ดาวน์โหลดบทความดาวน์โหลดบทความ

การถูกเมินเป็นอะไรที่เจ็บปวดมาก เราอาจนึกถึงอีกฝ่ายเสมอและสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นหรือเราจะทำอะไรได้บ้างเพื่อแก้ไขสิ่งต่างๆ ให้ดีขึ้น การถูกเมินอาจทำให้เราหมดความภาคภูมิใจในตนเองและรู้สึกไม่มีความสุขในที่สุด ในบางครั้งเราอาจต้องพักและให้ความสำคัญแก่สิ่งที่เราต้องการ บทความนี้จะแนะนำวิธีการรับมือเมื่อถูกคนเมินใส่ วิธีที่แนะนำไปนี้จะช่วยทำให้เราได้มีพื้นที่และมีเวลาดูแลตนเองเพื่อรักษาสุขภาพจิตให้ดีขึ้น รวมทั้งแก้ไขสถานการณ์ให้ดีขึ้นด้วย

1

อยู่ห่างๆ และให้พื้นที่อีกฝ่าย

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: อย่าพยายามพูดคุยกับอีกฝ่าย ถ้าเขากำลังเมินเราอยู่....
    อย่าพยายามพูดคุยกับอีกฝ่าย ถ้าเขากำลังเมินเราอยู่. บางครั้งเราเพียงแค่ต้องอยู่ห่างจากอีกฝ่ายและเขาเองก็ต้องการแบบนั้นเช่นกัน ไม่จำเป็นต้องบอกทุกคนให้รู้กันทั่วหรือป่าวประกาศอย่างชัดเจนว่าขออยู่ห่างๆ แค่เดินไปที่อื่นและอยู่ให้ห่างจากเขาเท่านั้น[1]
    • เราไม่สามารถอยู่ห่างๆ อีกฝ่ายได้ หากเรากับเขาอาศัยอยู่ด้วยกัน ในกรณีนี้ทั้งสองฝ่ายอาจต้องการเวลาสักสองสามชั่วโมงเพื่อให้อารมณ์เย็นลงจริงๆ ตัวอย่างเช่น ปล่อยให้เพื่อนร่วมห้องหรือคู่สมรสออกไปข้างนอกสักพัก
    • ถ้าเพื่อนร่วมงานคนหนึ่งเมินเรา พยายามทิ้งปัญหานี้ไว้ในที่ทำงาน เมื่อกลับถึงบ้านแล้ว ให้หยุดนึกถึงเรื่องนี้เสีย
    โฆษณา
2

แสวงหาความท้าทายใหม่ๆ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: ลงเรียนวิชาที่เราสนใจหรือไปเป็นอาสาสมัคร.
    มุ่งไล่ตามความใฝ่ฝันของตนเองแทนการวิตกกังวลถึงเรื่องที่คนอื่นเมินใส่เรา การเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ หรือการอุทิศเวลาให้กับบางสิ่งที่ชื่นชอบจะช่วยให้เราก้าวต่อไปและสามารถลืมการถูกเมินไปได้
    • ตัวอย่างเช่น ลงทะเบียนเรียนภาษาที่วิทยาลัยชุมชนหรือเป็นอาสาสมัครที่ศูนย์พักพิงสัตว์ บางครั้งการออกจากปัญหาก็สามารถทำให้ปัญหาเล็กลงได้
3

ใช้เวลาอยู่กับคนที่คอยช่วยเหลือและให้กำลังใจ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: สนุกกับเพื่อนและครอบครัวแทนการเอาแต่เครียด....
    สนุกกับเพื่อนและครอบครัวแทนการเอาแต่เครียด. การพยายามไม่นึกถึงคนที่เมินใส่เรานั้นอาจทำได้ยาก แต่ถ้าเรากำลังสนุกและมีความคิดเชิงบวก เราจะนึกถึงเขาน้อยลง ใช้เวลาอยู่กับผู้คนที่ทำให้เรารู้สึกดีกับตัวเอง![2]
    • ถ้าคู่สมรสหรือคนในครอบครัวเมินเราอยู่ ให้พูดคุยปรึกษาเรื่องนี้กับเพื่อนหรือสนุกกับการออกไปข้างนอกและพักใจ
    โฆษณา
4

