วิธีการ สังเกตสัญญาณออทิสติกในเด็ก

ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความ

โรคออทิซึม (Autism) เป็นโรคไร้ความสามารถที่มีลักษณะหลากหลาย นั่นหมายถึงลูกคุณอาจแสดงอาการออกมาได้หลากหลายรูปแบบ หรือแสดงสัญญาณของการเป็นออทิซึมโดยพฤติกรรมที่มีรูปแบบกว้างขวางมาก เด็กที่มีพัฒนาการทางสมองผิดปกติแบบออทิซึมมักจะแสดงออกมาทางความยากลำบากในการแสดงสติปัญญา การมีปฎิสัมพันธ์ทางสังคม การสื่อสารทั้งวัจนภาษาและอวัจนภาษา กับการมีพฤติกรรมทำซ้ำๆ (กระตุ้นตัวเองซ้ำๆ เช่น ขยับตัวไปมาซ้ำๆ)[1] ถึงแม้ว่าเด็กออทิสติกทุกคนจะมีความเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนกัน แต่มันก็เป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องจดจำสัญญาณกับอาการให้ไวเพื่อจะได้รับการดูแลแต่เนิ่นๆ ซึ่งจะช่วยให้คุณกับลูกใช้ชีวิตได้เต็มที่เท่าที่จะทำได้

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 4:

ตระหนักในความแตกต่างของการเข้าสังคม

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 มีปฏิสัมพันธ์กับลูก.
    เด็กทารกปกติจะเป็นพวกชอบสังคมโดยธรรมชาติ และรักจะสบตาผู้คน เด็กทารกที่เป็นออทิสติกอาจแลดูเหมือนว่าจะไม่ชอบมีปฏิสัมพันธ์กับพ่อแม่ หรืออาจดู "เพิกเฉย" ในสายตาของพ่อแม่ที่ไม่ได้เป็นออทิสติก
    • สบตา เด็กทารกที่กำลังมีพัฒนาการจะสบตากลับได้ภายในอายุหกถึงแปดสัปดาห์ เด็กที่เป็นออทิสติกอาจไม่มองคุณ หรืออาจเลี่ยงที่จะสบตาด้วย
    • ยิ้มให้ เด็กทารกที่ไม่ได้เป็นออทิสติกสามารถยิ้มและแสดงท่าทีว่าอบอุ่นมีความสุขได้ตั้งแต่อายุหกสัปดาห์หรือก่อนหน้านั้นอีก เด็กที่เป็นออทิสติกจะไม่ยิ้มให้กระทั่งกับพ่อแม่
    • จ้องหน้า ดูว่าเขาเลียนแบบคุณหรือไม่ เด็กที่เป็นออทิสติกอาจไม่สนใจในการเล่นทำเลียนตาม
  2. How.com.vn ไท: Step 2 เรียกชื่อ.
    ทารกทั่วไปจะตอบสนองตามชื่อได้ภายในอายุเก้าเดือน[2]
    • ปกติแล้วเด็กทารกที่กำลังพัฒนาจะสามารถเอ่ยเรียกคุณว่ามามะหรือปาป๊ะกลับได้ภายในอายุ 12 เดือน
  3. How.com.vn ไท: Step 3 เล่นกับลูกในวัยเตาะแตะ.
    พออายุสองหรือสามขวบ เด็กปกติจะสนใจเล่นเกมกับคุณและคนอื่นๆ
    • เด็กที่เป็นออทิสติกอาจดูตัดขาดจากโลก หรือตกอยู่ในภวังค์ความคิดของตนเอง เด็กเล็กที่ไม่ได้เป็นออทิสติกจะให้คุณเข้ามามีส่วนร่วมในโลกของเขา ไม่ว่าจะโดยการชี้มือชี้ไม้ แสดง ยื่นมือมา หรือโบกไม้โบกมือ ตั้งแต่อายุ 12 เดือน
    • เด็กปกติจะเข้าร่วมในการเล่นแบบใกล้กับคนอื่น (parallel play) จนกระทั่งพวกเขามีอายุราวสามขวบ ในการเล่นแบบใกล้กับคนอื่นนั้น หมายความว่าพวกเขาจะเล่นอยู่ข้างๆ เด็กคนอื่นและสนุกกับการมีคนอื่นอยู่ด้วย แต่ไม่จำเป็นจะต้องเข้าร่วมเล่นด้วยกัน[3] อย่าสับสนการเล่นแบบใกล้กับคนอื่นและเด็กออทิสติกที่ไม่สนใจเข้าสังคม
  4. How.com.vn ไท: Step 4 ตรวจสอบความแตกต่างของความคิดเห็น.
    พออายุประมาณห้าขวบ เด็กปกติจะเข้าใจได้ว่าคุณมีความเห็นต่อสิ่งต่างๆ ต่างออกไปจากเขา เด็กออทิสติกมักจะทำความเข้าใจว่าคนอื่นก็อาจมีมุมมองแบบอื่นและไม่ได้รู้สึกเหมือนกับตัวเองได้ยาก พวกเขามักทำตัวเหมือนขาดความเห็นใจในผู้อื่น
    • ถ้าลูกคุณชอบไอศกรีมสตรอเบอร์รี่ จงบอกลูกว่าคุณชอบรสช็อกโกแล็ตมากที่สุด แล้วดูว่าเขาทักท้วงหรือเสียใจไหมที่คุณไม่ได้มีความคิดเห็นพ้องไปกับเขา
    • คนที่เป็นออทิสติกหลายคนเข้าใจเรื่องนี้ในทางทฤษฏีมากกว่าในทางปฏิบัติ [4] เด็กออทิสติกอาจเข้าใจว่าคุณชอบสีฟ้า แต่ไม่รู้ตัวเลยว่าอาจทำให้คุณเสียใจถ้าเธอจะเดินเตร็ดเตร่ออกไปดูลูกโป่งอีกฟากของถนน
  5. How.com.vn ไท: Step 5 ประเมินอารมณ์และการปลดปล่อยอารมณ์.
    เด็กที่เป็นออทิสติกอาจประสบกับช่วงอารมณ์ระเบิด หรือการปลดปล่อยอารมณ์ออกมาอย่างสุดขั้วที่คล้ายกับการชักดิ้นชักงอ[5] อย่างไรก็ดี สิ่งเหล่านี้ไม่ได้เกิดด้วยความเต็มใจและมันจะสร้างความเสียใจแก่เด็กอย่างมาก
    • เด็กออทิสติกอาจประสบกับเรื่องท้าทายมากมาย และหลายคนคิดลองจะจับเอาอารมณ์ความรู้สึกของตน "ยัดใส่ขวด" เพื่อเอาใจคนดูแล และเด็กอาจคับข้องใจมากจนอาจเกิดการทำร้ายตัวเอง เช่น เอาศีรษะโขกผนังหรือกัดตัวเองได้
    • เด็กออทิสติกอาจรู้สึกเจ็บปวดมากกว่าเพราะทั้งประเด็นอ่อนไหว การถูกปฏิบัติแบบผิดๆ และปัญหาอื่นๆ พวกเขาอาจแสดงอาการกราดเกรี้ยวออกมาบ่อยเพื่อเป็นการป้องกันตัวเอง
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 4:

สังเกตความยากลำบากในการสื่อสาร

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 ส่งเสียงขันแล้วดูว่าเขาส่งเสียงตอบหรือไม่.
    ฟังดูเสียงและการพึมพำที่จะต้องเพิ่มขึ้นเมื่อเขาเติบโตขึ้น เด็กมักจะส่งเสียงได้เต็มคำเมื่ออายุได้ประมาณ 16 ถึง 24 เดือน
    • ทารกปกติจะสามารถร่วมส่งเสียงโต้ตอบกับคุณได้เหมือนการร่วมสนทนาเมื่ออายุราวเก้าเดือน ทารกที่เป็นออทิสติกอาจไม่ส่งเสียงเลยหรืออาจส่งเสียงเป็นคำได้แต่แล้วก็สูญทักษะนี้ไป
    • เด็กปกติจะสามารถพูดอ้อแอ้ได้ในราวอายุ 12 เดือน
  2. How.com.vn ไท: Step 2 ทำการสนทนา.
    พูดกับเขาเรื่องของเล่นชิ้นที่โปรดและฟังการเรียบเรียงคำและทักษะการสนทนา เด็กที่มีพัฒนาการตามปกติจะพูดคำได้มากในตอนอายุ 16 เดือน และสามารถสร้างวลีสองคำที่มีความหมายได้ในตอนอายุ 24 เดือน และพูดประโยคเชื่อมโยงได้ตอนอายุห้าขวบ
    • เด็กที่เป็นออทิสติกมักจะสลับคำในการเรียบเรียงประโยค หรือไม่ก็จะทวนวลีหรือประโยคของคนอื่น อย่างที่เรียกกันว่า อาการพูดเลียน (echolalia) หรือพูดเป็นนกแก้วนกขุนทอง[6][7] พวกเขาอาจใช้คำสรรพนามผสมปนเปเช่น พูดว่า "เธออยากจะกินแพนเค้กไหม" ในเวลาที่พยายามจะบอกว่าพวกเขาต้องการกินแพนเค้ก[8]
    • เด็กออทิสติกบางคนผ่านขั้นตอน “การพูดจาแบบเด็ก” และมีทักษะทางภาษาขั้นสูงก็มี พวกเขาอาจเรียนรู้ที่จะพูดได้ก่อนวัย และ/หรือมีคลังคำศัพท์อยู่เยอะมาก พวกเขาอาจจะมีการสนทนาที่แตกต่างไปจากเพื่อนร่วมอาการคนอื่นได้
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ลองแสดงสีหน้าท่าทาง.
    ดูว่าลูกคุณตีความทุกอย่างตรงตัวหรือไม่ เด็กที่เป็นออทิสติกมักจะตีความหมายของภาษากาย น้ำเสียง และการแสดงออกทางสีหน้าท่าทางผิดจากความจริง
    • ถ้าคุณมีช่วงเวลาแสดงอาการหัวเสียแกมประชดประชัน แล้วร้องขึ้นมาว่า “ช่างยอดเยี่ยมมากเลย!” เมื่อไปเจอลูกออทิสติกใช้ปากกาแดงเขียนอะไรจนเปรอะผนังห้องนั่งเล่นไปหมด พวกเขาอาจคิดว่าคุณหมายความตรงตัวว่าฝีมือทางศิลปะของเขาเยี่ยมยอด
  4. How.com.vn ไท: Step 4 ตรวจดูการแสดงสีหน้า น้ำเสียง และภาษากายของเขา....
    ตรวจดูการแสดงสีหน้า น้ำเสียง และภาษากายของเขา. เด็กออทิสติกมักมีวิธีการสื่อสารทางอวัจนภาษาที่ไม่เหมือนใคร เนื่องจากคนส่วนใหญ่จะเคยชินกับการเห็นภาษากายที่ไม่เป็นออทิสติก มันเลยจะทำให้คุณและคนอื่นๆ สับสนอยู่บ่อยๆ
    • น้ำเสียงเป็นแบบหุ่นยนต์ เหมือนร้องเพลง หรือเป็นเหมือนเด็กเล็ก (ทั้งที่เขากำลังย่างวัยรุ่นหรือเป็นผู้ใหญ่)
    • ภาษากายที่มักจะไม่ตรงกับความรู้สึก
    • มีการแสดงสีหน้าน้อยมาก หรือแสดงสีหน้ามากเกินไป หรือไม่ก็แสดงแบบไม่มีใครเหมือน
    โฆษณา
วิธีการ 3
วิธีการ 3 ของ 4:

ระบุพฤติกรรมที่ชอบทำซ้ำๆ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 สังเกตว่าลูกคุณมีการทำพฤติกรรมซ้ำๆ แบบแปลกๆ หรือไม่....
    สังเกตว่าลูกคุณมีการทำพฤติกรรมซ้ำๆ แบบแปลกๆ หรือไม่. ในขณะที่เด็กปกติจะสนุกกับการทำอะไรซ้ำๆ ในระดับหนึ่ง เด็กออทิสติกกลับแสดงพฤติกรรมการทำซ้ำอยู่สูงมาก เช่น โยกตัวไปมา สลับหงายคว่ำมือไปมา โยกเปลี่ยนข้าวของ หรือส่งเสียงเดิมซ้ำไปซ้ำมาอย่างที่เรียกว่าพฤติกรรมพูดเลียน[9] พวกมันจำเป็นต่อการผ่อนคลายและทำให้ตัวเองสงบ
    • เด็กทุกคนจะมีการเลียนเสียงพูดไปจนถึงอายุสามขวบ เด็กออทิสติกจะทำอย่างนั้นบ่อยกว่า และทำจนเกินอายุสามขวบ[10]
    • พฤติกรรมทำอะไรซ้ำเรียกว่า "การกระตุ้นตัวเอง" หมายถึง พวกมันจะกระตุ้นประสาทสัมผัสของเด็ก ตัวอย่างก็เช่นถ้าลูกคุณเอานิ้วขึ้นมาทำขยุกขยิกหน้าดวงตาตนเอง นั่นก็เพื่อกระตุ้นการมองเห็นของเขาและทำให้ตัวเองตื่นเต้น
  2. How.com.vn ไท: Step 2 สังเกตว่าลูกคุณเล่นอย่างไร.
    เด็กออทิสติกอาจไม่สนใจในการเล่นแบบใช้จินตนาการด้วยภาพ แต่เลือกที่จะเล่นจัดระเบียบข้าวของ (เช่น จัดของเล่นหรือสร้างเมืองให้ตุ๊กตาแทนที่จะเล่นบ้านตุ๊กตา) จินตนาการจะเกิดอยู่ภายในหัวพวกเขา
    • ลองทำลายรูปแบบดู: สลับจัดเรียงตุ๊กตาที่พวกเขาวางเรียงไว้ใหม่ หรือตัดหน้าเขาตอนที่เขากำลังพยายามเดินวนเป็นวงกลม เด็กออทิสติกจะโมโหอย่างเห็นได้ชัดที่คุณเข้ามาขัดจังหวะ
    • เด็กออทิสติกสามารถร่วมเล่นแกล้งสวมบทบาทโน่นนี่ร่วมกับเด็กคนอื่นๆ ได้ โดยเฉพาะถ้าเด็กคนนั้นรับเป็นบทนำ อย่างไรก็ตาม เด็กออทิสติกมักจะไม่เป็นคนเริ่มเล่นเอง
  3. How.com.vn ไท: Step 3 จดจำความสนใจพิเศษและของชิ้นโปรด.
    การลุ่มหลงในข้าวของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน (อย่างไม้กวาดหรือเชือก) อย่างมากจนผิดวิสัย อาจเป็นสัญญาณของโรคออทิซึม[11]
    • เด็กออทิสติกอาจพัฒนาความสนใจเป็นพิเศษในหัวข้อบางหัวข้อ และศึกษาจนมีความรู้เชิงลึกในหัวข้อนั้นอย่างทะลุปรุโปร่ง ตัวอย่างเช่น เรื่องแมว, สถิติกีฬาฟุตบอล, สตาร์วอร์ส, เกมไขปริศนา และเกมไพ่ เด็กอาจจะเปิดใจหรือ "ร่าเริงขึ้น" เมื่อได้คุยในเรื่องเหล่านี้
    • เด็กอาจมีความสนใจเป็นพิเศษในเรื่องใดเรื่องหนึ่งเป็นคราวๆ ไป พวกมันสามารถเปลี่ยนแปลงได้เพราะเด็กจะเรียนรู้และเติบโตขึ้น
  4. 4
    สังเกตความจำเป็นต้องมีกิจวัตร. เด็กหลายคนที่เป็นออทิสติกจะมีความต้องการให้ทุกอย่างดำเนินตามกิจวัตรและมีความต่อเนื่องเป็นอย่างมาก และอาจแสดงปฏิกิริยาตอบโต้หรือประท้วงอย่างรุนแรงถ้าเกิดมีการเปลี่ยนแปลง เช่น ถ้าคุณเคยเดินพาเขาไปโรงเรียนด้วยเส้นทางเดิมเสมอ ให้ลองเปลี่ยนทางดู เด็กออทิสติกจะเริ่มขัดขืนและเสียใจที่ต้องเปลี่ยนเส้นทางทันที
    • กิจวัตรอาจเป็นการทำกิจกรรมประจำวันตามลำดับ แต่มันยังอาจเป็นด้านวาจา (เช่นถามคำถามเดิมซ้ำๆ), เกี่ยวกับอาหาร (ทานแต่อาหารบางสี), เสื้อผ้า (ใส่แต่บางสีหรือบางชนิดของผ้า), ตำแหน่งของข้าวของเครื่องใช้ เป็นอาทิ[12]
    • ผู้ที่เป็นออทิสติกจะรู้สึกสบายกับการทำอะไรเป็นกิจวัตรมาก โลกนี้ดูเหมือนจะไม่อาจคาดเดาได้ สับสนวุ่นวาย และดูน่ากลัวสำหรับพวกเขา การมีกิจวัตรทำให้พวกเขารู้สึกเหมือนสามารถควบคุมอะไรได้และรู้สึกถึงความมั่นคง
  5. How.com.vn ไท: Step 5 มองหาความรู้สึกไวที่อาจไวเกินหรือเฉื่อยเกิน....
    มองหาความรู้สึกไวที่อาจไวเกินหรือเฉื่อยเกิน. ถ้าเด็กแสดงความรู้สึกอึดอัดอย่างผิดปกติต่อแสง ผิวสัมผัส สียง รสชาติ หรืออุณหภูมิ ให้ปรึกษาแพทย์[13]
    • เด็กออทิสติกอาจ "มีปฏิกิริยาไวเกิน" ต่อเสียงแปลกหู (เช่นเสียงที่ดังขึ้นมาฉับพลันหรือเสียงเครื่องดูดฝุ่น), ผิวสัมผัส (เช่นเสื้อหนาวหรือถุงเท้าที่เนื้อผ้าคันๆ) เป็นต้น นั่นเป็นเพราะประสาทสัมผัสบางตัวถูกขยายใหญ่ขึ้น จนทำให้รู้สึกอึดอัดหรือเจ็บปวด
    โฆษณา
วิธีการ 4
วิธีการ 4 ของ 4:

ประเมินโรคออทิสซึมในแต่ละช่วงอายุ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 รู้ว่าเมื่อไหร่ถึงจะสังเกตอาการออทิสติกออก....
    รู้ว่าเมื่อไหร่ถึงจะสังเกตอาการออทิสติกออก. อาการบางอาการนั้นเห็นได้ชัดตั้งแต่อายุสองถึงสามขวบ เกินไปกว่านั้นแล้ว เด็กสามารถถูกวินิจฉัยว่าเป็นได้ในทุกช่วงอายุ โดยเฉพาะในช่วงเวลาเปลี่ยนผ่าน (เช่น ขึ้นชั้นมัธยมหรือตอนย้ายบ้าน) หรือช่วงที่ทำให้เครียดอื่นๆ การที่ชีวิตเรียกร้องอะไรมากอาจทำให้คนที่เป็นออทิสติก "ถอยออกมา" เพื่อที่จะรับมือ[14] มีผลให้คนที่รักและเป็นห่วงเขาต้องมองหาการตรวจรักษา
    • ในเด็กบางคน อาจสังเกตเห็นสัญญาณได้ตั้งแต่ปีสองปีแรกของชีวิต
    • บางคนอาจตรวจไม่พบจนกระทั่งเข้ามหาวิทยาลัย เมื่อความยากลำบากในการพัฒนาตัวเริ่มจะเห็นได้ชัดเป็นพิเศษ
  2. How.com.vn ไท: Step 2 รู้หลักเวลาของเด็ก.
    เด็กส่วนใหญ่จะมีหลักเวลาของการพัฒนาเป็นไปตามรูปแบบจำเพาะ โดยอาจคลาดเคลื่อนได้เล็กน้อย เด็กออทิสติกอาจบรรลุตามหลักเวลานี้ได้ทีหลัง[15] บางคนอาจจะแก่แดดเกิน ทำเอาพ่อแม่นึกว่าเขาเป็นเด็กอัจฉริยะที่เก็บตัวหรือกำลังดิ้นรนปรับตัว
    • พออายุสามขวบ เด็กมักจะสามารถเดินขึ้นบันได เล่นของเล่นที่ใช้ความชำนาญอย่างง่ายๆ และเล่นบทบาทตามจินตนาการได้
    • พออายุสี่ขวบ เด็กสามารถเล่าเรื่องที่ตัวเองชอบ เขียนอะไรลวกๆ และทำอะไรตามขั้นตอนง่ายๆ ได้
    • พออายุห้าขวบ เด็กจะวาดรูปได้ เล่าถึงเหตุการณ์ที่พบในวันนั้น ล้างมือเอง และมีสมาธิในการทำอะไรสักอย่างได้
    • เด็กโตหรือวัยรุ่นที่เป็นออทิสติกอาจแสดงอาการยึดมั่นอยู่ในรูปแบบหรือกิจวัตร มีความสนใจพิเศษในเรื่องหนึ่งอย่างลุ่มหลง ชมชอบในสิ่งที่ผิดแผกไปจากคนวัยเดียวกัน[16] หลีกเลี่ยงการสบสายตา และอาจไวต่อการถูกเนื้อต้องตัว
  3. How.com.vn ไท: Step 3 สังเกตดูทักษะที่สูญหายไป.
    ปรึกษาแพทย์หากคุณเป็นกังวลในพัฒนาการของลูก อย่ามัวทอดเวลาออกไปถ้าลูกสูญเสียความสามารถในการพูดจา ทักษะการดูแลตัวเอง หรือทักษะการเข้าสังคมในช่วงอายุใดก็ตาม
    • ทักษะส่วนใหญ่นั้นที่หายไปนั้นยังคงอยู่ "ที่นั่น" และสามารถรื้อฟื้นกลับคืนมาได้
    โฆษณา

