วิธีการ แนะนำคนอื่นให้รู้จักกัน

ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความ

การแนะนำคนสองคนให้รู้จักกันเป็นทั้งศิลปะและเครื่องมือในการรักษามารยาทที่ดี การแนะนำตัวที่ดีทำให้คนสองคนได้เริ่มต้นบทสนทนาที่ดี และยังช่วยลดความอึดอัดหรือความกระอักกระอ่วนในการเจอกันครั้งแรกอีกด้วย เวลาที่คุณแนะนำคนสองคนให้รู้จักกัน ส่วนที่สำคัญที่สุดและยากที่สุดคือการรู้ว่าควรแนะนำใครให้ใครตามสถานะและตำแหน่งรับผิดชอบ พอคุณรู้สองอย่างนี้แล้ว คุณก็จะสามารถแนะนำคนสองคนให้รู้จักกันได้อย่างง่ายดาย และอาจจะถึงขั้นเริ่มต้นบทสนทนาดีๆ ในระหว่างนั้นเลยก็ได้ อ่านขั้นตอน 1 เพื่อเรียนรู้วิธีการแนะนำคนอื่นให้รู้จักกันตั้งแต่วันนี้

ส่วน 1
ส่วน 1 ของ 2:

เริ่มตั้งแต่พื้นฐาน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 หาโอกาสเปิดการแนะนำตัว.
    ถ้าคุณอยากแนะนำคนสองคนให้รู้จักกัน คุณต้องหาจังหวะเวลาให้ดี เพราะคุณคงไม่อยากเผลอทำทุกอย่างพังตั้งแต่ยังไม่ทันได้แนะนำตัวเพราะคุณดันแนะนำตัวคนสองคนผิดหรือขัดจังหวะบทสนทนาที่กำลังไปได้สวยแค่เพื่อบอกเล่ารายละเอียดให้จบๆ ไป สิ่งที่คุณต้องรู้คือ
    • ถ้าคุณกำลังอยู่ท่ามกลางบทสนทนาที่มีคนสองคนที่ไม่รู้จักกันอยู่ด้วย พยายามแนะนำสองคนนี้ให้รู้จักกันโดยเร็วที่สุด ซึ่งก็อาจจะยากนิดนึง สมมุติว่าคุณอยู่กับรูมเมตมหาวิทยาลัยที่ชื่อแอน แล้วคุณบังเอิญเจอแจ๊บเพื่อนสมัยมัธยมที่เริ่มร่ายยาวเรื่องเพื่อนคนหนึ่งของคุณกับแจ๊บ แอนที่น่าสงสารจะยืนเก้ๆ กังๆ เบื่อๆ อยู่ตรงนั้นขณะที่แจ๊บกำลังพล่ามไม่หยุด เพราะฉะนั้นคุณจึงต้องหาโอกาสเปิดการแนะนำตัวเพื่อที่คุณจะได้ให้แอนเข้าไปอยู่ในบทสนทนาด้วย
    • คุณไม่ควรแนะนำตัวคนอื่นให้กับคนที่กำลังคุยเรื่องจริงจังอยู่ เช่น คุณอาจจะอยู่กับลูกค้าในงานเลี้ยงที่เกี่ยวกับงาน และคุณก็อยากแนะนำเขาให้หัวหน้ารู้จักมากๆ แม้ว่าการแนะนำลูกค้าให้หัวหน้ารู้จักจะเป็นเรื่องสำคัญ แต่คุณก็ควรเลี่ยงไปก่อนหากหัวหน้าดูท่าจะกำลังใช้สมาธิคุยกับคนอื่นอยู่ คุณควรรอจังหวะเปิดการแนะนำตัวตอนที่หัวหน้าดูจะไม่อินกับการสนทนาเท่าไหร่แล้ว เพราะการแนะนำตัวในจังหวะที่ผิดอาจทำให้คนสองคนไม่ประทับใจในตัวกันและกันเท่าที่ควร
  2. How.com.vn ไท: Step 2 ดูว่าคนไหนมีสถานะหรือตำแหน่งรับผิดชอบทางสังคมสูงกว่า....
