บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Laura Marusinec, MD. ดร.มารูซิเน็กเป็นกุมารแพทย์ที่มีใบรับรองในวิสคอนซิน เธอสำเร็จปริญญาโทจากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยวิสคอนซินในปี 1995
บทความนี้ถูกเข้าชม 19,360 ครั้ง
เด็กแรกเกิดนั้นไม่จำเป็นต้องอาบน้ำบ่อยเท่าเด็กทารกหรือเด็กเล็ก ผิวของพวกเขานั้นแห้งเร็วเกินไป และเด็กแรกเกิดที่ยังมีขั้วสายสะดือติดอยู่ก็ไม่ควรทำมากไปกว่าการใช้ฟองน้ำอาบน้ำ เวลาที่อาบน้ำเด็กแรกเกิดควรระมัดระวังเป็นพิเศษเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ
ขั้นตอน
- ใช้ฟองน้ำอาบน้ำในช่วง 3 สัปดาห์แรก. ขั้วสายสะดือจะยังติดนานถึง 3 สัปดาห์ สถาบันกุมารแพทย์ แห่งสหรัฐอเมริกา (The American Academy of Pediatricians) แนะนำว่าควรรอจนกว่าขั้วนั้นจะหลุดออกจึงจะให้เด็กแรกเกิดแช่น้ำได้ ระหว่างนี้ควรใช้ฟองน้ำอาบน้ำ[1]
- เราไม่จำเป็นต้องอาบน้ำให้เด็กแรกเกิดทุกวันในสัปดาห์แรกๆ อันที่จริง การอาบน้ำมากเกินไปจะเป็นอันตรายกับผิวของเด็กได้ ใบหน้า คอ และส่วนที่สัมผัสกับผ้าอ้อมเป็นพื้นที่ที่ต้องทำความสะอาดและดูแลได้ด้วยผ้ารองการเรอและผ้าอ้อมสะอาดๆ อย่าอาบเด็กแรกเกิดมากกว่า 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์[2]
- ปรึกษากุมารแพทย์หากขั้วนั้นไม่หลุดออกหลังจากสามสัปดาห์แล้ว ซึ่งอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกปัญหาใหญ่หรืออาจจำเป็นต้องตัดออก
- จัดเตรียมอุปกรณ์. เราจะต้องเตรียมอุปกรณ์หลากหลายให้พร้อมในการอาบน้ำโดยใช้ฟองน้ำให้เด็กแรกเกิด จัดวางอุปกรณ์ให้พร้อมก่อนจะเริ่มขั้นตอนการอาบน้ำ
- อาบน้ำให้เจ้าตัวน้อย. เมื่อจัดเตรียมอุปกรณ์เสร็จ ก็ได้เวลาเริ่มอาบน้ำให้เจ้าตัวน้อยของเรา
- วางมืออย่างน้อยหนึ่งข้างบนตัวเด็กตลอดเวลา เด็กแรกเกิดจะควบคุมร่างกายไม่ค่อยได้ และเราจะต้องวางมือหนึ่งข้างบนตัวเด็กเพื่อให้มั่นใจว่าเขาจะไม่ทำตัวเองบาดเจ็บจากการดิ้นไปมา[7]
- เริ่มจากการถอดชุดและห่อตัวเด็กไว้ด้วยผ้าเช็ดตัว วางเด็กให้นอนหงายบนผ้าห่มหรือผ้าเช็ดตัว[8]
- เริ่มที่ใบหน้า ใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำและบีบออก อย่าเพิ่งใช้สบู่ในขั้นตอนนี้ หากไม่ต้องการให้สบู่เข้าตาเด็ก เช็ดตามใบหน้าอย่างเบามือ ใช้สำลีก้อนหรือผ้าสะอาดชุบน้ำเช็ดหนังตาให้ปราศจากเศษขี้ตา เช็ดจากด้านในออกด้านนอก[9]
- จะใช้น้ำเปล่าล้างส่วนที่เหลือบนร่างกายก็ได้ แต่ว่าหากลูกของเราเลอะเทอะหรือมีกลิ่น ใช้สบู่เพิ่มความชุ่มชื้นสำหรับเด็ก ล้างคราบใต้รักแร้และที่หูให้หมดจด เช่นเดียวกับง่ามนิ้วมือและนิ้วเท้า[10]
- เปิดเฉพาะส่วนที่กำลังอาบ เพื่อกันความหนาว[11]
โฆษณา
- เลือกอ่างอาบน้ำหรืออ่างล้างมือ. เมื่อขั้วสายรกของเด็กแรกเกิดหลุดออกแล้ว เราก็สามารถอาบน้ำเด็กในอ่างอาบน้ำหรืออ่างล้างมือได้ ให้แน่ใจว่าเลือกอ่างอาบน้ำหรืออ่างล้างมือที่ปลอดภัยสำหรับเด็กแล้ว