เคล็ดลับ

  • จากการศึกษาแสดงให้เห็นว่าเด็กที่เป็นออทิสติกจะได้รับประโยชน์มากขึ้นจากการรักษา ไม่ว่าจะโดยการบำบัดพิเศษและการช่วยเหลือในโรงเรียน ถ้าหากได้เริ่มรับการรักษาตั้งแต่ยังเยาว์วัย
  • เคยเชื่อกันว่าโรคออทิซึมจะพบบ่อยในเด็กชายมากกว่าในเด็กหญิง ผู้เชี่ยวชาญเพิ่งจะตระหนักว่าอาจมองข้ามอาการออทิสติกในเด็กหญิงไปในขั้นตอนการวางแนวทางวินิจฉัยโรค[17] โดยเฉพาะเนื่องจากเด็กหญิงนั้นมักจะ "ประพฤติตัวดีกว่า"[18]
  • โรคแอสเปอร์เจอร์ซินโดรมที่เคยถูกแยกเป็นโรคต่างหากตอนนี้ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มความผิดปกติแบบออทิซึม
  • เด็กออทิสติกหลายคนประสบกับสภาวะทางแพทย์ที่เกี่ยวข้องกัน เช่น กระวนกระวาย ซึมเศร้า มีความผิดปกติทางการขับถ่าย มีอาการชัก มีปัญหาทางการประมวลผลระบบประสาทสัมผัส และพิก้า ซึ่งก็คือการมีแนวโน้มชอบเอาสิ่งที่ไม่ใช่อาหารเข้าปาก (เกินไปจากพัฒนาการของเด็กทารกปกติที่มักจะหยิบของทุกอย่างเข้าปากโดยธรรมชาติ)
  • วัคซีนไม่ได้ทำให้เกิดออทิซึม[19]
โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

How.com.vn ไท: Laura Marusinec, MD
ร่วมเขียน โดย:
แพทย์
บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Laura Marusinec, MD. ดร.มารูซิเน็กเป็นกุมารแพทย์ที่มีใบรับรองในวิสคอนซิน เธอสำเร็จปริญญาโทจากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยวิสคอนซินในปี 1995 บทความนี้ถูกเข้าชม 7,883 ครั้ง
หมวดหมู่: เด็ก
มีการเข้าถึงหน้านี้ 7,883 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

⚠️ Disclaimer:

Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.

Notices:
  • - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
  • - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
  • - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
  • - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.

โฆษณา