    ดูว่าคนไหนมีสถานะหรือตำแหน่งรับผิดชอบทางสังคมสูงกว่า. เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญมากที่คุณจะต้องรู้เพราะคนที่มีสถานะหรือตำแหน่งต่ำกว่าจะต้องถูกแนะนำตัวให้แก่ผู้ที่มีสถานะหรือตำแหน่งสูงกว่าเสมอ โดยทั่วไปในเชิงสถานะทางสังคม เพศถือเป็น "แต้มต่อ" และเป็นตัวกำหนดลำดับขั้นที่สูงกว่า ผู้หญิงจะสูงกว่าผู้ชายเสมอยกเว้นว่าผู้ชายคนนั้นจะแก่กว่าผู้หญิงคนนี้มากๆ หลังจากนั้นอายุจะเป็นตัวกำหนดลำดับถัดมา คนที่อายุมากกว่าจะอยู่ในสถานะสูงกว่าคนอายุน้อย ซึ่งอาจเป็นข้อแยกแยะที่มีประโยชน์มากหากทั้งคู่เป็นเพศเดียวกัน สิ่งที่คุณต้องรู้คือ
    • แม่สามีที่อายุ 70 ปีของคุณถือว่าอาวุโสกว่าแฟนหนุ่มคนใหม่ของคุณมาก
    • อายุที่มากกว่ามากต้องมาก่อนสถานะหรือตำแหน่งส่วนใหญ่ทั้งในแง่ของมารยาทและการให้เกียรติ เพื่อนบ้านชายวัย 80 ปีของคุณมีสถานะสูงกว่าหลานสาววัย 14 ของคุณ (ตามสายตาของคนส่วนใหญ่)
    • ถ้าอย่างอื่นเท่ากันหมด คุณต้องเรียกชื่อคนที่คุณรู้จักมานานกว่าก่อน เพราะฉะนั้นแนะนำเพื่อนมัธยมต้นให้เพื่อนมัธยมปลายรู้จัก
    • สำหรับการแนะนำทางสังคม ผู้ชายมักจะถูกแนะนำให้ผู้หญิงรู้จักเพื่อแสดงการให้เกียรติ แต่เพศไม่ได้เป็นปัจจัยในบริบททางธุรกิจที่สถานะจะสำคัญกว่า
    • ญาติอยู่ในสถานะที่สูงกว่าเพื่อน
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ดูว่าคนไหนอยู่ในสถานะสูงกว่าหรือมีหน้าที่รับผิดชอบมากกว่าในบริบททางธุรกิจ....
    ดูว่าคนไหนอยู่ในสถานะสูงกว่าหรือมีหน้าที่รับผิดชอบมากกว่าในบริบททางธุรกิจ. ในบริบททางธุรกิจ ผู้หญิงยังคงอยู่ในสถานะที่สูงกว่า และผู้อาวุโสก็ยังอยู่ในสถานะที่สูงกว่าคนที่อายุน้อยเหมือนเดิม แต่ตำแหน่งต้องมาก่อนทั้งอายุและเพศ หมายความว่าถ้าชายหนุ่มมีตำแหน่งสูงกว่าผู้หญิง ก็ต้องแนะนำผู้หญิงให้ผู้ชายรู้จักเพราะผู้ชายอยู่ในสถานะที่สูงกว่า โดยพื้นฐานแล้วเมื่อเป็นบริบททางธุรกิจ "ตำแหน่ง" จะเป็นตัวกำหนดสถานะก่อน ตามด้วยเพศและอายุ สิ่งที่คุณต้องรู้ได้แก่
    • เจ้านายของคุณอยู่ในสถานะหรือมีอำนาจหน้าที่เหนือกว่าเพื่อนร่วมงาน หุ้นส่วน หรือเพื่อนสนิทของคุณ
    • เพื่อนร่วมงานที่อายุมากกว่าต้องมาก่อนเพื่อนร่วมงานที่อายุน้อยกว่า
    • คุณควรแนะนำลูกค้าหรือผู้รับบริการให้แก่พนักงาน
    • ถ้าคุณแนะนำคนที่มีสถานะเท่ากันในโลกธุรกิจ ก็ให้แนะนำคนที่คุณไม่ค่อยรู้จักมากนักให้คนที่คุณรู้จักดีกว่า โดยที่คุณควรเอ่ยชื่อคนที่คุณรู้จักดีกว่าก่อน
  4. How.com.vn ไท: Step 4 เอ่ยชื่อคนที่มีสถานะสูงกว่าก่อนและแนะนำคนที่มีสถานะต่ำกว่าแก่คนที่มีสถานะสูงกว่าเสมอ....
    เอ่ยชื่อคนที่มีสถานะสูงกว่าก่อนและแนะนำคนที่มีสถานะต่ำกว่าแก่คนที่มีสถานะสูงกว่าเสมอ. อาจจะฟังดูสับสนเล็กน้อย แต่หลักๆ ก็คือคุณควรเอ่ยชื่อคนที่มีสถานะสูงกว่าก่อน แล้วค่อย "แนะนำ" อีกฝ่ายให้เขารู้จัก วิธีนี้จะทำให้คนที่มีสถานะสูงกว่าโดดเด่นในฐานะที่เป็นคนที่สำคัญมากกว่าในสถานการณ์นั้นๆ ตัวอย่างคือ
