วิธีการ กำจัดอาการคันด้วยวิธีการรักษาด้วยตัวเอง

ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความ

เคยหงุดหงิดกับอาการคันที่ผิวหนังหรือไม่ อาการคันเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น แมลงกัดต่อย ปฏิกิริยาภูมิแพ้ ผิวไหม้แดด การติดเชื้อที่ผิวหนัง อากาศที่แห้งและเย็น การใช้ยา โรคประจำตัว รวมถึงการตั้งครรภ์หรืออายุ[1] ควรไปพบแพทย์หากมีอาการคันนานหลายสัปดาห์หรือหลายเดือนเพื่อเข้ารับการรักษาอย่างถูกต้อง อย่างไรก็ตาม หากอาการคันไม่รุนแรงมากนักและไม่มีอาการอื่นๆ ตามมา คุณสามารถรักษาให้หายได้อย่างง่ายดายและได้ผลด้วยวิธีการรักษาด้วยตนเองที่บ้าน

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 5:

บรรเทาอาการอย่างรวดเร็ว

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 อาบน้ำเย็น.
    นักวิทยาศาสตร์ยังคงไม่แน่ใจเกี่ยวกับกลไกการเกิดอาการคันที่แน่นอน แต่เป็นไปได้ว่าอาการคันสามารถบรรเทาได้เมื่อเกิดการต่อต้านการระคายเคือง (เช่น การเกา)[2] และน้ำเย็นก็สามารถช่วยในการบรรเทาอาการคันที่ผิวหนังได้
    • อาบน้ำด้วยน้ำเย็น เนื่องจากความเย็นนั้นสามารถบรรเทาอาการคันอย่างได้ผล ดังนั้นลองใช้ประโยชน์จากความเย็นนี้โดยการอาบน้ำฝักบัวด้วยน้ำเย็นและปล่อยให้น้ำเย็นไหลผ่านบริเวณที่คัน แต่ถ้าหากชอบแช่น้ำในอ่างมากกว่า ให้แช่น้ำในอ่างที่มีน้ำเย็นได้นานตามที่ต้องการ
    • คุณยังสามารถใช้น้ำมันหอมระเหยผสมกับน้ำสำหรับอาบเพื่อช่วยในการผ่อนคลายผิวหนังและยับยั้งการระคายเคือง โดยหยดน้ำมันหอมระเหยลงไปในอ่างที่มีน้ำเย็น[3]
      • น้ำมันโรมันคาร์โมไมล์ ช่วยผ่อนคลายและยับยั้งการระคายเคือง[4]
      • น้ำมันกำยาน ช่วยบรรเทาอาการอักเสบของผิวหนัง[5]
      • น้ำมันลาเวนเดอร์ ช่วยคลายความเครียดและลดอาการคัน[6]
      • น้ำมันคาเลนดูล่า ช่วยลดอาการคันโดยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว[7]
    • หลีกเลี่ยงการใช้น้ำมันหอมระเหยเหล่านี้ เนื่องจากอาจทำให้ผิวหนังเกิดการระคายเคืองได้ ได้แก่ น้ำมันใบกระวาน น้ำมันอบเชย น้ำมันกานพลู น้ำมันตะไคร้หอม น้ำมันยี่หร่า น้ำมันตะไคร้ น้ำมันเลมอน เวอร์บีน่า น้ำมันออริกาโน่ น้ำมันดอกดาวเรือง และน้ำมันไทม์[8]
  2. How.com.vn ไท: Step 2 ประคบเย็น.
    นำผ้าขนหนูหรือผ้าชุบในน้ำเย็น จากนั้นนำไปประคบไว้ตรงผิวหนังบริเวณที่คันจนกระทั่งรู้สึกผ่อนคลาย โดยประคบไว้นานประมาณ 30 นาที[9] การประคบเย็นสามารถช่วยบรรเทาอาการได้ เนื่องจากผ้าที่เปียกจะให้ผิวหนังที่คันอ่อนนุ่มลง[10] และช่วยกำจัดเนื้อตายได้[11]
    • คุณยังสามารถใช้ถุงน้ำแข็งหรือถุงแช่แข็งที่บรรจุเมล็ดถั่วมาประคบตรงผิวหนังบริเวณที่คัน โดยก่อนนำมาใช้ประคบกับผิวหนังให้ห่อด้วยผ้าขนหนูให้ดีก่อน ประคบไว้นานประมาณ 10-20 นาที และไม่ควรประคบนานกว่านั้น
    • การประคบร้อนจะทำให้ผิวหนังเกิดการระคายเคืองมากขึ้น
  3. How.com.vn ไท: Step 3 แช่ในสารละลายไบคาร์บอเนต.
    เบคกิ้งโซดาสามารถใช้เป็นยาแก้คัน หรือรักษาอาการคันได้ โดยใช้ได้กับอาการคันทุกชนิด แต่จะได้ผลดีเป็นพิเศษในการลดอาการคันที่เกิดจากผึ้งหรือแมลงกัดต่อย[12]
    • ใส่เบคกิ้งโซดา 1 ถ้วยลงในอ่างที่มีน้ำเย็น แล้วแช่ตัวประมาณ 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมง[13]
  4. How.com.vn ไท: Step 4 แช่ตัวด้วยข้าวโอ๊ตหรือทำยาพอกจากข้าวโอ๊ต.
    ข้าวโอ๊ตมีส่วนประกอบที่ทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่จะช่วยผ่อนคลายผิวหนังและยับยั้งการระคายเคือง แนะนำให้ใช้คอลลอยดัล โอ๊ตมิลล์ แต่ถ้าไม่สามารถหาได้ ก็สามารถใช้ข้าวโอ๊ตเต็มเมล็ดหรือแป้งข้าวโอ๊ตที่ไม่ผ่านการแปรรูปแทนได้ โดยบดให้ละเอียดโดยใช้เครื่องเตรียมอาหารหรือเครื่องบดกาแฟ ส่วนประกอบที่มีฤทธิ์ในการรักษานั้นจะพบได้มากในข้าวโอ๊ตที่ยังไม่ผ่านการแปรรูป (avenanthramides).[14]
    • เติมข้าวโอ๊ตหรือแป้งข้าวโอ๊ตที่ไม่ผ่านการแปรรูปหรือการปรุงใดๆ ลงไปในอ่างอาบน้ำ น้ำในอ่างควรเป็นน้ำเย็นหรือน้ำอุ่น แต่ไม่ควรใช้น้ำร้อน เพราะจะทำให้ผิวหนังถูกทำร้ายมากยิ่งขึ้น แช่น้ำวันละ 1 ชั่วโมงติดต่อทุกวันจนกระทั่งอาการคันหายดี
    • แป้งข้าวโอ๊ตที่ไม่ผ่านการแปรรูปหรือการปรุงใดๆ นั้นยังสามารถนำมาผสมกับน้ำเพื่อทำเป็นยาพอก โดยทาตรงผิวหนังบริเวณที่คันและทิ้งไว้ประมาณ 20-30 นาที
  5. How.com.vn ไท: Step 5 ใช้ว่านหางจระเข้.
    ว่านหางจระเข้มีสรรพคุณในการต่อต้านเชื้อรา แบคทีเรีย และการอักเสบ และยังอุดมไปด้วยวิตามินอีที่สามารถรักษาผิวหนังที่ไหม้และช่วยลดการอักเสบและคันได้[15]
    • ว่านหางจระเข้สดมีคุณประโยชน์อย่างมาก นำต้นว่านหางจระเข้มาหั่นเป็นชิ้น ตัดเปิดออกมา แล้วนำเจลไปวางไว้บริเวณผิวหนังที่คัน ปล่อยทิ้งไว้ให้เจลซึมเข้าสู่ผิว หากไม่สามารถหาต้นว่านหางจระเข้ได้ ให้หาซื้อเจลว่านหางจระเข้จากร้านขายยา โดยมองหาเจลว่านหางจระเข้สูตรธรรมชาติ 100%
    • ยาใช้ว่านหางจระเข้ในบริเวณที่เป็นแผลเปิด ระคายเคือง หรือแดง[16]
  6. How.com.vn ไท: Step 6 ใช้ใบมินท์สด.
    มีการวิจัยแนะนำว่าการอาบน้ำโดยใช้น้ำที่ผสมใบมินท์และน้ำมันเปปเปอร์มินท์นั้นสามารถรักษาผิวหนังที่คันได้ ใบมินท์มีส่วนประกอบที่ช่วยต่อต้านการอักเสบและลดอาการปวด ซึ่งช่วยในการลดและระงับอาการคันที่ผิวหนังได้[17]
    • ใบมินท์ที่ผ่านการต้มในน้ำร้อนจะสามารถออกฤทธิ์ได้ดียิ่งขึ้น เนื่องจากการแช่ใบมินท์ในน้ำจะทำให้น้ำมันที่อยู่ในใบออกมา ควรแน่ใจว่าน้ำเย็นลงแล้วก่อนนำผ้ามาชุบและประคบไว้บนผิวหนัง[18][19]
    • คุณยังสามารถใช้น้ำมันเปปเปอร์มินท์กับผิวหนังที่คันได้โดยตรงโดยใช้สำลีแผ่น[20]
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 5:

เติมน้ำให้ผิวและขัดผิว

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 เติมน้ำให้กับร่างกาย.
    สาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดอาการคันที่ผิวหนังคือผิวที่แห้ง ยิ่งคุณดื่มน้ำมากเท่าไหร่ ผิวของคุณก็จะได้รับน้ำมากยิ่งขึ้น ควรดื่มน้ำเป็นประจำอย่างน้อยวันละ 6-8 แก้ว[21]
    • หากคุณเคลื่อนไหวร่างกายหนักหรือมีเหงื่อออกมาก ให้ดื่มน้ำปริมาณมากขึ้น
  2. How.com.vn ไท: Step 2 หลีกเลี่ยงการอาบน้ำเกินวันละ 1 ครั้ง.
    อาบน้ำด้วยน้ำอุ่นหรือน้ำเย็น และให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวทุกครั้งหลังอาบน้ำ ไม่ควรอาบน้ำหรือแช่น้ำนานเกิน 30 นาที[22]
    • หลายคนอาจไม่ทราบว่า การอาบน้ำหรือแช่น้ำนานเกินไปนั้นจะทำให้ผิวแห้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณใช้สบู่ที่มีความรุนแรงต่อผิว ควรหลีกเลี่ยงการใช้สบู่ที่ผสมสารย้อมสี น้ำหอม และแอลกอฮอล์[23]
    • แนะนำให้อาบน้ำด้วยน้ำอุ่น เนื่องจากน้ำที่ร้อนเกินไปนั้นจะทำร้ายผิวโดยการชะล้างน้ำมันบนผิวที่ช่วยให้ผิวหนังชุ่มชื้นออกไป
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ใช้ครีมมอยส์เจอร์ไรซิ่งคุณภาพดี.
    เลือกครีมมอยเจอร์ไรซิ่งที่มีส่วนผสมของสารเคมีน้อยที่สุด เพื่อลดปริมาณสารเคมีที่จะเข้าสู่ผิวหนังที่อาจก่อให้เกิดการแพ้และทำให้อาการคันแย่ลง
    • หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่ผสมแอลกอฮอล์และน้ำหอม แอลกอฮอล์จะทำให้ผิวแห้ง ซึ่งส่งผลให้อาการคันแย่ลง ส่วนน้ำหอมที่มักจะละลายอยู่ในแอลกอฮอล์นั้นก็ส่งผลแบบเดียวกัน[24]
    • ปิโตรเลียมเจลลีเป็นผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากน้ำหอม ช่วยในการรักษาความชุ่มชื้นในบริเวณที่คัน[25]
    • ผลการศึกษาหลายแห่งแนะนำว่า ครีมที่ประกอบด้วยกรดไขมันโอเมก้า-3 นั้นสามารถรักษาอาการผิวหนังอักเสบชนิดเอ็กซีมาที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดอาการคันที่ผิวหนังอย่างรุนแรงได้[26]
  4. How.com.vn ไท: Step 4 ทำมอยส์เจอร์ไรเซอร์ใช้เองที่บ้าน.
    คุณยังสามารถทำครีมมอยส์เจอร์ไรซิ่งได้ด้วยตนเอง นำครีมมอยส์เจอร์ไรซิ่งที่ทำเองที่บ้านนี้มาทาบนใบหน้า ลำตัว และมือ ปล่อยทิ้งไว้สักพักให้มอยส์เจอร์ไรเซอร์ซึมลงสู่ผิว จากนั้นให้เช็ดหรือล้างครีมที่ยังติดอยู่บนผิว
    • มอยส์เจอร์ไรเซอร์สูตรครีม อะโวคาโด และน้ำผึ้ง - ใส่เฮฟวี่ครีมสด 3 ช้อนโต๊ะ อะโวคาโดสด ¼ ลูก และน้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะลงไปในเครื่องปั่น ปั่นจนส่วนผสมเข้ากัน[27]
    • มอยส์เจอร์ไรเซอร์สูตรเชีย บัตเตอร์ - เตรียมเชีย บัตเตอร์ที่อุณหภูมิห้อง 4 ออนซ์ แล้วนำช้อนไม้มาบดให้ละเอียด เติมน้ำมันอัลมอนด์หรือน้ำมันมะกอก (เลือกใช้อันไหนก็ได้ที่คุณชอบหรือสามารถหาได้) ลงไป 2 ช้อนโต๊ะ และเติมน้ำมันลาเวนเดอร์หรือน้ำมันกลิ่นอื่นที่คุณชอบ (เช่น เลมอน ส้ม มินท์ หรือการ์ดีเนีย) ลงไปอีก 8-10 หยด จากนั้นใช้เครื่องผสมอาหารไฟฟ้าปั่นส่วนผสมด้วยความเร็วสูงประมาณ 2-4 นาทีหรือจนกระทั่งส่วนผสมเข้ากันเป็นเนื้อครีม บรรจุไว้ในขวดโหลแก้วที่มีฝาปิด เก็บไว้ในที่เย็นและมืด[28]
    • โลชั่นสูตรว่านหางจระเข้ น้ำมันอัลมอนด์ และคาร์โมไมล์ - ผสมน้ำมันอัลมอนด์ ½ ถ้วยและชาคาร์โมไมล์ ½ ถ้วยให้เข้ากันโดยใช้เครื่องผสมอาหาร (ขั้นตอนการชงชา ให้แช่ถุงชา 2 ถุงในน้ำร้อน ½ ถ้วยอย่างน้อย 5 นาที) จากนั้นเติมเจลว่านหางจระเข้ 1 ถ้วยลงไปโดยปั่นด้วยความเร็วต่ำ เสร็จแล้วใช้ไม้พายคนอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าว่านหางจระเข้เข้ากันดีกับส่วนผสมแล้ว โดยก่อนทำการผสมนั้น ส่วนผสมแต่ละชนิดควรอยู่ในอุณหภูมิห้อง หลังจากส่วนผสมเข้ากันดีแล้ว ให้ตักใส่ขวดโหลที่สะอาดและปิดฝาอย่างเรียบร้อย แล้วนำไปเก็บไว้ในตู้เย็น เมื่อต้องการใช้ ให้ตักออกมาในปริมาณเพียงเล็กน้อยและใช้มือทำให้อุ่นขึ้น จากนั้นจึงทาลงบนผิว[29]
    • น้ำมันมะพร้าวสามารถช่วยฟื้นฟูประสิทธิภาพในการรักษาความชุ่มชื้นของผิวหนังได้เช่นเดียวกัน โดยใช้น้ำมันมันพร้าวทาบริเวณผิวหนังที่ระคายเคืองหรือคันได้โดยตรง[30]
  5. How.com.vn ไท: Step 5 ขัดผิว (ด้วยความระมัดระวัง).
    The American Academy of Dermatology แนะนำให้พบแพทย์ผิวหนังเพื่อประเมินสภาพผิวก่อนทำการขัดผิว เนื่องจากการขัดผิวบางวิธีอาจไม่เหมาะกับผิวหนังบางประเภท[31] การขัดผิวที่ผิดวิธีหรือรุนแรงเกินไปนั้นจะทำร้ายผิวของคุณ อาจทำให้การอักเสบและการคัน และทำให้ปัญหาผิวที่มีอยู่แย่ลงได้ นอกจากนั้น แพทย์ผิวหนังสามารถช่วยแนะนำเกี่ยวกับความถี่ในการขัดผิวและวิธีการขัดผิวที่เหมาะสมกับสภาพผิวของคุณ[32][33] อย่างไรก็ตาม ยังมีอีกหลายวิธีง่ายๆ ที่คุณสามารถลองทำเองได้ เช่น
    • แปรงผิวแบบแห้ง - วิธีนี้เป็นวิธีการรักษาแบบจีนที่สามารถขจัดเซลล์ผิวที่ตายออกไป และช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด ให้ใช้แปรงขนแข็งธรรมชาติที่มีด้ามจับยาว เริ่มแปรงจากเท้าโดยค่อยๆ แปรงเป็นทางยาว ส่วนในบริเวณที่กว้างอย่างเช่นลำตัวและแผ่นหลัง ให้แปรงวนเป็นวงกลม แปรงผิวแต่ละบริเวณ 3-4 ครั้งไปจนทั่วร่างกาย จากนั้นอาบน้ำและเช็ดตัวให้แห้ง แล้วจึงทามอยส์เจอร์ไรเซอร์ ควรระวังอย่าแปรงผิวบริเวณที่แตก[34]
    • ใช้ผ้าขัดตัว - ผ้าชนิดนี้โดยมากมักทำจากเส้นใยสังเคราะห์ทอละเอียด เช่น ผ้าไนลอน และมีบางชนิดที่ทำจากเส้นใยธรรมชาติ เช่น ผ้าไหมหรือผ้าลินิน ให้ใช้ผ้าขัดเบาๆ ตามร่างกาย โดยผ้าขัดตัวนี้มีให้เลือกใช้หลายขนาด เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้อาบน้ำและเช็ดให้แห้ง แล้วจึงทามอยส์เจอร์ไรเซอร์
    • อย่าขัดผิวแรงเกินไป เพราะจะทำให้เกิดการระคายเคืองและคันมากยิ่งขึ้น ให้ใช้การลูบเบาๆ แทน
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 5:

ปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินชีวิต

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 หลีกเลี่ยงการเกา.
    แม้ว่าตอนพูดจะง่ายกว่าตอนทำ แต่ควรหลีกเลี่ยงการเกาให้มากที่สุด การเกาจะทำให้ผิวหนังระคายเคืองมากขึ้น เนื่องจากมีการขับสารบางชนิดออกมา เช่น ฮิสตามีน และไซโตไคน์ ที่ส่งผลให้อาการคันเพิ่มขึ้นและกระจายไปในบริเวณกว้าง นอกจากนี้ การเกาตรงที่คันยังเป็นสาเหตุทำให้สมองมีการส่งสัญญาณทางเคมี จึงทำให้รู้สึกคันมากขึ้น ยิ่งไปกว่านั้น หากผิวหนังได้รับความเสียหายจากการเกา ก็จะทำให้ผิวหนังเกิดการติดเชื้อ จนทำให้ผิวหนังบริเวณนั้นเกิดการระคายเคือง การเกาเป็นระยะเวลานานจะก่อให้เกิดผลกระทบต่อโครงสร้างผิวหนัง เป็นสาเหตุทำให้เกิดรอยแผลเป็น และเกิดการเปลี่ยนแปลงของชั้นผิวหนัง (lichenification) และเม็ดสีผิว (hyperpigmentation)[35][36]
    • หากเกิดอาการคันที่บริเวณใด ให้ใช้วิธีบรรเทาอาการอย่างรวดเร็วตามวิธีด้านบนในการบรรเทาอาการให้ตรงจุดในบริเวณนั้น
    • พยายามไว้เล็บให้สั้น และโดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณมักมีอาการคันในตอนกลางคืน ให้สวมถุงมือขณะเข้านอนเพื่อป้องกันตัวเองไม่ให้เผลอเกา
  2. How.com.vn ไท: Step 2 หลีกเลี่ยงการใช้ผงซักฟอกที่มีฤทธิ์รุนแรง.
    ควรเลือกใช้ผงซักฟอกที่ไม่มีน้ำหอม โดยผงซักฟอกบางยี่ห้อนั้นมีการผลิตผงซักฟอกสำหรับผิวแพ้ง่าย นอกจากนี้ เสื้อผ้าทุกตัวควรล้างน้ำหลายๆ ครั้งเพื่อขจัดผงซักฟอกที่อาจตกค้างอยู่บนผ้า
  3. How.com.vn ไท: Step 3 สวมเสื้อผ้าหลวมๆ ที่ทำจากเส้นใยธรรมชาติ.
    อย่างเช่น พยายามสวมใส่เสื้อผ้าที่ทำจากผ้าฝ้ายบริสุทธิ์ 100% โดยเฉพาะชุดชั้นใน ผ้าฝ้ายเป็นผ้าที่ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้และทำจากเส้นใยธรรมชาติโดยไม่ผสมสิ่งสังเคราะห์ใดๆ ดังนั้นจึงช่วยลดปฏิกิริยาที่เป็นอันตรายต่อผิวที่อาจเกิดขึ้นและการระคายเคือง[38]
    • ผ้าฝ้ายและผ้าลินินยังช่วยให้ผิวหนังของคุณได้รับออกซิเจน ทั้งยังสามารถระบายเหงื่อและระบายอากาศได้ดี ยิ่งไปกว่านั้น ผ้าฝ้ายยังซักง่าย แห้งเร็ว และทนกว่าผ้าชนิดอื่น
    • ยังมีผ้าอีกหลายชนิดที่ทำมาจากธรรมชาติ เช่น ผ้าลินิน ผ้าป่าน และผ้าไหม[39] แต่ควรหลีกเลี่ยงผ้าขนสัตว์ เนื่องจากมีหลายคนที่มีอาการแพ้จากการใช้ผ้าขนสัตว์นี้[40]
  4. How.com.vn ไท: Step 4 หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคลที่ผสมน้ำหอม....
    หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคลที่ผสมน้ำหอม. หลีกเลี่ยงการใช้น้ำหอม สบู่ โลชั่น แชมพู และผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคลหรือผลิตภัณฑ์ความงามอื่นๆ ที่ผสมน้ำหอมและสารเคมี เนื่องจากผลิตภัณฑ์เหล่านี้ก่อให้เกิดการระคายเคืองและทำให้อาการคันแย่ลงในผู้ใช้หลายๆ คน[41]
    • ใช้สบู่สูตรอ่อนโยนที่ทำจากกลีเซอรีนธรรมชาติ โดยสามารถหาซื้อได้ที่ร้านขายยาหรือร้านขายของชำทั่วไป สบู่ชนิดนี้จะไม่ทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองหรือแห้ง กลีเซอรีนมีลักษณะเป็นเจลข้น ไม่มีสารพิษ กลิ่น และสี ใช้สำหรับให้ความชุ่มชื้นและทำความสะอาดผิวมาอย่างยาวนานหลายศตวรรษ[42]
