ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความX
บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Chloe Carmichael, PhD. ดร.โคลอี้ คาร์ไมเคิลเป็นนักจิตวิทยาที่มีใบอนุญาตซึ่งประสบความสำเร็จในการเปิดการฝึกส่วนตัวที่เน้นเรื่องประเด็นความสัมพันธ์ การจัดการความเครียด และโค้ชด้านอาชีพในนครนิวยอร์ก เธอได้รับปริญญาเอกทางจิตวิทยาการแพทย์จากมหาวิทยาลัยลองไอส์แลนด์ และเป็นผู้เขียนหนังสือขายดีในเว็บ Amazon เรื่อง Dr. Chloe’s 10 Commandments of Dating
มีการอ้างอิง 8 ข้อที่อ้างอิงอยู่ในบทความ ซึ่งสามารถพบได้ทางด้านล่างของบทความ
บทความนี้ถูกเข้าชม 26,882 ครั้ง
ถ้าคุณรู้สึกว่าตัวเองไม่เข้าใจผู้หญิงที่อยู่ในชีวิตเอาซะเลย อย่าเพิ่งกังวลไป เพราะมันไม่ได้ซับซ้อนอย่างที่คุณคิด เคล็ดลับในการทำความเข้าใจผู้หญิงก็คือ เก็บสมมุติฐานของคุณไว้ก่อน แล้วทำความรู้จักกับพวกเธอในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง ไม่ว่าเธอจะเป็นคนรู้จัก คนในครอบครัว หรือคนรัก ถ้าคุณค่อยๆ ใช้เวลาพูดคุยกับผู้หญิงและตั้งใจฟังสิ่งที่เธอพูดจริงๆ ไม่ช้าคุณก็จะเข้าใจมากขึ้นเองว่า เธอเป็นคนยังไงและทำไมเธอถึงเป็นแบบนั้น นอกจากนี้การศึกษาประเด็นเกี่ยวกับผู้หญิง การเรียนรู้ที่จะตระหนักและตั้งคำถามเกี่ยวกับความคิดเหมารวมทางเพศที่มีอยู่ทั่วไปก็ช่วยให้คุณเข้าใจผู้หญิงได้มากขึ้นเช่นกัน
ขั้นตอน
อย่าทึกทักอะไรเกี่ยวกับตัวเธอ. คุณจะไม่มีทางเข้าใจใครได้แน่ๆ ถ้าคุณทึกทักเอาเองว่าคุณรู้ทุกอย่าง (หรือบางอย่าง!) เกี่ยวกับพวกเขา เวลาที่คุณทำความรู้จักกับผู้หญิงสักคน ให้เริ่มจากการวางสมมุติฐานว่าเธอคิดหรือรู้สึกอย่างไรลงก่อน อย่าด่วนสรุปว่าคุณรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับชีวิต ความชอบ หรือความเชื่อหลักของเธอ- เช่น ถ้าเธอโสด อย่าทึกทักเอาเองว่าเธอต้องเหงาและอยากมีแฟนแน่ๆ เพราะไม่ใช่ผู้หญิงทุกคนที่สนใจเรื่องคนรัก[1]
- คุณอาจจะแยกแยะไม่ค่อยได้ว่าอันไหนเป็นสมมุติฐานของคุณเอง ถ้าคุณกำลังคิดเกี่ยวกับผู้หญิงสักคนในชีวิต ให้หยุดและถามตัวเองว่า “ทำไมฉันถึงคิดแบบนี้ มีเหตุผลอะไรที่ทำให้ฉันเชื่อแบบนั้นเกี่ยวกับเธอ”
ตระหนักว่าเธอก็เป็นมนุษย์คนหนึ่ง. จำไว้ว่าผู้หญิงแต่ละคนไม่เหมือนกันและเป็นมนุษย์คนหนึ่งเช่นเดียวกับคุณ เธอมีเรื่องราวในชีวิต สภาพแวดล้อม และประสบการณ์ที่สร้างตัวตนในแบบที่เธอเป็น ระหว่างที่คุณทำความรู้จักกับเธอ ให้มองว่าเธอเป็นมนุษย์คนหนึ่งก่อนมองที่เพศสภาพหรือมายาคติว่าผู้หญิง “ควร” เป็นอย่างไร- ไม่ได้หมายความว่าคุณไม่ต้องคำนึงถึงเพศสภาพของเธอเลย เพราะสุดท้ายแล้วมันก็เป็นส่วนสำคัญในอัตลักษณ์ของคนส่วนใหญ่ แค่ตระหนักว่ามันไม่ได้เป็นสิ่งที่นิยามความเป็นเธอทั้งหมด