    • แนะนำเพื่อนหรือสามี/ภรรยาให้ญาติรู้จัก ญาติมีสถานะสูงกว่า: "พ่อคะ นี่แดน แฟนหนูค่ะ"
    • แนะนำเพื่อนร่วมงานที่ตำแหน่งต่ำกว่าให้เพื่อนร่วมงานที่ตำแหน่งสูงกว่า: "ท่านผู้บริหารครับ นี่คุณลูกจ้างครับ"
    • แนะนำลูกค้าให้หุ้นส่วนทางธุรกิจ: "คุณลูกค้าครับ นี่ทรัพย์ หุ้นส่วนของผมครับ"
    • แนะนำคนที่อายุน้อยกว่าให้คนที่อายุมากกว่า: "คุณอาวุโสค่ะ นี่ศรัญญา สาวน้อยค่ะ"
    • แนะนำผู้ชายให้ผู้หญิงรู้จัก: "มณีรัตน์ นี่จักรค่ะ"
    • ในบริบททางธุรกิจ ตำแหน่งต้องมาก่อนเพศ ถ้าคุณธวัชชัยเป็นผู้ชายที่มีตำแหน่งสูงกว่าคุณดรุณี คุณธวัชชัยก็จะต้องอยู่ในสถานะที่สูงกว่าเพราะว่าตำแหน่งทางธุรกิจของเขาสูงกว่า แม้ว่าคุณดรุณีจะเป็นผู้หญิงก็ตาม : "คุณธวัชชัยคะ ดิฉันขอแนะนำคุณดรุณีค่ะ"
  5. How.com.vn ไท: Step 5 บอกข้อมูลภูมิหลังเพื่อช่วยให้ต่างฝ่ายต่างเริ่มต้นบทสนทนาได้....
    บอกข้อมูลภูมิหลังเพื่อช่วยให้ต่างฝ่ายต่างเริ่มต้นบทสนทนาได้. คุณควรทำขั้นตอนนี้หลังจากที่คุณแนะนำตัวให้ทั้งสองรู้จักกันแล้วเท่านั้น ถ้าพวกเขามีเรื่องให้คุยกันเองได้มากพอก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าคุณพยายามที่จะช่วยเกริ่นนำบทสนทนาทางธุรกิจหรือแค่อยากให้พวกเขาได้พูดคุยกันที่งานปาร์ตี้ก่อนที่คุณจะไปต่อ คุณก็สามารถเชื่อมสายใยที่จะทำให้เขาสองคนคุยกันเองได้ หรืออาจจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับแต่ละคนเพิ่มเติมอีกนิดหน่อยแล้วให้พวกเขาเชื่อมโยงกันเอง คุณสามารถเชื่อมโยงคนสองคนได้ด้วยการพูดถึงความสนใจร่วมกัน สถานที่ที่ทั้งสองฝ่ายรู้จักเป็นอย่างดี หรือแม้กระทั่งคนที่ทั้งสองฝ่ายรู้จัก ตัวอย่างการเชื่อมโยงคนสองคนเข้าด้วยกันก็เช่น
    • "อภิญญา คุณเคยเจอโฬมหรือยัง คุณทั้งคู่ชอบอ่านหนังสือของเจน ออสเจนระหว่างเดินเล่นในทุ่งโล่งเหมือนกันเลย"
    • "แม่คะ นี่สายไหมเพื่อนหนูค่ะ เขาสอนโยคะอยู่ที่โรงเรียนที่แม่ไปเรียนน่ะค่ะ"
    • "คุณจรัญครับ นี่คุณสามารถครับ คุณสามารถเคยช่วยผมปิดงบการเงินมาก่อน ถ้าไม่มีคุณจรัญคอยช่วยนี่เราคงไม่มีทางปิดงบได้เลยนะครับ"
    • "มนัญญา จะแนะนำมนูญ ชานน เพื่อนบ้านของฉันให้รู้จัก มนูญเนี่ยเขาเป็นนักเขียนที่ได้ตีพิมพ์ผลงานเลยนะ ส่วนมนัญญาเองก็เพิ่งจะลงเรียนการเขียนเชิงสร้างสรรค์ค่ะ"
    • "อุ๋มอิ๋ม เธอเคยเจอรักษ์หรือยังนะ จริงๆ แล้วรักษ์เขาก็ทำงานกับจ๊อบรูมเมตเธอนั่นแหละ จ๊อบเป็นคนที่เจ๋งสุดๆ ไปเลยเนอะ คืนนี้เขาน่าจะมาด้วย…"
    โฆษณา
ส่วน 2
ส่วน 2 ของ 2:

ฝึกปรือมารยาท

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 แนะนำอย่างเป็นทางการให้ถูกต้อง.
    การแนะนำที่เป็นทางการส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับที่ทำงาน แต่ก็อาจเกิดขึ้นในงานสังคมที่เป็นทางการหรือหากคุณอยู่กับผู้ทรงเกียรติได้เช่นกัน ถ้าคุณแนะนำคนสองคนในบริบทที่เป็นทางการ คุณควรเรียกชื่อจริงและนามสกุลของทั้งสองฝ่าย และใช้วลี "ดิฉันขอแนะนำ" "ดิฉันอยากจะแนะนำ" หรือ "คุณเคยเจอ..." บางคนอาจมองว่าคุณไม่ควรใช้คำว่า "แนะนำ" เพราะอาจก่อให้เกิดความสับสนหรืออาจดูตรงไปตรงมาเกินไป แต่ก็แล้วแต่คุณจะเลือก สิ่งที่คุณควรทำได้แก่
    • เอ่ยชื่อคนที่มีสถานะหรืออำนาจหน้าที่สูงกว่าก่อน
    • เรียกทั้งชื่อจริงและนามสกุล รวมทั้งยศ เช่น "ดร./ท่าน" เช่น "ดร. จักรพงศ์ ดิฉันขอแนะนำศริญญา สามัคคีค่ะ ดร. จักรพงศ์เป็นศาสตราจารย์ด้านประวัติศาสตร์ศิลปะของดิฉันเอง ส่วนศริญญาก็กำลังเรียนวิชาเอกประวัติศาสตร์ศิลปะค่ะ"
    • กล่าวถึงข้อมูลที่เกี่ยวข้องขณะแนะนำตัวทั้งสองฝ่าย อาจจะเป็นความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับคนที่คุณแนะนำตัวให้ก็ได้ เช่น คุณอาจจะพูดว่า "คุณบารมีค่ะ ดิฉันขอแนะนำมนต์ณัฐ เจริญกิจค่ะ คุณบารมีเป็นเจ้านายของดิฉัน ส่วนมนต์ณัฐเป็นเพื่อนร่วมงานของดิฉันค่ะ"
  2. How.com.vn ไท: Step 2 แนะนำตัวอย่างไม่เป็นทางการให้ถูกต้อง.
    ในสถานการณ์ที่ไม่เป็นทางการนัก เช่น งานบาร์บีคิวในสวนหลังบ้าน คุณสามารถแนะนำให้คนสองคนรู้จักกันผ่านการเรียกชื่อได้อย่างง่ายดายโดยการพูดว่า "ภัทร นี่ไอซ์" และคุณยังสามารถเชื่อมโยงคนสองคนแบบสบายๆ กว่านี้ด้วยการพูดว่า "ฉันอยากให้คุณเจอ...จะตายอยู่แล้ว" ในสถานการณ์ที่ไม่เป็นทางการ คุณไม่ต้องกังวลมากนักว่าจะพูดอะไรบ้าง แต่เป็นเรื่องของการทำให้คนสองคนคุยกันมากกว่า
    • การเรียกชื่อเล่นเหมาะกับสถานการณ์ที่ไม่เป็นทางการเท่านั้น
  3. How.com.vn ไท: Step 3 แนะนำตัวแบบกลุ่มให้ถูกต้อง.
    ในกรณีนี้คุณจะต้องใช้เวลาแนะนำตัวผู้ที่มาใหม่ให้แต่ละคนในกลุ่มได้รู้จักสักหน่อย เว้นแต่ว่าจะเป็นกลุ่มกันเองเล็กๆ ที่แค่แนะนำทั่วไปก็พอแล้วและมันก็ไม่ได้เสียเวลาหรือขัดจังหวะที่จะแนะนำชื่อแต่ละคนในกลุ่มขณะที่ทั้งกลุ่มกำลังสนใจคุณ