- อ่างน้ำพลาสติกตั้งได้สำหรับอาบน้ำเด็กแรกเกิดโดยเฉพาะ สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายของเด็กทั่วไปหรือในร้านออนไลน์ และยังมีอ่างน้ำเป่าลมสำหรับวางในอ่างอาบน้ำหรืออ่างล้างมือ[12]
- ตราบใดที่ปูอ่างอาบน้ำหรืออ่างล้างมือด้วยพรมยางเพื่อป้องกันการลื่นแล้ว ก็ถือว่านี่เป็นตัวเลือกที่ดี[13]
- เปิดน้ำอุ่นใส่อ่างเพียง 2-3 นิ้วเท่านั้น มือข้างหนึ่งจับตัวเด็กไว้ตลอดเวลา[14]
- หาท่าที่ดีที่สุดที่จะประคองเจ้าตัวน้อยในอ่างน้ำ. เราต้องมั่นใจว่าเด็กนั้นปลอดภัยในอ่าง หาท่าทางที่จะประคองเด็กให้สบายตัวและไม่ดิ้นมากเกินไป
- จับตัวเด็กให้มั่น แต่ให้เขาสบายตัวด้วย[15]
- รองหัวและร่างกายของเด็กด้วยแขนของเรา ใช้อีกมือหนึ่งอาบน้ำให้ ทำได้ด้วยการโอบแขนไปรองหลังของเด็ก เมื่อต้องอาบบริเวณหลังและก้น ขยับจนเด็กโน้มตัวมาข้างหน้าในวงแขนของเรา[16]
- สามารถซื้อที่นั่งอาบน้ำได้ที่ร้านขายของเด็กหรือทางออนไลน์ก็ได้ แต่ถึงแม้จะใช้ที่นั่งอาบน้ำแล้วเราก็ควรใช้มือข้างหนึ่งประคองเด็กอยู่ตลอดเวลา[17]
- อาบน้ำให้เจ้าตัวน้อย. การอาบน้ำควรใช้เวลาไม่เกิน 10 หรือ 15 นาที
- ก่อนจะหย่อนตัวเด็กลงในอ่าง ถอดเสื้อผ้าออกจนเหลือแต่ผ้าอ้อม ล้างหน้าและดวงตาด้วยวิธีเดียวกับการอาบน้ำด้วยฟองน้ำ ล้างหนังตาด้วยผ้าชุบน้ำเปล่าไม่ใช้สบู่และสำลีก้อนเปียกๆ[18]
- เมื่อเสร็จแล้ว ถอดผ้าอ้อมออก หากผ้าอ้อมสกปรก ให้ล้างก้นก่อนลงอ่างอาบน้ำ เมื่อจะหย่อนตัวลงอ่าง ให้เอาขาลงก่อน[19]
- สามารถใช้มือ ฟองน้ำ หรือผ้าชุบน้ำถูทำความสะอาดเบาๆ สามารถใช้สบู่สำหรับเด็ก หากผิวของเด็กแห้งลองใช้คลีนเซอร์ที่เพิ่มความชุ่มชื้น[20]
- รดน้ำบนตัวเด็กอย่างเบามือเพื่อไม่ให้รู้สึกหนาว
- การสระผมอาจไม่จำเป็น อย่างไรก็ตาม หากผมดูสกปรกหรือเด็กมีอาการทั่วไปที่เรียกว่า เครเดิ้ล แคป (cradle cap) หรืออาการไขบนหนังศีรษะที่จะก่อให้เกิดผิวหนังลอกบนหนังศีรษะ ก็ควรสระผม นวดยาสระผมลงบนหนังศีรษะเบาๆ ล้างยาสระผมด้วยผ้าเช็ดตัวหรือใช้ฝักบัว ใช้มือป้องบนหน้าผากตลอดเวลาเพื่อกันยาสระผมเข้าตาเด็ก[21]
- เมื่ออาบน้ำเสร็จแล้ว ยกตัวขึ้นจากอ่างน้ำและรีบห่อตัวด้วยผ้าขนหนู เช็ดตัวให้แห้งอย่างเบามือและใส่เสื้อผ้าสะอาดให้[22]
โฆษณา
- ตรวจสอบอุณหภูมิของน้ำ. อุณหภูมิของน้ำนั้นสำคัญสำหรับความปลอดภัยของเด็ก เช็คให้แน่ใจว่าเรารู้อุณหภูมิที่เหมาะสมที่จะทำให้เด็กปลอดภัยและรู้สึกสบายตัว
- ใส่น้ำเย็นลงไปในอ่างก่อนดีที่สุดแล้วจึงค่อยเติมน้ำร้อน กวนน้ำให้เข้ากันและกำจัดจุดที่น้ำร้อนหรือเย็นเกินไป[23]
- เป็นความคิดที่ดีที่จะลงทุนซื้อเครื่องวัดอุณหภูมิเพื่อให้แน่ใจว่าอุณหภูมินั้นอยู่ในระดับที่ปลอดภัยสำหรับเด็กแรกเกิด อุณหภูมิที่เหมาะสมควรอยู่ที่ประมาณ 36.6 องศาเซลเซียส ซึ่งใกล้เคียงกับอุณหภูมิปกติของร่างกาย หากไม่มีเครื่องวัดอุณหภูมิ ให้ใช้ข้อศอกวัดความอุ่นแทนมือ[24]