ถามคำถามเกี่ยวกับความรู้สึก ความคิด และความเชื่อของเธอ. หนึ่งในวิธีทำความรู้จักและเข้าใจคนอื่นได้ดีที่สุดก็คือการพูดคุยกับเขา ถ้าคุณอยากเข้าใจผู้หญิงสักคนมากขึ้น ให้ถามเกี่ยวกับตัวเธอ แค่อย่าถามคำถามที่มันส่วนตัวหรือละลาบละล้วงจนเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณไม่ได้สนิทกับเธอมากนัก เช่น คุณอาจจะถามเธอว่า:[2]- “ว่างๆ ชอบทำอะไร”
- “คุณคิดยังไงเกี่ยวกับเรื่องนี้”
- “ทำไมคุณถึงตัดสินใจเลือกอาชีพนี้”
- “อะไรที่คุณอยากทำให้สำเร็จสักวันหนึ่ง”
ตั้งใจฟังสิ่งที่เธอพูด. การถามคำถามและพูดคุยจะช่วยให้คุณเข้าใจผู้หญิงมากขึ้นก็ต่อเมื่อคุณตั้งใจฟังสิ่งที่เธอพูดจริงๆ เวลาที่เธอพูด พยายามตั้งใจฟังและทำความเข้าใจสิ่งที่เธอพูด แล้วคุณจะรู้เองว่าต้องรับมือกับเธออย่างไร อย่ามัวแต่คิดว่าจะพูดอะไรต่อตลอดการสนทนา แต่ให้ตั้งใจฟังเธอแล้วค่อยตัดสินใจว่าจะตอบโต้อย่างไร[3]- ถ้ามีอะไรที่คุณไม่เข้าใจ ให้พูดกลับไปอีกครั้งด้วยภาษาของคุณเองหรือขอให้เธออธิบาย
- เช่น คุณอาจจะพูดว่า “ฟังดูเหมือนว่าคุณไม่อยากเลือกขจรวิทย์เพราะคุณไม่ชอบจุดยืนเรื่องปัญหาสิ่งแวดล้อมของเขา ถูกต้องไหม”
สังเกตภาษาท่าทางของเธอ. การรับฟังสิ่งที่ใครสักคนพูดไม่ได้เป็นวิธีเดียวที่จะทำให้คุณเข้าใจเขา แต่คุณยังต้องสังเกตสัญญาณที่ไม่ใช่คำพูด เช่น สีหน้าและท่าทางของเธอด้วย เมื่อคุณใช้เวลาร่วมกับผู้หญิงสักคนหรือพูดคุยกับเธอ ให้สังเกตว่าใบหน้าและร่างกายของเธอเป็นอย่างไร[4]- เช่น ถ้าเธอสบตา ยิ้ม และปล่อยแขนไว้ข้างลำตัว เธอก็อาจจะกำลังรู้สึกสบายใจและผ่อนคลาย
- ถ้าเธอหลุบตามองพื้นและกอดอก เธอก็อาจจะรู้สึกประหม่า เขินอาย หรือคิดเรื่องอื่นอยู่
พบปะพูดคุยกับเธอถ้าทำได้. การใช้เวลากับใครสักคนสามารถช่วยให้คุณเข้าใจเขาได้มากขึ้น ถ้าคุณพบปะพูดคุยกับเธอบ่อยๆ คุณก็จะมีโอกาสได้สังเกตว่าเธอวางตัวอย่างไรในสถานการณ์ต่างๆ กับกลุ่มคนที่ต่างกันไป ลองชวนเธอมาพบปะพูดคุยกันสองต่อสองหรือเป็นกลุ่มก็ได้ แล้วแต่ว่าคุณรู้จักเธอหรือเธอสบายใจที่จะอยู่กับคุณมากแค่ไหน- คุณต้องชวนแบบเจาะจง[5] เช่น แทนที่จะถามลอยๆ ว่า “เราไปเที่ยวด้วยกันบ้างดีไหม” คุณอาจจะเปลี่ยนไปพูดว่า “ คืนวันศุกร์นี้ผมจะไปเล่นเกมตอบคำถามกับเพื่อนๆ คุณอยากไปด้วยกันไหม ”