    • สำหรับกลุ่มใหญ่ที่เป็นทางการ ให้แนะนำผู้ที่มาใหม่กับทั้งกลุ่มก่อน จากนั้นพาผู้ที่มาใหม่ไปหาคนในกลุ่มแต่ละคนและแนะนำด้วยชื่อ "ขนิษฐา นี่คุณกฤตภาส เจ้านายของดิฉันค่ะ ลัลนา นี่คุณกฤตภาส เจ้านายของดิฉันค่ะ" และอื่นๆ แนะนำตัวผู้ที่มาใหม่ให้คนในกลุ่มได้รู้จักในลักษณะนี้ต่อไป
    • แม้ว่าคุณอาจจะคิดว่ามันตลกๆ หรือง่ายกว่าหากจะพูดว่า "ขนบพร นี่คือทุกคน ทุกคน นี่คือขนบพร" แต่มันไม่ได้ช่วยให้พวกเขาเริ่มต้นบทสนทนากันได้เลย นอกจากนี้การพูดว่า "ทุกคน" ก็หยาบคายด้วยเพราะมันเหมือนว่าคุณคิดว่ามันไม่สำคัญที่ขนบพรจะต้องรู้จักแต่ละคน แน่นอนว่าคุณต้องใช้วิจารณญาณด้วย ถ้าคุณอยู่ที่งานปาร์ตี้ที่เสียงดังมากและขนบพรเพิ่งจะมา การแนะนำเธอกับคนใหม่ๆ 12 โดยทันทีก็อาจจะมากไป เพราะฉะนั้นให้ดึงขนบพรเข้าไปในวงสนทนาและแนะนำเธอแก่คนอื่นๆ ครั้งละ 2-3 คนจะดีกว่า
  4. How.com.vn ไท: Step 4 อย่าพูดชื่อซ้ำหรือแนะนำตัวกลับกันอีกครั้ง.
    ทั้งในกรณีที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ คุณไม่จำเป็นต้องแนะนำตัวกลับกันซ้ำอีกครั้ง เพราะทั้งคู่รู้แน่ชัดอยู่แล้วว่าใครเป็นใคร การพูดชื่อซ้ำหรือการแนะนำตัวกลับกันอีกครั้งอาจดูซ้ำซากนิดๆ และจะกลายเป็นว่าคุณทำผิดมารยาททางสังคมในเรื่องที่ไม่น่าผิดด้วย
  5. How.com.vn ไท: Step 5 ใช้ไหวพริบหากคุณไม่รู้ชื่อคนใดคนหนึ่ง.
    เราทุกคนต่างเคยเจอเหตุการณ์นี้ ตอนที่เราพยายามแนะนำคนสองคนให้รู้จักกันแต่เราดันลืมชื่อฝ่ายที่ยืนอยู่ตรงหน้าเราไป มี 2 วิธีที่คุณสามารถใช้แก้สถานการณ์ได้
    • ขอโทษอย่างสุภาพแล้วพูดว่า "ดิฉันต้องขอโทษนะคะ ไม่ทราบว่าคุณช่วยบอกชื่อคุณอีกครั้งได้ไหมคะ"
    • พยายามเจ้าเล่ห์สักหน่อย ลองพูดว่า "คุณสองคนเคยเจอกันหรือยังคะ" จากนั้นรอให้ทั้งสองฝ่ายแนะนำตัวกันเอง นี่อาจไม่ใช่แผนการที่สมบูรณ์แบบ แต่ก็สามารถช่วยคุณในสถานการณ์แบบนั้นได้ โดยเฉพาะหากคุณลืมชื่อคนที่คุณเคยเจอมาหลายครั้งแล้ว!
  6. How.com.vn ไท: Step 6 ใช้สามัญสำนึกตัดสินใจว่าจะเรียกใครว่าอะไร.
    กฎกำปั้นทุบดินคือ คุณควรแนะนำตัวคนสองคนด้วยคำที่คุณใช้เรียกพวกเขาตามปกติ เช่น ถ้าคุณสนิทกับอาจารย์ญาดา อภิบาลบำรุง อดีตอาจารย์ของคุณมาก คุณก็อาจจะแนะนำอาจารย์ให้แฟนคุณรู้จักโดยเรียกเธอว่า "ครูดา" ถ้าปกติแล้วคุณเรียกแบบนั้น แต่ถ้าคุณอยู่ในสถานการณ์ที่เป็นทางการมากกว่า โดยที่คนๆ นี้ไม่ได้อนุญาตให้คุณเรียกชื่อเขาหรือเธอด้วยชื่อเฉยๆ และปกติคุณก็เรียกเขาว่า "ดร." หรือ "คุณ" อยู่แล้ว ก็ให้แนะนำตัวโดยการเรียกตามนั้น
