ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความ

ถึงจะไม่ใช่โปรแกรมสำหรับทำปฏิทินโดยเฉพาะ คุณก็สร้างและปรับเปลี่ยนปฏิทินด้วยโปรแกรม Excel ได้ มีเทมเพลตปฏิทินให้เลือกหลายแบบเลย ปรับแต่งได้ตามใจชอบ ยังไงก็สะดวกและเร็วกว่ามานั่งตีตารางเองเยอะ นอกจากนี้ยังดึงรายการ event หรือเหตุการณ์ในปฏิทิน จาก spreadsheet ไปใส่ (import) ในปฏิทิน Outlook ได้อีกด้วย

วิธีการ 1
วิธีการ 1 ของ 2:

ใช้เทมเพลตของ Excel

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 สร้างเอกสารใหม่ใน Excel.
    พอคลิก tab "File" หรือปุ่ม Office แล้ว ให้เลือก "New" จะเห็นเทมเพลตให้เลือกเต็มไปหมด
    • Excel บางเวอร์ชั่น เช่น Excel 2011 ของ Mac ต้องเลือก "New from Template" จากในเมนู File แทน "New"
    • สร้างปฏิทินจากเทมเพลตแล้วจะทำช่องปฏิทินว่างๆ เอาไว้ใส่ events ได้ แต่จะไม่แปลงข้อมูลเป็นฟอร์แมตปฏิทิน ถ้าอยากแปลงรายการข้อมูลใน Excel เป็นปฏิทิน Outlook ให้อ่านวิธีการถัดไป
  2. How.com.vn ไท: Step 2 ค้นหาเทมเพลตปฏิทิน.
    อันนี้แล้วแต่ Office เวอร์ชั่นที่คุณใช้ บางทีก็มีหัวข้อ "Calendars" หรือพิมพ์ "calendar" ในช่องค้นหาเอง บางเวอร์ชั่นของ Excel จะมีโชว์บางเทมเพลตปฏิทินไว้ที่หน้าหลักเลย ถ้าดูแล้วตรงกับความต้องการก็เลือกใช้ได้เลย หรือถ้ายัง ก็ให้ค้นหาเทมเพลตปฏิทินแบบอื่นๆ ออนไลน์[1]
    • คุณค้นหาแบบเฉพาะเจาะจงได้ตามจุดประสงค์การใช้งานเลย เช่น ถ้าอยากได้ปฏิทินการศึกษา ก็ให้ค้นหาว่า "academic calendar" แทน
  3. How.com.vn ไท: Step 3 กำหนดวันที่ในเทมเพลตให้ถูกต้อง.
    พอโหลดเทมเพลตเรียบร้อยแล้ว จะเห็นปฏิทินใหม่โล่งๆ วันที่จะยังไม่ถูกต้อง ก็เปลี่ยนได้ตามสะดวก โดยใช้เมนูที่โผล่มาตอนเลือกวันที่
    • ขั้นตอนจะแตกต่างกันนิดหน่อยตามเทมเพลตที่ใช้ ปกติคือให้เลือกปีหรือเดือนที่จะแสดง แล้วคลิกปุ่ม ▼ ที่โผล่มาข้างๆ จะมีตัวเลือกโผล่มา เลือกแล้วปฏิทินจะปรับตามอัตโนมัติ
    • ปกติคุณกำหนดวันที่เริ่มสัปดาห์ได้ด้วย โดยคลิกเลือกแล้วกำหนดวันใหม่
  4. How.com.vn ไท: Step 4 อ่านเคล็ดลับ.
    หลายเทมเพลตจะมีช่องพิมพ์ข้อความพร้อมเคล็ดลับแนะนำว่าจะเปลี่ยนวันที่หรือปรับ settings อื่นของเทมเพลตปฏิทินนั้นยังไง ถ้าไม่อยากให้เคล็ดลับโผล่มาในปฏิทินตอนพริ้นท์ ให้ลบกรอบเคล็ดลับออก
  5. How.com.vn ไท: Step 5 ปรับแต่งหน้าตาปฏิทินตามชอบ.
    คุณปรับแต่งหน้าตาได้ทุกส่วน โดยเลือกส่วนนั้นแล้วเลือกตัวเลือกใหม่ใน tab Home คุณเปลี่ยนได้ทั้งฟอนต์ สี ขนาด และอื่นๆ เหมือนเวลาปรับแต่งส่วนต่างๆ ใน Excel ตามปกติ
  6. How.com.vn ไท: Step 6 ใส่ events.
    พอปรับแต่งปฏิทินออกมาอย่างที่ต้องการแล้ว ก็เริ่มใส่ events หรือเหตุการณ์ประจำวันพร้อมข้อมูล โดยเลือกเซลล์ที่จะเพิ่ม event แล้วพิมพ์ได้เลย ถ้าอยากเพิ่มหลายเหตุการณ์ในวันเดียว ก็ต้องบริหารพื้นที่ดีๆ หน่อย
    โฆษณา
วิธีการ 2
วิธีการ 2 ของ 2:

Import รายการใน Excel เข้าปฏิทิน Outlook

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: Step 1 สร้าง spreadsheet ใหม่ว่างๆ ใน Excel.
    คุณ import ข้อมูลจาก Excel ไปยังปฏิทิน Outlook ได้ จะ import ตารางงานก็ทำได้สบายมาก
  2. How.com.vn ไท: Step 2 ใส่ header ของ spreadsheet ให้ถูกต้อง.
    จะ import รายการเข้า Outlook ได้ง่ายกว่าเยอะ ถ้า spreadsheet ของคุณใช้ header ต่างๆ ให้เหมาะสม ให้คุณพิมพ์ header ต่อไปนี้ในแถวแรก
    • Subject (หัวข้อ)
    • Start Date (วันที่เริ่ม)
    • Start Time (เวลาที่เริ่ม)
    • End Date (วันที่สิ้นสุด)
    • End Time (เวลาที่สิ้นสุด)
    • Description (รายละเอียด)
    • Location (สถานที่)
  3. How.com.vn ไท: Step 3 ใส่แต่ละข้อมูลของปฏิทินในแถวใหม่.
    ช่อง "Subject" คือชื่อของ event ตามที่ขึ้นในปฏิทิน ไม่ต้องใส่ข้อมูลให้ครบทุกช่องก็ได้ แต่อย่างน้อยต้องมี "Start Date" กับ "Subject"
    • อย่าลืมใส่วันที่ตามฟอร์แมตมาตรฐาน เช่น ดด/วว/ปป หรือ วว/ดด/ปป เวลาใส่ไปใน Outlook จะได้แสดงผลถูกต้อง
    • คุณสร้าง event ที่ยาวต่อเนื่องหลายวันได้ โดยใส่ข้อมูลในช่อง "Start Date" และ "End Date"
  4. Step 4 เปิดเมนู "Save As".
    พอเพิ่ม events ในรายการแล้ว ก็ให้เซฟไฟล์ในฟอร์แมตที่เปิดใน Outlook
  5. Step 5 เลือก "CSV (Comma delimited)" จากในเมนู file type.
    นี่คือฟอร์แมตมาตรฐานที่ import ไปได้หลายโปรแกรม เช่น Outlook
  6. How.com.vn ไท: Step 6 เซฟไฟล์.
    ตั้งชื่อรายการ แล้วเซฟเป็นไฟล์ CSV จากนั้นคลิก "Yes" ตอนที่ Excel ถามว่าจะดำเนินการต่อไหม
  7. How.com.vn ไท: Step 7 เปิดปฏิทิน Outlook.
    Outlook มาพร้อม Office แต่แรก เพราะงั้นก็ถ้ามี Excel ก็น่าจะมี Outlook พอเปิดแล้วให้คลิกปุ่ม "Calendar" ที่มุมซ้ายล่าง เพื่อดูปฏิทิน
  8. Step 8 คลิก tab "File" แล้วเลือก "Open & Export".
    จะเห็นตัวเลือกต่างๆ สำหรับจัดการข้อมูลใน Outlook
  9. Step 9 เลือก "Import/Export".
    เพื่อเปิดหน้าต่างใหม่สำหรับ import และ export ข้อมูลเข้า-ออก Outlook
  10. Step 10 เลือก "Import from another program or file" แล้วเลือก "Comma Separated Values".
    จะมีให้เลือกไฟล์ที่จะโหลด
  11. Step 11 คลิก "Browse" แล้วหาไฟล์ CSV ที่สร้างด้วย Excel.
    ปกติจะอยู่ในโฟลเดอร์ Documents ถ้าคุณไม่เคยเปลี่ยนตำแหน่ง default ใน Excel
  12. Step 12 เช็คว่าเลือก "Calendar" เป็นโฟลเดอร์ปลายทางแล้ว.
    ปกติต้องถูกเลือกไว้แล้ว เพราะคุณกำลังอยู่ใน Calendar view ของ Outlook
  13. Step 13 คลิก "Finish" เพื่อ import ไฟล์.
    Outlook จะประเมินผลรายการ และเพิ่ม events ในปฏิทิน คุณจะเห็น events ต่างๆ ถูกต้องตามช่อง และตามระยะเวลาที่กำหนดไปในรายการ ถ้ามีรายละเอียดของเหตุการณ์ด้วย ก็จะแสดงหลังเลือก event นั้น[2]
    โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

How.com.vn ไท: ทีมงานวิกิฮาว
ร่วมเขียน โดย:
นักเขียนในทีมวิกิฮาว
บทความนี้ร่วมเขียนโดยเหล่าบรรณาธิการและนักวิจัยที่ผ่านการฝึกฝนมาเพื่อความถูกต้องและครอบคลุมของเนื้อหา

ทีมผู้จัดการด้านเนื้อหาของวิกิฮาว จะตรวจตราผลงานจากทีมงานด้านเนื้อหาของเราเพื่อความมั่นใจว่าบทความทุกชิ้นได้มาตรฐานตามที่เราตั้งไว้ บทความนี้ถูกเข้าชม 45,467 ครั้ง
หมวดหมู่: ออฟฟิศ
มีการเข้าถึงหน้านี้ 45,467 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

⚠️ Disclaimer:

Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.

Notices:
  • - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
  • - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
  • - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
  • - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.

โฆษณา