- ถ้าเป็นการใช้เวลาร่วมกันสองต่อสอง ให้ถามคำถามที่ไม่ค่อยกดดันเท่าไหร่เพื่อให้คุณมีเรื่องคุยกับเธอและได้ทำความรู้จักกับเธอมากขึ้นอีกเล็กน้อย เช่น คุณอาจจะชวนเธอไปดื่มกาแฟหรือกินข้าวกลางวันเพื่อนั่งคุยกัน
พูดคุยกับคนอื่นๆ ที่รู้จักเธอเพื่อให้ได้มุมมองที่ต่างออกไป. ถ้าคุณไม่เข้าใจพฤติกรรมบางอย่างของใครสักคน บางทีการเข้าไปพูดคุยกับเพื่อนๆ หรือคนรู้จักของเธอก็อาจจะช่วยได้ พวกเขาอาจจะสามารถทำให้คุณกระจ่างว่าทำไมเธอถึงทำ คิด หรือพูดแบบนั้น- เช่น คุณอาจจะพูดว่า “คุณรู้จักทรายมานานแล้ว พอจะรู้ไหมครับว่าทำไมเวลาคุยเรื่องนกแก้วทีไรเธอถึงรำคาญทุกที”
พยายามสมมุติว่าตัวเองเป็นเธอ. การพยายามสร้างความเห็นอกเห็นใจอย่างมากเป็นส่วนสำคัญในการทำความเข้าใจใครสักคน พยายามจินตนาการภาพตัวเองในสถานการณ์ของเธอ ถามตัวเองว่าคุณจะคิดและรู้สึกอย่างไรในสถานการณ์เดียวกัน[6]- เช่น คุณอาจจะคิดกับตัวเองว่า “บางครั้งเมย์ก็ดูจะเป็นคนขี้ลืมมากจริงๆ นะ แต่ว่าเธอเองก็ทำงานสองกะและต้องกลับไปดูแลลูกที่บ้านด้วย เธอคงต้องแบกรับภาระหนักหน่วงและรู้สึกล้าแทบตลอดเวลา”
ศึกษาปัญหาเฉพาะที่ผู้หญิงต้องเผชิญ. แม้ว่าคุณจะอยู่ในสังคมที่ดูเหมือนว่าเพศต่างๆ จะมีความเท่าเทียมทั้งทางกฎหมายและสังคม แต่ผู้ชายกับผู้หญิงก็เจอปัญหาและความท้าทายที่แตกต่างกัน ในการทำความเข้าใจผู้หญิงให้มากขึ้นนั้น พยายามวิเคราะห์ภาพรวมและทำความใจเข้าว่า ความกดดันและอคติแบบไหนที่ผู้หญิงต้องเจอแต่คุณไม่เจอ- เช่น คุณอาจจะอ่านบทความ หนังสือ หรือบทความแสดงทัศนะเกี่ยวกับความแตกต่างด้านการเลือกปฏิบัติของบุคลากรทางการแพทย์ที่มีต่อผู้หญิงและผู้ชาย หรือความท้าทายที่ผู้หญิงต้องเจอในที่ทำงาน
- ถ้าเธอบ่นเรื่องความท้าทายและความคับข้องใจที่เกิดเป็นผู้หญิง พยายามระงับความรู้สึกไม่พอใจหรือไม่สนใจไปก่อน เปิดใจให้กว้างและพยายามเข้าใจสิ่งต่างๆ จากมุมมองของเธอ
โฆษณา
สนใจคนรักอย่างเต็มที่เวลาอยู่ด้วยกัน. แม้ว่าคุณจะมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับผู้หญิง แต่คุณก็อาจจะยังไม่สามารถเข้าใจเธอได้ทั้งหมดอยู่ดีถ้าคุณไม่ได้รับฟังและสนใจเธอ คุณไม่จำเป็นต้องสนใจเธอตลอดเวลาก็ได้ แต่ว่าคุณต้องสนใจเธออย่างเต็มที่เมื่อคุณใช้เวลาคุณภาพร่วมกัน วางโทรศัพท์มือถือและสิ่งรบกวนอื่นๆ ลง และรับฟังสิ่งที่เธอพูดอย่างตั้งใจ[7]- เวลาที่คุยกัน พยายามทำความเข้าใจสิ่งที่เธอพูดก่อนแล้วค่อยตอบกลับ แล้วตอบกลับสิ่งที่เธอพูดด้วยคำถาม
