคุณเกิดแสดงอาการของโรคไลม์ขึ้นมาละก็ (ขาง่อยเปลี้ยสลับข้างไปมา ต่อมน้ำเหลืองบวมแถวๆ ที่เห็บกัด หรือหายใจติดขัด) ก็ต้องพาไปหาหมอลูกเดียว

โฆษณา