    • หลังฟอกสบู่เสร็จแล้วให้ล้างสบู่ออกให้หมด และทามอยส์เจอร์ไรเซอร์ทุกครั้งหลังใช้สบู่[43]
  5. How.com.vn ไท: Step 5 ใช้เครื่องทำความชื้น.
    เครื่องทำความชื้นจะช่วยเพิ่มความชื้นในอากาศ เพราะอากาศที่แห้งสามารถทำให้ผิวแห้งและเกิดการคันได้[44]
    • หากไม่มีเครื่องทำความชื้น คุณก็สามารถทำเครื่องทำความชื้นขึ้นมาได้ด้วยตัวเอง ให้วางชามที่ใส่น้ำไว้รอบๆ ห้อง โดยวางไว้ให้ห่างจากเด็กเล็กและสัตว์เลี้ยง ในช่วงเดือนที่มีอากาศหนาว ให้วางไว้ใกล้กับแหล่งกำเนิดความร้อน ส่วนในเดือนที่มีอากาศร้อน ให้วางไว้ใกล้หน้าต่างและจุดที่โดนแสงแดดส่องโดยตรง วิธีนี้จะช่วยให้น้ำระเหยและเพิ่มความชื้นในอากาศได้
    • ตรวจดูเครื่องทำความชื้นทั้งที่ซื้อมาและทำเองที่บ้านให้มีน้ำบรรจุเต็มอยู่เสมอ
    • ทำความสะอาดเครื่องทำความชื้นเป็นประจำโดยทำตามคู่มือการใช้ของเครื่อง เพราะเครื่องทำความชื้นที่ไม่สะอาดจะทำให้แบคทีเรียและเชื้อราเจริญเติบโตได้ดียิ่งขึ้น
  6. How.com.vn ไท: Step 6 ทานอาหารเสริมและ/หรือเสริมสารอาหารลงไปในอาหารหลัก....
    ทานอาหารเสริมและ/หรือเสริมสารอาหารลงไปในอาหารหลัก. ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานหรือเสริมสารอาหารเพิ่มลงไปในอาหารหลัก วิตามิน เกลือแร่ และอาหารเสริมหลายชนิดสามารถรับประทานได้อย่างปลอดภัยหากทำตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด แต่ยังมีอาหารเสริมบางชนิดที่อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณกำลังรับประทานยาอยู่ อาหารเสริมต่อไปนี้เป็นตัวเลือกที่ดีในการนำมารับประทานหรือเสริมลงไปในอาหารหลัก
    • แพลนท์ โพลีฟีนอล (ฟลาโวนอยส์) เช่น เควอซิทินหรือรูติน เป็นสารต้านฮิสตามีนจากธรรมชาติ และช่วยในการป้องกันความเสียหายของดีเอ็นเอ[45][46] ปริมาณการใช้ยาในแต่ละครั้ง สำหรับเควอซิทินให้ใช้ 250-500 มิลลิกรัม และสำหรับรูตินให้ใช้ 500-1000 มิลลิกรัม
    • วิตามินเอ ช่วยให้ผิวมีสุขภาพดี พบได้มากในมันเทศ ตับวัว ผักปวยเล้ง ปลา นม ไข่ และแครอท หลายคนที่อาจรับสารวิตามินเอจากอาหารหลักไม่เพียงพอ ก็อาจหาอาหารเสริมมารับประทานเพิ่มได้[47]
    • วิตามินบี ช่วยให้ผิวมีสุขภาพดีได้เช่นเดียวกัน วิธีที่ง่ายที่สุดในการรับวิตามินบีคือรับประทานอาหารเสริมวิตามินบีรวมที่มีวิตามินบีทุกชนิด และยังสามารถรับวิตามินบีได้จากการรับประทานถั่วลูกไก่ ปลา และสัตว์ปีก[48]
    • กรดไขมันโอเมก้า-3 มีส่วนสำคัญในการรักษาความชุ่มชื้นของผิว และยังช่วยลดอาการอักเสบ อาหารเสริมโอเมก้า-3และวิตามินสามารถหาซื้อได้ตามร้านขายอาหารเสริมหรือร้านขายยาทั่วไป อาหารที่เป็นแหล่งสำคัญของกรดไขมันโอเมก้า-3 ได้แก่ ผักใบเขียว ถั่วเปลือกแข็ง และปลาที่มีกรดไขมันจำเป็นสูง (เช่น แซลมอนหรือแมคเคอเรล)[49]
  7. How.com.vn ไท: Step 7 คลายความเครียด.
    ความเครียดมีผลกระทบต่อฮอร์โมนในร่างกาย ทำให้อาการคันแย่ลง ลองใช้เทคนิคการจัดการความเครียดต่างๆ เหล่านี้ เช่น การทำสมาธิ โยคะ หรือการบริหารร่างกาย[50]
    โฆษณา
วิธีการ 4
วิธีการ 4 ของ 5:

ใช้สารละลายบรรเทาอาการคันจากแมลงกัดต่อย

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ใช้คาลาไมน์โลชั่น.
    คาลาไมน์โลชั่นประกอบด้วยซิงค์ออกไซด์ ไอเอิร์นออกไซด์ เฟอร์ริกออกไซด์ และ/หรือซิงค์คาร์บอเนต คาลาไมน์โลชั่นเป็นที่นิยมใช้กันมาหลายทศวรรษในการบรรเทาอาการคันที่เกิดขึ้นจากหลายสาเหตุ ทั้งผื่นแพ้จากต้นพอยซันไอวี่ ต้นพอยซันโอ๊ค ต้นพอยซันซูแมค ผิวหนังไหม้แดด หรือแมลงกัดต่อย และยังใช้ในการป้องกันการติดเชื้อที่ผิวหนังจากการเกามากเกินไป[51][52]
    • คาลาไมน์โลชั่นสามารถซื้อได้ที่ร้านขายยาในราคาที่ไม่แพง
  2. How.com.vn ไท: Step 2 ทำยาพอกจากข้าวโอ๊ต.
    เนื้อของยาพอกมีลักษณะนุ่มและชื้น โดยมากมักทำจากสมุนไพรผสมกับพืชชนิดอื่นๆ หรือแป้งสาลี ยาพอกสามารถทาบนผิวหนังได้โดยตรงและให้ปิดไว้ด้วยผ้า[53] วิธีการทำยาพอก ให้ตวงคอลลอยดัล โอ๊ตมิลล์ 1 ถ้วย แล้วนำไปปั่นในเครื่องบดกาแฟหรือเครื่องปั่นให้มีลักษณะเป็นผงหยาบๆ เติมน้ำอุ่นลงไปเล็กน้อยเพื่อทำให้เป็นเนื้อข้นๆ เมื่อเสร็จแล้วให้นำไปทาบนผื่นที่เกิดจากต้นพอยซันไอวี่ ต้นพอยซันโอ๊ค ต้นพอยซันซูแมค ผิวหนังบริเวณที่ไหม้ หรือรอยแมลงกัดต่อย ทิ้งไว้จนอาการดีขึ้นแล้วจึงล้างออกด้วยน้ำอุ่น[54]
    • อาจนำผ้าฝ้ายที่สะอาดมาปิดทับไว้และพันด้วยผ้าพันแผลชนิดผ้ายืดหรือเทปแต่งแผล
    • คุณสามารถใช้ข้าวโอ๊ตได้เลยโดยไม่ต้องผ่านการปั่น แต่อาจทาให้เรียบได้ยากขึ้น
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ทำยาพอกจากเบคกิ้งโซดา.
    ตวงเบคกิ้งโซดาประมาณ ½ ถ้วย แล้วเติมน้ำอุ่นลงไปเล็กน้อยเพื่อทำให้เป็นเนื้อข้นๆ เมื่อเสร็จแล้วให้นำไปทาบนผื่นที่เกิดจากต้นพอยซันไอวี่ ต้นพอยซันโอ๊ค ต้นพอยซันซูแมค ผิวหนังบริเวณที่ไหม้ หรือรอยแมลงกัดต่อย ทิ้งไว้จนอาการดีขึ้นแล้วจึงล้างออกด้วยน้ำอุ่น[55]
    • อาจนำผ้าฝ้ายที่สะอาดมาปิดทับไว้และพันด้วยผ้าพันแผลชนิดผ้ายืดหรือเทปแต่งแผล
    โฆษณา
วิธีการ 5
วิธีการ 5 ของ 5:

เข้าใจอาการ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 เข้าใจสาเหตุที่ทำให้ผิวหนังมีอาการคัน.
    มีเส้นประสาทอยู่ชนิดหนึ่งที่ทำหน้าที่ส่งข้อมูลความรู้สึกต่างๆ ทางร่างกาย (เช่น อาการคัน) ไปยังสมอง เมื่อเส้นประสาทเหล่านี้ถูกกระตุ้น ก็จะหลั่งสารสื่อประสาทที่เรียกว่า ไซโตไคน์ ที่จะไปกระตุ้นเส้นประสาทที่อยู่ใกล้เคียงกัน ตัวอย่างหนึ่งของไซโตไคน์คือสารฮิสตามีน ที่ทำให้เกิดปฏิกิริยาภูมิแพ้ และส่งผลให้เกิดการคัน ยิ่งเส้นประสาทถูกกระตุ้นมากเท่าไหร่ ข้อมูลก็จะยิ่งถูกส่งไปยังสมองมากขึ้น และสมองก็จะสั่งการให้อยากเกา[56]
    • อาการคัน สามารถส่งผลให้เกิดรอยแดง รอยนูน หรือรอยผื่นคันอื่นๆ บนผิวหนัง หรือในอีกกรณีหนึ่งคือ ไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงใดๆ ต่อผิวหนัง
  2. How.com.vn ไท: Step 2 ตรวจหาสาเหตุของอาการคัน.
    อาการคันเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ทั้งจากแมลงกัดต่อยที่ไม่รุนแรงมากนัก ไปจนถึงโรคผิวหนังบางชนิด (เช่น ผิวหนังอักเสบชนิดเอ็กซีมา หรือโรคเรื้อนกวาง) หรือโรคร้ายแรงอื่นๆ เช่น โรคตับ โรคไต[57] สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดอาการคันมีดังนี้[58]
    • ผิวแห้ง - หนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดอาการคันคือผิวแห้ง ที่อาจเกิดขึ้นจากปัจจัยทางสิ่งแวดล้อม (เช่น ความร้อนหรือความเย็นภายในบ้าน ความชื้นในอากาศต่ำ การอาบน้ำมากเกินไปโดยใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ทำให้ผิวแห้ง) หรือการได้รับน้ำในปริมาณไม่เพียงพอ
    • โรคผิวหนัง - ผิวหนังอักเสบชนิดเอ็กซีมาและโรคเรื้อนกวางเป็นโรคผิวหนังที่อาจมีอาการคัน รอยแดง การระคายเคืองที่ผิวหนัง รอยนูน และตุ่มพองเกิดขึ้นร่วมด้วย นอกจากนี้ ผิวหนังที่ไหม้แดดก็ทำให้เกิดการคันได้เช่นกัน
    • การติดเชื้อไวรัสหรือเชื้อรา - การติดเชื้อต่างๆ อย่างโรคอีสุกอีใส โรคหัด โรคงูสวัด และโรคเริมที่อวัยวะเพศและทวารหนัก สามารถทำให้รู้สึกคันได้
    • ปรสิต - แมลงไม่มีปีกอย่างเหาหรือโลนเป็นสาเหตุทำให้เกิดอาการคันจากการติดเชื้อปรสิต
    • อาการเจ็บป่วย - โรคตับสามารถส่งผลให้เกิดอาการคันอย่างรุนแรงได้ นอกจากนี้ยังมีโรคอื่นๆ ที่มีอาการคันเกิดขึ้นร่วมด้วย ได้แก่ โรคเลือด (เช่น โลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก ภาวะเม็ดเลือดแดงข้น เป็นต้น) โรคมะเร็ง (เช่น ลูคีเมีย มะเร็งต่อมน้ำเหลือง) และโรคต่อมไทรอยด์
    • ปฏิกิริยาภูมิแพ้ - ปฏิกิริยาการแพ้ที่เกิดจากแมลงกัดต่อย ละอองเกสรดอกไม้ พิษจากพืช เครื่องสำอาง ของใช้ส่วนตัว หรืออาหาร สามารถทำให้เกิดอาการคันตั้งแต่ระดับเบาไปจนถึงระดับรุนแรงได้ และผื่นคันที่เกิดขึ้นจากโรคผื่นแพ้สัมผัส (ผื่นที่เกิดขึ้นจากการสัมผัสสารที่ทำให้เกิดโรคภูมิแพ้) ก็ทำให้เกิดอาการคันอย่างรุนแรงได้เช่นกัน
    • อาการไม่พึงประสงค์จากยา - อาการคันที่เกิดขึ้นที่ผิวหนังตั้งแต่ระดับเบาไปจนถึงระดับรุนแรงนั้นอาจเป็นผลข้างเคียงจากการใช้ยาบางชนิด เช่น ยาปฏิชีวนะ ยารักษาโรคจากเชื้อรา และยาระงับปวดบางชนิด