- ถ้าเธอรู้สึกได้ว่าคุณตั้งใจฟังและพยายามทำความเข้าใจเธอจริงๆ เธอก็จะทำแบบนั้นกับคุณเหมือนกัน
เคล็ดลับจากผู้เชี่ยวชาญดร.โคลอี้ คาร์ไมเคิลเป็นนักจิตวิทยาที่มีใบอนุญาตซึ่งประสบความสำเร็จในการเปิดการฝึกส่วนตัวที่เน้นเรื่องประเด็นความสัมพันธ์ การจัดการความเครียด และโค้ชด้านอาชีพในนครนิวยอร์ก เธอได้รับปริญญาเอกทางจิตวิทยาการแพทย์จากมหาวิทยาลัยลองไอส์แลนด์ และเป็นผู้เขียนหนังสือขายดีในเว็บ Amazon เรื่อง Dr. Chloe’s 10 Commandments of Datingผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์
Chloe Carmichael, PhD
ผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์ลองแสดงความรักในแบบต่างๆ ตามที่เธอชอบ เคล็ดลับก็คือการค้นหาว่าการกระทำแบบไหนที่คนรักรู้สึกว่าโรแมนติกจริงๆ บางคนอาจจะชอบที่มีคนส่งดอกไม้ไปให้ แต่บางคนก็อาจจะไม่ได้ชอบมากหรืออยากให้ทำอย่างอื่นมากกว่า คุณสามารถถามเธอตรงๆ ได้เลยว่า เธอชอบการแสดงความรักแบบไหน และทำสิ่งเหล่านั้นให้เธอ
สนใจสิ่งที่เธอให้ความสำคัญอย่างแท้จริง. คุณจะเข้าใจคนรักของคุณมากขึ้น และได้เรียนรู้จากความสัมพันธ์มากขึ้นถ้าคุณสนใจสิ่งที่เธอให้ความสำคัญแม้เพียงเล็กน้อยก็ตาม[8] ถามเธอว่าเธอชอบทำอะไร เป้าหมายและความฝันของเธอคืออะไร แนวคิดและความเชื่อที่มีความหมายกับเธอมากที่สุดคืออะไร และหาวิธีที่จะได้มีส่วนร่วมในงานอดิเรกบางอย่างที่เธอชื่นชอบ- ข้อนี้อาจจะเป็นอะไรง่ายๆ เช่น การดูรายการโปรดของเธอด้วยกัน หรือเล่นวิดีโอเกมที่เธอชอบกับเธอเป็นครั้งคราว
- ถามคำถามเกี่ยวกับสิ่งที่เธอสนใจ เช่น “คุณชอบอะไรในหนังสือเล่มนี้มากที่สุด” หรือ “คุณเริ่มชอบการปีนหน้าผาได้ยังไง”
- การทำความรู้จักกับสิ่งที่เธอให้ความสำคัญนอกจากจะทำให้คุณสองคนใกล้ชิดกันมากขึ้นแล้ว ยังทำให้คุณเข้าใจตัวตนในแบบที่เธอเป็นมากขึ้นด้วย
อย่ากล่าวโทษหรือรีบด่วนสรุปเมื่อทะเลาะกัน. ถ้าคนรักทำอะไรที่คุณไม่เข้าใจหรือไม่เห็นด้วย อย่าเพิ่งรีบบ่นหรือกล่าวโทษ เพราะมันจะทำให้เธอต้องปกป้องตัวเอง ซึ่งจะทำให้คุณไม่เห็นมุมมองของเธอและวิธีแก้ไขสถานการณ์ด้วย เพราะฉะนั้นให้สื่อสารกับเธอว่าคุณรู้สึกอย่างไร และขอให้เธออธิบายสิ่งที่เธอทำอย่างให้เกียรติและใจเย็นๆ[9]- เช่น คุณอาจจะพูดว่า “ผมเสียใจแล้วก็งงมากเลยที่คุณพูดถึงพี่ชายผมแบบนั้น ทำไมคุณถึงพูดแบบนั้นล่ะ”
- อย่าใช้ภาษาที่เป็นการกล่าวโทษหรือทึกทักเอาเอง เช่น อย่าพูดว่า “คุณพยายามกดผมกับครอบครัวของผมให้ต่ำอยู่เสมอเพื่อที่คุณจะได้รู้สึกดีกับตัวเองมากขึ้นยังไงล่ะ!”