- หากเด็กสามารถเอื้อมถึงก๊อกน้ำระหว่างการอาบน้ำได้ ห้ามไม่ให้เด็กจับมัน ในวัยนี้ เด็กจะมีแรงพอที่จะเปิดน้ำได้และอาจจะลวกตัวเองอย่างรุนแรงได้[25]
- มองหาสบู่และโลชั่นที่ใช่. ถึงแม้สบู่จะไม่ค่อยจำเป็นในการอาบน้ำเด็กแรกเกิด แต่หากจะใช้ ก็ให้แน่ใจว่าปลอดภัยสำหรับเด็ก
- อย่าใช้สบู่ที่มีกลิ่นหอมหรือสบู่มีฟองโฟม ของพวกนี้จะทำให้ผิวของเด็กแห้งและระคายเคืองได้[26]
- น้ำเปล่านั้นก็เพียงพอแล้ว หากรู้สึกว่าจำเป็นต้องใช้สบู่ เลือกใช้สบู่ที่อ่อนโยน ให้ความชุ่มชื้น และสำหรับเด็กโดยเฉพาะ ซึ่งจะไม่ทำให้เด็กผิวแห้ง[27]
- ตามปกติแล้ว เด็กแรกเกิดไม่จำเป็นต้องทาโลชั่นหลังอาบน้ำ การเช็ดตัวให้แห้งหลังการอาบน้ำแต่ละครั้งก็เพียงพอแล้วในการป้องกันผื่น หากจำเป็นต้องใช้โลชั่นจริงๆ เลือกใช้อันที่ปราศจากสารที่ทำให้เกิดอาการแพ้ (hypoallergenic) ในกรณีที่เด็กแพ้สารบางอย่างที่เรายังไม่รู้[28]
- ห้ามทิ้งเด็กไว้ในอ่างอาบน้ำตามลำพังโดยเด็ดขาด. ถึงแม้จะออกไปนอกห้องเพียงครู่เดียวก็ตาม มันเป็นอันตรายอย่างมากหากทิ้งเด็กไว้ในอ่างอาบน้ำตามลำพัง
- เตรียมทุกอย่างสำหรับการอาบน้ำเด็กให้เรียบร้อยก่อนจะหย่อนเด็กลงน้ำเสมอ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเดินไปหยิบของนอกห้อง[29]
- หากจำเป็นต้องออกนอกห้องจริงๆ อุ้มเด็กออกจากอ่างก่อน เด็กแรกเกิดสามารถจมน้ำตื้น 3 เซนติเมตรได้ การทิ้งเด็กไว้ตามลำพัง แม้เพียงอึดใจเดียว ก็สามารถเกิดหายนะได้[30]
- หากเรากำลังอาบน้ำเด็กบนพื้นที่อยู่สูงอย่างเช่น บนเคาน์เตอร์ เด็กอาจร่วงลงมาและบาดเจ็บได้ง่ายๆ
โฆษณา
เคล็ดลับ
- เตรียมตัวเจอกับอาการหงุดหงิดเล็กน้อยในการอาบน้ำครั้งแรกๆ นี่เป็นเรื่องใหม่สำหรับเด็ก และพวกเขาก็อาจจะร้องไห้หรือดิ้น
- ปรึกษาแพทย์หรือกุมารแพทย์หากสังเกตเห็นผื่นหรืออาการผิวหนังที่ผิดปกติระหว่างอาบน้ำให้เด็ก
ข้อมูลอ้างอิง
- ↑ http://www.mayoclinic.org/healthy-lifestyle/infant-and-toddler-health/in-depth/healthy-baby/art-20044438?pg=1
- ↑ http://www.mayoclinic.org/healthy-lifestyle/infant-and-toddler-health/in-depth/healthy-baby/art-20044438?pg=1
- ↑ http://www.mayoclinic.org/healthy-lifestyle/infant-and-toddler-health/in-depth/healthy-baby/art-20044438?pg=1
- ↑ http://www.mayoclinic.org/healthy-lifestyle/infant-and-toddler-health/in-depth/healthy-baby/art-20044438?pg=1
- ↑ http://www.mayoclinic.org/healthy-lifestyle/infant-and-toddler-health/in-depth/healthy-baby/art-20044438?pg=1
- ↑ http://www.mayoclinic.org/healthy-lifestyle/infant-and-toddler-health/in-depth/healthy-baby/art-20044438?pg=1
- ↑ http://www.mayoclinic.org/healthy-lifestyle/infant-and-toddler-health/in-depth/healthy-baby/art-20044438?pg=1
- ↑ http://www.mayoclinic.org/healthy-lifestyle/infant-and-toddler-health/in-depth/healthy-baby/art-20044438?pg=1