    • ความวิตกกังวล - อาการเจ็บป่วยต่างๆ เช่น โรคเบาหวาน หรือโรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง ส่งผลให้เกิดความเครียด ซึ่งเป็นผลทำให้รู้สึกคันได้
    • การตั้งครรภ์ - อาการคันนั้นเป็นผลข้างเคียงจากการตั้งครรภ์ โดยมักมีอาการคันบริเวณท้อง หน้าอก ต้นขา และแขน
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ประเมินอาการ.
    สิ่งสำคัญที่ควรทำคือการค้นหาสาเหตุว่าอาการคันที่มีนั้นเกิดขึ้นจากผิวแห้ง โรคผิวหนังที่อาจก่อให้เกิดปฏิกิริยาการแพ้ เช่น โรคลมพิษ หรือผื่นคัน หรือปัญหาด้านสุขภาพอื่นๆ ผิวหนังที่แห้งมักพบในบริเวณน่อง หน้าท้อง แขน และต้นขา และส่งผลให้ผิวหนังลอก คัน และแตก[59] ควรปรึกษาแพทย์หากพบว่าอาการที่เกิดขึ้นบนผิวหนังนั้นดูรุนแรงเกินกว่าจะเป็นอาการผิวแห้งทั่วไป รวมถึงผื่นคันหรือลมพิษที่เกิดขึ้นโดยไม่รู้สาเหตุหรือเรื้อรัง
    • ผิวหนังบริเวณที่เป็นผื่นคันจะมีลักษณะเป็นรอยนูน เปลี่ยนสี ลอก และเป็นตุ่มพอง ผื่นคันที่เกิดขึ้นโดยทั่วไปมักเกิดขึ้นจากการสัมผัสต้นพอยซันไอวี่ ผดร้อน ลมพิษ และผิวหนังอักเสบชนิดเอ็กซีมา ซึ่งผื่นที่ไม่ได้เกิดขึ้นจากการติดเชื้อนี้สามารถรักษาได้ด้วยการใช้ยาไฮโดรคอร์ติโซนที่ซื้อได้โดยไม่ต้องมีใบสั่งซื้อยาจากแพทย์ ร่วมกับการรับประทานยาต้านฮิสตามีนเพื่อบรรเทาอาการคัน อย่างไรก็ตาม หากพบผื่นคันที่เกิดขึ้นโดยไม่รู้สาเหตุ มีไข้ หรือผื่นคันเกิดขึ้นติดต่อกันหลายวัน ควรรีบไปพบแพทย์ทันที[60]
    • ผิวหนังบริเวณที่เป็นลมพิษจะมีลักษณะเป็นปุ่มหรือจุดสีชมพูหรือแดงนูนขึ้นมาเล็กน้อย โดยอาจมีเพียงจุดเดียวหรืออยู่ติดๆ กันเป็นกลุ่ม[61] ลมพิษเป็นอาการที่เกิดจากการตอบสนองของร่างกายต่อสิ่งที่แพ้ ทั้งอาหาร ยา รอยแมลงกัดต่อย ละอองเกสรดอกไม้ และการฉีดยารักษาภูมิแพ้ และยังมีสาเหตุอื่นๆ ที่ทำให้เกิดลมพิษ ไม่ว่าจะเป็นการติดเชื้อราและแบคทีเรีย ความเครียด การสัมผัสสารเคมี และการสัมผัสแสงแดด ความร้อน ความหนาวเย็น และน้ำมากเกินไป ผู้ที่มีอาการลมพิษนั้นโดยมากจะมีอาการไม่รุนแรงมากนัก หากคุณสงสัยว่าอาการลมพิษเกิดขึ้นจากปฏิกิริยาภูมิแพ้ แพทย์จะทำการรักษาโดยทดสอบภูมิแพ้และจ่ายยาให้ตรงกับอาการ (ส่วนใหญ่มักเป็นยาต้านฮีสตามีน)
    • หากคุณหายใจไม่ออกขณะมีอาการลมพิษ ให้เรียกรถพยาบาลโดยทันที เพราะนั่นอาจเป็นปฏิกิริยาภูมิแพ้ที่รุนแรง[62]
  4. How.com.vn ไท: Step 4 ไปพบแพทย์.
    หากอาการคันแพร่ไปในบริเวณกว้างโดยไม่รู้สาเหตุหรืออาการไม่ดีขึ้นภายใน 2-3 วันหลังลองทำการรักษาตามวิธีด้านบนแล้ว ให้รีบไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุของอาการคันและวิธีการรักษาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ[63]
    • ปรึกษาแพทย์หากมีอาการลมพิษและ/หรือผื่นคันเรื้อรัง[64]
    • การวินิจฉัยโรคนั้นมักขึ้นอยู่กับโรคพื้นเดิมที่แพทย์เคยตรวจเจอ ประวัติทางการแพทย์ และการทดสอบในห้องปฏิบัติการ ในบางกรณีอาจมีการตัดตัวอย่างชิ้นเนื้อเพื่อนำไปตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์ อาการคันส่วนใหญ่ที่พบมักมีสาเหตุมาจากความแห้งของผิว และสามารถบรรเทาอาการได้แม้ว่าโรคพื้นเดิมจะใช้เวลานานในการตรวจเจอ
    โฆษณา