ถามว่าเธอเป็นอย่างไรบ้าง. ถ้าคุณไม่แน่ใจว่าคนรักของคุณรู้สึกอย่างไรหรือว่าคิดอะไรอยู่ วิธีการที่ดีที่สุดก็คือถาม แต่คุณต้องตั้งใจฟังคำตอบของเธอจริงๆ และขอให้เธออธิบายเพิ่มเติมถ้าคุณยังคงไม่เข้าใจ[10]- คุณอาจจะถามคำถามปลายเปิด เช่น “ตอนนี้คุณรู้สึกยังไง” หรือจะถามคำถามที่เจาะจงก็ได้ เช่น “คุณไม่พอใจที่เรื่องที่เราทะเลาะกันก่อนหน้านี้หรือเปล่า”
- ถ้าเธอตอบอ้อมแอ้มหรือบอกว่าเธอไม่อยากพูดถึง อย่าเซ้าซี้หรือแสดงท่าทีไม่พอใจ แต่ให้พูดว่า “โอเค ผมเข้าใจ แต่ผมจะอยู่ตรงนี้เผื่อคุณอยากคุยแล้วกันนะ”
เชื่อมโยงกับความคิดและความรู้สึกของตัวเอง. มันอาจจะฟังดูแปลกๆ แต่ถ้าคุณเข้าใจตัวเองมากขึ้น คุณก็จะเข้าใจคนรักได้ง่ายขึ้นด้วย ถ้าคุณไม่แน่ใจว่าในหัวและหัวใจของคุณเกิดอะไรขึ้นบ้าง คุณก็จะเชื่อมโยงกับสิ่งที่เธอคิดและรู้สึกได้ยากขึ้นด้วย[11] หาเวลาในแต่ละวันสังเกตอารมณ์ ความคิด และความรู้สึกทางกายอย่างมีสติ- อย่าพยายามตัดสินหรือวิเคราะห์ความคิดและความรู้สึกของตัวเอง แค่สังเกตและตั้งชื่อมัน เช่น คุณอาจจะคิดกับตัวเองว่า “เวลาที่ฉันทะเลาะกับส้ม ฉันรู้สึกกลัว ฉันกังวลว่าฉันอาจจะสูญเสียเธอไป ไหล่ของฉันตึงและหัวใจเต้นรัว”
รู้หรือไม่ งานวิจัยกล่าวว่า คนที่ฝึกเจริญสติจะเข้าอกเข้าใจและเห็นอกเห็นใจคนอื่นได้ง่ายขึ้น[12]
โฆษณา
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ https://www.theguardian.com/commentisfree/2018/sep/08/its-time-to-forget-stereotypes-realities-singledom
- ↑ https://blogs.psychcentral.com/nlp/2013/06/how-to-understand-another-person/
- ↑ https://blogs.psychcentral.com/nlp/2013/06/how-to-understand-another-person/
- ↑ https://kidshealth.org/en/teens/understanding-others.html
- ↑ https://www.artofmanliness.com/articles/make-non-awkward-invitations/
- ↑ https://greatergood.berkeley.edu/topic/empathy/definition#how-cultivate-empathy
- ↑ https://psychcentral.com/blog/how-to-better-understand-your-partner/
- ↑ https://news.stanford.edu/news/2011/february/relationships-common-bonds-021111.html
- ↑ https://psychcentral.com/blog/how-to-better-understand-your-partner/
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
ผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์
บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Chloe Carmichael, PhD. ดร.โคลอี้ คาร์ไมเคิลเป็นนักจิตวิทยาที่มีใบอนุญาตซึ่งประสบความสำเร็จในการเปิดการฝึกส่วนตัวที่เน้นเรื่องประเด็นความสัมพันธ์ การจัดการความเครียด และโค้ชด้านอาชีพในนครนิวยอร์ก เธอได้รับปริญญาเอกทางจิตวิทยาการแพทย์จากมหาวิทยาลัยลองไอส์แลนด์ และเป็นผู้เขียนหนังสือขายดีในเว็บ Amazon เรื่อง Dr. Chloe’s 10 Commandments of Dating บทความนี้ถูกเข้าชม 26,882 ครั้ง
หมวดหมู่: ความสัมพันธ์ทางสังคม
มีการเข้าถึงหน้านี้ 26,882 ครั้ง
บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม
⚠️ Disclaimer:
Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.
- - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
- - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
- - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
- - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.
โฆษณา