- ↑ http://www.mayoclinic.org/healthy-lifestyle/infant-and-toddler-health/in-depth/healthy-baby/art-20044438?pg=1
- ↑ http://www.mayoclinic.org/healthy-lifestyle/infant-and-toddler-health/in-depth/healthy-baby/art-20044438?pg=1
- ↑ http://www.mayoclinic.org/healthy-lifestyle/infant-and-toddler-health/in-depth/healthy-baby/art-20044438?pg=1
- ↑ http://www.mayoclinic.org/healthy-lifestyle/infant-and-toddler-health/in-depth/healthy-baby/art-20044438?pg=1
- ↑ http://www.mayoclinic.org/healthy-lifestyle/infant-and-toddler-health/in-depth/healthy-baby/art-20044438?pg=1
- ↑ http://www.mayoclinic.org/healthy-lifestyle/infant-and-toddler-health/in-depth/healthy-baby/art-20044438?pg=1
- ↑ http://www.mayoclinic.org/healthy-lifestyle/infant-and-toddler-health/in-depth/healthy-baby/art-20044438?pg=2
- ↑ http://www.mayoclinic.org/healthy-lifestyle/infant-and-toddler-health/in-depth/healthy-baby/art-20044438?pg=2
- ↑ http://www.babycentre.co.uk/a40/bathing-your-baby-safely
- ↑ http://www.babycentre.co.uk/a553837/bathing-your-newborn
- ↑ http://www.babycentre.co.uk/a553837/bathing-your-newborn
- ↑ http://www.babycentre.co.uk/a553837/bathing-your-newborn
- ↑ http://www.mayoclinic.org/healthy-lifestyle/infant-and-toddler-health/in-depth/healthy-baby/art-20044438?pg=2
- ↑ http://www.babycentre.co.uk/a553837/bathing-your-newborn
- ↑ http://www.babycentre.co.uk/a40/bathing-your-baby-safely
- ↑ http://www.babycentre.co.uk/a40/bathing-your-baby-safely
- ↑ http://www.babycentre.co.uk/a40/bathing-your-baby-safely
- ↑ http://www.mayoclinic.org/healthy-lifestyle/infant-and-toddler-health/in-depth/healthy-baby/art-20044438?pg=2
- ↑ http://www.mayoclinic.org/healthy-lifestyle/infant-and-toddler-health/in-depth/healthy-baby/art-20044438?pg=2
- ↑ http://www.mayoclinic.org/healthy-lifestyle/infant-and-toddler-health/in-depth/healthy-baby/art-20044438?pg=2
- ↑ http://www.babycentre.co.uk/a40/bathing-your-baby-safely
- ↑ http://www.babycentre.co.uk/a40/bathing-your-baby-safely
เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้
บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม
⚠️ Disclaimer:
Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.
- - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
- - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
- - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
- - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.