    • หากไม่แน่ใจ ให้เลือกแนะนำตัวแบบเป็นทางการไว้ก่อน เพราะการให้เจ้านายพูดว่า "เรียกผมว่าบดินทร์เฉยๆ ก็ได้ ไม่ต้องเรียกคุณหรอก" นั้นดีกว่าการที่เจ้านายจะไม่พอใจเมื่อคุณเรียกเขาว่า "บดินทร์" เฉยๆ แทนที่จะเรียกว่า "คุณบดินทร์"
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • คุณควรตอบรับการแนะนำตัวแบบธรรมดาๆ เช่น "สวัสดีครับ" หรือ "ยินดีที่ได้พบค่ะ" หรือ "นิภาเล่าเรื่องคุณให้ผมฟังเยอะเลยครับ" อย่าใช้คำพูดเยินยอหรือภาษาสละสลวยที่อาจดูไม่จริงใจหรือเชย Peggy Post กล่าวไว้ว่า "คำเยินยอที่เกินจริงมักทำให้คนเบือนหน้าหนี"[1]
  • ถ้าคุณอยากเป็นเหมือน Emily Post กูรูด้านมารยาทสังคมแล้วล่ะก็ คุณไม่ควรแนะนำคนสองคนให้รู้จักกันในที่สาธารณะถ้าคุณไม่มั่นใจ 100% ว่าเขาสองคนอยากรู้จักกัน ถ้าคุณอยู่ที่งานพบปะใกล้ชิดหรืองานปาร์ตี้ นั่นก็เรื่องนึง แต่ถ้าสมมุติว่าคุณไปงานเปิดพิพิธภัณฑ์ และเจ้านายของคุณกับคณิน เพื่อนบ้านของคุณก็ไปที่นั่นทั้งคู่ คุณไม่ควรแนะนำสองคนนี้ให้รู้จักกันยกเว้นว่าคุณคิดว่าเจ้านายอยากจะรู้จักคณินผู้อาวุโสคนนี้จริงๆ ซึ่งกรณีตัวอย่างนี้เป็นความแตกต่างที่ค่อนข้างชัดเจน เพราะฉะนั้นคุณไม่ต้องแนะนำให้เขารู้จักกันก็ได้ถ้าคุณไม่อยากทำ นอกจากนี้การคิดทบทวนในใจก่อนว่าจะเชื่อมโยงสองคนนี้อย่างไรก่อนแนะนำออกไปก็ช่วยได้เหมือนกัน จากนั้นคุณค่อยช่วยให้บทสนทนาไหลลื่นหลังจากแนะนำตัวอย่างรวบรัดไปแล้วเท่านั้น
  • วิธีการแนะนำตัวที่ควรเลี่ยงได้แก่
    • การใช้คำว่า "ควร" หรือ "ต้อง" ในการแนะนำตัว เพราะมันอาจดูเจ้ากี้เจ้าการ ก้าวก่าย และหยาบคาย เช่น อย่าพูดว่า "คุณต้องเจอ" "คุณควรรู้จักกันไว้นะ" หรือ "คุณต้องมีเรื่องคุยกันเยอะแน่เลยค่ะ" (คุณจะมารู้ดีได้อย่างไร!)
    • เช่นเดียวกันก็คือ การพูดในสิ่งที่ก่อให้เกิดการกระทำ เช่น ยกมือไหว้ ก็ถือเป็นการล้ำเส้นความสุภาพ เช่น การพูดว่า "ช่วยยกมือไหว้"
    • การใช้ "นี่คือ" เวลาแนะนำตัวอาจฟังดูเป็นกันเองไปนิดนึง และไม่ได้สื่อความสำคัญของการแนะนำตัวในโอกาสที่เป็นทางการด้วย
    • การบังคับให้คนสองคนที่แสดงออกอย่างชัดเจนว่าเขาไม่ได้อยากรู้จักกัน อย่าทำตัวเป็นกาวประสานใจหรือไม่ให้ความสำคัญกับความต้องการของคนอื่น เพราะความต้องการที่จะไม่ถูกแนะนำตัวถือเป็นเรื่องส่วนตัวของพวกเขา
โฆษณา