มุ่งสนใจความสุขของตนเอง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: ทำกิจกรรมที่เพิ่มความเชื่อมั่นในตัวเอง.
    เมื่อมีใครสักคนเมินเรา การพยายามไม่รู้สึกอะไรเลยนั้นเป็นเรื่องยากจริงๆ ผลคืออาจทำให้ความภาคภูมิใจในตนเองลดลงไปมาก แทนที่จะทุ่มเทพลังใจทั้งหมดไปกับการนึกถึงบุคคลอื่น หาเวลาให้กับตนเองเถอะ! นี่เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง หากคนที่สนิทกับเรามากจริงๆ เมินเราอยู่ ฝึกดูแลตนเองเพื่อจะได้มองโลกในแง่ดีมากขึ้น เราอาจทำกิจกรรมดังต่อไปนี้:[3]
    • ออกไปดูหนังกับเพื่อน
    • เคลื่อนไหวร่างกาย ออกไปวิ่งเหยาะๆ หรือปีนเขา
    • ออกไปกินอาหารที่ร้านโปรด
    • อ่านหนังสือที่เขียนโดยนักเขียนที่เราชื่นชอบ
5

ยอมรับความรู้สึกของตัวเอง

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: คิดดูสิว่าเรารู้สึกอย่างไร.
    ถ้าใครเมินเรา เราก็อาจอยากเมินเขากลับทันที แต่เราต้องรู้ว่าตนเองรู้สึกอย่างไร เมื่อเขาเมินใส่ เรารู้สึกเจ็บปวดไหม รู้สึกเหมือนถูกมองข้ามไหม รู้สึกอายไหม ยอมรับความรู้สึกของตนเองเพื่อจะได้รู้ว่าควรเดินหน้าต่อไปอย่างไร[4]
    • ตัวอย่างเช่น เราอาจคิดว่า "มันน่าโมโหจริงๆ ที่ธีราเมินใส่ฉัน! ทั้งๆ ที่เราควรจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันแท้ๆ " หรือ "ฉันอายที่โจ้เมินใส่ฉัน ทั้งๆ ที่เขาเป็นน้องชายของฉัน"
    • ถ้าคนที่เรายังไม่รู้จักดีนักเมินเรา เราก็อาจตัดสินว่าความสัมพันธ์นี้ไม่มีค่าพอที่จะสานต่อ อย่างไรก็ตามถ้าญาติหรือคู่สมรสเมินเรา เราก็ต้องรู้ให้ได้ว่าการเมินของเขามีผลกระทบต่อเราอย่างไร
    โฆษณา
6

ตรวจสอบดูว่าอีกฝ่ายตั้งใจเมินเราจริงๆ ไหม

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: นึกดูสิว่าเราได้ลองพูดคุยกับอีกฝ่ายหรือยัง....
    นึกดูสิว่าเราได้ลองพูดคุยกับอีกฝ่ายหรือยัง. เขาอาจอารมณ์ไม่ดีและไม่รู้ตัวว่ากำลังเงียบใส่เราอยู่ เราอาจถามอีกฝ่ายหรือลองเริ่มการสนทนาที่เรียบง่ายเพื่อดูสิว่าเขาตอบสนองอย่างไร เราอาจพบว่าอีกฝ่ายเริ่มพูดคุยและไม่ได้ตั้งใจจะเมินเราจริงๆ[5]
    • ขณะที่กำลังคิดถึงเรื่องนี้ เราอยู่ในอารมณ์ไหน ถ้าเราอยู่ในอารมณ์เชิงลบหรือกังวลเรื่องความสัมพันธ์กับบุคคลนี้ แสดงว่าเราอาจคิดมากเกินไป
    • ถ้าเรายังไม่รู้จักผู้อื่นดีมากนัก เราก็อาจไม่รู้ว่าเขาเป็นคนเงียบหรือขี้อาย ตัวอย่างเช่น เพื่อนร่วมงานอาจไม่ตั้งใจเมินเรา แต่เขาอาจแค่เป็นคนชอบเก็บตัวเท่านั้น
7

หาสาเหตุของการถูกเมิน

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: อย่าคิดว่าอีกฝ่ายตั้งใจเมินเรา.
    เมื่อถูกใครสักคนเมินใส่ เราอาจรู้สึกเหมือนว่าเขาตั้งใจหาเรื่องเราเป็นการส่วนตัว แต่อยากให้ลองทบทวนและถามตัวเองว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับเขาหรือเปล่า อีกฝ่ายรู้สึกไม่มั่นใจในบางสิ่งบางอย่างหรือเปล่า เขาอาจผิดหวังหรือโกรธอะไรสักอย่างที่เกิดขึ้นกับงานหรือชีวิตของเขา[6]
    • ตัวอย่างเช่น คู่สมรสของเราอาจกังวลเรื่องโปรเจกต์ที่ทำอยู่หรือญาติของเราอาจคิดมากเรื่องสุขภาพ
    • พยายามอย่าปล่อยให้ความเงียบของเขาทำให้เราไม่มีความสุข มุ่งนึกถึงสิ่งที่เราต้องการและสุขภาพจิตของเรา
    โฆษณา
8