คำเตือน

  • แม้ว่าการเกาจะทำให้อาการคันรู้สึกดีขึ้นได้ แต่ให้พยายามหลีกเลี่ยงการเกา เพราะการเกาจะทำให้เกิดการระคายเคืองมากขึ้นและทำร้ายผิวหนังได้ [65]
  • แม้ว่าอาการคันส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นจากโรคภูมิแพ้ แต่อาการคันที่เรื้อรังอาจเป็นสัญญาณของโรคพื้นเดิมที่ร้ายแรง โรคร้ายแรงบางโรคนั้นจะแสดงอาการคันออกมา เช่น โรคตับ โลหิตจาง ไตวาย เบาหวาน งูสวัด และโรคลูปัส ด้วยเหตุนี้ จึงควรรีบเข้ารับการรักษาเพื่อตรวจหาสาเหตุของอาการคันของคุณ
โฆษณา
  1. http://missinglink.ucsf.edu/lm/DermatologyGlossary/m.html
  2. http://umm.edu/health/medical/altmed/condition/eczema
  3. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/itchy-skin/basics/lifestyle-home-remedies/con-20028460
  4. http://www.davisdermatology.net/general/winter-skin-care-tips-season-long-healthy-skin/
  5. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/itchy-skin/basics/lifestyle-home-remedies/con-20028460
  6. http://www.nlm.nih.gov/medlineplus/druginfo/natural/607.html
  7. http://www.nlm.nih.gov/medlineplus/druginfo/natural/607.html
  8. http://umm.edu/health/medical/altmed/herb/peppermint
  9. http://researchnews.wsu.edu/health/104.html
  10. http://www.motherearthliving.com/health-and-wellness/natural-remedies-for-seasonal-allergies-zmez12mjzmel.aspx
  11. http://umm.edu/health/medical/altmed/herb/peppermint
  12. http://www.mayoclinic.org/healthy-lifestyle/nutrition-and-healthy-eating/in-depth/water/art-20044256?reDate=26052015
  13. http://cutaneouslymphoma.stanford.edu/community/itch.html
  14. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/itchy-skin/basics/lifestyle-home-remedies/con-20028460
  15. http://www.patient.info/health/eczema-triggers-and-irritants
  16. https://www.aad.org/dermatology-a-to-z/diseases-and-treatments/a---d/atopic-dermatitis/tips
  17. http://umm.edu/health/medical/altmed/condition/eczema
  18. http://www.rd.com/slideshows/8-natural-recipes-for-amazing-skin-from-a-plastic-surgeon/
  19. http://sheabutterguide.com/shea-butter-recipes/
  20. http://www.diynatural.com/homemade-lotion/
  21. http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/15724344
  22. https://www.aad.org/stories-and-news/news-releases/evaluate-before-you-exfoliate
  23. http://www.drfranklipman.com/the-whys-and-hows-of-exfoliation/
  24. http://news.health.com/2015/03/24/exfoliate-with-care-dermatologist-urges/
  25. http://health.clevelandclinic.org/2015/01/the-truth-about-dry-brushing-and-what-it-does-for-you/
  26. http://www.medicinenet.com/itch/page3.htm#what_causes_itching
  27. http://www.washingtonpost.com/news/speaking-of-science/wp/2014/10/30/scratching-an-itch-really-does-make-it-worse-and-now-we-know-why/
  28. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/itchy-skin/basics/lifestyle-home-remedies/con-20028460
  29. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/itchy-skin/basics/lifestyle-home-remedies/con-20028460
  30. http://www.aafp.org/afp/2003/0915/p1145.html
  31. http://cutaneouslymphoma.stanford.edu/community/itch.html
  32. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/itchy-skin/basics/lifestyle-home-remedies/con-20028460
  33. http://healthnbodytips.com/glycerin-vegetable-glycerine-uses.html/
  34. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/itchy-skin/basics/lifestyle-home-remedies/con-20028460
  35. http://umm.edu/health/medical/altmed/condition/eczema
  36. http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pubmed/20816008
  37. Ratz-Łyko, A., Arct, J., Majewski, S. and Pytkowska, K. (2015), Influence of Polyphenols on the Physiological Processes in the Skin. Phytother. Res., 29: 509–517.
  38. http://www.health.com/health/gallery/0,,20660118_2,00.html
  39. http://www.health.com/health/gallery/0,,20660118_3,00.html
  40. http://www.health.com/health/gallery/0,,20660118_16,00.html
  41. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/itchy-skin/basics/lifestyle-home-remedies/con-20028460
  42. http://www.fda.gov/ForConsumers/ConsumerUpdates/ucm049342.htm
  43. http://www.mayoclinic.org/first-aid/first-aid-insect-bites/basics/art-20056593
  44. http://nationaleczema.org/living-with-eczema/scratch-pad/homemade-oats-poultice-helps-soothe-skin/
  45. http://colloidaloatmeal.com/
  46. http://www.earthclinic.com/cures/spider_bite.html
  47. http://www.yalescientific.org/2011/05/the-mechanisms-and-perception-of-itch/
  48. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/itchy-skin/basics/definition/con-20028460
  49. http://www.medicinenet.com/itch/page3.htm#what_causes_itching
  50. http://www.nlm.nih.gov/medlineplus/ency/article/003250.htm
  51. http://www.medicinenet.com/rash/article.htm#rash_facts
  52. https://www.aad.org/dermatology-a-to-z/diseases-and-treatments/e---h/hives/signs-symptoms
  53. https://www.aad.org/dermatology-a-to-z/diseases-and-treatments/e---h/hives/who-gets-causes
  54. http://www.medicinenet.com/itch/page4.htm
  55. https://www.aad.org/dermatology-a-to-z/diseases-and-treatments/e---h/hives/diagnosis-treatment
  56. http://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/itchy-skin/basics/lifestyle-home-remedies/con-20028460

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

How.com.vn ไท: Lisa Bryant, ND
ร่วมเขียน โดย:
แพทย์แผนธรรมชาติ
บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Lisa Bryant, ND. ดร.ไบรอันท์เป็นแพทย์แผนธรรมชาติและผู้เชี่ยวชาญในเรื่องยาจากธรรมชาติในพอร์ตแลนด์ เธอผ่านการฝึกงานในศูนย์อายุรแพทย์แผนธรรมชาติในวิทยาลัยยาธรรมชาติแห่งชาติในปี 2014 บทความนี้ถูกเข้าชม 163,770 ครั้ง
หมวดหมู่: ยาทางเลือก
มีการเข้าถึงหน้านี้ 163,770 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

⚠️ Disclaimer:

Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.

Notices:
  • - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
  • - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
  • - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
  • - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.

โฆษณา