คำเตือน

  • ถ้าคุณลืมชื่อใคร อย่าทำเป็นบ่ายเบี่ยง แค่ยอมรับว่าชื่อของคนๆ นั้น "แวบหายไปจากความทรงจำ" ชั่วคราว อ่อนน้อมเข้าไว้!
  • หัวข้อที่ควรเลี่ยงในการแนะนำตัวได้แก่ การหย่าร้าง การเสียชีวิตของคนใกล้ชิด ตกงาน ความเจ็บไข้ และอื่นๆ[2] เพราะหัวข้อแบบนี้ทำให้ทุกคนรู้สึกอึดอัดและไม่แน่ใจว่าจะพูดอะไรต่อ
  • คุณต้องตระหนักว่าเมื่อเป็นเรื่องของการแนะนำตัวแล้วย่อมมีความต่างในทางวัฒนธรรม สังคม และท้องถิ่น ซึ่งแม้ว่าโดยรวมแล้วหลักการจะค่อนข้างเป็นสากล แต่คุณก็ควรหาข้อมูลเพิ่มเติมหากคุณต้องเข้าไปอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่คุ้นเคย และเช่นเดียวกันการแนะนำตัวในสถานการณ์ทางธุรกิจกับทางสังคมนั้น ข้อปฏิบัติบางอย่างที่ใช้กับสถานการณ์หนึ่งก็อาจใช้กับอีกสถานการณ์หนึ่งไม่ได้
โฆษณา

สิ่งของที่ใช้

  • ความรู้เรื่องสถานะหรืออำนาจหน้าที่
  • ความรู้เรื่องความสนใจร่วมกันระหว่างสองฝ่าย

ข้อมูลอ้างอิง

  1. Peggy Post, Excuse me, but I was next, p. 36, (2006), ISBN 978-0-06-088916-6
  2. Peggy Post, Excuse me, but I was next, p. 36, (2006), ISBN 978-0-06-088916-6
  3. Erin Bried, How to sew a button and other nifty things your grandmother knew, pp. 264-265, (2009), ISBN 978-0-345-51875-0 - research source
  4. http://www.artofmanliness.com/2010/08/10/how-to-make-introductions-like-a-gentleman/
  5. http://www.rightattitudes.com/2007/11/03/etiquette-protocol-introducing-people/
  6. http://ambertheblack.com/how-to-make-an-introduction/
  7. http://www.theartofdoingstuff.com/how-to-make-an-old-fashioned-introductionaccording-to-emily-post/

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

วิกิฮาวเป็น "wiki" ซึ่งหมายความว่าบทความหลายๆ บทความของเรานั้นเป็นการร่วมมือกันเขียนของผู้เขียนหลายคน ในการเขียนบทความชิ้นนี้ ผู้คน 25 คน ซึ่งบางคนไม่ขอเปิดเผยตัว ได้ร่วมกันเขียนและปรับปรุงเนื้อหาของบทความอย่างต่อเนื่อง บทความนี้ถูกเข้าชม 75,603 ครั้ง
มีการเข้าถึงหน้านี้ 75,603 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

⚠️ Disclaimer:

Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.

Notices:
  • - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
  • - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
  • - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
  • - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.

โฆษณา