ให้เวลาคิดไตร่ตรอง หากคู่สมรสเมินเรา

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: ยอมรับการถูกเมินและวางแผนพูดคุย.
    ถ้าคนรู้จักหรือเพื่อนร่วมงานเมินเรา เป็นเรื่องหนึ่ง แต่ถ้าคู่สมรสเมินเรา เป็นอีกเรื่องหนึ่ง การเพิกเฉยสิ่งที่เขาปฏิบัติต่อเราอาจทำลายความสัมพันธ์ ฉะนั้นบอกอีกฝ่ายว่าเราสังเกตเห็นและหาเวลาพูดคุยกันภายหลัง[7]
    • ตัวอย่างเช่น เราอาจพูดว่า "ฉันสังเกตเห็นว่าคุณเงียบและไม่พูดไม่จากับฉัน ฉันไม่รู้ว่าเป็นเพราะคุณเครียดหรือมีปัญหาในที่ทำงาน แต่รู้ว่าคุณไม่อยากคุยด้วย ฉะนั้นพรุ่งนี้เราค่อยมาคุยถึงเรื่องที่เกิดขึ้นกันนะ"
    • ต้องใช้เวลาพูดคุยและตกลงกันว่าเราต้องการได้รับการปฏิบัติอย่างไร
9

ขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ หากคู่สมรสเมินเราบ่อยๆ

ดาวน์โหลดบทความ
  1. How.com.vn ไท: พูดคุยกับนักบำบัดคู่สมรส ถ้าความเงียบมีผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของเรา....
    พูดคุยกับนักบำบัดคู่สมรส ถ้าความเงียบมีผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของเรา. คู่สมรสทุกคู่ต่างก็มีปัญหาด้วยกันทั้งนั้น แต่ถ้าคู่สมรสของเราใช้ความเงียบเป็นวิธีทำโทษหรือทำร้ายเราและทำแบบนี้บ่อยๆ ได้เวลาขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญแล้ว โน้มน้าวคู่สมรสให้เข้ารับคำปรึกษาจากนักบำบัดคู่สมรสเพื่อพัฒนาการสื่อสารของเราให้ดีขึ้น[8]
    • เราสมควรมีความสัมพันธ์ที่ดี ฉะนั้นอย่ากลัวที่จะยืนหยัดเพื่อสิ่งที่ตนเองต้องการ
    โฆษณา

เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้

How.com.vn ไท: Hyungbum Kang, MA, MSW, LCSW, MAC
ร่วมเขียน โดย:
นักสังคมสงเคราะห์คลินิกที่มีใบอนุญาต
บทความนี้ ร่วมเขียน โดย Hyungbum Kang, MA, MSW, LCSW, MAC. ฮยองบอม คัง เป็นนักนักสังคมสงเคราะห์คลินิกที่มีใบอนุญาตในโฮโนลูลู รัฐฮาวาย ด้วยประสบการณ์มากกว่าทศวรรษ ฮยองบอมเชี่ยวชาญในการใช้วิธีการบำบัดโรคแบบบูรณาการเพื่อรักษาโรคสมาธิสั้น การจัดการความโกรธ โรคซึมเศร้า และปัญหาสุขภาพจิตและปัญหาด้านสังคมสงเคราะห์อื่นๆ เขาได้รับปริญญาตรีสาขาภาษาอังกฤษและปริญญาโทสาขาสังคมวิทยาและสังคมสงเคราะห์ ฮยองบอมสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจจากมหาวิทยาลัยฮาวายแปซิฟิก (HPU) และกำลังเรียนสาขาจิตวิทยาดุษฎีบัณฑิตจาก HPU เขาเป็นสมาชิกของสมาคมจิตวิทยาอเมริกัน, International Honor Society in Psychology, สมาคมสังคมสงเคราะห์แห่งชาติ และ California Consortium of Addiction Programs and Professionals
มีการเข้าถึงหน้านี้ 415 ครั้ง

บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

⚠️ Disclaimer:

Content from Wiki How ไท language website. Text is available under the Creative Commons Attribution-Share Alike License; additional terms may apply.
Wiki How does not encourage the violation of any laws, and cannot be responsible for any violations of such laws, should you link to this domain, or use, reproduce, or republish the information contained herein.

Notices:
  • - A few of these subjects are frequently censored by educational, governmental, corporate, parental and other filtering schemes.
  • - Some articles may contain names, images, artworks or descriptions of events that some cultures restrict access to
  • - Please note: Wiki How does not give you opinion about the law, or advice about medical. If you need specific advice (for example, medical, legal, financial or risk management), please seek a professional who is licensed or knowledgeable in that area.
  • - Readers should not judge the importance of topics based on their coverage on Wiki How, nor think a topic is important just because it is the subject of a Wiki article.

โฆษณา